ตอนที่ 232 ลักพาตัว
"อู๋ตง..." อ้าวหยางหมิงเพิ่งเปิดเต็นท์และเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มให้กับมัน ทำให้มันรู้สึกตกใจมาก "หลิงฮัน!" มันกรีดร้องออกมา
หืม!
ลุงฝูพุ่งเข้าไปในเต็นท์ทันที ภารกิจของมันคือการปกป้องอ้าวหยางหมิง
แต่ทว่ามันสายเกินไปแล้ว!
มันเห็นอ้าวหยางหมิงตกอยู่ในน้ำมือของหลิงฮันและมีดาบวางอยู่บนคอของอ้าวเทียนหมิงและมีโลหิตซึมไหลออกมาจากผิวหนัง มันไม่สามารถลงมือทำอะไรได้
หลิงฮันในตอนนี้เป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุแล้ว เมล็ดก่อเกิดขนาดใหญ่เก้าเมล็ดได้ผสานกันเป็นเมล็ดก่อเกิดขนาดใหญ่ที่ก่อตัวเป็นน้ำพุ แล้วเขาจะแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุทั่วไปกี่เท่ากัน?
ในตอนที่เขามีเมล็ดก่อเกิดทั้งห้าธาตุ มันทำให้เขามีพลังมากกว่าผู้คนในระดับเดียวกันสี่ถึงห้าเท่า ดังนั้นพลังของเขาควรเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า! แม้ว่าความแตกต่างระหว่างระดับก่อเกิดธาตุจะมากกว่าเดิม แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถเอาชนะระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้าได้ในแง่ของพลัง
...นี่เป็นเพราะเขาเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับก่อเกิดธาตุ และยังไม่บรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรก! ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังไม่นับทักษะและเทคนิคต่างๆที่อาจทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น ส่วนในเรื่องพลังต่อสู้ของเขา มันมากกว่าเก้าดาวเสียอีก
การที่จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุที่มีพลังต่อสู้เก้าดาวต่อสู้กับระดับรวมธาตุ ไม่ใช่ว่ามันง่ายเหมือนกับการสบัดนิ้วมือหรอกหรือ?
"หลิงฮัน!" อ้าวหยางหมิงกัดฟันและแสดงสีหน้าที่ดุร้ายออกมา มันคิดว่าหลิ่วอู๋ตงสมยอมแล้ว แต่ทว่าหลิ่วอู๋ตงยังคงเลือกหลิงฮันอยู่
สิ่งที่เกิดขึ้นมันเหมือนกับถูกตบหน้าอย่างรุนแรง
"ปล่อยนายน้อยซะ!" ลุงฝูกล่าวออกมาอย่างเย็นชาพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร ในที่สุดมันก็รู้เสียทีว่าการเคลื่อนไหวที่น่าสงสัยก่อนหน้านี้มันไม่รู้สึกไปเอง แต่เจ้าเด็กนี่มันใช้วิธีการบางอย่างเพื่อตบตามัน
หลิงฮันยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า "ตาเฒ่า อย่าทำให้ข้ากลัว เพราะข้าเป็นคนขี้กลัวมาก ดังนั้นหากเจ้าทำให้ข้ากลัวและข้าเผลอมือลื่นขึ้นมา เช่นนั้นอย่าได้โทษข้าถ้านายน้อยของเจ้าถูกเชือดคอ"
หลิงฮันจงใจสบัดมือไปมาและโลหิตได้หยดไหลลงมาจากคอของอ้าวหยางหมิง
ใบหน้าของลุงฝูเต็มไปด้วยความตกใจขณะที่มันพูดออกมาว่า "หยุด!"
"เจ้าทำให้ข้ากลัวอีกแล้ว!" หลิงฮันทำเป็นบ่นและมือของเขาเริ่มสั่นไหว
ลุงฝูจนปัญญามันเลยยอมถอยและพูดออกมาว่า "เจ้าหนู พวกเราสามารถพูดคุยกันได้"
อย่างไรก็ตาม อ้าวหยางหมิงได้แสดงท่าทีที่หยิ่งยโสอย่างมากออกมาและพูดว่า "หลิงฮัน ข้าเป็นศิษย์สายตรงแห่งนิกายจันทราเหมันตร์ ถ้าเจ้ากล้าสัมผัสแม้แต่ปลายผมของข้า ด้วยพลังอำนาจของนิกายจันทราเหมันตร์จะทำให้เจ้าถูกบดขยี้และทุกคนรอบตัวเจ้าจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ!"
เพี๊ยะ!
หลิงฮันตบกระบวนอ้าวหยางหมิงอย่างรุนแรงและพูดว่า "เจ้าสุนัขจรจัด เจ้าไปเอาความรู้สึกสูงส่งแบบนี้มาจากไหน? ข้าจะตบเจ้าจนกว่าเจ้าจะตื่น!"
"หลิงฮัน ... !" อ้าวหยางหมิงร้องออกมาเสียงดัง ตั้งแต่มันเติบโตมา มันไม่เคยถูกใครตบหัวมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ดวงตาของมันแดงเถือกและหวังที่จะฉีกหลิงฮันอยู่ลึกๆในใจ
"เจ้ากำลังกรีดร้องหาอะไร!" หลิงฮันพูดและตบหัวอ้าวหยางหมิง
"นายน้อย!" ลุงฝูกรีดร้องออกมา แต่เมื่อมันเห็นว่าอ้าวหยางหมิงแค่หมดสติไปเท่านั้น มันจึงรู้สึกใจเย็นลงเล็กน้อย จากนั้นมันหันกลับไปมองที่หลิงฮันและพูดออกมาว่า "ปล่อยนายน้อยของข้าซะและชายแก่ผู้นี้จะปล่อยเจ้าออกไปอย่างปลอดภัย"
"สุนัขเฒ่า เจ้าคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่งั้นรึ?" หลิงฮันพูดเย้ยหยัน "เมื่อข้าปล่อยมัน ข้าคงต้องรู้สึกทุกข์ทรมานทันทีจากการโจมตีของเจ้า!"
"ด้วยเกียรติของชายชราผู้นี้ข้าพูดด้วยความสัตย์จริง..."
"ชู่ว ชู่ว ชู่ว สุนัขเฒ่าอย่างเจ้าจะมีเกียรติแค่ไหนกัน หยุดทำให้ตัวเองอับอายได้แล้ว!" หลิงฮันกล่าวด้วยความรังเกียจ
ลุงฝูสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ในขณะที่มันได้รับคำสั่งให้ปกป้องอ้าวหยางหมิง มันยังคงเป็นจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ—แม้แต่ในนิกายจันทราเหมันตร์ จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณยังไม่เคยถูกล่วงเกิน
"ออกไปซะ ข้าจะนอนแล้ว เมื่อข้านอนหลับเพียงพอและฟื้นพลังเสร็จเรียบร้อย ข้าจะพูดคุยกับเจ้าถึงวิธีไถ่ตัวนายน้อยของเจ้า" หลิงฮันสบัดข้อมือและพูดต่อว่า "เจ้าสามารถคุกเข่าบอกลามันได้เลย"
ลุงฝูไม่ยอมคุกเข่า แต่เมื่อเห็นดาบของหลิงฮันเข้าใกล้ลำคอของอ้าวหยางหมิง มันทำได้แค่ถอนหายใจออกมาและปิดเต็นท์และนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น
มันกำลังรอคอยโอกาส ถ้าหลิงฮันต้องการหนี เขาจะต้องวิ่งออกมาจากเต็นท์ แล้วมันค่อยโจมตีไปที่หัวของหลิงฮันด้วยการโจมตีที่ทรงพลังและไม่ปล่อยให้หลิงฮันมีโอกาสใช้อ้าวหยางหมิงเป็นตัวประกัน
ภายในเต็นท์ หลิงฮันยิ้มให้กับหลิ่วอู๋ตงและพูดใกล้หูของนางว่า "ข้าจะพาเจ้าไปที่ไหนสักแห่งอย่าได้ต่อต้าน"
เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่นของหลิงฮันบนคอของนาง ใบหน้าของหลิ่วอู๋ตงเริ่มกลายเป็นสีแดงและไม่ได้ยินว่าหลิงฮันพูดอะไรออกมาและพยักหน้าลอยๆ
หลิงฮันคว้าไปที่มืออันละเอียดอ่อนของหลิ่วอู๋ตง ด้วยความนึกคิด ฟุบ เขาได้พาหลิ่วอู๋ตงและอ้าวหยางหมิงเข้าไปในหอคอยทมิฬ
หลิ่วอู๋ตงรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที เมื่อครู่พวกเขาอยู่ในเต็นท์แคบๆ แล้วพวกเขาเข้ามาในพื้นที่ขนาดใหญ่นี่ได้อย่างไร?
"ที่นี่คือ?" นางพูดพึมพัม
"สถานที่ปลอดภัย" หลิงฮันไม่ได้พูดอธิบายอะไรออกมา เพราะมันยากที่จะอธิบายและยังเกี่ยวข้องกับชีวิตที่แล้วของเขา ยิ่งไปกว่านั้น การดำรงอยู่ของหอคอยทมิฬมันยิ่งใหญ่เกินไป มันไม่ใช่เพราะเขาไม่ไว้วางใจหลิ่วอู๋ตง แต่ความลับนี่เขาไม่อยากให้หลิ่วอู๋ตงแบกรับมันไว้
หลิ่วอู๋ตงพยักหน้า แน่นอนว่านางเชื่อใจหลิงฮัน
"ว้าว!" ฮูหนิววิ่งเข้าหา ทำให้หลิ่วอู๋ตงคิดว่าเด็กสาวคนนี้คิดถึงนางมาก นางจึงกางแขนเพื่อโอบกอดฮูหนิว แต่แล้วฮูหนิวได้วิ่งผ่านนางไปและโอบกอดหลิงฮัน และสะกิดหลิงฮันด้วยหัวเล็กๆของนางและหันหลังกลับไปเพื่อทำหน้าตลกใส่อู๋ตง
....หลิงฮันเป็นของหนิว!
ใบหน้าของหลิ่วอู๋ตงกระตุก นางไม่เคยคิดเลยว่าเด็กสาวตัวน้อยนี่จะหึงหวงมากขนาดนี้
หลิงฮันลูบหัวฮูหนิวเบาๆและพูดกับหลิ่วอู๋ตงว่า "ข้าเจอตัวเจ้าเพราะความช่วยเหลือของหนิวหนิว เจ้าควรขอบคุณนางนะ"
ฮูหนิวรู้สึกยินดีกับตัวเองมากขึ้นและฉีกยิ้มให้กับหลิ่วอู๋ตง
หลิ่วอู๋ตงถูกกับพูดไม่ออก นางรู้สึกราวกับพบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง—หลิงฮันจะปกป้องทุกคนแต่ว่าเด็กสาวตัวน้อยนี่
เด็กสาวตัวน้อยสามารถทำตัวยังไงก็ได้เพื่อที่จะเกาะติดกับหลิงฮัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นางและหลีซื่อฉางไม่มี
นอกจากนี้ เด็กน้อยเห็นว่าหลิงฮันเป็นของของนาง การกระทำของนางเหมือนกับ "การเฝ้าระวังอาหารของนาง" แสดงความหึงหวงของนางมากเกินไป
"เจ้าไปพักเถอะ ข้าจะถามคำถามกับมัน" หลิงฮันยกตัวอ้าวหยางหมิงที่ถูกโยนไปอยู่ด้านข้างขึ้นมา เจ้าคนอกตัญญูนี่จะต้องตาย แต่เขายังต้องการข้อมูลเกี่ยวกับนิกายจันทราเหมันตร์จากมันอยู่
ด้านนอก ลุงฝูขมวดคิ้ว—มันไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวภายในเต็นท์มานานมากแล้ว มันจึงตั้งใจฟังเสียง และในไม่ช้าสีหน้าของมันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันไม่ได้ยินเสียงลมหายใจหรือเสียงหัวใจเต้นเลยแม้แต่น้อย
มันลุกขึ้นมาทันทีและพุ่งเข้าไปในเต็นท์ แต่ทว่าด้านในกลับว่างเปล่าและไม่มีคนอยู่แม้แต่คนเดียว
มันเป็นไปได้ยังไงกัน?
สีหน้าของลุงฝูกลายเป็นซีดขาว เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าเด็กเหลือขอนั่นจะมีความสามารถเคลื่อนย้ายพริบตาและพาตัวอ้าวหยางหมิงไปแล้ว?