Divine King Of All Directions - 037
Divine King Of All Directions - 037
สำหรับหลินเทียนในตอนนี้แล้วเรื่องการผสมหมึกมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย วัตถุดิบทั้งหกได้ผสมกันพร้อมๆกับพลังฉีและพลังวิญญาณของเขา หลังจากนั้นสิบห้านาทีก็เกิดเป็นน้ำหมึกห้าสี
หลินเทียนได้พยักหน้าก่อนที่จะเริ่มทำการวาดลวดลาย
"ขออภัยด้วย"
หลังจากที่มองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนเตียงแล้วเขาก็ได้พูดออกมา
มือขวาของเขาห่อหุ้มไปด้วยน้ำหมึกก่อนที่จะใช้นิ้ววาดไปตามหน้าท้องของเธอ ชั่วพริบตาที่ได้สัมผัสนี้ถึงกับทำให้จิตใจของเขาต้องสั่นสะท้านไปเช่นกัน
ร่างกายของหญิงสาวนั้นอ่อนนุ่มและสร้างความรู้สึกดึงดูดเป็นอย่างมาก
"เห้อ "
หลินเทียนได้หลับตาลงก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
หลังจากที่หายใจเข้าออกไปสามรอบแล้วเขาก็ได้ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่กลับเป็นปกติ
"ข่ายอาคมกลืนสายฝนระดับที่ 2 "
เขาได้พูดกับตัวเอง
นิ้วมือของเขาได้วาดไปตามร่างกายของเธออย่างรวดเร็ว
ณ ตอนนี้สายตาของเขากลับเป็นราบเรียบเหมือนปกติแล้วเหมือนว่าที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ร่างของหญิงสาวอีกต่อไปแต่เป็นเพียงม้วนคัมภีร์ม้วนหนึ่งเท่านั้น ขณะที่นิ้วมือของเขาได้กวัดแกว่งไปนั้นร่างกายของนางก็ได้เปล่งแสงออกมา
เหมือนว่าได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในตอนนี้และหญิงสาวที่กำลังหมดสติอยู่เองก็ได้ขมวดคิ้วอีกครั้ง
หลินเทียนไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องเหล่านี้แม้แต่น้อยทว่ากลับเริ่มใช้นิ้วทั้งห้าวาดไปตามร่างกายของนาง
เทคนิคห้าเทพเจ้ามังกรพริบตา
"บึ้ส ! "
พลังฉีและพลังวิญญาณของเขาได้ทะลักออกมาพร้อมๆกันซึ่งหลินเทียนในตอนนี้นั้นกำลังจดจ่อเป็นอย่างมาก แม้ว่าร่างกายตรงหน้านี้จะยั่วยวนขนาดไหนทว่าสายตาของเขาก็ยังจดจ่ออยู่กับการวาดลวดลายสัญลักษณ์ต่างๆ
ขณะที่เวลาได้ผ่านไปนั้นก็ปรากฏเม็ดเหงื่อมากมายตามหน้าผากของเขา
หากว่าเทียบกันกับข่ายอาคมผสานหรือข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณแล้วแน่นอนว่าข่ายอาคมกลืนสายฝนนี้อยู่ในระดับที่สูงกว่าถึงระดับหนึ่งแถมการวาดลงบนร่างคนก็เป็นอะไรที่ยากขึ้นไปอีก
"ถือว่าเป็นการทดลองแล้วกัน "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
เขาไม่ได้สนใจหยาดเหงื่อหรือความรู้สึกขาดแคลนพลังฉีแม้แต่น้อย ณ ตอนนี้เขาเริ่มที่จะหมุนวนเคล็ดวิชาซือจี่อีกครั้งเพื่อดูดกลืนพลังฉีขณะที่ยังคงวาดต่อไป
ไม่นานก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ด้วยเวลาทั้งหมดนี้ทำให้ความสามารถของเขาใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วแถมตอนนี้ยังรู้สึกได้ถึงอาการวิงเวียนอีกด้วยถึงแม้เขาจะหมุนวนเคล็ดวิชาไปพร้อมๆกันแต่พลังฉีที่ดูดกลืนเข้ามาก็ยังไม่พออยู่ดี
ตอนนี้ก็ผ่านไปอีกสิบห้านาที
หลังจากที่ผ่านไปอีกสิบห้านาทีแล้วเมื่อถึงช่วงที่หลินเทียนไม่สามารถทนไหวแล้วนั้นลวดลายข่ายอาคมก็เสร็จสมบูรณ์ในที่สุด ลวดลายข่ายอาคมได้ปกคลุมอยู่ที่หน้าท้องของนางและแผดไปยังส่วนต่างๆเหมือนหนวดปลาหมึก
หลินเทียนได้ปาดเหงื่อที่หน้าผากตัวเองก่อนที่จะแสดงสีหน้าที่โล่งใจออกมา
เขาได้ยื่นมือออกไปก่อนที่วางลงไปบนม้วนคัมภีร์รวมพลังวิญญาณที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้
"ทำงาน ! "
เขาได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
บึ้สส ม้วนคัมภีร์ทั้งสองได้สั่นสะท้านก่อนที่พลังฉีมากมายจากทุกทิศทางจะถาโถมเข้ามาไม่หยุดและส่งผลให้พลังฉีที่นี่เข้มข้นอย่างมาก
พริบตานี้เองที่พูชิ จี่หยวนฉานและคนอื่นๆที่รออยู่ด้านนอกได้แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา
"พลังฉีนี่เข้มข้นเป็นอย่างมาก "
เก้อเจิ้งได้พูดออกมาอย่างประหลาดใจ
พูชิเองก็ได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า
"ดูเหมือนว่าน้องชายจะสามารถวาดข่ายอาคมสำหรับรักษาแม่นางได้แล้วถึงได้เปิดการทำงานของข่ายอาคมในตอนนี้ "
จี่หยวนฉานที่อยู่ข้างๆเองก็ได้แต่กำหมักแน่นพร้อมทั้งจ้องเขม็งไปยังประตูทางเข้า
"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกท่านแม่ทัพ แม่นางหยูไม่เป็นอะไรหรอก "
พูชิได้พูดปลอบประโลมออกมา
ภายในห้องนั้นพลังฉีมากมายได้อัดแน่นอยู่รอบๆ มันเป็นเพราะว่าข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณสองม้วนได้เริ่มทำงานพร้อมกันถึงได้ทำให้พลังฉีในตอนนี้เข้มข้นขึ้นกว่าตอนที่หลินเทียนฝึกเป็นสองเท่าตัว
เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วหลินเทียนก็ได้แต่พยักหน้า
"พลังฉีจะรักษาอาการบาดเจ็บของนางดังนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก "
หลินเทียนได้พูดกับตัวเอง
เขายกมือขึ้นก่อนที่จะวางลงไปยังหน้าท้องของเธอพร้อมทั้งขยับไปมาระหว่างลวดลายจนทำให้ร่างกายของเธอเปล่งแสงออกมา
"ทำงาน ! "
หลังจากที่คำพูดของหลินเทียนได้สิ้นสุดลงนั้นก็เกิดการสั่นไหวกับพลังฉีในอากาศโดยทันทีเหมือนว่าได้รับแรงดึงดูดก่อนที่จะถาโถมเข้าไปยังร่างกายของหญิงสาวคนนี้ หลังจากนั้นหลินเทียนก็ได้ควบคุมพลังเหล่านั้นไปยังจุดที่นางได้รับบาดเจ็บ
มันสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าๆเลยว่ากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่บาดแผลของเธอ
มันกำลังรักษาตัวเอง
"อื้ม......."
ระหว่างที่แผลกำลังรักษาตัวและด้วยพลังฉีที่รุนแรงถึงได้ทำให้นางส่งเสียงครางออกมา
หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้แล้วหลินเทียนก็รู้สึกว่าถูกกระตุ้นจนถึงกับสั่นสะท้านไป
"ทรมานจริงๆ ! "
เขาได้ก่นด่าออกมาก่อนที่จะหลับตาลง
แม้ว่าข่ายอาคมกลืนสายฝนจะช่วยดูดพลังฉีเข้าร่างเธอก็จริงแต่อาการบาดเจ็บของเธอนั้นรุนแรงเกินไปดังนั้นหลินเทียนถึงได้ควบคุมพลังฉีภายในด้วยตัวเองเพราะกลัวว่าหากพลังฉีมากมายถาโถมเข้าไปไม่หยุดก็จะสร้างอันตรายให้กับนางได้
พลังของเขาได้ลดลงอย่างหนักจนถึงขั้นที่อธิบายได้ว่าแทบจะแห้งเหือดแล้ว
พลังฉีอันเข้มข้นได้หมุนวนอยู่ภายในหน้าท้องของเธออย่างช้าๆก่อนที่จะรักษาอาการบาดเจ็บทีละน้อย หลังจากที่ผ่านไปไม่กี่สิบลมหายใจแล้วคิ้วของนางก็กระตุกเล็กน้อยก่อนที่จะลืมตาขึ้นมา
สายตาของนางเผยให้เห็นถึงความสับสนพร้อมกับมองไปยังใบหน้าอันหล่อเหลา
ใบหน้าที่เรียบเนียนและสะอาด
ใบหน้าที่ดูซีดเผือด
นางได้พยายามขยับริมฝีปากของตัวเองเพื่อจะพูดออกมาและอยากจะตะเกียกตะกายเพื่อยืนขึ้นแต่น่าเสียดายที่วิสัยทัศน์ของเธอเริ่มที่จะเลือนรางไปอย่างช้าๆ
โลกของเธอเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
เวลาได้ผ่านไป ครึ่งชั่วโมง....
หลังจากนั้นหลินเทียนก็ได้ลืมตากลับขึ้นมามองไปยังร่างของหญิงสาวที่อยู่บนเตียงอีกครั้ง ณ ตอนนี้ท่าทางของเธออาจจะไม่ได้ดูมีชีวิตชีวาเหมือนก่อนหน้านี้แต่ก็ยังดูดีกว่าตอนที่จี่หยวนฉานอุ้มเธอเข้ามาที่นี่ ลวดลายต่างๆตามร่างกายของนางได้สลายหายไปก่อนที่จะเผยให้เห็นว่าแผลของเธอได้สมานกันอย่างสมบูรณ์แล้ว
"เรียบร้อย "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
หลังจากที่ปาดเหงื่อออกไปแล้วหลินเทียนก็ได้ยืนขึ้นก่อนที่จะเริ่มสวมเสื้อผ้าให้นางอีกครั้ง
เมื่อมองไปยังใบหน้าของนางแล้วหลินเทียนก็อดไม่ได้เลยที่จะคิดว่านี่ต้องเป็นลูกรักของสวรรค์อย่างแน่นอน อายุ 16 ปีแต่กลับมีรูปลักษณ์ขนาดนี้ หากว่าโตกว่านี้อีกหน่อยก็จะต้องทำให้ทั้งโลกตกตะลึงอย่างแน่นอน
เขาได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะเดินไปหยิบผ้าคลุมมาสวมอีกครั้ง
"เรียบร้อย เข้ามาได้ "
เขาได้พูดออกมา
เสียงของเขาไม่ได้ดังมากนักแต่ว่ามันเป็นเพราะคนข้างนอกตั้งใจฟังเป็นอย่างมากถึงได้สามารถได้ยินด้วยกันทุกคน
จี่หยวนฉานเป็นคนที่ผลักประตูเข้ามาคนแรก
หลังจากที่เดินไปข้างเตียงแล้วเขาก็ได้แต่มองไปยังหญิงสาวบนเตียงและพบว่าการหายใจของเธอได้กลับเป็นปกติแล้วถึงได้แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นออกมาโดยทันที
"นี่มัน........."
"สุดยอด "
พูชิและเก้อเจิ้งอดพึมพำออกมาไม่ได้
หญิงสาวที่กำลังจะตายก่อนหน้านี้กลับสามารถรักษาบาดแผลทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น
หลังจากที่เห็นสภาพของหญิงสาวด้วยตาตัวเองแล้วจี่หยวนฉานก็ได้หันหน้าเดินไปทางหลินเทียนพร้อมทั้งทำความเคารพอย่างนอบน้อมอีกครั้งพร้อมพูดว่า
"ขอบคุณน้องชายมากๆ "
ณ ตอนนี้เองที่เสียงแสยะได้ดังขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มที่ติดตามจะเดินเข้ามาจ้องมองที่หลินเทียนพลางพูดออกมาว่า
"ก่อนหน้านี้เจ้าคงไม่ได้ทำเรื่องชั่วๆกับหยูเอ๋อไปใช่ไหม ? "
ท่าทางของหลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมเองก็ถึงกับเปลี่ยนเป็นเย็นชาโดยทันที
อย่างไรก็ตามตอนนี้เองที่เขาได้ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายเหมือนรู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นหลงในตัวผู้หญิงนางนี้จึงได้พูดออกมาว่า
"แน่นอนทำไปแล้ว ตอนนี้นางเป็นหญิงของข้า "
"เจ้า ! "
ชายหนุ่มคนนั้นได้แสดงสีหน้าที่โกรธจัดออกมาทันที
"ข้าจะฆ่าเจ้า !"
เขาคว้าเอากระบี่ที่เอวออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงเข้าใส่หลินเทียนโดยทันที
"โอหังนัก ! "
"ไอ้ระยำ ! "
พูชิและเก้อเจิ้งนั้นไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนเป็นโกรธจัดพร้อมทั้งก้าวออกไปเพื่อที่จะขัดขวาง
อย่างไรก็ตามมีใครคนหนึ่งที่ตอบสนองเร็วกว่าพวกเขา
จี่หยวนฉานได้ก้าวออกมาตรงหน้าหลินเทียนก่อนที่จะรับดาบนั้นเอาไว้ด้วยมือของเขาจนเป็นเหตุให้เลือดหยดย้อยลงมาตามตัวกระบี่
"ท่านแม่ทัพ......"
ชายหนุ่มคนนั้นได้มีท่าทางเปลี่ยนไปทันที
จี่หยวนฉานได้ปล่อยกระบี่ก่อนที่จะพูดออกมาด้วยท่าทางเย็นชาว่า
"ออกไปซะ ! "
"แต่ว่า........"
"ออกไป ! "
ขณะที่จี่หยวนฉานได้คำรามออกมานั้นชายหนุ่มคนนั้นก็ได้แต่ต้องเดินตัวสั่นออกไป
เขาได้มองไปยังหลินเทียนด้วยสายตาที่ดุร้ายพร้อมทั้งสะบัดมือแล้วเดินออกไปทันที
หลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นได้ออกไปแล้วจี่หยวนฉานก็ได้มองไปทางหลินเทียนพร้อมกับพูดว่า
"น้องชาย ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ "
จี่หยวนฉานได้ก้อมหัวลงด้วยท่าทางยอมรับในความผิด
"ผู้อาวุโสอย่าใส่ใจเลย นี่ไม่ใช่ความผิดของท่าน"
หลินเทียนได้พูดออกมา
แม่ทัพอันดับหนึ่งกลับก้มหัวให้เด็กอายุเพียง 16ปีซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งหลายๆคนต่างก็มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางที่ชื่นชม
"แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนของตาเฒ่าคนนี้แต่ในเมื่อมาด้วยกันแล้วก็ถือว่าเป็นความผิดของเฒ่าคนนี้ "
จี่หยวนฉายได้ส่ายศีรษะพร้อมทั้งพูดออกมาด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า
"น้องชายอยากจะเรียกร้องอะไรก็บอกได้เลย ตราบใดที่เฒ่าคนนี้ทำได้ก็จะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ! "
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมได้แต่แสดงสีหน้าที่หมดหนทางออกมา
"ท่านผู้อาวุโสเป็นแม่ทัพที่ปกป้องอาณาจักรของเรามากว่าหลายสิบปีและนำพาความสงบสุขมาให้พวกเราแล้วรุ่นเยาว์อย่างข้าจะไปกล้าเรียกร้องอะไรจากท่านล่ะ โดนคนอื่นดูถูกแย่"
หลินเทียนได้พูดออกมา
พูชิและเก้อเจิ้งภายในห้องเองก็ได้มองไปที่กันและกันด้วยแววตาเป็นประกาย
จี่หยวนฉานได้มองไปยังหลินเทียนที่คลุมร่างเอาไว้พร้อมกับเงียบไป
"เฒ่าคนนี้อายุ 86แล้วแถมลูกๆก็ตายไปในสนามรบหมดแล้วเหลือเพียงหลานสาวอย่างหยูเอ๋อนี่แหละ สำหรับเฒ่าคนนี้แล้วนางมีค่าเทียบเท่าอาณาจักรเลยก็ว่าได้ "
จี่หยวนฉานได้มองไปยังร่างของนางก่อนที่จะหันกลับมาทองหลินเทียนแล้วพูดต่อว่า
"แม้ว่าน้องชายจะทำเพราะความถูกต้องแต่บุญคุณก็คือเป็นบุญคุณอยู่ดีดังนั้นจะต้องตอบแทน"
ตรงนี้เองที่จี่หยวนฉานได้ล้วงมือเข้าไปหยิบตราสัญลักษณ์จากใต้หน้าอกก่อนที่จะส่งให้แล้วพูดว่า
"เฒ่าคนนี้เพิ่งจะกลับจากสนามรบดังนั้นถึงไม่มีเงินติดตัวมาหรอก น้องชายช่วยรับตรานี้ไว้ก่อนแล้วกัน "
ตราสัญลักษณ์นี้มีขนาดเทียบเท่าฝ่ามือและมีสีแดง ใจกลางของมันสลักตัวอักษะเอาไว้และให้ความรู้สึกที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก
เมื่อมองไปยังตรานี้แล้วพูชิและเก้อเจิ้งถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสีก่อนที่จะโห่ร้องออกมาว่า
"ตราแม่ทัพ! "