Divine King Of All Directions - 025
Divine King Of All Directions - 025
ตำหนักแลกสมบัตินั้นเป็นสถานที่จำหน่ายวัตถุดิบที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ เรียกได้ว่าเป็นตลาดเพียงแห่งเดียวของเมืองเลยก็ว่าได้ เราสามารถหาโอสถ สมุนไพรและอาวุธล้ำค่าได้จากที่แห่งนี้แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋าด้วย ตำหนักแลกสมบัตินั้นเป็นตัวตนระดับเดียวกับกับสำนักจิ่วหยางและได้ยินมาว่ามันมีตระกูลใหญ่ที่มีเส้นสายกับคนของจักรวรรดิคอยอุ้มชูอยู่เบื้องหลัง
และเป็นเพราะแบบนี้เองที่ถึงแม้กำไรของพวกเขาจะมหาศาลแต่ก็ไม่มีใครในเมืองนี้กล้าที่จะคิดการร้ายกับสถานที่แห่งนี้ ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งหลายคนถึงขั้นร่วมมือกับตำหนักนี้ ตราบใดที่พวกเขาต้องการอะไรก็จะมาหาซื้อที่นี่ หากว่ามีสินค้าที่ดีก็จะถูกนำไปประมูลและตำหนักแลกสมบัติจะเก็บค่าธรรมเนียม 30 % จากราคาประมูลเป็นค่าตอบแทน
......
หลินเทียนได้เดินออกไปตามถนนด้านหน้าสำนักโดยสวมเสื้อคลุมหน้าปิดบังรูปลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ สภาพของเขาในตอนนี้ต่อให้เป็นหลินซี่ก็ไม่สามารถจำแนกเขาได้อย่างแน่นอน
"ปลอดภัยแล้ว "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมเขาถึงได้ระมัดระวังแบบนี้ เขาได้ฆ่าโม่เซินไปแล้วและตระกูลโม่ก็เป็นหนึ่งในตระกูลผู้บ่มเพาะของเมืองนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับสำนักจิ่วหยางได้ก็ตามทีแต่สำหรับตัวเขาแล้วมันก็ยังถือว่าเป็นยักษ์ใหญ่ ระหว่างที่ทำตัวกลมกลืนนั้นเขาต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ไม่นานเขาก็ได้ไปถึงหน้าทางเข้าตำหนักแลกสมบัติ หากว่ามองดีๆแล้วสถานที่แห่งนี้หรูหราเป็นอย่างมากเหมือนว่าตัวเรากำลังยืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่ทำจากหยกและตัวเองนั้นเป็นเพียงมดตัวเล็กๆเท่านั้น ตรงหน้าทางข้าเต็มไปด้วยทหารรักษาความปลอดภัยซึ่งพวกเขาได้กวาดสายตามองมาทางหลินเทียนอย่างระมัดระวัง
ภายในตำหนักแลกสมบัตินี้กว้างขวางเป็นอย่างมาก สิ่งที่ตกแต่งภายในเองก้ล้วนทำมาจากหยกและทองที่ทำให้เห็นถึงความมั่งคั่งได้อย่างชัดเจน
"หรูหราดีจริงๆ "
หลินเทียนได้แต่คิดอยู่ภายในใจ
สถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนซึ่งส่วนแรกคือส่วนของอาวุธ โอสถและวัตถุดิบต่างๆส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือส่วนของสถานที่ประมูลสิ่งของล้ำค่าต่างๆ จากการสังเกตุแล้วก็พบว่าผู้เข้าร่วมการประมูลต่างๆนั้นมีมากมายแถมจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามั่งคั่งเป็นอย่างมาก
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะก่อนที่จะเดินไปอีกทาง
ณ ตอนนี้เองที่ได้สินเสียงดังมาจากทางส่วนของสถานทีประมูลว่า
"มีปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมส่งข่ายอาคมผสานทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกายมาเข้าประมูลขอรับ ! รีบไปแจ้งเร็วเข้า ! "
การก้าวเดินของหลินเทียนได้หยุดลงและอดไม่ได้ที่จะหันกลับไป
หลังจากที่คิดวิเคราะห์แล้วหลินเทียนก็ตระหนักได้ว่าข่ายอาคมผสานคือการที่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมลงทักษะวิทยายุทธ์ไปในม้วนอาคมซึ่งต่อให้ผู้ถือครองม้วนอาคมนี้จะเป็นเพียงผู้คนธรรมดาแต่ก็สามารถสำแดงทักษะที่ถูกวางเอาไว้ภายในได้
จริงๆแล้วข่ายอาคมผสานแบบนี้สามารถใช้ได้เพียงแค่ม้วนละครั้งเท่านั้น
หลินเทียนมาที่นี่ก็เพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบกลับไปจัดวางข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณและแน่นอนว่าเขาต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมเป็นธรรมดา
"ข่ายอาคมผสานทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ? "
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วท่าทางของผู้รับผิดชอบก็เปลี่ยนไปพร้อมทั้งรีบวิ่งไปทางตัวอาคารที่สองของตำหนักโดยทันที เวลาเดียวกันนี้เองที่ผู้คนต่างๆถึงกับแสดงท่าทางที่ตกตะลึงผสมความตื่นเต้นพร้อมทั้งรีบวิ่งเข้าไปภายในห้องประมูลอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับข่ายอาคมผสานนั่น !
หลินเทียนที่ยืนชมเหตุการณ์อยู่ตรงหน้าเองก็ต้องแสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมา ผลงานของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมมันสร้างแรงสั่นสะเทือนได้ขนาดนั้นเลย ?
เขาได้แต่ยืนอยู่กับที่ก่อนที่จะส่ายศีรษะไปมา
"ซื้อวัตถุดิบก่อนแล้วกัน "
หลินเทียนเองก็อยากจะเข้าร่วมงานประมูลเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เช่นกันแต่ค่าเข้าร่วมนั้นสูงถึง50เหรียญ ด้วยสภาพทางการเงินในปัจจุบันของเขาแล้วมันยังถือว่าเกินไปหน่อย
เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินไปทางสถานที่จำหน่ายวัตถุดิบของที่นี่
"สวัสดีค่ะ ท่านต้องการซื้อสิ่งใดมิทราบ ? "
สาวสวยได้พูดทักทายเขา
มันเป็นเพราะว่าวัตถุดิบที่เขาต้องการซื้อนั้นมีราคาสูงมากๆแถมวัตถุดิบที่มีราคาสูงก็จะถูกรับผิดชอบโดยสาวงามคนนี้
หลังจากที่เห็นการแต่งกายแปลกๆของหลินเทียนแล้วเธอก็ได้ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างผู้เชี่ยวชาญเพราะว่าแขกแปลกๆที่เธอตอนรับในแต่ละวันนั้นมีมากมายและนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอ
หลินเทียนได้พูดออกมาว่า
"ของสิ่งเหล่านี้เอามาอย่างละสิบชิ้น"
ระหว่างที่พูดเขาก็ได้ส่งกระดาษให้เธอ
เขาได้จดรายการสั่งซื้อที่จำเป็นมาก่อนที่จะมายังสถานที่แห่งนี้แล้ว
หญิงสาวได้หยิบกระดาษนั้นมาก่อนที่จะอ่านว่า
"หญ้าฮุนหยา เลือดของสัตว์ร้ายระดับ 3 วานรไฟ แร่วิญญาณน้ำแข็ง....... "
หลังจากที่อ่านถึงตรงนี้แล้วเธอก็ได้แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจออกมาพลางมองไปยังหลินเทียนด้วยท่าทางแปลกๆแล้วถามออกมาด้วยความเคารพว่า
"ท่านเป็นปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมหรือคะ ? "
"เจ้ารู้เกี่ยวกับข่ายอาคมด้วย ? "
หญิงสาวคนนั้นได้พูดออกมาอย่างเคารพว่า
"ยิ่งกว่ารู้อีกค่ะ ที่นี่มีงานประมูลของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมมากมายดังนั้นถึงได้รู้เรื่องราวคล่าวๆค่ะ "
"นี่"
ท่าทางของหลินเ ียนได้เปลี่ยนไปก่อนที่จะถามออกมาว่า
"ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่ามีข่ายอาคมผสานทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกายเข้ามาประมูล ข้าอยากจะรู้ว่ามันจะได้ราคาเท่าไหร่กัน ? "
ได้ยินมาว่าปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมนั้นสามารถทำเงินได้มากมายดังนั้นเขาเองก็อยากจะทำความเข้าใจจุดนี้เหมือนกัน
"ทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกาย ? !!! "
หญิงสาวคนนั้นได้แสดงสีหน้าที่ประหลาดใจพร้อมกับรีบปรับสภาพอารมณ์อย่างรวดเร็วและตอบว่า
"ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการประมูลระดับนี้มาก่อนแล้ว ราคาประมูลออกมาราวๆสามพันเหรียญวิญญาณค่ะ "
เมื่อได้ยินราคาแล้วหลินเทียนถึงกับตะลึงไปทันที
สามพัน ?
นี่มันกองเงินชัดๆ !
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ตกใจอยู่นานก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นแทนเพราะเขาไม่คิดเลยว่าผลงานของปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมจะมีราคาสูงขนาดนั้น หากว่าเขาสามารถสำเร็จการเป็นปรมาจารย์ข่ายอาคมได้แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าสายเงินสายทองจะไหลมาทางเขา ? เมื่อถึงเวลานั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นเงินทอง สมบัติ โอสถหรืออื่นๆก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอีกแล้ว !
หลังจากที่ตระหนักได้แล้วหลินเทียนก็ได้ตอบกลับไปว่า
"เอาล่ะงั้นวัตถุดิบนี่ไม่ต้องก่อนแล้วกัน ข้าเปลี่ยนเป็นสิ่งเหล่านี้แทน.... รากของต้นหมื่นดอก ไขกระดูกของสัตว์ร้ายระดับสองหมาป่าทมิฬ แร่วิญญาณเหินหาวอย่างละสิบชิ้น "
ก่อนหน้านี้หลินเทียนเตรียมที่จะซื้อวัตถุดิบสำหรับข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณแต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว แม้ว่าข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณและข่ายอาคมผสานจะอยู่ในระดับรากฐานเหมือนกันแต่ข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณนั้นอยู่สูงกว่าแถมวัตถุดิบที่ต้องใช้ยังแพงกว่าด้วย นี่ยังไม่นับเรื่องที่การวาดที่ยากกว่าอีก
หลังจากที่คิดถึงตัวแปรต่างๆแล้วหลินเทียนก็ตัดสินใจว่าจะสร้างข่ายอาคมผสานเพื่อเอาเข้าประมูลที่นี่ก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นเขาก็จะได้เอาเงินไปคืนให้กับซูชูวและเอาเงินที่เหลือมาซื้อวัตถุดิบเพื่อสร้างข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณต่อทีหลัง
"ได้ค่ะ โปรดรอสักครู่"
หญิงสาวคนนั้นได้พูดออกมาอย่างอบอุ่น
.......
ระหว่างเดินทางกลับสำนักนั้นอากาศก็เริ่มอึมครึมแล้ว เขาได้ลากกองวัตถุดิบสองถึงกลับไปยังที่พักโดยทันทีก่อนที่จะเอาวัตถุดิบต่างๆไปไว้บนหลังคา
"เงินพันเหรียญอยู่ดีๆก็หายไปกว่าแปดร้อยแล้ว เส้นทางนี้มันผลาญเงินดีจริงๆนั่นแหละ "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางหมดหนทาง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่คิดถึงรายได้ของปรมาจารย์แล้วใบหน้าที่หมดหนทางของเขาก็หายไปทันทีและแทนที่ด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นมากกว่า
"เห้ออ..."
หลินเทียนเริ่มที่จะจำแนกวัตถุดิบต่างๆที่ซื้อมา
ตัวเขาได้วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะต้องสำเร็จด้านข่ายอาคมระยะเริ่มต้นภายในเวลา 15 วัน หลังจากนั้นเขาก็จะใช้ความสามารถนี้สร้างม้วนคัมภีร์ไปประมูลเบื่อเอาเงินมาต่อยอดเป็นข่ายอาคมรวมพลังวิญญาณ ระหว่างบ่มเพาะก็เอาข่ายอาคมเหล่านี้ไปแลกเปลี่ยนกับโอสถและสมบัติอื่นๆได้อีก
ด้วยวิธีการนี้เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถบรรลุไปยังเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 8 หรือแม้กระทั่งระดับ 9ได้ภายในสามเดือนอย่างแน่นอน
ไม่นานเขาก็จำแนกวัตถุดิบต่างๆออก
"เริ่มได้! "
หลินเทียนได้เริ่มการฝึกของเขา
หลังจากที่ผสานสัญลักษณ์ต่างๆในสมองแล้วเขาก็เริ่มที่จะสร้างม้วนคัมภีร์ออกมาก่อนเป็นอย่างแรก ขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่ง่ายมากๆแม้จะเป็นคนธรรมดาก็สามารถทำได้ ไม่นานเขาก็เสร็จสิ้นขั้นตอนแรกโดยการสร้างม้วนคัมภีร์ออกมาทั้งหมดเก้าม้วน
หลังจากที่มองไปยังม้วนคัมภีร์เหล่านี้แล้วหลินเทียนก็ได้แสดงสีหน้าที่มีความสุขออกมา แม้ว่าขั้นตอนแรกจะง่ายแต่เขาก็สร้างมันด้วยตัวเองถึงได้มีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กๆ
เขาได้ทำจิตใจให้เงียบสงบก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนที่สองต่อ
ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมหมึก
มันเป็นหมึกพิเศษที่ใช้สำหรับการวาดข่ายอาคมที่ผสมมาจากวัตถุดิบและไขกระดูกของสัตว์ร้ายซึ่งท้ายที่สุดก็จะได้น้ำหมึกนี้มา หลังจากที่ได้คัมภีร์และหมึกมาแล้วปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมก็จะใช้วัตถุดิบทั้งสองนี้เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
หลินเทียนได้หมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะของตัวเองก่อนที่จะส่งพลังไปทั่วทั้งตัว ตอนนี้เองที่เขาได้เปลี่ยนเคล็ดวิชาบ่มเพาะเป็นเคล็ดวิชาหนึ่งวิญญาณสวรรค์ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาที่เขาได้มาระหว่างผสานสัญลักษณ์ต่างๆเข้าในหัว มันเป็นเคล็ดวิชาที่สร้างมาเพื่อการบ่มเพาะพลังวิญญาณโดยเฉพาะและเป็นอะไรที่ปรมาจารย์ด้านข่ายอาคมต้องใช้ระหว่างที่ทำการวาดข่ายอาคม
เขาได้ยกมือขึ้นมาอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะหยิบเอารากต้นร้อยดอกมาผสมเข้ากับแร่วิญญาณเหินหาว หลังจากนั้นเขาก็ได้อัดพลังของเขาเพื่อบดวัตถุดิบเหล่านั้น เมื่อได้ที่แล้วเขาก็ได้ผสมมันเข้ากับไขกระดูกที่ได้จากหมาป่าทมิฬที่เป็นสัตว์ร้ายระดับ 2 ก่อนที่จะผสมเข้ากับหมึกของเขา
"บึ้สสส ! "
แสงระยิบระยับได้ถูกส่งออกมาจากของเหลวตรงหน้าหลินเทียนซึ่งกำลังถูกผสมเข้าด้วยกัน
ตอนนี้หลินเทียนนั้นเริ่มที่จะมีเหงื่อออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มซีดลง
ขั้นตอนการผสมหมึกนั้นไม่สามารถเทียบกับขั้นตอนการเตรียมม้วนคัมภีร์ได้เลยเพราะมันเป็นขั้นตอนที่ยากเป็นอย่างมาก !