ตอนที่ 7 เป้าหมาย
ด้านหน้าของศาลาดาบ นอกจากเจียงวู่เฉิงและเจียงหลินแล้ว ยังมีสาวกจากศาลาดาบอีกเป็นจำนวนมาก พวกเขาทั้งหมดเห็นสิ่้งที่เกิดขึ้นและรู้สึกสับสนอย่างมาก
"เขาบังคับให้เจียง หลินต้องถอย?เป็นไปได้ยังไงกัน?”
จุดสูงสุดของขั้น6แห่งวิถีลมปราณ เจียงหลินอยู่ขั้นนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด แต่ก็ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะรับได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจียงหลินถูกทำให้ถอยหลัง
"ขั้นสาม ตอนนี้การฝึกฝนเขาอยู่ที่ขั้นสามแห่งวิถีลมปราณ!"
"เจียงวู่เฉิงสามารถรวบรวมลมปราณได้และกลายเป็นนักรบ การบ่มเพาะของเขาอยู่ในขั้นที่สาม?”
มันน่าตกใจมาก เหล่าสาวกทุกคนต่างตกใจ
เมื่อสิบวันก่อน เจียงวู่เฉิงยังไม่สามารถที่จะรวบรวมพลังลมปราณได้ แต่หลังจากเพียงผ่านไปแค่สิบวัน เขาไม่เพียงแต่รวบรวมลมปราณได้เขากลับอยู่ในขั้นที่3แล้ว
ในเวลาแค่สิบวันเขากลับกลายเป็นนักรบขั้น3แห่งวิถีลมปราณ?
นั่นหมายความว่าอย่างไร?
พวกเขาไม่รู้ว่า เจียงวู่เฉิงฝึกฝนเคล็ดบัญญัติสวรรค์และไม่อาจคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดา
เขามีวิธีฝึกฝนที่ท้าทายสวรรค์!
สิบวันก่อน แม้เขาจะเพิ่งรวบรวมพลังลมปราณได้ แต่ความเร็วการฝึกฝนของเขาด้วยเคล็ดบัญญัติสวรรค์นั้นเร็วกว่าคนธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง การอยู่ในห้องฝึกฝนระดับมนุษย์ของเขาหนึ่งวันเทียบได้กับคนอื่นสิบวัน หลังสิบวงัน เขาก็ได้ทะลวงผ่านจากสวรรค์ชัั้นแรกสู่สวรรค์ชั้นสามแล้ว!
แน่นอน เขาเพิ่งประสบความสำเร็จมาถึงขั้นที่สามเท่านั้น เหตุผลที่เจียงหลินคิดว่าเขามาถึงจุดสูงสุดของขั้นที่สามนั่นก็เพราะว่าเขาได้ฝึกฝนเคล็ดบัญญัติสวรรค์ ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาจึงสูงกว่านักรบคนอื่นๆในระดับเดียวกัน
"ข้ายอมรับว่าข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไป ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถรวบรวมพลังลมปราณได้ แต่มันก็ไม่สำคัญ ยังไงเจ้าก็ยังอยู่แค่ขั้นสาม ในสายตาข้า เจ้ายังเป็นขยะอยู่ดี"เจียงหลินจ้องเจียง วู่เฉิงเขม็ง และพลังลมปราณก็ไหลออกจากฝ่ามือเขา แสดงให้เห็นว่าเขากำลังจะใช้พลังทั้งหมดแล้ว
เจียงวู่เฉิงหรี่ตาลง ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถรับการโจมตีของคนที่อยู่ในขั้น6ได้
"เจ้ากำลังทำอันใด?"บังเกิดเสียงตะโกน จากนั้นผู้อาวุโสในชุดเทาก็เดินออกจากศาลาดาบ
"ผู้อาวุโสหง"เหล่าสาวกหลายคนแสดงความเคารพ
เจียงหลินเห็นผู้อาวุโสหงก็เปลี่ยนท่าทีของเขาทันที พลังลมปราณถูกดึงกลับและในขณะเดี๋ยวกันก็คำนับ"ผู้อาวุโสหง"
"อืม"ผู้อาวุโสมองมาที่เจียงหลิน "เจ้าคือ เจียงหลิน? ด้วยการฝึกฝนในขั้่นที่หก เจ้าค่อนข้างดีในคนรุ่นเดียวกัน แต่เจ้ากำลังแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าศาลาดาบ เจ้าคิดว่าไม่มีใครสามารถจัดการเจ้าได้?"
"ข้าไม่กล้า"เจียงหลินตอบพร้อมส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
เขารู้ดี แม้ฐานะของศาลาดาบจะถูกกีดกันในตำหนักขุนพลดาบ 4ผู้อาวุโสใหญ่แห่งศาลาดาบก็ล้วนอยู่ในอาณาทะเลลมปราณ พวกเขาคือกระดูกสันหลังของตำหนักขุนพลดาบ โดยเฉพาะผู้อาวุโสหง พลังเขาถือได้ว่าเป็น3ผู้ยิ่งใหญ่แห่งตำหนักขุนพลดาบ การเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ แม้เขาจะถูกมองเป็นอัจฉริยะ เขาก็ยังไม่กล้าทำตัวหยาบคาย
"ไปให้พ้นจากที่นี่ซะ"อาวุโสหงกล่าว
"ขอรับ"เจียงหลิน ตอบแต่ในขณะที่เขากำลังจะจากไป เขาก็จ้องเจียง วู่เฉิงและกล่าวถากถาง“เจียง วู่เฉิง ข้าได้ยินว่าเจ้าไปหาเมิ่งเอ๋อในวันที่นางได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำศาลาดาบคนใหม่ และได้ทำการท้าทายในอีกสองเดือน?”
เหล่าคนที่ได้ยินพากันงุนงง นี่คือครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้
สองเดือนให้หลัง เจียง วู่เฉิงคิดท้าทายเจียง เมิ่งเอ๋อ?
เรื่องตลกอันใด?
"มีคนมากมายในโลกนี้ที่หยิ่งยโสและโง่เขลา แต่ข้าไม่เคยเจอคนโง่และโอหังเท่าเจ้า เพียงแค่ขั้นที่สามของวิถีลมปราณกลับกำลังคิดเอาชนะเมิ่งเอ๋อที่อยู่ในอาณาทะเลลมปราณ?น่าขันสิ้นดี!"เจียงหลินจากไป แต่เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเขายังคงอยู่
เจียงวู่เฉิง ยืนอยู่กับที่อย่างไม่แยแส หลายคนมองเขาด้วยความเสียใจ ดวงตาบางคนเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูหมิ่น
แม้แต่ผู้อาวุโสก็มองเขาอย่างนิ่งเงียบ
ในอีกสองเดือนเขาจะท้าทายเจียง เมิ่งเอ๋อ?
สาวกศาลาดาบคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันสำหรับเจียง วู่เฉิง
หลังจากเจียงหลินจากไป ผู้อาวุโสหงกับเจียงวู่เฉิงก็เดินเข้าไปข้างในห้องโถง
"ปรมาจารย์น้อย ขอแสดงความยินดีด้วยที่ท่านกลายเป็นนักรบแท้จริงได้หลังความพยายาม4ปี"ผู้อาวุโสหงยิ้ม เขาได้เห็นทุกสิ่งที่อยู่ข้างนอกและเห็นว่าเจียงหลินถูกทำให้ถอยหลังออกไป
"อ่า แต่มันก็ยังไม่เพียงพอ"เจียงวู่เฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
ผู้อาวุโสจ้องเจียงวู่เฉิงและกล่าวอย่างจริงจังว่า"เจ้าจะไปสู้กับเมิ่งเอ๋อที่ลานประลองศาลาดาบจริงๆ?"
"ใช่ การประลองนี้ข้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้"เจียงวู่เฉิง กล่าว
อาวุโสหงคิดว่าไม่อาจเป็นไปได้ "เจ้าควรรู้ไว้ว่าระยะห่างของแต่ละขั้นมากเกินไป มันต้องใช้เวลานาน เพียงสองเดือน...เท่าที่ข้ารู้ ในตำหนักขุนพลดาบ มีเพียงคนเดียวที่เคยประสบความสำเร็จเช่นนั้นในสองเดือน ซึ่งก็คือบิดาท่าน!”
"เมื่อท่านผู้นำยังเด็ก เพียงสองเดือน เขากลับสามารถเลื่อนจากขั้น2ไปถึงขั้น6แห่งวิถีลมปราณได้ เขาทะลวงผ่านถึง4ขั้น ซึ่งเป็นการฝืนกฏธรรมชาติ เหตุผลที่ท่านผู้นำทะลวงผ่านเช่นนั้นได้ก็เพราะเขามีพรสวรรค์ ร่วมกับการสนับสนุนของเม็ดยาจำนวนมหาศาล สิ่งสำคัญสุดก็คือท่านผู้นำใช้เวลาสองเดือนเหล่านี้ในลานประลองและต่อสู้อย่างดุเดือดเกือบทุกวัน เพียงเพราะการดิ้นรนบนลานประลอง เขาจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!”
"อย่างไรก็ตาม ท่านผู้นำก็สามารถทำได้แค่ทะลวงจากขั้น2ไปขั้น6”ผู้อาวุโสหงมองเจียง วู่เฉิง
แต่นั่นก็ไม่สามารถบั่นทอนกำลังใจของเขาลงได้
แน่นอนเขาสามารถเข้าใจที่อาวุโสพูด พ่อของเขาต้องใช้เวลาสองเดือนเพื่อทะลวงจากขั้น2ไปขั้น6 ซึ่งนับว่าน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขากำลังคิดทำกลับยากยิ่งกว่า
"เจียง เมิ่งเอ๋ออยู่ในอาณาทะเลลมปราณแล้ว ข้าต้องบรรลุสวรรค์ขั้น7เป็นอย่างน้อย จากนั้นก็ด้วยเคล็ดบัญญัติสวรค์และเชิงดาบข้า รวมถึงทักษะลับผลาญวิญญาณ ข้าย่อมสามารถชนะนางได้!”
"และจากสวรรค์ชั้น3สู่ชั้น7 มันเหมือน4ขั้นก็จริง แต่มันยากกว่าขั้น2ไปขั้น6นับสิบเท่า!”
"แต่ข้าเป็นผู้ฝึกฝนที่ท้าทายสวรรค์ ทุกขั้นข้าจะต้องทำให้มันเหนือคนธรรมดา”
“คนอื่นไม่อาจทำได้ แต่สำหรับข้า มันเป็นไปได้!”เจียงวู่เฉิงตั้งมั่น
เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสหงจึงถาม“เจ้าคิดลองจริงๆ?”
"แน่นอน แต่ข้าจะไม่ลอง ข้าจะจัดการนางให้ได้ในสองเดือน"ดวงตาของวู่เฉิงดูน่ากลัวอย่างมาก
"หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะไม่พูดอะไรอีก แต่ข้ามีบางสิ่งที่อาจช่วยวเจ้าได้”ผู้อาวุโสหงหยิบกล่องหยกจากภายในเสื้อและจากนั้นก็เปิดมัน ภายในกล่องหยกคือเม็ดยาสีขาวสองเม็ด