Divine King Of All Directions - 040
Divine King Of All Directions - 040
ภายในที่พัก หลินเทียนได้แต่มองไปยังซูชูวที่กำลังมีใบหน้าแดงก่ำและจ้องเขม็งมาทางเขา
"นี่มันเป็นการเข้าใจผิด มันเป็นอุบัติเหตุ"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางอึดอัด
เขาจะไปรู้ได้ไงว่าซูชูวจะอยู่ที่นี่กับหลินซี่ตลอดทั้งคืน ยิ่งไปกว่านั้นยังนอนด้วยท่าทางผิดปกติอีก
"อุบัติเหตุเหรอ ? เข้าใจผิดงั้นเหรอ ? "
ซูชูวได้แต่กัดฟันพร้อมทั้งจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟเหมือนอยากจะกลืนเขาเข้าไปทั้งๆอย่างงี้
หลินเทียน
"............"
ณ ตอนนี้การเงียบคือทางเลือกที่ดีที่สุด
ทันใดนั้นเองที่บรรยากาศภายในห้องเริ่มอึดอัด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก่อนที่ซูชูวจะใจเย็นลงแต่ก็ยังจ้องเขม็งมาทางเขาพร้อมทั้งถามออกมาด้วยสายตาถลนว่า
"เมื่อวานหายหัวไปไหนมา ! ทำไมถึงไม่กลับบ้าน ? "
หลินเทียน
"........"
ทำไมคำถามนี้มันฟังดูแปลกๆ ?
"ฝึกวิชาอยู่ภายในสันเขาชิงเฟิง"
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
"แล้วฝึกวิชาจำเป็นต้องอยู่ถึงค่ำ ? ไม่เป็นห่วงหลินซี่บ้างหรือไง ? "
ซูชูวได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงดุ
"ฝึกหนักไปหน่อยเลยเผลอลืมเวลา "
หลินเทียนได้พูดออกมาก่อนที่จะรีบประจบอย่างรวดเร็วว่า
"ไม่ใช่ว่าที่นี่มีหญิงงามนิสัยดีคอยดูแลน้องสาวข้าอยู่แล้วเหรอ ข้าถึงได้ไม่เป็นห่วงไงล่ะเพราะว่าเจ้าจะต้องสามารถดูแลน้องสาวข้าได้ดีอย่างแน่นอน ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางจริงจัง
ใบหน้าของซูชูวได้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"อื้มๆๆๆๆ เจ้าพูดได้ดีและตรงมากๆ ดีมากๆ "
"ก็ดี "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าอารมณ์ของซูชูวเริ่มจะดีขึ้นแล้ว
เสียงแสยะได้ถูกเปล่งออกมาขณะที่ซูชูวจ้องมองมาทางเขาพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยท่าทางจริงจังว่า
"อ่อใช่ รีบเตรียมตัวได้แล้ว หลังจากนี้อีกสองวันทางสำนักจะเริ่มการจัดอันดับภายในสันเขาชิงเฟิง"
"จัดอันดับ ? "
หลินเทียนได้ชะงักไป
เขาไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย
"เจ้าเพิ่งเข้าที่นี่ได้เพียงแค่เดือนเดียวและน่าจะรู้ว่าที่นี่ถูกแบ่งออกเป็นตำหนักนอกและตำหนักใน แต่ละปีหลังจากที่มีศิษย์ใหม่นั้นสำนักก็จะทำการจัดอันดับซึ่งหากว่าได้อันดับที่หนึ่งในสามสิบก็จะได้รับรางวัล"
ซูชูวได้ตอบคำถาม
หลินเทียนได้ถามต่อว่า
"แล้วการจัดอันดับคัดจากอะไร ? การประลองกันเอง ? "
"เปล่า "
ซูชูวได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดว่า
"ภายในสันเขามีสัตว์ร้ายอยู่มากมายและภายในร่างของมันก็จะมีแก่นแท้ซึ่งการจัดอันดับก็ง่ายมากๆ ฆ่าสัตว์ร้ายให้ได้มากๆแล้วเอาแก่นมันมาเพื่อเอาไปวัดอันดับ "
"อื่ม มันเป็นกฏิกาง่ายๆแหะ"
หลินเทียนได้พยักหน้าก่อนที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
"ภายในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งอันตรายมากมายแล้วทางสำนักไม่กลัวว่าศิษย์จะตกตายจากเงื้อมมือสัตว์ร้าย ? "
เกี่ยวกับคำถามนี้แล้วซูชูวอดไม่ได้ที่จะกรอกตา
"โดยปกติแล้วศิษย์ก็มักจะออกไปขัดเกลาฝีมือภายในสันเขาอยู่แล้ว หากว่าทางสำนักยังต้องกลัวว่าพวกเขาจะถูกฆ่าไหมแล้วไม่ต้องดูแลเป็นพ่อแม่เลย ? นี่ที่คือสำนักซึ่งห้ามปรามการฆ่ากันเองเท่านั้น หากว่าใครถูกสัตว์ร้ายฆ่าก็ถือว่าคนๆนั้นอ่อนแอ "
ซูชูวได้พูดออกมา
หลินเทียนได้พยักหน้าของเขาเพราะแม้มันอาจจะฟังดูโหดเหี้ยมแต่ก็มีเหตุผลมากๆ
"แล้วเจ้าเข้าร่วมด้วยหรือเปล่า ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
ซูชูวได้กรอกตาอีกครั้งก่อนที่จะพูดว่า
"แน่นอนอยู่แล้วไม่งั้นตาเฒ่ามู่ก็คงก่นด่าว่าข้าไม่มีความพยายาม "
หลินเทียนได้แต่อับอายโดนทันทีเพราะดูเหมือนว่าหญิงสาวนางนี้จะไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่
"จัดทีมกันได้ไหม ? เราไปด้วยกัน ? "
เขาได้พูดออกมา
ซูชูวได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปแตะไหล่เขาแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า
"แน่นอนว่าไม่มีปัญหา ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะพี่สาวจะปกป้องเจ้าเอง !"
"เราอายุเท่ากัน !"
"ใช่ ? แต่พี่สาวก็จะปกป้องเจ้าอยู่ดี !"
หลินเทียน
"............."
หลังจากที่รับรู้ถึงข้อมูลต่างๆแล้วเขาก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"อ่อใช่ แล้วเ ้าโจวเฮ่านั่นอยู่ที่อันดับเท่าไหร่กัน ? "
รับรู้ข้อมูลของศัตรูเป็นสิ่งที่ดี
ซูชูวได้จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสีหน้าประหลาดใจพร้อมทั้งพูดว่า
"เจ้าไม่รู้ ? "
"ไม่รู้สิ "
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"ช่วงนี้ยุ่งๆถึงไม่ได้ไปหาข้อมูลเลย "
ตอนนี้เองที่ซูชูวได้แต่แสดงท่าทางหมดคำพูดออกมา
"โจวเฮ่า ลูกชายคนเดียวของผู้บังคับบัญชาเมืองนี้ อายุ 18ปีเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 9 .........ได้ที่หนึ่ง "
ซูชูวได้พูดออกมา
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ
"?"
ซูชูวได้จ้องมองไปทางหลินเทียน
"อะไร? "
"เจ้าไม่กังวล ? "
"กังวลอะไร ? "
"อันดับหนึ่งแถมยังอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 9 อีกสองเดือนเจ้าต้องประลองกับเขานะแถมยังเป็นการประลองที่มีชีวิตเข้าแลกด้วยนะ ! "
ซูชูวถึงกับโง่งมเพราะไม่รู้ว่าทำไมเจ้านี่ถึงไม่รู้สึกกลัวเลย ?
หลินเทียนได้หรี่ตาก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"หากว่าความกลัวมันมีประโยชน์แล้วข้าจะบ่มเพาะไปทำไม ? "
"ก็จริงแต่ข้าว่าเจ้านี่มันสงบเกินไปแล้ว"
ซูชูวได้แต่หมดคำพูดไป
"จิตใจสงบมันทำให้บ่มเพาะได้เร็วขึ้น "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
"เหรอ........"
ซูชูวได้ยิ้มตอบก่อนที่จะพูดต่อว่า
"เป็นไงเดือนนึงผ่านไปแล้วสำเร็จฝ่ามือเงาเพลิงและเพลงกระบี่วายุสะท้านถึงกระบวนท่าไหนแล้ว ? "
หลินเทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ดูเหมือนว่านางต้องการจะยั่วยุเขา
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 6 ฝ่ามือเงาเพลิงได้บรรลุแล้ว เพลงกระบี่วายุสะท้านก็บรรลุแล้ว "
เขาได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ
หลังจากที่ได้ยินเช่นนี้แล้วนัยน์ตาของซูชูวก็อดไม่ได้ที่จะเบิกกว้างโดยทันที
"อะไรนะ ? "
ซูชูวเพียงแค่อยากจะหยอกเขาแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้กลับมา
เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 6 ฝ่ามือเงาเพลิงได้บรรลุแล้ว เพลงกระบี่วายุสะท้านก็บรรลุแล้ว
นี่มันอะไรกัน ?
เรื่องฝ่ามือเงาเพลิงและการใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนในการบรรลุมาถึงเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 6ก็ยังพอเข้าใจได้แต่กลับสำเร็จเพลงกระบี่วายุสะท้านด้วย ? ต้องรู้ก่อนนะว่านั่นมันเป็นทักษะที่ไม่มีใครสามารถบรรลุถึงระดับสุดยอดได้ แม้แต่อาจารย์ของเธอก็ทำไม่ได้แต่หลินเทียนกลับใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือน ?
พรสวรรค์ระดับเก้าดารานี่มันสัตว์ประหลาด ?
"อย่าโกหกข้า !"
ซูชูวได้จ้องมองไปยังหลินเทียน
"อยากจะให้ข้าปลดปล่อยเจตจำนงแห่งกระบี่ดูไหมล่ะ ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
"อยากสิ !"
ซูชูวพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะนางไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
หลินเทียนได้แต่หมดคำพูดไป นี่เขาไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ?
ณ ตอนนี้เขาไม่ลังเลเลยที่จะแสดงระดับพลังของตัวเองออกมาก่อนที่จะปลดปล่อยเจตจำนงแห่งกระบี่ขั้นที่สามของทักษะเพลงกระบี่วายุสะท้านออกมา
"นี่เจ้า........"
ซูชูวได้แต่อ้าปากน้อยๆของเธอ
มู่ชิงนั้นสำเร็จทักษะนี้ไปถึงระดับที่ 2 แต่ตอนนี้หลินเทียนกลับกำลังสำแดงพลังระดับที่ 3 ออกมา หากเทียบเรื่องของเจตจำนงแห่งกระบี่แล้วมันเข้มข้นกว่าของมู่ชิงมากส่วนเรื่องของระดับพลังนั้นมันเป็นเพราะว่าเธอมีระดับพลังที่สูงกว่าเขาอยู่แล้วถึงสามารถมองออกได้ทันทีว่าเขาอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 6 จริงๆ
"เป็นไง เชื่อหรือยังล่ะ ? "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ซูชูวได้แต่จ้องมองไปทางเขาพร้อมกับกัดฟันแน่น
"ความเปลี่ยนแปลงนี้...."
เธอกำลังจะพูดบางอย่างออกมาก่อนที่จะนึกถึงภาพเรื่องก่อนหน้านี้จึงเป็นเหตุให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"เจ้าพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาด !"
หลินเทียนได้แต่หัวเราะออกมา
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเขาแล้วก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ซูชูวโกรธจัดก่อนที่จะเตะเท้าเขาแล้ววิ่งหนีไปทันที
"อีกสองวันหลังจากนี้ไปเจอกันที่ประตูหินทางเข้าสันเขาชิงเฟิง"
น้ำเสียงที่ไม่พอใจได้ถูกส่งมาตามสายลม
หลินเทียนได้แต่ยิ้มออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะของเขา
"อีกสองวันหลังจากนี้จะจัดอันดับ ต้องเตรียมตัวหน่อย "
เขาได้พูดกับตัวเอง
หลังจากที่พักผ่อนเล็กน้อยแล้วเขาก็ได้กลับขึ้นไปบนยอดที่พักพร้อมทั้งหยิบเอาวัตถุดิบมากมายออกมาเพื่อที่จะวาดข่ายอาคมผสานทักษะระดับกลางเขตแดนหล่อหลอมร่างกายอย่างทักษะเพลงกระบี่วายุสะท้านใส่ลงไปเพราะว่าการทดสอบนี้ต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองจึงต้องเตรียมการไว้ก่อนจะได้ไม่เกิดเรื่องร้ายแรง
.....
พริบตาเดียวก็ได้ผ่านไปถึงวันที่สอง
ตอนนี้ที่หน้าประตูทางเข้าสันเขาชิงเฟิงแออัดไปด้วยผู้คนกว่าสามร้อยคนซึ่งพวกเขานั้นเป็นศิษย์ภายนอกของสำนักด้วยกัน ั้งหมดและจะเข้าไปภายในสันเขาเพื่อทำการทดสอบเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์
"ไม่รู้ว่ารางวัลสามสิบอันดับแรกเป็นอะไรกัน เริ่มคาดหวังแล้วสิ "
"นี่เจ้าคาดหวังให้ติดหนึ่งในสามสิบ ? "
"ก็ต้องคิดอยู่แล้ว"
ผู้คนมากมายได้สนทนากันอยู่หน้าประตูหิน
หลินเทียนได้เดินมาถึงที่นี่
"ตรงนี้ หลินเทียน "
ซูชูวได้โบกมือให้เขา ก่อนหน้านี้เธอมักจะเรียกเขาติดปากด้วยชื่อเทียนเทียนน้อยแต่หลังจากที่หลินเทียนคัดค้านหลายครั้งก็เปลี่ยนในที่สุด
"มาแล้ว"
หลินเทียนได้เดินเข้าหา
"เตรียมพร้อมแล้ว ? "
ซูชูวได้ถามออกมา
"อื่ม "
หลินเทียนได้พยักหน้าตอบ ตอนนี้เขาสวมชุดคลุมยาวสียาวและมีกระบี่ยาวพาดไว้กลางหลัวส่วนใต้หน้าอกนั้นเต็มไปด้วยม้วนคัมภีร์ผสานทักษะเพลงกระบี่วายุสะท้านหลายม้วน
"อื้ม ดีมาก "
ซูชูวได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"แน่นอน"
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ตรงหน้าประตูทางเข้านั้นมีอาจารย์ของสำนักจิ่วหยางอยู่สามคนซึ่งพวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนชีพจรวิญญาณระดับต้นด้วยกันทั้งหมด คำพูดเปิดก็ไม่ได้มีอะไรมากเป็นแค่การให้กำลังใจในการต่อสู้ทั้งหลายทั้งแหล่
"เอาล่ะ เริ่มการทดสอบได้ !"
ไม่นานก็ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงซึ่งหนึ่งในอาจารย์ก็ได้พูดออกมาอย่างดัง เมื่อสิ้นสุดคำพูดนี้แล้วประตูหินก็ได้ถูกเปิดออกก่อนที่กลิ่นอายของสัตว์ร้ายอันรุนแรงจะทะลักเข้ามา
ผู้คนกว่าสามร้อยคนได้เดินผ่านประตูหินไปภายใต้การนำของอาจารย์เหล่านี้ หลังจากที่ก้าวผ่านไปแล้วก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามีผู้คนมากมายที่ตื่นเต้นมากๆเพราะพวกเขาเป็นศิษย์ที่เข้ามาใหม่ในปีนี้
หลินเทียนและซูชูวนั้นเดินอยู่คู่กัน
"ซูชูว เจ้ารู้เกี่ยวกับที่นี่เยอะ ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
ซูชูวได้ตอบกลับด้วยท่าทางที่ภูมิใจว่า
"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว "
หลินเทียนรู้สึกโล่งใจก่อนที่จะเดินตามหลังนางไปโดยที่พบว่าพวกเขาเดินห่างออกมาจากประตูกว่าหลายกิโลเมตรแล้ว
"โฮ๊กกก !"
"โฮ๊กก!"
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายได้ดังกังวานไปทั่วพร้อมทั้งกลิ่นอายอันรุนแรงที่ถูกปลดปล่อยออกมา
"นี่เป็นอาณาเขตของสัตว์ร้ายระดับ 1แต่แน่นอนว่าบางทีก็จะมีระดับ 2 หรือ 3 ปะปนมาด้วยแต่ห่างออกไปจากจุดนี้อีกสิบกิโลเมตรก็จะเป็นอาณาเขตของสัตว์ร้ายระดับ 2 ลึกไปกว านั้นก็จะเป็นระดับ 3 และ 4 ด้วยระดับพลังของเราแล้วอย่างมากก็เข้าไปได้เพียงอาณาเขตระดับ 2 เท่านั้นเพราะการเข้าไปในอาณาเขตของสัตว์ร้ายระดับ 3 มันจะดูอันตรายไปหน่อย "
ซูชูวได้พูดออกมา