Divine King Of All Directions - 022
Divine King Of All Directions - 022
หลังจากที่เขาสามารถแตะฝั่งของทักษะฝ่ามือเงาเพลิงได้แล้วการฝึกฝนช่วงหลังจากนั้นก็เป็นไปได้อย่างง่ายดาย หลินเทียนได้เหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้งซึ่งภาพฝ่ามือในอากาศก็ได้เพิ่มจำนวนขึ้นทุกครั้ง หลังจากที่ฝ่ายไปอีกกว่าสองชั่วโมงแล้วเขาก็สามารถเหวี่ยงหมัดออกไปได้กว่าสิบแปดหมัดในการโจมตีแต่ครั้งเดียว
"ขั้นที่หนึ่งและเหวี่ยงหมัดได้ 18 หมัดก็ถือว่าดีใช้ได้"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางมีความสุข
เขาได้ปาดเหงื่อที่หน้าผากออกก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิแล้วเริ่มฟื้นฟูพลังภายในร่างของตนเอง
การฝึกฝนทักษะนั้นสิ้นเปลืองพลังฉีเป็นอย่างมาก ในหกชั่วโมงนี้เขาได้เผาผลาญพลังภายในร่างไปอย่างรุนแรงซึ่งหลังจากที่หมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะไปอีกหนึ่งชั่วโมงแล้วเขาก็ได้ยืนขึ้นอีกครั้ง
เขาได้เก็บตำราทักษะฝ่ามือเงาเพลิงไปก่อนที่จะหยิบเอาตำราทักษะเพลงกระบี่วายุสะท้านออกมา
ทักษะนี้เป็นทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกายซึ่งมันอยู่สูงกว่าทักษะฝ่ามือเงาเพลิงอยู่ระดับหนึ่ง ทักษะนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามขั้นซึ่งขั้นแรกคือกระบี่แห่งการทำลายล้าง ขั้นที่สองคือกระบี่แห่งสายฟ้าและขั้นสูงสุดคือกระบี่แห่งวายุสะท้าน
กระบี่แห่งการทำลายล้างนั้นจะมีคลื่นกระบี่ที่รุนแรงซึ่งไม่มีสิ่งใดสามารถขวางทางมันได้
กระบี่แห่งสายฟ้าคือคลื่นกระบี่ที่รวดเร็วและรุนแรงดั่งสายฟ้าฟาด เป้าหมายของมันคือการสังหาร !
กระบี่แห่งวายุสะท้านนั้นเป็นคลื่นกระบี่แห่งความสมบูรณ์แบบ เจตจำนงแห่งกระบี่รวดเร็วดั่งสายฟ้าและเมื่อคลื่นกระบี่นี้ถูกปล่อยออกไปก็จะสร้างคลื่นกระบี่ออกมาปกคลุมท้องฟ้ามากมาย ตำราได้กล่าวเอาไว้ว่าแม้กระทั่งสายลมก็ยังต้องถูกสะบั้นออกโดยคลื่นกระบี่อันรุนแรงนี้
"เป็นเพลงกระบี่ที่ร้ายกาจมาก "
หลินเทียนได้คิดอยู่ภายในใจ
เขาได้เก็บตำรากลับไปก่อนที่จะหลับตาลงแล้วเริ่มที่จะสร้างภาพกระบี่ขึ้นในจิตใจก่อนที่จะผสานเข้ากับการเคลื่อนไหว นี่คือขั้นแรกของกระบี่แห่งการทำลายล้าง
หลังจากผ่านไปกว่าสี่ชั่วโมงนั้นหลินเทียนก็ได้ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
มันเป็นเพราะว่าเขารีบมากไปหน่อยถึงได้ลืมหยิบกระบี่ของตนออกมาด้วย เขาได้หยิบเอากิ่งไม้ขึ้นมาใช้แทนกระบี่ของทนก่อนที่จะย่อตัวลงเล็กน้อยด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ตอนนี้เองที่เขาได้ฟาดฟันออกไปตรงหน้า
"บึ้สสส ! "
ขณะที่มือขวาได้โบกสะบัดออกไปนั้นกิ่งไม้ในมือของเขาได้เกิดการสั่นไหวก่อนที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องของสายลม
กิ่งไม้ของเขาได้ถูกห่อหุ้มโดยแสงสีเงินก่อนที่ก้อนหินใหญ่ตรงหน้าจะส่งเสียงแตก ไม่นานหลังจากนั้นก้อนหินที่อยู่ห่างออกไปก็ได้ระเบิดออก
"รุนแรงมาก ! "
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้นอย่างมากก่อนที่จะพูดต่อว่า
"นี่เพียงแค่ขั้นแรกเท่านั้น ต้องเชี่ยวชาญให้ได้พอๆกับฝ่ามือเงา พลิงให้ได้ หากว่าเราสำเร็จขั้นแรกได้ก็น่าจะมีพลังทำลายพอๆกับฝ่ามือเงาเพลิงขั้นที่สอง ? แล้วเพลงกระบี่อีกสองขั้นที่เหลือจะรุนแรงขนาดไหนกัน ? "
หลังจากที่เก็บอาการตื่นเต้นได้แล้วหลินเทียนก็เริ่มการฝึกอีกครั้ง
"บึ้ส ! "
"บึ้ส ! "
"บึ้ส ! "
พื้นที่แห่งนี้ระงมไปด้วยเสียงคลื่นกระบี่ที่เขาส่งออกไป ในตอนนี้หลินเทียนได้ฝึกกระบี่แห่งการทำลายล้างซ้ำไปซ้ำมาจนเหงื่อท่วมถึงจะหยุดพัก เขาใช้เวลาไปกับขั้นตอนนี้กว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะสำเร็จขั้นแรกนี้
"แปลกแหะ ไม่เห็นรู้สึกว่ามันยากตรงไหน "
หลินเทียนได้พูดพึมพำกับตัวเองเพราะจากที่เขาได้ยินมาจากซูชูวคือผู้ฝึกต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆเลยกว่าจะสำเร็จขั้นแรกของทักษะนี้แต่เขาใช้เวลาเพียงแค่หกชั่วโมงก็เชี่ยวชาญแล้วจึงเป็นเหตุให้เขารู้สึกแปลกมากๆ
เขาไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาผิดมนุษย์คนอื่นก็เพราะว่าวิญญาณของเขาได้ผสานเข้ากับเจ้าของเก่าในร่างนี้ถึงได้บ่มเพาะเร็วกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวโดยใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียว พรสวรรค์ระดับเก้าดาราของเขาก็เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เขาได้ส่ายศีรษะเพราะไม่อยากจะคิดอะไรมากก่อนที่จะพักผ่อนเล็กน้อยแล้วเริ่มดำเนินการฝึกต่อไป
พริบตาท้องฟ้าก็ได้มืดลง
หลินเทียนได้หยุดการฝึกก่อนที่จะแหงนมองท้องฟ้าแล้วพูดกับตัวเองว่า
"วันนี้เอาแค่นี้แล้วกัน"
หลังจากที่ปาดเหงื่อแล้วเขาก็ได้ปัดฝุ่นตามตัวก่อนที่จะเดินตามทางกลับไปยังสำนัก ไม่นานตรงหน้าของเขาก็ปรากฏประตูหินที่เป็นทางเข้าไปยังสันเขาชิงเฟิง
"ถึงแล้ว"
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะเพิ่มความเร็วของตน
ณ ตอนนี้เองที่มีชายสองคนขวางทางเขาเอาไว้ซึ่งอายุของทั้งสองอยู่ราวๆ 18 ปีพร้อมทั้งสวมชุดคลุมสีฟ้าและมีระดับพลังอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 5
"ใครน่ะ ?"
หลินเทียนได้ถามออกมาอย่างราบเรียบ
ชายทั้งสองไม่ได้ตอบกลับทว่ามองมาทางเขาด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ยพร้อมพูดว่า
"เจ้าหนู ได้ยินว่าความกล้าของแกไม่น้อยหนิ รู้ทั้งรู้ว่านายน้อยโจวสนใจในตัวแม่หญิงซูแต่ก็ยังกล้าที่จะทำให้เขาอับอายต่อหน้านาง รู้หรือเปล่าว่านั่นเป็นการชักนำหายนะไปสู่ตัวเอง ? "
"ตอนนี้พวกเจ้าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วยดังนั้นบอกข้ามาหน่อยว่าโจวเฮ่าไปบอกเจ้าแล้วสั่งให้พวกเจ้ามาที่นี่งั้นหรอ ? "
หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีฟ้าเองก็ได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาว่า
"เจ้าหนู อย่าได้คิดอิจฉานายน้อยโจว นายน้อยจะเป็นคนแบบนั้นได้ไง "
"หยุดพล่ามได้แล้ว"
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยความสุดจะทนก่อนที่จะพูดต่อว่า
"จะทำอะไรก็พูดมาตรงๆได้แล้ว "
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้วชายหนุ่มทั้งสองเองก็ได้แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไปพร้อมทั้งพูดว่า
"จะทำอะไร ? คิดว่าพวกเราสองคนจะมาทานอาหารกันที่นี่หรือไง ? "
"เจ้าหนู แม้ว่าเจ้าจะมีสัญญาว่าจะประลองกับนายน้อยในอีกสามเดือนแต่การที่เจ้าล่วงเกินนายน้อยก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ดังนั้นข้าจะมาให้บทเรียนแก่เจ้า"
เขาได้พูดกับหลินเทียนก่อนที่จะเดินเข้าใกล้แล้วพูดต่อว่า
"ยืนนิ่งๆแล้วให้เราหักแขนหักขาซะ หากว่าข้าขัดขืนก็บอกได้เลยว่าเราจะไม่หักแค่นั้น "
ชายที่เสื้อผ้าขาดๆคนนี้ได้พูดออกมาด้วยท่าทางสบายใจเหมือนว่าไม่เห็นหลินเทียนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
หลินเทียนอดหัวเราะออกมาไม่ได้พร้อมกับพูดว่า
"พวกเจ้านี่เสียงดังเหมือนสุนัขไม่มีผิด น่ารำคานจริงๆ "
ชายคนนั้นได้หยุดเท้าลงด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไปทันทีก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"เมื่อกี้เจ้าว่าอะไรนะ ? ! "
ชายคนนั้นจ้องมองไปทางหลินเทียนด้วยสายตาที่เย็นชาเพราะว่าหลินเทียนกลับกล้าที่จะดุด่าว่าพวกเขาเป็นสุนัข !
"แค่นี้ก็ไม่เข้าใจงั้นหรอ ? ขยะจริงๆนั่นแหละ ! "
หลินเทียนได้ยั่วยุออกไป
ตอนนี้เองที่ท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นและชายหนุ่มในชุดคลุมสีฟ้าได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาโดยทันที
"เจ้ามันรนหาที่ตาย ! "
ชายเสื้อผ้าขาดๆได้คำรามออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงฝ่ามือเข้าใส่หลินเทียน
หลินเทียนได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเหมือนดั่งสายลมก่อนที่จะเตะอัดไปกลางหน้าอกของชายหนุ่คนนั้น โครมม ! ร่างของชายหนุ่มเสื้อผ้าขาดๆได้ลอยออกไปไกลก่อนที่จะกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่
"เจ้ากล้าตอบโต้งั้นหรอ ! "
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีฟ้าได้มีท่าทางเปลี่ยนไปก่อนที่จะกำหมัดแน่นแล้วเหวี่ยงเข้าใส่หลินเทียน
ตอนนี้เองที่หลินเทียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันรุนแรงที่ถูกปลดปล่อยออกมาเหมือนดั่งกรงเล็บอันแหลมคมของนกอินทรีย์กำลังพุ่งมาทางเขา ตอนนี้เองที่เขาได้ก้าวถอยกลับไปพร้อมทั้งเตะหินก้อนใหญ่ที่อยู่ข้างหลังออกไปทางชายหนุ่มชุดคลุมสีฟ้า
"กรงเล็บหมาป่า ! "
ชายหนุ่มชุดคลุมสีฟ้าได้คำรามออกมาโดยที่ไม่หลบการโจมตีและบดขยี้หินก้อนใหญ่นั้นจนเป็นผุยผง หลังจากนั้นชายหนุ่มคนนี้ก็ได้กระโจนเข้าใส่หลินเทียนพร้อมทั้งใช้กรงเล็บขย้ำไปทางเขาอย่างไร้ความปราณี
หลินเทียนได้หรี่ตาลงก่อนที่จะกำหมัดขวาเอาไว้แน่น
เขาได้เหวี่ยงหมัดส่งภาพร่างสิบแปดหมัดออกไปปะทะกับชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าโดยทันที
ฝ่ามือเงา !
"ทักษะกระจอก ! "
ชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าได้แสยะออกมาก่อนที่จะเหวี่ยงทั้งสองมือเข้าใส่การโจมตีของหลินเทียนโดยทันที
ณ ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มเสื้อผ้าขาดๆได้คำรามออกมาอย่างดังว่า
"หักแขนมันซะ ! "
ตอนนี้ชายหนุ่มที่มีเสื้อผ้าขาดได้ชักกระบี่ออกมาและฟาดฟันเข้าใส่หลินเทียนโดยทันที
หลินเทียนได้หรี่ตาลงเพราะเขาจำทักษะนี้ได้ มันคือทักษะกระบี่ราชันย์ที่เป็นทักษะระดับกลางซึ่งเขาได้พบในตำหนักสรรพยุทธ์และจากการโจมตีของชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าก็บอกได้เลยว่านั่นก็เป็นทักษะระดับกลางของเขตแดนหล่อหลอมร่างกายเช่นกัน
เขาได้เหวี่ยงหมัดเงาเพลิงออกไปก่อนที่จะสำแดงทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์พร้อมทั้งหลบหลีกการโจมตีอย่างง่ายดาย ตอนนี้เองที่แม้ทั้งสองจะสำแดงทักษะระดับกลางออกมาแต่ก็ไม่สามารถคว้าได้แม้แต่เงาของหลินเทียน
"เจ้าหนูตัวเหม็น ! เจ้ามันก็ได้แค่หนีนั่นแหละ ! "
ชายหนุ่มที่เสื้อผ้าขาดได้คำรามออกมาด้วยความโกรธ
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีฟ้าเองก็อยู่ในอาการโกรธเช่นกัน ระดับพลังของพวกเขานั้นสูงกว่าหลินเทียนแถมยังสำแดงทักษะระดับกลางออกมาด้วยทว่ามันกลับไม่สามารถทำอะไรหลินเทียนได้เลยซึ่งก็ไม่แปลกที่จะทำให้พวกเขาแสดงใบหน้าที่น่าเกลียดออกมา
"หนี ? "
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาจางๆเพราะเขากำลังใช้ทั้งสองคนนี้เป็นหนูทดลองว่าตัวเองจะสามารถผสานทักษะฝ่ามือเงาเพลิงและทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์ได้ดีขนาดไหนแต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดก่อนหน้านี้แล้วก็ถึงกับทำให้เขาแสยะออกมาพร้อมทั้งเก็บหมัดแล้วหยิบเอากิ่งไม้ข้างทางขึ้นมา ตอนนี้เองที่เจตจำนงแห่งกระบี่อันรุนแรงได้พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง
"กระบี่แห่งการทำลายล้าง ! "
เขาได้คำรามออกมาอย่างดัง
เจตจำนงแห่งกระบี่ได้ถูกปลดปล่อยออกไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องของคลื่นกระบี่อันรุนแรง กระบี่ในมือของชายหนุ่มได้แตกละเอียดลงทันทีทว่าชายหนุ่มเสื้อคลุมสีฟ้าที่อยู่อีกฝั่งนั้นไม่สามารถต้านทานคลื่นกระบี่นี้ได้ เมื่อกรงเล็บหมาป่าและกระบี่แห่งการทำลายล้างได้ปะทะกันนั้นเลือดได้ทะลักออกมาเต็มท้องฟ้าโดยเผยให้เห็นแม้กระทั่งกระดูกนิ้วมือของชายหนุ่ม
หลินเทียนได้สำแดงพลังแห่งทักษะก้าวย่างแห่งสวรรค์อีกครั้งก่อนที่จะเหวี่ยงฝ่ามือเงาเพลิงเข้าใส่ทั้งสอง
"โครม ! "
"โครม ! "
พวกเขาได้โห่ร้องออกมาก่อนที่จะลอยเคว้งออกไปพลางสำลักเลือดไม่หยุดจนไม่สามารถจะลุกขึ้นสู้ได้อีก
หลินเทียนได้หยุดมือลงก่อนที่จะเดินไปยังชายหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าขาดๆ
"เจ้าคิดจะทำอะไร !"
ชายหนุ่มคนนั้นได้พูดออกมาด้วยท่าทางที่หมดสภาพ
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยท่าทางหยอกล้อว่า
"เจ้าคิดว่าข้ากำลังจะทานอาหารหรือไงล่ะ ? "
ชายหนุ่มคนนั้นได้มีท่าทางเปลี่ยนไปก่อนที่ใบหน้าของเขาจะซีดลง คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดที่พวกเขาพูดเยาะเย้ยหลินเทียนไปก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้มันกลับถูกย้อนกลับมาหาเขาเหมือนเป็นการตบหน้าเขาอย่างจังก็ไม่ปาน
หลินเทียนได้แสยะออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะยกเท้าขวาขึ้นแล้วกระทืบไปยังข้อมือขวาของชายหนุ่มคนนั้น เสียงกระดูกแตกหักได้ถูกส่งออกมาอย่างชัดเจน
"อ๊ากกก ! "
ชายหนุ่มคนนั้นได้โห่ร้องออกมาอย่างน่าสังเวชเพราะว่าแขนเขาถูกทำให้พิการโดยหลินเทียนแล้ว
ท่าทางของหลินเทียนก็ยังคงสงบนิ่งก่อนที่จะยกเท้าขวาขึ้นมากระทืบซ้ำไปที่มือซ้ายอีกครั้งโดยที่ยังไม่ได้หยุดแค่นั้น หลังจากที่กระทืบมือซ้ายเสร็จแล้วเขาก็เริ่มกระทืบขาและลามไปยันหัวเข่าของชายคนนั้น
"เจ้าบอกว่าจะหักมือหักขาข้ามิใช่รึ ? ข้าก็ตอบแทนในพร้อมทั้งดอกเบี้ยเพิ่มไปด้วย "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส
ชายหนุ่มเสื้อผ้าขาดคนนั้นต้องทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดอย่างมากและหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลินเทียนแล้วเขาก็ได้แต่กระอักเลือดออกมาและหมดสติไป
ท่าทางของหลินเทียนก็ยังราบเรียบเช่นเคยพร้อมทั้งเดินเข้าหาชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าเป็นคนต่อไป
"เจ้า....ทำไมเจ้าถึงได้โหดเหี้ยมแบบนี้ ! "
ชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าได้โห่ร้องออกมาขณะที่มองไปยังหลินเทียนที่กำลังเข้าใกล้ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
"โหดเหี้ยม ? "
หลินเทียนได้พูดออกมาเหมือนว่าเพิ่งได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลกว่า
"เจ้าแห่มาที่นี่เพื่อที่จะหักแขนหักขาข้า ทำไมก่อนหน้านั้นไม่คิดถึงความโหดเหี้ยมพวกนั้นบ้างล่ะ ? "
"เจ้า......"
ชายหนุ่มชุดคลุมดำได้แต่แข็งค้างไปโดยที่มีท่าทางน่าเกลียดยิ่งกว่าเก่า