Divine King Of All Directions - 034
Divine King Of All Directions - 034
สำหรับเก้อเจิ้งแล้วถ้าพลังวิญญาณของหลินเทียนเป็นตัวทำให้ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปแล้วงั้นเทคนิคการวาดทั้งห้านิ้วของหลินเทียนก็เป็นตัวทำให้เขายอมรับอย่างแท้จริงทว่าตอนนี้ไม่เพียงแค่เขาแต่ผู้คนทั้งหมดภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนแข็งค้างไปกับความสามารถในการวาดลวดลายของหลินเทียน
"เป็นการวาดที่เหลือเชื่อ "
"มันต้องกินพลังงานไม่น้อยอย่างแน่นอน นี่ไม่เว้นแม้แต่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับที่ 2 ด้วย นี่มัน...."
หลายคนได้พึมพำออกมา
ตอนนี้มีหลายคนที่รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าของตัวเอง ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินเทียนมาขอเข้ารับการทดสอบนั้นพวกเขาเป็นคนที่เยาะเย้ยเขาเพราะคิดว่าหลินเทียนมาที่นี่เพื่อก่อกวนแต่คนๆนี้กลับสามารถสร้างข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณได้
ยิ่งไปกว่านั้นคือสร้างได้อย่างสมบูรณ์แบบ !
พูชิในตอนนี้ได้แต่แสดงสีหน้าที่ตกตะลึงก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว
"เจ้าแก่ เป็นไง ? "
พูชิได้มองไปทางเก้อเจิ้งก่อนที่จะพูดออกมา
เก้อเจิ้งได้แต่ยิ้มออกมาก่อนที่จะส่ายศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางพูดว่า
"แพ้ ข้าแพ้แบบหมดรูปเลยล่ะ "
การวาดลวดลายข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณของหลินเทียนนั้นไม่มีข้อติอะไรเลยแถมยังได้รับคำชมจากเก้อเจิ้งอย่างถึงที่สุด ระหว่างที่ผู้คนกำลังตกตะลึงอยู่นั้นเก้อเจ้งก็ได้เดินเข้าไปหาหลินเทียนก่อนที่จะโค้งคำนับซะงั้น
ท่าทางของหลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมเองก็ถึงกับเปลี่ยนไป
พนักงานสาวได้แต่พูดออกมาด้วยท่าทางตกตะลึงว่า
"ท่านผู้อาวุโส ! "
เก้อเจิ้งนั้นเป็นถึงผู้อาวุโสของสมาคมที่มีสถานะสูงส่งทว่าตอนนี้เขากลับกำลังโค้งคำนับให้กับเด็กอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะก้าวออกมาหยุดการกระทำของเขาพลางพูดว่า
"เอาล่ะช่างเถอะ ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสนะ "
ตอนแรกหลินเทียนเองก็รู้สึกไม่สบอารมณ์กับเก้อเจิ้งคนนี้นักแต่ตอนนี้เขาพบว่าคำพูดของพูชิไม่ผิดแม้แต่น้อย เก้อเจิ้งคนนี้นั้นเป็นเพียงแค่พวกหัวโบราณเท่านั้นแต่ไม่ได้เป็นคนไม่ดีอะไรซึ่งการกระทำของฝ่ายตรงข้ามนี้ก็ได้อธิบายทุกอย่างหมดแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหลินเทียนนั้นจะมาก่อกวนจริงๆเพราะถึงอย่างไรก็ตามการจะเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมตอนอายุเท่าเขามันก็ยังถือว่าน้อยจริงๆนั่นแหละ
"ข้าผิดไปแล้ว ข้าผิดไปแล้ว มันไม่ได้วัดกันที่อายุจริงๆ ! ตาเฒ่าคนนี้ขออภัยกับกิริยาก่อนหน้านี้ ! "
เก้อเจิ้งได้พูดออกมาด้วยท่าทางฝืนๆพลางแสยะออกมา
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมเองก็ถึงกับหมดคำพูด ตาแก่นี่หัวโบราณจริงๆ
"นี่เจ้าแก่ คิดว่าขอโทษแล้วจะจบงั้นหรอ ? หญ้าร้อยวิญญาณล่ะ ? "
พูชิได้หรี ตาลงก่อนที่จะพูดต่อว่า
"นี่คงไม่คิดจะเบี้ยวกันสินะ ? "
เก้อเจิ้งได้ตอบกลับด้วยความโกรธว่า
"เจ้าสกุลพู แม้ว่าข้าจะเป็นพวกบ้าๆบอๆแต่จะเป็นคนแบบนั้นได้ไง ! "
ชายชราคนนี้ได้คำรามออกมาก่อนที่จะพุ่งหายลึกเข้าไปในตัวสมาคม ไม่นานเขาก็ได้กลับออกมาพร้อมกับขวดหยกซึ่งภายในมีใบไม้ที่ดูไม่ธรรมดาอยู่สามใบ
"เอาไปซะสิ! "
เก้อเจิ้งได้โยนขวดหยกนี้ไปทางหลินเทียนโดยทันที
หลังจากที่รับขวดหยกมาแล้วหลินเทียนก็ได้พูดออกมาด้วยท่าทางแปลกๆว่า
"นี่...."
"ไม่เป็นไรหรอก รับไว้เถอะ เจ้าแก่นี่ไม่ได้ขาดแคลนเงินเลย"
พูชิได้พูดออกมา
หลินเทียนได้คำนึงถึงเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับสองแถมยังเป็นผู้อาวุโสของที่นี่ดังนั้นคงจะไม่ขาดเงินจริงๆนั่นแหละ
หลินเทียนได้มองไปทางเก้อเจิ้งก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"ขอขอบคุณท่านผู้อาวุโส"
หลังจากนี้อีกไม่นานเขาก็จะบรรลุไปยังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 7 แล้วจะต้องเริ่มทำการหล่อหลอมอวัยวะภายใน หากว่ามีหญ้านี้อีกก็จะทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแถมยังช่วยเพิ่มความสามารถในการหล่อหลอมร่างกายเขาด้วย
"ชนะพนันไปแล้วมันถือว่าเป็นของเจ้า ! "
เก้อเจิ้งได้แสยะออกมา
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมนี้ได้แสดงรอยยิ้มออกมาเพราะเขาเดาได้ง่ายๆเลยว่าตังชายชราคนนี้คงรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย
พูชิได้หัวเราะออกมาโดยที่ไม่สนใจท่าทางน่าเกลียดของเก้อเจิ้งแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นพูชิก็ได้มองไปยังหลินเทียนพร้อมกับถามออกมาด้วยท่าทางจริงจังว่า
"น้องชาย ก่อนหน้านี้ตอนที่เจ้าวาดลวดลายนั้นได้ใช้เทคนิคห้าเทพเจ้ามังกรพริบตาในตำนาน ? "
หลังจากที่ได้ยินคำถามของพูชิแล้วเก้อเจิ้งเองก็มีท่าทางเปลี่ยนไปเช่นกันก่อนที่จะจ้องมองไปทางหลินเทียนโดยทันที
หลินเทียนได้แต่ชะงักไปก่อนที่จะพยักหน้าแล้วพูดว่า
"ใช่แล้ว "
เขาไม่รู้ว่าตำนานที่พูชิว่ามันหมายถึงอะไรแต่เทคนิคการวาดของเขาถูกเรียกว่าห้าเทพเจ้ามังกรพริบตาจริงๆ มันเป็นความรู้ที่ได้มาหลังจากจัดการกับข้อมูลภายในสมองของเขา
พูชิและเก้อเจิ้งได้มองไปทีกันและกันโดยที่ได้แต่สูดหายใจเข้าลึก
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะยืนยันเทคนิคของหลินเทียนว่ามันเป็นเทคนิคในตำนานแต่หลังจากที่ได้ยินเจ้าตัวยอมรับแบบนี้ก็ทำให้พวกเขาอดรู้สึกตกตะลึงไม่ได้
"เทคนิคห้าเทพเจ้ามังกรพริบตา ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง"
พูชิได้พึมพำออกมา
เก้อเจิ้งเองก็ได้แต่ฝืนยิ้มก่อนที่จะมองไปยังพูชิแล้วพูดว่า
"ตอนนี้ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นอาจารย์ของเขา เจ้ามันไม่คู่ควร "
เกี่ยวกับคำพูดยั่วยุนี้พูชิไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
"ก็บอกไปแต่แรกแล้วว่าข้าไม่มีคุณสมบัติพอ "
พูชิได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะมองไปทางเก้อเจิ้งแล้วพูดว่า
"เจ้าแก่ น้องชายนี่อยู่ในระดับไหนกันเจ้าน่าจะรู้ดีแล้วทำไมยังไม่ให้ตราสัญลักษณ์กับเขา ? "
เก้อเจิ้งได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า
"ข้าได้เตรียมมาตอนที่กลับไปเอาหญ้าร้อยวิญญาณมาแล้ว "
ขณะที่พูดเขาก็ได้หยิบเอาตราสัญลักษณ์ออกมา
เมื่อมองไปที่ตรานี้แล้วสายตาของผู้คนมากมายนั้นถึงกับเปล่งประกายออกมาด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นเพราะมันเป็นตราที่บ่งบอกถึงสถานะของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคม ผู้ที่ถือครองตรานี้ล้วนเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง
พูชิได้เหลือบมองไปยังตราสัญลักษณ์นั้นก่อนที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
"เจ้าแก่ นี่มันตราระดับสอง เจ้าคิดว่าเขาอยู่ในระดับสองงั้นหรอ ? "
"ข้ารู้ว่าจากความสามารถของเขาแล้วอยู่ในระดับ 3 เป็นอย่างน้อย "
เก้อเจิ้งได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆว่า
"แต่ว่าหากเกินระดับที่ 2 ไปนั้นทางสาขาย่อยอย่างเราไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเตรียมตราสัญลักษณ์ให้ได้ ต้องเป็นมหาคมสาขาหลักที่อยู่ที่เมืองหลวง"
พูชิได้แต่ชะงักไป
"อ่อจริงด้วย ข้าลืมไปเลย "
หลังจากที่รับตราสัญลักษณ์มาจากเก้อเจิ้งแล้วเขาก็ได้ส่งให้หลินเทียนพลางพูดว่า
"น้องชายก็น่าจะได้ยินแล้ว หากว่ามีเวลาก็ลองไปที่สาขาหลักดู "
"ได้"
หลินเทียนได้รับตราสัญลักษณ์มา
"เอาล่ะ เรื่องก็ได้จบลงแล้วงั้นกลับกันเถอะ "
พูชิได้พูดออกมาก่อนที่จะมองไปทางหลินเทียนแล้วพูดว่า
"น้องชาย ? มีเรื่องอะไรอีกไหม หากว่าไม่ก็ไปด้วยกันไหม ? "
"ไม่ขัดข้อง"
หลินเทียนได้ตอบกลับไป
พูชิได้ยิ้มออกมาก่อนที่จะบอกลาเก้อเจิ้งแล้วเดินออกไปพร้อมกับหลินเทียน
สายตาของผู้คนภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเคารพโดยเฉพาะเมื่อมองไปยังหลินเทียน ในสายตาของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความกลัวอย่างชัดเจน ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมอายุ 16 ปีแถมความสามารถยังอยู่เหนือพูชิและเก้อเจิ้ง อนาคตต้องเป็นตัวตนที่อันตรายอย่างแน่นอน !
"หยุดก่อน ! "
ณ ตอนนี้ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
พูชิและหลินเทียนได้หยุดเท้าลงก่อนที่จะหันกลับมา
"เจ้าแก่มีอะไรงั้นหรอ ? "
พูชิได้ถามออกมา
คนที่เรียกพวกเขาไม่ใช่ใครนอกเสียจากเก้อเจิ้ง
เก้อเจิ้งได้จดจ่อไปยังหลินเทียนก่อนที่จะพูดออกมาอย่างอับอายว่า
"นั่น.......นั่น......"
"อื่ม ?"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางสงสัย
พูชิได้จ้องมองไปยังเก้อเจิ้งก่อนที่จะตระหนักถึงบางอย่างจึงได้หรี่ตาลงแล้วพูดออกมาว่า
"เจ้าแก่ มีอะไรก็พูดมาเร็วๆ หากว่าไม่พูดเราจะไปกันแล้วนะ "
เก้อเจิ้งได้แต่แสดงสีหน้าที่อับอายออกมาก่อนที่จะมองไปยังหลินเทียนแล้วพูดว่า
"น้องชายเฮ่ยเป่าใช่ไหม ? เจ้า........สนใจเข้าร่วมกับสมาคมเราไหม ? "
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมนั้นถึงกับชะงักไปก่อนที่จะถามออกมาว่า
"เข้าร่วม ? ไม่ใช่ว่าข้าก็เข้าร่วมแล้ว ? "
ในความคิดของเขาคือหลังจากที่ได้รับการรับรองนั้นก็ถือเป็นการเข้าร่วมกับทางสมาคม
"ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการตรวจสอบความสามารถเท่านั้นและการเข้าร่วมกับเราก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ให้พูดคือบางคนก็ได้รับการรับรองจากเราแต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมเป็นคนของเราซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่น้อยมากเพราะส่วนใหญ่จะเลือกเข้าร่วมกับทางสมาคม"
พูชิได้อธิบายออกมา
ความสามารถของหลินเทียนนั้นถือว่าสูงมากๆแถมยังให้ความสนใจกับเขาอย่างถึงที่สุด ดูเหมือนว่าอาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังของหลินเทียนจะต้องเป็นตัวตนที่อยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอนดังนั้นหลินเทียนถึงไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับสมาคมเลยแม้แต่น้อย
หลินเทียนได้ถามออกมาหลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่งว่า
" แล้วหากว่าเทียบกันแล้วมันพิเศษกว่าไม่เข้าร่วมกับสมาคมอย่างไร ?"
หลังจากที่ได้ยินคำถามนี้เก้อเจิ้งนั้นถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขโดยทันที
"การเข้าร่วมกับเราก็สามารถทำภารกิจที่ทางสมาคมตั้งขึ้นได้และจะได้รับค่าวัตถุดิบตามที่ตกลง ส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบเหล่านี้เป็นอะไรที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินตราแถมการเข้าร่วมกับเรายังได้เงินเดือนฟรีด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเลยคืออำนาจ"
เก้อเจิ้งได้พูดต่ออย่างรวดเร็วว่า
"แน่นอนว่าด้านนอกนั้นจะมองดูที่สถานะ"
ท่าทางของหลินเทียนได้เปลี่ยนไปทันที
สำหรับเขาแล้วไม่ได้สนใจเรื่องเงินเดือนเลยแม้แต่น้อยทว่าวัตถุดิบที่ว่ามานี้เป็นอะไรที่เป็นปัญหาจริงๆ หลังจากที่ได้รับความรู้จากห้วงความคิดมาแล้วเขาก็พบว่ามันมีวัตถุดิบหลายๆชนิดที่หายากมากๆโดยที่เงินไม่สามารถซื้อได้จริงๆ หากว่าเข้าร่วมกับสมาคมก็จะเป็นการแก้ปัญหานี้โดยทันที
หลังจากที่คิดถึงจุดนี้แล้วเขาถึงได้ถามต่อว่า
"แล้วหลังจากที่เข้าร่วมแล้วข้าต้องทำอะไร ? แล้วจำกัดอิสรภาพของข้าหรือไม่ ? "
"ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแถมหลังจากที่เข้าร่วมแล้วก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงแม้แต่น้อย"
เก้อเจิ้งได้รีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว
หลินเทียนได้แต่แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา มันง่ายๆแบบนี้เลย ?
พูชิที่อยู่ข้างๆนั้นได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"จริงๆแล้วเจ้าแก่นี่มีเป้าหมายอื่น ที่เขาลากเจ้าเข้าร่วมก็เพราะว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากๆอย่างเช่นหากว่ามีภารกิจยากๆก็จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วถ้ามีปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมที่แข็งแกร่งดังนั้นการลากเจ้าที่มีพรสวรรค์ระดับสัตว์ประหลาดมาได้ก็จะทำให้เขาได้รับรางวัลซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นอะไรที่เงินไม่สามารถซื้อได้ ยกตัวอย่างเช่นสัญลักษณ์ของข่ายอาคมไงล่ะ "
"........"
หลังจากที่ได้ยินแบบนี้แล้วหลินเทียนก็ได้แต่รู้สึกหมดคำพูดไปทันที
เก้อเจิ้งที่ถูกแฉหมดเปลือกเองก็ได้แต่มีสีหน้าแดงก่ำด้วยท่าทางอับอาย