Divine King Of All Directions - 021
Divine King Of All Directions - 021
หลังจากที่เห็นการกระทำของหลินเทียนแล้วถึงกับทำให้ประกายตาของซูชูวเปลี่ยนไปทันที
"เจ้านี่ "
เธอได้พึมพำออกมาเพราะรู้ดีว่าการกระทำนี้เขาทำเพื่อเธอ
เมื่อถูกหยุดโดยการกระทำของหลินเทียนนั้นแววตาของโจวเฮ่าเองก็ถึงกับเปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งพูดว่า
"สวัสดี "
เขาได้พยักหน้าให้กับหลินเทียนก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองซูชูวพร้อมทั้งพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"อ่อใช่ซูชูว อีกสามเดือนหลังจากนี้จะเป็นการคัดศิษย์ภายในของสำนักและข้าเชื่อว่าข้าสามารถเข้าเป็นศิษย์ภายในได้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นไม่นานข้าก็จะได้เป็นหนึ่งในกองกำลังของจักรวรรดิ ด้วยความสามารถของข้าแล้วข้าเชื่อว่าจะไม่เป็นสองรองใครในกองกำลังอย่างแน่นอน เมื่อถึงคราวที่ข้าทำประโยชน์แล้วมีชื่อเสียงนั้นเจ้าก็จะได้เป็นเจ้าหญิงของข้า "
ซูชูวได้แสดงสีหน้าที่หม่นหมองออกมาทันที
"ยังไม่แม้แต่จะสามารถเข้าร่วมเป็นศิษย์ภายในได้ด้วยซ้ำแต่กลับเพ้อฝันถึงเรื่องชื่อเสียงเสียแล้ว "
หลินเทียนได้มองขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่จะจับคางตัวเองเอาไว้พร้อมทั้งพูดว่า
"แปลกแหะ นี่เพิ่งจะรุ่งเช้าคงไม่น่าจะกำลังฝันอยู่ใช่ไหม ? "
"ตลก ! "
ซูชูวถึงกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้
ท่าทางของโจวเฮ่าถึงกับหม่นหมองลงทันที
"ไอ้ระยำ เจ้าว่าอะไรนะ ? "
ชายหนุ่มสองคนที่อยู่ด้านหลังโจวเฮ่าถึงกับยกมือขึ้นมาตบเข้าหาหลินเทียนพร้อมทั้งพูดต่อว่า
"วาจาสามหาวนักนะ ! ! "
ฝ่ามือนี้ส่งกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 4 "
ซูชูวได้พูดออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ
ชายหนุ่มคนนั้นได้แสยะออกมาอย่างอวดดีก่อนที่จะหวดเข้าใส่หลินเทียนอย่างรุนแรง
หลินเทียนได้แสยะออกมาพร้อมทั้งยกเท้าเตะอัดเข้าไปกลางหน้าอกของชายหนุ่มคนนี้ซึ่งส่งผลให้ร่างของเขาลอยเคว้งออกไปไกลโดยที่ได้แต่กุมหน้าอกตัวเองเอาไว้และไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
"เจ้า……"
ชายหนุ่มอีกคนเองก็อยากจะลงมือทว่าหลังจากที่เห็นเช่นนั้นแล้วความกลัวก็ได้ก่อตัวขึ้นภายในจิตใจของเขา
ได้แต่กำหมัดแน่นโดยที่ไม่ก้าวไปไหน
โจวเฮ่าได้จ้องมองไปทางหลินเทียนก่อนที่จะพูดออกมาว่า
"น้องชายหลินเพิ่งเข้าร่วมสำนักมาแท้ๆแต่กลับมีพละกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ สมแล้วจริงๆแต่การกระทำเช่นนี้มันไม่เกินไปหน่อย ? "
"เกินไป ? "
หลินเทียนได้พูดต่อด้วยท่าทางดูถูกว่า
"จากความหมายของเจ้าคือข้าควรจะยืนอยู่กับที่แล้วปล่อยให้เขาตบข้าถึงจะเรียกว่าไม่ทำเกินไป ? งั้นเจ้าลองยืนนิ่งๆแล้วให้ข้าตบดูบ้างไหมล่ะ ? "
"เจ้าหนู แกระวังคำพูดหน่อยนะ ! "
ชายคนที่ไม่กล้าคงมือได้คำรามออกมา
หลินเทียนได้เหลือบมองไปทางเขาด้วยสีหน้าที่เย็นชาจนเป็นเหตุให้เขาถึงกับต้องล่าถอยไปก้าวหนึ่ง
โจวเฮ่าได้ยกมือขึ้นมาแตะหลังของชายคนนั้นเอาไว้ก่อนที่จะเดินไปทางหลินเทียนแล้วพูดว่า
"น้องชายหลินนี่แข็งแกร่งจริงๆเลยนะ ข้าเองล่ะอยากจะประลองกับเจ้าดูจริงๆ เจ้ามีความเห็นอย่างไร ? "
โจวเฮ่าได้มองไปทางหลินเทียนด้วยท่าทางราบเรียบทว่าภายในสายตาของเขากลับแฝงไปด้วยท่าทางบังคับ
"ประลอง ? "
หลินเทียนได้มองไปทางโจวเฮ่าพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"ก็ดี แน่นอนว่าไม่มีปัญหาแต่ข้าจะเป็นคนเลือกเวลาเอง "
"งั้นน้องชายหลินอยากจะประลองกันตอนไหน ? "
โจวเฮ่าได้ถามออกมา
"หลังจากนี้อีกสามเดือนเป็นวันคัดเลือกศิษย์ภายในไม่ใช่หรอ เอาเวลานั้นเลยแล้วกัน "
หลินเทียนได้พูดออกมาอย่างไม่แยแส
"ก็ดี เอาตามที่น้องชายหลินว่าแล้วกัน หลังจากนี้อีกสามเดือน"
ประกายตาของโจวเฮ่าได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาก่อนที่จะพูดต่อว่า
"น้องชายหลิน ความเสียหายที่เกิดจากการประลองมันเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วดังนั้นเรามาเซ็นสัญญาเป็นสัญญาตายกันดีกว่าเป็นไง ? "
ซูชูวถึงกับขมวดคิ้วเพราะนางต้องการจะช่วยหลินเทียนปฏิเสธทว่าตัวของหลินเทียนกลับยกมือขึ้นมาขัดเธอเอาไว้
เขาได้หรี่ตามองไปทางโจวเฮ่าก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายพร้อมทั้งพูดว่า
"ก็ดี "
เพิ่งจะรอดพ้นความตายมาได้แล้วเขารู้ดีว่าสายตานั้นมันมีความหมายอย่างไร เมื่ออยู่ต่อหน้าแววตาที่ชั่วร้ายแบบนั้นแล้วเขาห้ามแสดงความอ่อนแอออกมาโดยเด็ดขาด
ณ ตอนนี้พวกเขาได้ประกาศสงครามกันแล้วและมันจะเริ่มนับจากนี้อีกสามเดือน
"งั้นอีกสามเดือนเจอกันนะน้องชายหลิน "
โจวเฮ่าได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป
......
ระหว่างทางไปที่สันเขาชิงเฟิงนั้นซูชูงได้แต่พูดกับหลินเทียนด้วยท่าทางดุๆว่า
"เจ้านี่ เจ้าไปตอบตกลงได้อย่างไรกัน มีเวลาเพียงแค่สามเดือนแต่เจ้าไม่มีทางแซงหน้าโจวเฮ่าได้แน่นอน "
หลินเทียนได้ยิ้มออกมาอย่างไม่แยแสเพราะแม้ว่าซูชูวจะเดินไปดุไปทว่าเขารู้ดีว่าเธอเป็นห่วงเขา
"นี่เจ้ายังจะยิ้มอยู่อีกงั้นหรอ ? "
หลังจากที่เห็นหลินเทียนยังคงยิ้มอยู่นั้นซูชูวก็ได้แต่พูดออกมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
หลินเทียนอดไม่ได้ที่จะกรอกตาพร้อมทั้งพูดออกมาว่า
"จะไม่ให้ข้าหัวเราะแล้วเจ้าจะให้ข้าร้องไห้หรือไง ? หรือเจ้าอยากจะให้ข้ายอมมันแล้วหนีหางจุกตูดงั้นหรอ ? เอางั้นใช่ไหม ? "
ซูชูวได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า
"ไม่ใช่แบบนั้น "
หลินเทียนได้พูดตอบกลับไปว่า
"งั้นก็อย่าพูดต่อเลย"
ทางเข้าสันเขาชิงเฟิงนั้นอยู่ไม่ไกลจากตำหนักผู้อาวุโสนัก หลังจากที่เดินไปครึ่งชั่วโมงแล้วพวกเขาก็ได้ไปถึงสถานที่แห่งนั้น เมื่อกวาดตามองโดยรอบแล้วจะพบกับประตูหินขนาดใหญ่ซึ่งมีผู้คุมคอยดูแลความปลอดภัยอยู่สองคน
"เจ้าก็ระวังๆด้วยล่ะ หลังจากเข้าไปแล้วอย่าอวดความสามารถมากแล้วหาที่เหมาะๆฝึกฝนซะ"
ซูชูวได้พูดออกมา
หลินเทียนได้พยักหน้าพร้อมกับเดินเข้าไปก่อนที่จะหยุดเท้าลงแล้วพูดขึ้นว่า
"อ่อใช่ ซูชูว ข้ามีเรื่องจะขอร้องเจ้าหน่อยน่ะ "
หลินเทียนได้หันหน้ากลับมาพร้อมพูดต่อว่า
"ข้าน่าจะใช้เวลาฝึกไม่นอนดังนั้นโปรดช่วยดูแลน้องสาวข้าด้วยได้ไหม ? นางไม่คุ้นเคยกับที่นี่นัก "
ซูชูวเองก็ถึงกับชะงักไปด้วยความประหลาดใจ
"ได้ยินมาว่าตอนที่เจ้านี่ฆ่าโม่เซินจากตระกูลโม่นั้นไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าจะอ่อนโยนกับน้องสาวแบบนี้ "
เธอได้พึมพำกับตัวเอง
"เจ้าว่าอะไรนะ ? "
มันเป็นเพราะเสียงของเธอนั้นเบามากๆหลินเทียนถึงได้ยินไม่ถนัดนัก
ซูชูวได้ส่ายศีรษะอย่างรวดเร็วพลางพูดว่า
"ไม่มีอะไร ! ไปได้แล้ว เรื่องน้องสาวน่ะข้าจะจัดการเอง "
"ได้ งั้นรบกวนเจ้าด้วยล่ะ "
หลินเทียนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เขาได้โบกมือให้กับซูชูวก่อนที่จะส่งตราสัญลักษณ์ให้กับผู้คุมแล้วเดินหายไปทันที
ตัวของซูชูวนั้นได้แต่เหม่อลอยไประหว่างที่มองหลินเทียนเดินจากหายไป
"จะว่าไปแล้วเมื่อครู่นี้เจ้านี่ก็ดูน่าหลงใหลดีนะ "
เธอได้พึมพำกับตัวเอง
.........
สภาพพื้นที่ภายในสันเขาชิงเฟิงนั้นซับซ้อนเป็นอย่างมาก หลังจากที่บอกลากับซูชูวแล้วเขาก็ได้เข้าไปยังป่าแห่งนี้ซึ่งระหว่างที่เดินตัดป่าไปแล้วหัวใจของเขาถึงกับต้องสั่นสะท้านเพราะต้นไม้เก่าแก่ภายในนั้นแข็งแรงและมั่นคงเป็นอย่างมาก มองๆดู ล้วเส้นผ่านศูนย์กลางของมันมากกว่าสองเมตรเลยด้วยซ้ำ
หลินเทียนได้ส่ายศีรษะพร้อมกับพูดกับตัวเองว่า
"การหาสถานที่ฝึกที่เหมาะกับทักษะนั้นเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ "
พื้นที่ของป่าแห่งนี้กว้างขวางเป็นอย่างซึ่งระหว่างที่ทางก็จะได้ยินเสียงร้องของสัตว์ป่าเป็นช่วงๆแถมยังสามารถพบกับศิษย์ของสำนักได้เป็นพักๆ คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่เข้ามาหาประสบการณ์ด้วยกันทั้งสิ้นซึ่งตัวของหลินเทียนนั้นไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะไปยังใจกลางของป่าแห่งนี้แต่เป็นขอบของพื้นที่ป่าแทน
"เห้อ..."
หลินเทียนได้ถอนหายใจก่อนที่จะนั่งลงและขัดสมาธิก่อนที่จะหลับตาพร้อมทั้งหมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะของตัวเอง พลังฉีโดยรอบต่างถูกดูดกลืนเข้ามาในร่างของเขา ในตอนนี้อาจจะเห็นเหมือนว่าร่างกายของเขากำลังถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยหมอก
หลังจากที่ผ่านไปสิบห้านาทีแล้วพลังฉีก็เริ่มที่จะคงที่ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้น
"เอาล่ะ "
เขาได้พูดกับตัวเอง
ก่อนที่จะฝึกทักษะวิทยายุทธ์นั้นควรจะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด หลินเทียนได้หมุนวนเคล็ดวิชาบ่มเพาะของตัวเองกก่อนที่จะปรับสภาพร่างกายให้เข้าที่
เมื่อยืนขึ้นแล้วหลินเทียนได้แสดงสีหน้าที่แน่วแน่ก่อนที่จะคำรามออกมาว่า
"ฝ่ามือเพลิงเงา ! "
หลินเทียนได้กำหมัดแน่นก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดออกไปซึ่งก่อให้เกิดเสียงในอากาศ หลังจากที่เขาชักหมัดกลับมาแล้วก็เริ่มฝึกอีกครั้ง
"โครมม ! "
"โครมม ! "
"โครมม ! "
ตอนนี้หลินเทียนไม่เพียงเหวี่ยงหมัดใส่อากาศเท่านั้นแต่ยังอดทนกับความเจ็บปวดจากการต่อยอัดต้นไม้เก่าเหล่านี้ ทุกๆครั้งที่หยุดการโจมตีก็จะพบได้กับเลือดที่ไหลรินออกมาจากกำปั้นของเขา
ไม่นานก็ผ่านไปถึงสี่ชั่วโมง
ในช่วงเวลาสี่ชั่วโมงนี้ไม่รู้ว่าหลินเทียนได้เหวี่ยงหมัดไปกี่ครั้งกันแต่มันเป็นตอนนี้เองที่เขารู้สึกว่ากำปั้นของเขากำลังร้อนรุ่มเหมือนถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเปลวเพลิง พลังภายในร่างของเขาเหมือนกำลังจะปะทุออกมาซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว
"ฝ่ามือเพลิงเงา ! "
เขาได้คำรามออกมาอย่างดังก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดขวาออกไป
เสียงโครม เงาหมัดทั้งเก้าได้ถูกปล่อยออกมาผนวกกับพลังฉีก่อนที่ต้นไม้ตรงหน้าจะระเบิดออก
หลินเทียนได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"สี่ชั่วโมงกับการแตะฝั่งของระดับที่หนึ่ง "
ฝ่ามือเพลิงเงานั้นเป็นทักษะวิทยายุทธ์ระดับต่ำซึ่งแบ่งออกเป็นสองขั้น ขั้นแรกคือฝ่ามือเงาที่จะสร้างฝ่ามือมากมายออกมาด้วยพลังฉี หากว่าถึงระดับสูงสุดในขั้นนี้แล้วเพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถส่งฝ่ามือออกมาได้มากถึง 99 ฝ่ามือแต่ในขั้นที่สองอย่างฝ่ามือเพลิงสามารถทำให้ฝ่ามือในขั้นแรกผสมเปลวเพลิงเข้าไปอีกซึ่งจะเสริมสร้างพลังทำลายให้กับมัน
หลินเทียนใช้เวลาเพียงสี่ชั่วโมงก็ไปถึงฝั่งของขั้นที่หนึ่งแล้ว มันเรียกได้เลยว่าความเร็วขนาดนี้นั้นผิดมนุษย์อย่างมากแต่หลินเทียนก็ยังคงไม่พอใจเพราะความต่างชั้นกับเขาและโจวเฮ่ายังห่างกันอีกไกล่
"ข้าต้องพยายามให้มากกว่านี้"
หลินเทียนได้พึมพำกับตัวเอง
เขาได้จุดประกายความคิดก่อนที่จะกำหมัดแน่นแล้วเริ่มฝึกฝนต่อไป
หลังจากนี้จะเปลี่ยนเป็นฝ่ามือเงาเพลิงแล้วกันนะครับ