Divine King Of All Directions - 018
Divine King Of All Directions - 018
หลังจากที่หลินเทียนได้เดินตามซูชูวไปแล้วนั้นพวกเขาก็ได้ไปถึงห้องที่มู่ชิงและฉีดงกำลังนั่งดื่มชากันอยู่ภายใน หลังจากที่พวกเขาได้เห็นว่าซูชูวได้นำหลินเทียนมาแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมา
"เจ้าหนู จัดการเรื่องของน้องสาวแล้วหรือยัง ? "
มู่ชิงได้ถามออกมา
หลินเทียนเองก็ได้พยักหน้าอย่างขอบคุณว่า
"เรียบร้อยแล้วครับ ขอขอบคุณการดูแลของท่านผู้อาวุโส"
มู่ชิงเองก็ได้ส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะแสดงท่าทางเหมือนว่าไม่ต้องเกรงใจออกมา
"ท่านผู้อาวุโสทั้งสองเรียกข้ามีที่นี่มีอะไรงั้นหรอครับ ? "
หลินเทียนได้ถามออกมา
ฉีดงและมู่ชิงเองก็ได้ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า
"จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีเรื่องพิเศษอันได้หรอก มีของจะมอบให้เจ้าเท่านั้นแหละ"
หลังจากที่พูดจบแล้วมู่ชิงก็ได้หยิบเอาถุงสีเขียวออกมาส่งให้หลินเทียนไป
"หนึ่งในถุงนี้คือตราสัญลักษณ์ของศิษย์สำนักเรา ภายในจะเก็บข้อมูลของเจ้าเอาไว้ส่วนอีกอย่างคือโอสถแก่นนพเก้า มันเป็นของรางวัลสำหรับผู้ที่ได้ที่หนึ่ง "
มู่ชิงได้พูดออกมา
หลินเทียนที่กำลังจะพูดขอบคุณเองก็ได้ถูกซูชูวที่อยู่ข้างๆขัดจังหวะออกมาว่า
"โอสถนพเก้า !! ? "
"โอสถนพเก้าคืออะไร ? "
หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยน้ำเสียงกระซิบ
เขาเพิ่งจะก้าวเดินบนเส้นทางนี้ได้ไม่กี่วันดังนั้นยังมีอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่เข้าใจ หลังจากที่ได้เห็นท่าทางประหลาดใจหลังจากที่ซูชูวได้ยินชื่อยานี้แล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจเขาทันที
ซูชูวเองก็ได้มองไปทางหลินเทียนเหมือนว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดพร้อมกับพูดว่า
"นี่เจ้าไม่รู้จักโอสถนพเก้าจริงๆงั้นหรอ ? "
"ไม่รู้ "
หลินเทียนได้ตอบกลับอย่างจริงจังเพราะเขาไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
ซูชูวเองก็ถึงกับพูดไม่ออกก่อนที่จะยื่นมือออกไปดีดหน้าผากหลินเทียนพร้อมทั้งพูดว่า
"โอสถนั่นมีส่วนผสมของรากนพเก้า หญ้าซีชูว ไขกระดูกของสัตว์ร้ายระดับสี่อย่างแรดเพลิงวายุผสมกับตัวยาอีกหลายชนิด มันไม่เพียงช่วยเสริมสร้างร่างกายแต่ยังเพิ่มระดับพลังให้กับผู้ใช้ด้วย มันเป็นโอสถที่ล้ำค่ามากๆ ! "
"ล้ำค่ามากๆ ? "
หลินเทียนได้ถามต่อว่า
"มันมีค่าเท่าไหร่กัน ? "
"นี่เป็นโอสถที่มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ ! "
ซูชูวได้แต่กรอกตาไปมา
ซื้อไม่ได้ ?
หลินเทียนในตอนนี้เองก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ดูเหมือนว่าของสิ่งนี้จะล้ำค่ามากๆ
เขาได้แต่มองไปทางมู่ชิงและฉีดงด้วยท่าทางขอบคุณอีกครั้ง
"ไม่จำเป็นหรอกเพราะนี่เป็นของรางวัลที่เจ้าควรได้รับอยู่แล้ว "
ฉีดงได้แต่โบกมือพร้อมกับพูดออกมา
พวกเขาและหลินเทียนได้สนทนากันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
ด้วยความที่ว่าพวกเขานั้นเป็นผู้อาวุโสของสำนักถึงได้มีงานยุ่งมากๆดังนั้นถึงต้องรีบกลับไปยังตำหนักผู้อาวุโส
"เสี่ยวชูว เจ้านำหลินเทียนไปเดินชมสำนักเราก่อนแล้วกัน "
มู่ชิงได้พูดออกมาก่อนที่จะจากไปพร้อมกับฉีดง
"สั่งอยู่นั่นแหละ ! "
ซูชูวได้โอดครวญออกมาอย่างไม่พอใจ
อย่างไรก็ตามแม้จะพูดแบบนั้นแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร หลังจากที่พวกเขาได้จากไปแล้วเธอก็ได้นำหลินเทียนเดินชมสำนักแห่งนี้
สำนักจิ่วหยางนั้นกินพื้นที่กว้างอย่างมาก หลินเทียน ี่เดินตามหลังหญิงสาวเองก็ได้แต่ฟังคำแนะนำของเธอก่อนที่จะเริ่มเข้าใจสถานที่แห่งนี้มากขึ้น
"อ่อใช่ ระดับพลังของเจ้าในตอนนี้อยู่ที่เขตแดนไหนกัน ? "
อยู่ๆซูชูวก็ได้ถามออกมา
หลินเทียนเองก็ถึงกับแสดงท่าทางสงสัยแต่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 3 "
"เขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 3 งั้นหรอ "
ซูชูวได้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
"งั้นวันนี้กลับไปก่อนแล้วกัน ถึงที่พักแล้วก็เริ่มดูดกลืนโอสถนพเก้าซะ หากว่าไม่ได้มีอุบัติเหตุอะไรก็น่าจะทำให้เจ้าบรรลุไปยังระดับที่ 4 ได้ หลังจากนั้นข้าจะนำเจ้าไปยังตำหนักสรรพยุทธ์เพื่อเลือกเคล็ดวิชาบ่มเพาะและทักษะวิทยายุทธ์"
สำนักนี้มีพื้นที่หลักๆอยู่หกส่วนซึ่งหนึ่งคือ ตำหนักผู้อาวุโส ตำหนักสรรพยุทธ์ ศาลาศิษย์ ลานฝึกสอน ลานประลองและที่พัก ตำหนักสรรพยุทธ์คือสถานที่เก็บเคล็ดวิชาบ่มเพาะและทักษะวิทยายุทธ์ต่างๆของสำนักแห่งนี้
"ทำไมถึงไม่ไปเลยล่ะ ? "
หลินเทียนได้ถามออกมาด้วยความสงสัย
จากระยะสายตาของเขาแล้วที่นี่ไม่ได้อยู่ห่างไกลกับตำหนักสรรพยุทธ์นัก
"เคล็ดวิชาบ่มเพาะของเขตแดนหล่อหลอมร่างกายนั้นธรรมดาๆถึงได้ไม่มีข้อจำกัดอะไร "
ซูชูวได้อธิบายต่อว่า
"แต่ทักษะวิทยายุทธ์นั้นต่างออกไป สำหรับศิษย์ในสำนักนี้นั้นทุกๆสามระดับจะสามารถเลือกทักษะวิทยายุทธ์ได้หนึ่งครั้ง ยกตัวอย่างเช่นครั้งแรกตอนอยู่ในเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับที่ 1 ถึง 3 ครั้งที่สองคือระดับ 4 ถึง 6 เป็นต้น... "
"แน่นอนว่าระดับของมันก็ต่างกันไปด้วย ไม่สามารถเลือกทักษะวิทยายุทธ์ที่อยู่ในระดับสูงกว่าตัวเองได้ หลังจากที่เจ้าดูดซับพลังจากโอสถนพเก้าในวันนี้แล้วก็น่าจะบรรลุถึงเขตแดนหล่อหลอมร่างกายระดับ 4 เมื่อถึงเวลานั้นแล้วค่อยมาเลือกเคล็ดวิชาบ่มเพาะและทักษะวิทยายุทธ์จะได้ไม่เสียเวลา "
คำพูดของซูชูวนั้นฟังดูมีเหตุผลอย่างมาก
"โอเค เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน "
เขาได้ตอบกลับไป
"นี่เป็นยันต์สื่อสาร หากว่าถ่ายเทพลังลงไปแล้วพูดนั้นข้อความก็จะไปถึงข้า"
ซูชูวได้ส่งยันต์ให้หลินเทียนก่อนที่จะโบกมือแล้วพูดว่า
"เอาตามนี้แล้วกันเนอะ ข้าเองก็ยังมีเรื่องต้องไปจัดการอีกดังนั้นเจอกันพรุ่งนี้นะเทียนเทียนน้อย"
หลังจากพูดจบแล้วแม่นางคนนี้ก็วิ่งหนีไปทันที
หลินเทียนได้ยกมือขึ้นมาเตรียมที่จะโบกมือลาทว่าหลังจากที่ระลึกถึงชื่อเรียกของนางแล้วคำพูดทั้งหมดก็จุกอยู่ที่คอหอยของเขา
เทียนเทียนน้อย ?
ตอนนี้เขาถึงกับหมดคำพูดด้วยความเขินอายอยู่นาน