ตอนที่แล้วตอนที่ 222 นิกายพันศพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 224 ท่าทีเปลี่ยนไป

ตอนที่ 223 ทหารซากศพระดับเงิน


หลิงฮันจ้องมองไปที่ทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสามและขมวดคิ้วเล็กน้อย

บางทีเขาไม่อาจจัดการกับทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสามได้ แต่มันก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้ กุญแจสำคัญคือฝ่ายตรงข้ามของเขามีโลงศพสามโลง กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มันยังมีทหารซากศพอีกหนึ่งร่างที่ยังไม่ปรากฏตัวออกมา

อีกตัวหนึ่งมันอาจเป็นทหารซากศพระดับทองแดงอีกตัวหรือ...ว่าทหารซากศพระดับเงิน?

แม้จะเป็นแค่ทหารซากศพระดับเงินขั้นหนึ่ง แต่มันก็เทียบเท่าได้กับจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ ถึงหลิงฮันจะแข็งแกร่ง แต่เขาไม่อาจต่อสู้กับจอมยุทธที่อยู่ระดับห้วงจิตวิญญาณได้ นอกจากนี้ ทหารซากศพนั้นไร้ซึ่งความรู้สึก มันไม่เกรงกลัวต่อความตายหรือการบาดเจ็บ จนกว่าหัวของพวกมันจะถูกบดขยี้ มันจะไม่หยุดต่อสู้ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการกับพวกมัน

สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น ทหารซากศพมาจากการปรับแต่ง ในระหว่างกระบวนการ ร่างกายของทหารซากศพจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเทียบได้กับเหล็ก แล้วเขาจะโจมตีมันเข้าได้อย่างไร?

ดังนั้นเพื่อที่จะสังหารทหารซากศพได้อย่างราบคาบ มันจะต้องมีพลังเหนือกว่าทหารซากศษและทำลายพวกมันด้วยพลังที่ล้นหลาม

พลังของหลิงฮันในตอนนี้เทียบได้กับจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นแรก ซึ่งมันยังไม่เพียงพอที่จะจัดการกับทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสามได้และไม่ต้องพูดถึงทหารซากศพระดับเงินเลย นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าหลงไหเชวียนแทน ทหารซากศพก็จะยังไม่ตาย ในทางตรงกันข้าม พวกมันจะหลุดจากการควบคุมและเข่นฆ่าตามสัญชาตญาณของพวกมัน

อย่างไรก็ตาม หลงไหเชวียนเป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสังหารมัน

หลิงฮันปริยิ้มออกมาและพูดว่า "ในโลงศพที่สามของเจ้า อย่าบอกข้านะว่ามีทหารซากศพระดับเงินอยู่?"

ทันใดนั้น สีหน้าของหลงไหเชวียนเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย มันเยาะเย้ยออกมาและพูดว่า "เจ้าค่อนข้างรู้เรื่องเกี่ยวกับนิกายพันศพมากทีเดียว!"

หลิงฮันไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก มือซ้ายของเขาคว้าไปที่ฮูหนิวและมือขวาของเขาแบกหยางหมิง ฟุบ ฟุบ ฟุบ ทันใดนั้นพวกเขาหันหลังจากไปและกลายเป็นจุดดำจุดเล็กๆ

แน่นอนว่าการต่อสู้กับทหารซากศพระดับเงินมีแต่จะไปลงนรก!

"หืม..." หลงไหเชวียนรู้สึกงงงวย แล้วคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว มันไม่คิดว่าหลิงฮันจะวิ่งหนี "ไร้ประโยชน์! ไร้ประโยชน์!" มันตะโกนใส่ทหารซากศพสองร่างด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตาม ทหารซากศพจะเริ่มต่อสู้หลังจากที่มันออกคำสั่งกับพวกมัน มิฉะนั้นถ้าพวกมันมีเจตนารมณ์เป็นของตัวเอง พวกมันอาจฆ่าเขาเป็นคนแรกและกินเลือดกินเนื้อของเขาจนหมด

"ฮึ่ม!" หลังจากนั้นไม่นาน มันก็นั่งลงและพูดกับตัวเองว่า "ไม่มีอะไร เจ้านั้นน่าจะไปที่ตำหนักกลาง ข้าจะสังหารทุกคนที่อยู่ที่นี่และทหารซากศพทั้งสามของข้าก็จะยกระดับขึ้น

ข้าได้ยินมาว่ามีผีดิบโลหิตอยู่ที่นี่ พลังต่อสู้ของพวกมันเทียบได้กับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน ถ้าข้าได้พวกมันมาสักสามตัว...ฮ่าฮ่าฮ่า!

ผีดิบโลหิตจะปรากฏตัวออกมาในกรณีที่สังเวยเลือดไม่เพียงพอ ถ้าข้าสังหารทุกคนในตำหนักกลาง เช่นนั้นผีดิบโลหิตจะต้องปรากฏตัวออกมาอย่างแน่นอน!

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

หลงไหเชวียนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

***

หลังจากที่หลิงฮันวิ่งหนีมาเกือบห้าสิบกิโลเมตร เขาหยุดวิ่งต่อและโยนหยางหมิงไปอยู่ด้านข้างและอุ้มฮูหนิวลง

หยางหมิงไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคายแบบนี้มาก่อน — เส้นโลหิตที่คอของเขาปูดบวมขึ้นมาและใบหน้าเผยให้เห็นถึงความโกรธ แต่เมื่อเขาคำนึงถึงความแตกต่างด้านพลังระหว่างเขากับหลิงฮัน เขาจึงสงบสติอารมณ์ลงทันที

"นายน้อยฮัน ส่วนลึกของภูเขาอยู่ด้านหน้าแล้ว พวกเราไปกันเถอะ!" เขาพูดออกมาอย่างอดทน

หลิงฮันพยักหน้า ตันเถียนของเขามีขนาดใหญ่ผิดปกติ — หลังจากที่เขาวิ่งมากว่าห้าสิบกิโลเมตร เขาใช้พลังปราณก่อเกิดไปเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และสามารถฟื้นคืนพลังที่เสียไปได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ใช้โอสถคืนกำเนิด

...ถ้าคนอื่นเห็น พวกเขาคงจะตำหนิเขาที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย โอสถคืนกำเนิดจะใช้ระหว่างการต่อสู้ เพราะพวกเขาจำเป็นต้องฟื้นคืนพลังปราณก่อเกิดให้ได้โดยเร็ว

แต่ทว่าหลิงฮันเป็นคนที่ร่ำรวยมากและไม่ได้ขาดแคลนเม็ดยา เขาจึงกินพวกมันเล่น

พวกเขาอยู่ใกล้กับส่วนลึกของหุบเขาแล้ว และภายในไม่กี่นาที พวกเขาก็เดินไปถึงทางเข้า

"หลิงฮัน!"

จากระยะไกล ใครบางคนโบกมือให้พวกเขา และมีหลายคนที่อยู่ที่นั่น หลังจากที่ดูดีๆแล้ว พวกเขาคือฉีฮวงเย่และคนอื่นๆ

หลิงฮันก้าวเดินเร็วขึ้นเพื่อเดินไปดูและเห็นแค่หลีซื่อฉาง หลิ่วอู๋ตงและหลี่เฮ่าและคู่ชีวิตของเขา ทุกคนที่เดินทางมาที่นี่ด้วยกันก่อนหน้านี้อยู่ที่นี่แล้ว

"เขาเป็นใคร?" พวกเขาจ้องมองไปที่หยางหมิง

"ข้าคือหยางหมิง" หยางหมิงรีบทักทายคนอื่นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อย่างไรก็ตาม เมื่อสายตาของเขากวาดไปมองที่หลิ่วอู๋ตง สีหน้าของเขาเร่าร้อนขึ้นมาทันที และก้มหน้าต่ำลง

"นี่ไม่ใช่สถานที่ที่พวกเรามัวแต่จะคุยกัน พวกเราควรเข้าไปข้างในก่อน!" หลิงฮันกล่าวจริงจัง หลงไหเชวียนสามารถปรากฏตัวออกมาได้ตลอดเวลา....ตัวของหลงไหเชวียนเองไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ แต่ปัญหาใหญ่คือทหารซากศพระดับเงิน ในสถานที่แห่งนี้จอมยุทธระดับห้วงวิญญาณถือเป็นผู้ปกครอง แต่ทหารซากศพระดับเงินนั้นแทบจะอยู่ยงคงกระพัน

เมื่อทุกคนเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของหลิงฮันและไม่มีผู้ใดคันค้านขณะที่ทุกคนกำลังรอหลิงฮันอยู่ หากเขามาถึงแล้ว พวกเขาจะไม่เดินหน้าต่อได้อย่างไร?

ระหว่างทาง หลิงฮันได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหลงไหเชวียน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เส้นผมของทุกคนลุกตั้งขึ้นมาทันที

ทหารซากศพ?

พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?

"ที่นี่มีผีดิบโลหิตอยู่หรือว่าพวกมันจะเป็นทหารซากศพ?" ไป๋ลี่เถิงหยุนคาดเดา

"อาจเป็นไปได้!" คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย นี่จะอธิบายเรื่องของหลงไหเชวียนได้; บางทีอาจจะมีมรดกนิกายพันศพอยู่ที่นี่และหลงไหเชวียนมาที่นี่เพื่อเอามันไป

"การสืบทอดมรดกแบบนั้น แม้มันจะเป็นมรดกของพระเจ้า ข้าก็ไม่อยากได้มัน!" หลีตงเย่ส่ายหัวปฏิเสธอย่างรุนแรง

คนอื่นส่ายหน้าเช่นกัน การหล่อเลี้ยงศพ...เพียงแค่คิดถึงมันพวกเขาก็ขนหัวลุกแล้ว

"กว่างหยวนยังมาไม่ถึงรึ?" หลิงฮันขมวดคิ้ว คนที่อยู่ข้างกายของเขาที่สามารถต่อสู้กับทหารซากศพระดับเงินได้มีเพียงแค่กว่างหยวนเท่านั้น และหากไม่มีเขา ไม่ว่าใครหน้าไหนหากเผชิญหน้ากับทหารซากศพระดับเงินพวกเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ทหารซากศพระดับเงินต้องการร่างกายของจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเพื่อวิวัฒนาการ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีคุณสมบัติเป็น "อาหาร" ของพวกมัน

"พี่ชายกว่างหยวนถูกส่งไปที่อื่น" หลิ่วอู๋ตงกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่ หากมีกว่างหยวนอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

"ช่างมันเถอะ รีบไปกันเถอะ!"

ระหว่างทาง หยางหมิงเริ่มมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นหลังจากที่เขาเข้าใจสถานการณ์ของทุกคน และเรียกคนอื่นว่าพี่น้อง อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเปิดเผยตัวตนของตัวเองและไม่มีใครสงสัยเขาเพราะหลิงฮัน

หุบเขานี่ดูเหมือนกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ แต่เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปข้างใน มันอาจทำให้ตกใจจากความกว้างของหุบเขาได้...ความยาวห้าสิบกิโลเมตรและกว้างประมาณหนึ่งกิโลเมตร ตรงกลางของมันถูกตัดผ่านด้วยอาวุธที่แหลมคมมากและไม่กว้างไปหรือแคบไป

ระยะหลายร้อยกิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับจอมยุทธระดับรวมธาตุ หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน พวกเขาได้เดินทางผ่านหุบเขาและตำหนักกลางได้ปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา

เมื่อเห็นตำหนักกลาง สีหน้าของทุกคนเผยให้เห็นถึงความตกตะลึง เพราะสิ่งก่อสร้างนี่มันกำลังลอยอยู่ในอากาศและมีบันไดลอยอยู่ในอากาศเช่นเดียวกันและเชื่อมต่อกับมันอยู่ มันน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

"นี่มันอัศจรรย์เกินไปแล้ว!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด