ตอนที่แล้วตอนที่ 229 หอคอยทมิฬเปิดออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 231 ภาพหลอน?

ตอนที่ 230 ตามหา


นี่เป็นเพียงความสามรถชั้นแรกของหอคอยทมิฬ

หลิงฮันตกตะลึงจนพูดไม่ออก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจิตวิญญาณหอคอยทมิฬถึงบอกให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะหากเรื่องนี้ถูกคนอื่นล่วงรู้เข้า จอมยุทธที่แข็งแกร่งทั่วทั้งโลกจะต้องไล่ล่าหลิงฮันเพื่อแย่งชิงหอคอยทมิฬไป

“นี่ ไหนๆพวกเราก็คุ้นเคยกันแล้ว เจ้าจะมอบ เจ้าจะมอบพรศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เพิ่มพลังให้ข้าเพิ่มอีกได้รึไม่?” หลิงฮันพยายามตีสนิทจิตวิญญาณหอคอยทมิฬ

“ไม่!” หอคอยทมิฬขนาดเล็กที่ลอยอยู่สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับมันกำลังส่ายหัว

“ทำไมกัน พวกเราอยู่ฝ่ายเดียวกันแล้วไม่ใช่รึ?” หลิงฮันพยายามเกลี้ยกล่อม

จิตวิญญาณหอคอยส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ใช่แบบนั้น แต่ร่างกายของเจ้าสามารถทนได้เพียงแค่การใช้ครั้งเดียวต่อหนึ่งระดับเท่านั้น หากใช้ครั้งที่สองมันจะทำให้รากฐานของเจ้าเสียหาย และหากใช้อีกเป็นครั้งที่สามเจ้าจะต้องตาย”

“ข้าฝึกฝนคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เรื่องนั้นไม่น่ามีปัญหา” หลิงฮันพูด

“คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์คือทักษะส่วนหนึ่งของหอคอยทมิฬ เจ้าจะใช้มันเพื่อต้านทานอำนาจของหอคอยทมิฬได้อย่างไร?” จิตวิญญาณหอคอยทมิฬพูด

นั่นสินะ...

ทุกๆระดับพลัง เขาจะใช้พรศักดิสิทธิ์ได้เพียงครั้งเดียว

แต่เพียงแค่ความสามารถของชั้นแรกก็ทำให้เขามีความสุขมากพอแล้ว เขาจะต้องเพิ่มระดับพลังเพื่อค้นหาว่าชั้นสอง ชั้นสามและชั้นอื่นๆมีความสามารถที่น่าตกตะลึงแบบใดอยู่อีก

หลังจากที่ฮูหนิววิ่งเล่นเสร็จ นางกลับมายืนอยู่ข้างๆหลิงฮันและเอียงคอมองไปที่จิตวิญญาณหอคอยทมิฬอย่างสงสัย “หนิวอยากเล่น!” นางกระโดดเข้าใส่หอคอยทมิฬขนาดเล็ก

‘ฟุบ’ ร่างของนางทะลุผ่านคอหอยทมิฬขนาดเล็ก ราวกับว่ามันไม่มีตัวตนอยู่... จิตวิญญาณนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับวิญญาณของมนุษย์ มันจะสามารถสัมผัสได้อย่างไร?

“ได้เวลาค้นหาอ้าวหยางหมิงเพื่อแก้แค้นแล้ว!” หลิงฮันหายตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ควบคุมสมบัติชิ้นนี้อย่างสมบูรณ์ แต่ความนึกคิดของเขากับหอคอยทมิฬนั้นเชื่อมต่อกัน จิตวิญญาณหอคอยทมิฬสามารถติดต่อเขาได้ตลอดเวลา

เขากลับไปยังตำหนักกลางเป็นที่แรก เพื่อดูว่าเขาจะสามารถค้นหาที่อยู่ของอ้าวหยางหมิงได้อย่างไร

ระหว่างทาง หลิงฮันฟังคำอธิบายต่างๆเกี่ยวกับรายละเอียดของหอคอยทมิฬ อย่างเช่น หากเขาเข้าไปในหอคอย นั่นจะเป็นการป้องกันอันสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าพลังแบบใดก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ แม้แต่ภัยพิบัติธรรมชาติที่รุนแรงก็เช่นกัน

แน่นอนว่าการป้องกันนี้จำกัดอยู่เพียงแค่ดินแดนแห่งนี้

หลิงฮันมั่นใจว่าเหนือดินแดนแห่งนี้ยังมีดินแดนที่ทรงพลังยิ่งกว่าอยู่ มันคือโลกที่จอมยุทธระดับทลายมิติจะถูกส่งไปหลังจากบรรลุจุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม ดินแดนทั้งสองมีสิ่งกีดขวางบางอย่างที่ยากจะข้ามผ่านและกั้นดินแดนทั้งสองให้แยกจากกัน อย่างน้อยในชีวิตที่แล้ว หลิงฮันก็ไม่เคยเห็นจิตวิญญาณระดับพระเจ้าหรือจอมยุทธระดับทลายมิติตัวเป็นๆ

อีกอย่าง ภายในมิติของหอคอยทมิฬนั้น เขาคือพระเจ้า... เขาสามารถล่องลอยบนอากาศ เคลื่อนย้ายในพริบตา และเขาสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของโลกภายในมิตินั้นได้ตามใจต้องการราวกับเขากลับไปเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์เหมือนในชีวิตที่แล้ว

ไม่สิ มันยิ่งกว่าระดับสวรรค์เสียอีก เพราะแม้จะเป็นจอมยุทธระดับสวรรค์ก็ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายพริบตาหรือเปลี่ยนแปลงกฎธรรมชาติของโลก

สามารถกล่าวได้ว่าในโลกของหอคอยทมิฬแม้แต่ชีวิตของจักรพรรดิดาบก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา

หลิงฮันมาถึงตำหนักกลางอย่างรวดเร็ว ลองมองดูจากไกลๆแล้ว ตอนนี้ไม่มีฝูงคนปรากฏให้เห็นอีกต่อไป แต่ไม่แน่ หลงไหเชวียนอาจจะยังไม่จากไปและดักรอโอกาสในการกำจัดเขา

หลิงฮันไม่อยากจะสิ้นเปลืองใช้พรศักดิสิทธิ์ไปกับทหารซากศพ เรื่องด่วนในตอนนี้คือการช่วยเหลือหลิวอู๋ตง

เขาเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงแต่ก็ไม่พบร่องรอยของอ้าวหยางหมิงแม้แต่นิดเดียว

เขตแดนลี้ลับมีขนาดใกล้เคียงกับแคว้นแคว้นหนึ่ง ไม่ต้องถามเลยว่าการจะค้นหาใครสักคนมันยากลำบากขนาดไหน

เพียงหนึ่งความคิดของหลิงฮัน ฮูหนิวก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา หลังจากที่เด็กสาวนอนเต็มอิ่มแล้ว นางก็เบื่อที่จะอยู่คนเดียวในหอคอยทมิฬและร้องโวยวายเพื่อจะออกมา

เขาอุ้มหูหนิวด้วยมือข้างเดียวและคิดต่อว่าจะทำอย่างไรดี

หลังจากเดินไปได้สักพัก เขาก็ยังไม่เจอใครสักคน หลิงฮันอดที่จะรู้สึกผิดหวังและบ่นพึมพำออกมาไม่ได้ “เจ้าพวกนั้นไปไหนกันนะ?”

“หลิงฮันกำลังหาใครเหรอ?” ฮูหนิวถาม

“อู๋ตงกับเจ้าบัดซบอ้าวหยางหมิง” หลิงฮันพูดลอยๆ

ฮูหนิวยกมือขึ้นและพูด “หนิวรู้!”

“หนิวหนิวรู้?” หลิวฮันสงสัยไม่ได้

ฮูหนิวทำท่าทางดมกลิ่นและพูด “หนิวสามารถตามกลิ่นได้!”

หลิงฮันกลายเป็นตกตะลึง ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสัตว์ป่ามีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่น และเด็กสาวคนนี้เองก็เติบโตมากับพยัคฆ์ร้าย หรือว่ามันจะทำให้นางมีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นเช่นกัน? แต่อย่างไรเขาก็ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหนอยู่แล้ว จะเชื่อคำพูดของเด็กสาวไปก็ไม่เสียหาย

“เอาล่ะ งั้นเจ้านำทางเลย!” หลิงฮันพูด

ฮูหนิวมีความสุขและเริ่มเดินนำทันที

หลิงฮันเดินตามฮูหนิวและทั้งสองคนได้ออกเดินทาง เมื่อพวกเขาหยุดพัก ส่วนใหญ่จะเป็นเพราะฮูหนิวรู้สึกหิวหรือไม่ก็ต้องใช้สมาธิในการดมกลิ่น หลังจากผ่านไปสองวัน การเคลื่อนไหวของฮูหนิวก็เริ่มช้าลง

“ใกล้จะเจอแล้ว” นางพูดขึ้นมา

หลิงฮันพยักหน้าและพูด “หนิวหนิวไปเล่นในหอคอยก่อน หลังจากช่วยอู๋ตงเสร็จข้าจะเข้าไปเล่นกับเจ้าด้วย”

“อืม! อืม!” ฮูหนิวพยักหน้าไปมา และให้หลิงฮันพานางเข้าไปในหอคอยทมิฬ

หลิงฮันเดินหน้าต่อไปและทันใดนั้นเองเขาก็เห็นเต็นท์ที่พักห้าเต็นท์ เขากระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่เพื่อสังเกตการณ์

หลังจากสังเกตอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดเขาก็เห็นอ้าวหยางหมิง ลุงฝู และคนใช้อีกสองคนเดินออกมาจากเต็นท์ที่พักและเริ่มก่อกองไฟเพื่อย่างเนื้อ เมื่อเนื้อเริ่มส่งกลิ่นหอมออกมา อ้าวหยางหมิงเดินไปยังหน้าเต็นท์ที่พักเต็นท์หนึ่งและเปิดเข้าไปพร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นหลิงฮันก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมา นางคือหลิวอู๋ตง

“หืม?” ลุงฝูขมวดคิ้วเล็กน้อยและกระโดดสูงราวกับนกตัวใหญ่มาใต้ต้นไม้ที่หลิงฮันซ่อนตัวอยู่

“ลุงฝู มีอะไรงั้นรึ?” อ้าวหยางหมิงถาม

ลุงฝูแหงนหน้ามองบนต้นไม้ แต่ก็มองเห็นเพียงแค่ใบไม้สีเขียวไม่มีร่องรอยอะไรที่น่าสงสัย มันหันหน้ากลับไปและพูด “ประสามสัมผัสของข้ารับใช้เฒ่าคนนี้คงอ่อนไหวเกินไป” มันรู้สึกถึงตัวตนของใครสักคนถึงได้กระโดดมา แต่มันกลับไม่พบใครเลย

มันมั่นใจว่าภายในระยะใกล้ๆแค่นี้ ไม่มีใครที่มีระดับพลังเท่ากันสามารถหลบซ่อนจากสายตาของมัน จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณไม่สามารถเข้ามายังเขตแดนลี้ลับได้ ดังนั้นมันเลยคิดว่ามันประสาทสัมผัสของมันอ่อนไหวเกินไป

ชายชราเดินกลับไปและทรุดตัวนั่งลง มันมองไปยังหลิวอู่ตงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “แม่นางหลิว นายน้อยของข้าปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความจริงใจ ทำไมเจ้าไม่รู้เสียทีว่าอะไรดีต่อตัวเจ้าเอง?”

“ลุงฝู!” อ้าวหยางหมิงรีบสะบัดมือเพื่อหยุดลุงฝูไม่ให้พูดต่อ จากนั้นมันมองไปยังหลิวอู๋ตงด้วยรอยยิ้ม “ลุงฝูเพียงแต่เป็นห่วงข้าเท่านั้น อู๋ตงอย่าตำหนิเขาเลย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด