Divine King Of All Directions - 032
Divine King Of All Directions - 032
เก้อเจิ้งนั้นเป็นผู้อาวุโสของสมาคมแห่งนี้ซึ่งวันนี้เขาก็กำลังทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์ใหม่ๆของข่ายอาคมอยู่ภายในห้องของตัวเองและหลังจากที่ได้รับการรายงานของหญิงสาวแล้วก็ทำให้เขารู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมากเพราะว่าในเมืองแห่งนี้มีปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมอยู่น้อยมากๆทว่าหลังจากที่ออกจากห้องมาแล้วกลับต้องพบกับเด็กอายุ 16ปีที่คิดจะมาเข้ารับการทดสอบรับรองจึงไม่แปลกที่ในสายตาของเขาจะคิดว่านี่เป็นการก่อกวน !
"ไสหัวออกไปซะ อย่ามาถ่วงเวลาทำงานของข้า "
เก้อเจิ้งได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ
คิ้วของหลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมได้ขมวดเข้าหากันโดยทันที ไอ้แก่นี่มันอะไรกัน ?
"ข้ามาที่นี่เพื่อเข้ารับการทดสอบจริงๆนะ ช่วยข้าทดสอบรับรองด้วยเถอะ "
หลินเทียนได้พูดออกมา
ผู้คนมากมายภายในสถานที่แห่งนี้ล้วนจ้องมองไปทางเขาก่อนที่จะหัวเราะเยาะออกมาทันที
"ไอ้หนู มันเป็นเจ้าที่ผิดเอง หากว่าเจ้าที่อายุ 16 ปีสามารถเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมได้แล้วคงมีปรมาจารย์มากมายอยู่ในอาณาจักรนี้แล้วไหม ? อย่ามาเล่นสนุกที่นี่อยู่เลย "
"นี่แล้ว ที่นี่คือสมาคมปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมนะ มันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ! "
"รีบๆไปได้แล้วอย่ามารบกวนคนอื่น "
หลายคนได้แต่ส่ายศีรษะ
สถานที่แห่งนี้จำหน่ายวัตถุดิบมากมายจึงไม่แปลกที่จะมีผู้คนอยู่เต็มไปหมดแม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ใช่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมก็ตามแต่พวกเขาก็คุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างมากดังนั้นการที่ได้เห็นเด็กอายุ 16 มาเข้ารับการทดสอบจึงเป็นอะไรที่เพ้อฝันอย่างถึงที่สุด
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมเองก็ถึงกับหมดคำพูด นี่มันอะไรกัน ?
"ผู้อาวุโสเก้อ ข้าต้องการจะมาเข้ารับการทดสอบจริงๆดังนั้นได้โปรดให้โอกาสข้าด้วย หากว่าข้าพูดปดก็เชิญลงโทษได้ตามสบาย"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เก้อเจ้อได้แต่จ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยเพลิงโทสะ
"ออกไปซะ !"
เก้อเจิ้งได้คำรามออกมาก่อนที่จะโบกมือของเขาแล้วเดินจากไป
เหล่าผู้คนต่างๆมองไปยังเก้อเจิ้งที่เดินจากไปด้วยท่าทางเคารพก่อนที่จะมองไปทางหลินเทียนด้วยรอยยิ้มและส่ายศีรษะไปมา
"ท่านคะ ท่านผู้อาวุโสเจ้อไม่สะดวกในวันนี้ดังนั้น.."
หญิงสาวได้พูดออกมาอย่างระมัดระวัง
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมเองก็ได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"ไม่เป็นไร ข้าไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เจ้าแล้ว งั้นข้าขอตัว"
แม้ว่าเขาจะหงุดหงิดแต่พนักงานสาวคนนี้ก็มีมารยาทที่ดีเป็นอย่างมากดังนั้นจะให้เขาไปลงความโกรธกับเธอก็คงจะไม่ได้
เขาไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อก่อนที่จะรีบเดินออกไปโดยทันที
ระหว่างที่เดินออกไปภายใต้แสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุนั้นหลินเทียนก็รู้สึกได้เพียงแค่ความขุ่นเคืองใจ หลังจากที่เขาก่นด่าออกมาแล้วก็ก้าวเท้าออกไปไวกว่าเก่า
ปึ้ก !
ณ ตอนนี้เองที่เขาได้เดินไปกระแทกกับชายคนหนึ่งเข้า
ตอนนี้อารมณ์ของเขาย่ำแย่ลงกว่าเดิมมาก
เขาได้ลุกกลับขึ้นมาก่อนที่จะมองไปยังชายตรงหน้าด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปเพราะว่านี่มัน........เป็นคนรู้จักของเขา
"อื่ม ? "
ฝ่ายตรงข้ามเองก็รู้สึกชะงักไปเช่นเดียวกัน
ชายชราในชุดคลุมสีเทาคนนี้มีเครายาวพร้อมทั้งตราสัญลักษณ์ของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมประดับอยู่ตรงหน้าอกแถมมันยังมีแถบมีทองสอบแถบด้วย ชายชราคนนี้คือผู้จัดการของตำหนักแลกสมบัติพูชิ !
"เจ้าคือ.........น้องชายเมื่อครึ่งเดือนก่อน ?"
พูชิได้ถามออกมา
ในเมืองนี้แม้จะมีคนแต่งตัวด้วยชุดคลุมดำไม่มากแต่เขาก็ไม่กล้าฟันธงว่าจะเป็นคนๆเดียวกันกับเมื่อครึ่งเดือนก่อน
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า
"อื้ม ข้าเอง "
พูชิได้แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาทันทีก่อนที่จะมองไปยังหลินเทียนด้วยรอยยิ้มพร้อมถามออกมาว่า
"งั้นแสดงว่าน้องชายได้ผ่านการทดสอบรับรองแล้วสินะ ? แล้วเป็นไง ได้ระดับไหน ? ฮิฮิ คงไม่ต่ำไปกว่าข้าแน่นอน "
หลังจากที่เห็นหลินเทียนเดินออกมาจากสมาคมแล้วเขาก็คิดว่าหลินเทียนเองก็น่าจะทดสอบเสร็จไปแล้วเพราะถึงอย่างไรก็ตามม้วนคัมภีร์อาคมทั้งสามที่หลินเทียนนำมาประมูลนั้นมันอยู่ในระดับสูงมากๆ
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดออกมาอย่างหมดหนทางว่า
"อย่าพูดถึงมันเลย ข้าถูกไล่ออกมา "
"อื่ม ? เกิดอะไรขึ้น ? "
พูชิได้ขมวดคิ้วโดยทันที
ด้วยความสามารถของหลินเทียนแล้วจะถูกไล่ออกมาได้ยังไงกัน ?
หลินเทียนไม่ได้ปิดบังอะไรก่อนที่จะเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบออกไป
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแล้วพูชิก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
"ที่แท้ก็เป็นเพราะเจ้าแก่เก้อเจิ้งนั่นเอง "
พูชิได้หัวเราะออกมาก่อนที่จะมองไปทางเขาแล้วพูดต่อว่า
"อย่าไปถือสาเจ้าแก่นั่นเลยเพราะเขาเป็นพวกหัวโบราณน่ะ งั้นน้องชายเข้าไปกับข้าแล้วกันจะได้ให้เจ้าเฒ่านั่นเห็นความสามารถที่น่าทึ่งของเจ้า"
หลินเทียนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีดำได้แต่พยักหน้าตอบ
"งั้นต้องรบกวนพูด้วยแล้วกัน"
เขาได้พูดออกมา
"ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆหน่า"
พูชิได้โบกมือของเขา
.....
ภายในสมาคมแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายพร้อมทั้งหลายคนที่ส่งเสียงสนทนาออกมา
ณ ตอนนี้ชายชรากับชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำได้ผลักประตูกลับเข้ามา
!
เมื่อเสียงประตูได้ดังขึ้นก็ดึงดูดสายตาของผู้คนโดยทันที
"อื่ม ? นั่นมันเจ้าหนูเมื่อก่อนหน้านี้ ? กลับมาทำไม ? "
"หรือว่าจะมาก่อกวนอีก ? "
"หากว่ามาก่อกวนอีกมีหวังคงถูกท่านเก้อจัดการแน่ๆ "
หลายคนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ระหว่างที่ได้ยินเช่นนั้นหลินเทียนก็ได้แต่แสดงสีหน้าที่หมดหนทางออกมาส่วนตัวของพูชินั้นได้แต่ชะงักไป
ทว่าตอนนี้เองที่สายตาของคนบางคนได้ตกลงที่ร่างของพูชิก่อนที่ท่าทางของพวกเขาจะเปลี่ยนไป
"นั่นมัน...ท่านพูชิ ?! "
"ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมระดับ 2 ผู้จัดการของตำหนักแลกสมบัติ ท่านพูชิ ! "
"เดี๋ยวก่อนนะ แล้วเจ้าหนูนั่นยืนอยู่กับท่านพูชิได้ไง ? "
"นี่....แม้ว่าจะเป็นชุดคลุมสีดำแต่น่าจะเป็นคนละคนกันนะ "
หลายคนได้มีท่าทางเปลี่ยนไป
แน่นอนว่าภายในเมืองแห่งนี้นั้นพูชิมีสถานะไม่ธรรมดาเลย หลายๆตระกูลของเมืองนี้ยังต้องให้เกียรติเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาคนนี้
หญิงสาวที่คอยต้อนรับนั้นถึงกับตกตะลึงก่อนที่จะเดินไปทางพูชิโดยทันที
"ท่านผู้อาวุโสพูชิ"
เธอได้ทักทายอย่างเคารพ
"อื้ม "
พูชิได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ยิ้มแย้ม
หญิงสาวคนนั้นได้หันหน้าไปมองชายหนุ่มชุดคลุมดำอีกครั้งก่อนที่จะถามออกมาเพื่อยืนยันว่า
"ท่านคือ..."
"อื่ม ข้าเอง ต้องขอรบกวนอีกรอบนะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
ท่าทางของหญิงสาวคนนั้นถึงกับเปลี่ยนไปอย่างมาก ชายหนุ่มคนนี้รู้จักกับท่านพูชิด้วย ? ในเวลาเดียวกันนี้คนอื่นๆที่อยู่โดยรอบก็ได้ชะงักไปเช่นกัน นี่มันชายหนุ่มที่มาก่อกวนเมื่อครู่ ?
หญิงสาวรู้สึกมึนหัวเป็นอย่างมากก่อนที่จะแสดงความเคารพแล้วพูดออกมาว่า
"ท่านพูชิและท่านสุภาพบุรุษโปรดรอสักครู่ ดิฉันจะรีบไปรายงานให้ท่านเก้อเจิ้งทราบโดยไว "
"ไม่เป็นไรหรอก"
พูชิได้โบกมือขัดจังหวะก่อนที่จะคำรามอย่างดังกึกก้องว่า
"เจ้าเฒ่าเก้อเจิ้งออกมาเดี๋ยวนี้ เพื่อนตัวน้อยของข้าจะให้ช่วยทำการทดสอบให้หน่อยแต่เจ้ากลับกล้าไข่เขางั้นหรอ ! หากว่าในสามลมหายใจเจ้าไม่โผล่หัวมาข้าจะทลายสวนของเจ้าให้ราบเลยคอยดู ! "
พุฟฟ !
ผู้คนต่างๆภายในสถานที่แห่งนี้ถึงกับหมดคำพูด นี่ท่านพูชิเอาจริง ?
ขณะนี้คนอื่นๆเองก็ได้แต่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเพราะว่าชายหนุ่มคนก่อนหน้านี้มีสายสัมพันธ์กับท่านพูชิด้วย ?
เก้อเจิ้งที่อยู่ภายในส่วนลึกเองก็ถึงกับพุ่งออกมาอย่างไวพร้อมทั้งคำรามออกมาว่า
"เจ้าสกุลพู นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง "
เก้อเจิ้งได้คำรามออกมาก่อนที่จะมองไปยังชายหนุ่มในชุดคลุมพลางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
"เจ้าหนูก่อนหน้านี้ ? มาทำไมอีก ! "
"อื้ม "
หลินเทียนได้ อบกลับอย่างไม่แยแส
สำหรับเขาแล้วเขาเริ่มจะไม่สบอารมณ์ชายชราคนนี้แล้วสิ
ตอนนี้สามารถเห็นถึงความโกรธที่กำลังปะทุออกมาทางใบหน้าของเก้อเจิ้งได้อย่างชัดเจนทว่าพูชิก็ได้พูดออกมาทันทีว่า
"เจ้าเก้อ เจ้ามันชราแถมยังตาบอด กล้าดียังไงถึงได้ไล่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมที่มากความสามารถแบบนี้ไป หากว่าเรื่องนี้ไปถึงหูหัวหน้าสมาคมแล้วข้าบอกได้เลยว่าเจ้าต้องโดนถลกหนังแน่นอน "
แม้ว่าเก้อเจิ้งจะอารมณ์ไม่ค่อยดีแต่ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
"เจ้าเป็นอาจารย์ของเขา ? "
เก้อเจิ้งได้ถามออกมา
พูชิได้หันหน้าไปมองหลินเทียนก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมาว่า
"อย่าพูดอะไรไร้เหตุผลแบบนั้นสิ ข้าจะไปมีความคุณสมบัติพอเป็นอาจารย์ของเขาได้อย่างไรกัน"
วิ้สส !
คำพูดนี้ทำให้ท่าทางของผู้คนทั้งหมดถึงกับเปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
"เจ้าหนูนั่นมันอะไรกัน ทำไมถึงได้ทำให้ท่านพูชิพูดถึงขนาดนั้น ? "
"นี่มัน....."
หลายๆคนถึงกับโง่งมไปทันที
เก้อเจิ้งได้ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่าแต่เขารู้จักพูชิดีกว่าใครว่าเขาไม่ใช่คนที่จะพูดเรื่องตลก
"เขาอายุเพียง 16ปีเท่านั้น 16ปีมันได้ด้วย ? "
เก้อเจิ้งได้พูดออกมาด้วยท่าทางไม่เชื่อ
พูชิได้ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ราบเรียบว่า
"ก็ให้เขาลองแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง "
เก้อเจิ้งได้จ้องมองไปยังหลินเทียนพร้อมกับแสยะออกมา
"เอาล่ะพูชิ ข้าเห็นแก่หน้าเจ้าจะให้เขาลองก็ได้ "
ตรงนี้เองที่เก้อเจิ้งได้พูดต่อว่า
"หลังจากทดสอบแล้วหากว่าเขาทำได้ไม่ดีก็อย่าโทษที่ข้าไม่เห็นแก่หน้าเจ้าแล้วโยนเขาออกไปล่ะ "
"ได้ หากว่าไม่ผ่านการทดสอบก็ไม่เป็นปัญหาอะไร "
พูชิได้พูดออกมาก่อนที่จะพูดต่อด้วยรอยยิ้มว่า
"เจ้าเฒ่า หากว่าเขาผ่านล่ะ ? จะทำยังไง ? "
เก้อเจิ้งได้ขมวดคิ้วพลางถามออกมาว่า
"เจ้าจะเอายังไง ? "
พูชิได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
"ได้ยินมาว่าไม่กี่วันก่อนเจ้าซื้อหญ้าร้อยวิญญาณไปจากตำนักแลกสมบัติของข้าและข้าคิดว่าเจ้ายังไม่น่าจะได้ใช้มัน ? หากว่าเพื่อตัวน้อยของข้าผ่านการทดสอบงั้นให้เขาเป็นของรางวัลเป็นไง ? "
วิ้ส !
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วผู้คนต่างๆล้วนแต่ตัวสั่น
หญ้าร้อยวิญญาณนั้นมีคุณสมบัติในการหล่อหลอมอวัยวะภายในอย่างดีแถมยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิตซึ่งถือได้ว่าเป็นของดีสำหรับผู้บ่มเพาะเขตแดนชีพจรวิญญาณเลยด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆมันก็มีค่ากว่าหลายพันเหรียญ !