ตอนที่ 6 เจียง หลิน
เคร้ง!
ประกายแสงรอบดาบเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วที่คาดเดาไม่ได้ แสงจะสลัวและสว่างขึ้นสลับกันไปมา บางครั้งพลังงานทั้งหมดก็จะรวมกันที่จุดๆเดียว บางครั้งมันจะกระจายไปทั่วทุกกลุ่มแสง นี่คือวิชาดาบของตำหนักขุนพลดาบ มันถูกเรียกว่าเพลงดาบจันทร์กระจ่าง
ในห้องฝึกฝนระดับมนุษย์เจียงวู่เฉิงเริ่มฝึกฝนเพลงดาบ แต่ภายใต้ผลของแรงโน้มถ่วง พลังปราณในร่างเขาจึงผลาญอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่เขาจะร่ายเพลงดาบจันทร์กระจ่างเสร็จสิ้น เขาก็พบว่าพลังปราณเขาหมดลงแล้ว
โดยไม่ลังเล เจียง วู่เฉิงเก็บดาบยาวเขาและนั่งตรงมุมห้อง มันมีเบาะสีเหลืองวางอยู่ มันมีไว้สำหรับการฟื้นฟูพลังลมปราณโดยไม่ได้รับผลจากแรงกดดัน
วู่เฉิงนั่งอยู่บนเบาะและเริ่มใช้เคล็ดบัญญัติสวรรค์และกระแสลมปราณรอบตัวก็ไหลมาหาเขาจากทุกทิศทาง ไหลสู่ตันเถียนของเขาผ่านทางเส้นชีพจรอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น10นาที เจียงวู่เฉิงก็ลุกขึ้นอีกครั้ง พลังลมปราณโดยรวมของเขามาถึงจุดสูงสุดและแม้กระทั่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
"อย่างที่คิด เคล็ดบัญญัติสวรรค์สามารถซึมซับพลังลมปราณได้เร็วกว่าวิชาทั่วไป คนธรรมดาเมื่อพลังลมปราณหมดจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อฟื้นฟู แต่ข้ากลับใช้เวลาแค่10นาที…”ดวงตาของเจียง วู่เฉิงเปล่งประกายความยินดี
นี่เป็นความยอดเยี่่ยมของเคล็ดบัญญัติสวรรค์เมื่อเทียบกับวิชาอื่น
ความรวดเร็วการบ่มเพาะรวดเร็ว เช่นเดียวกับความเร็วการฟื้นฟูพลังลมปราณ
และความเร็วในการฟื้นตัวในห้องฝึกฝนระดับมนุษย์ นั่นก็เหมือนกับการโกงในระหว่างการฝึกฝน
มันเป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้พลังลมปราณให้หมดและฟื้นฟูจะส่งผลต่อการบ่มเพาะอย่างมาก แม้กระทั่งนักรบธรรมดาก็ยังพัฒนาอย่างมากจากการกระทำเช่นนี้เจียง วู่เฉิงได้บ่มเพาะวิถีต่อต้านสวรรค์ ดังนั้น พลังลมปราณเขาจึงพัฒนาขึ้นอย่างมาก
ทันทีที่พลังลมปราณเขาฟื้นขึ้นมาจนเต็มเปี่ยม เขาก็สังเกตเห็นว่าพลังลมปราณของเขาบริสุทธิ์ขึ้น
นี่คือข้อดีของห้องฝึกฝนระดับมนุษย์
สำหรับนักรบธรรมดา ความเร็วในการฟื้นพลังของพวกเขาช้าเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถทำมันได้เกินสองรอบต่อวัน
นอกจากนี้...การฝึกฝนในห้องยังยากลำบาก โดยปกติ สาวกน้อยคนจะเลือกบ่มเพาะที่นี่ มีเพียงสาวกที่ไม่อาจทะลวงคอขวดได้ถึงมาที่นี่และพยายามฝืนทะลวงโดยใช้แรงกดดันของห้อง
เช่นเดียวกับเจียง วู่เฉิงเมื่อ4ปีก่อนที่ไม่อาจรวบรวมลมปราณได้ก็ยังเคยมาใช้ห้องบ่มเพาะระดับมนุษย์
"เคล็ดบัญญัติสวรรค์ทำให้การฟื้นฟูลมปราณของข้ารวดเร็วอย่างมาก สำหรับคนอื่น การทำให้เกินสองรอบยังยากลำบาก แต่ข้ากลับสามารถทำได้มากกว่า20รอบต่อวัน นั่นหมายความว่าความเร็วการบ่มเพาะข้าจะเหนือกว่าคนธรรมดานับสิบเท่า”
ความเร็วในการฝึกเคล็ดบัญญัติสวรรค์นั้นเร็วมาก นอกจากนี้ ด้วยความช่วยเหลือของห้องบ่มเพาะระดับมนุษย์ ความเร็วการบ่มเพาะเขายังเร็วขึ้นจนเขาสามารถเข้าสู่สวรรค์ชั้น2แห่งวิถีสวรรค์ได้ใน1หรือ2วัน
"ข้าใช้เวลานานกว่าสี่ปีถึงจะเป็นนักรบได้ ดังนั้นข้าก็ต้องพยายามให้มากกว่าคนทั่วไป”ประกายความมุ่งมั่นอัดแน่นในดวงตาเขา
ตั้งแต่นั้นมา เขาก็หมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนในห้องระดับมนุษย์ตลอดเวลา
การบ่มเพาะของเขานั้นวนเวียนอยู่กับการใช้พลังลมปราณจนหมดและฟื้นฟูลมปราณขึ้นมาใหม่ แต่ละรอบช่วยทำให้ลมปราณของเขาพัฒนาขึ้นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถทำการบ่มเพาะได้นับสิบรอบต่อวัน
ความเร็วในการฝึกฝนของเขาเร็วกว่าคนธรรมดาถึง 10 เท่าหรือมากยิ่งกว่านั้น
สิบวันผ่านไปราวกับโกหก
ณ ด้านหน้าประตูของศาลาดาบ
ปัง!
ด้วยเสียงของการปะทะกัน สาวกศาลาดาบลอยไปบนท้องฟ้าอย่างหมดท่า และตกลงมาอย่างแรง
"ฮ่าฮ่า สาวกของศาลาดาบช่างอ่อนแอเสียจริง"
เสียงหัวเราะดังมากจากรุ่นเยาว์ในชุดม่วง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่สาวกของศาลาดาบ แต่เขากลับยืนอยู่หน้าประตูศาลาดาบ เมื่อได้ยินคำพูดเขา เหล่าสาวกล้วนไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
"การมาถึงขั้น6ก่อนข้าและมีพลังลมปราณเหนือกว่าข้าไม่ใช่เรื่องยอดเยี่ยมอะไร!"
"มันเป็นความจริงที่เจ้าได้พ่ายแพ้ เจ้ายังไม่ต้องการยอมรับมัน?หรือว่าสาวกศาลาดาบทุกคนจะเป็นอย่างเจ้า?”
"นั่นอะไร"เขาหันกลับไปมอง และเห็นเจียงวู่เฉิ่งซึ่งกำลังเดินมาที่ศาลาดาบ
ตามปกติ เจียงวู่เฉิงได้มาฝึกฝนที่ศาลาดาบเป็นประจำอยู่แล้วในช่วงนี้
"นั่นใช่ปรมาจารย์น้อย เจียงวู่เฉิงหรือไม่?" เสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมา
เจียงวู่เฉิง หยุดเดินและเห็นเด็กรุ่นเยาว์ในชุดม่วงกำลังมองมาที่เขา
เขามีความประทับใจในตัวรุ่นเยาว์คนนี้เล็กน้อย เขาคือเจียง หลินและเขาเป็นสาวกที่ยอดเยี่ยมของหอยุทธ์แดงอีกทั้งเจียง หลินนั้นก็ชอบเจียง เมิ่งเอ๋อมาก เขาพยายามทำให้นางพอใจอยู่ตลอดเวลา
แต่น่าเสียดายที่เจียง เมิ่งเอ๋ออยู่กับวู่เฉิงเป็นเวลาถึงสี่ปีเพื่อศึกษา18เพลงดาบขั้นหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เจียงหลินนั้นเกลียดชังเจี่ยงวู่เฉิงเป็นอย่างมาก ซึ่งเกิดมาจากการหึงหวง
"ด้วยดาบในมือ ไม่มีใครเทียบเคียงเขาได้ ชื่อนั้นฟังดูดี แต่เจ้าไม่คู่ควรกับมัน"เจียง หลินเย้ยหยันเจียง วู่เฉิง"นอกจากนี้ เจ้ากลับอยากได้รับความรักจากเมิ่งเอ๋อ มันราวกับคางคกที่พยายามกินเนื้อห่านฟ้า เจ้าควรก้มมองดูตัวเอง ทำไมเมิ่งเอ๋อถึงต้องไปหลงรักขยะที่ไม่อาจบ่มเพาะพลังลมปราณได้?"
เจียง วู่เฉิงเหลือบตามองเจียงหลิน แทนที่เขาจะโกรธเขากลับหัวเราะและพูดว่า"เจ้าพูดถูกข้าไม่เหมาะสมกับนาง เจ้าเอาไปเถอะ"
"ให้นางกับข้า"เจียงหลินรู้สึกงุนงงในตอนแรกจากนั้นก็เริ่มพูดว่า "คิดว่าข้าต้องการที่จะให้ขยะอย่างเจ้ายกนางให้กับข้า?"
เจียง วู่เฉิง หัวเราะอย่างเยือกเย็น พร้อมเดินกลับไปที่ศาลาดาบ
"หยุดเดี๋ยวนี้เจ้าขยะ"เจียง หลินคำราม
เจียงวู่เฉิง ไม่สนใจและเดินต่อ
"เจ้าขยะ กลับกล้าเมินข้า?!” เจียงหลินกล่าว ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว เขาขยับร่างกายของเขาและสะบัดฝ่ามือใส่ด้านหลังของวู่เฉิง
เมื่อตระหนักถึงกระแสลมด้านหลัง เจียงวู่เฉิงก็หันกลับมาพร้อมสะบัดมือขวาเข้าปะทะ
"ไสหัวไปให้พ้น!”
เจียงวู่เฉิงคำราม เสียงดังระเบิดออกมาพร้อมกับพลังมหาศาล หมัดของเจียง วู่เฉิงบดขยี้เข้ากับฝ่ามือของเจียง หลิน
ปัง!
เจียง วู่เฉิงและเจียงหลิน ต่างถอยกันไปคนละหนึ่งก้าว
แม้ว่าจะถูกทำให้ถอยกลับไปแค่หนึ่งก้าว แต่เจียงหลิน ก็ตกตะลึงอย่างมาก
"ได้ไงกัน?"เจียงหลิน จ้องเจียง วู่เฉิงอย่างตกใจ
เขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดแต่อย่างไรก็ตาม คนธรรมดาย่อมไม่อาจต้านรับมันได้ แต่เจียง วู่เฉิงกลับทำให้เขาถอยหลังได้!
"ขั้นที่3!อย่างน้อยเขาก็ต้องมาถึงขั้นที่สามแน่นอนหรือแม้กระทั่งจุดสูงสุดของขั้นที่สาม!"เจียง หลินพูดด้วยความตกตะลึง