ตอนที่ 222 นิกายพันศพ
ชายหนุ่มชุดดำจ้องมองมายังหลิงฮัน หลิงฮันดูอายุยังไม่เกินสิบแปดปีด้วยซ้ำ และมีพลังเพียงระดับรวมธาตุขั้นแรก จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะรู้จักนิกายพันศพเพียงแค่ได้ยินคำว่า ‘ทหารซากศพทองแดง’?
แปลกมาก!
ชื่อของมันคือหลงไหเชวียน ครั้งหนึ่งมันเคยถูกศัตรูต้อนจนจนมุม แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นกับชีวิตของมัน มันได้รับมรดกของนิกายพันศพและกลายเป็นผู้สืบทอดของนิกายที่ห่างหายไปนานนับศตวรรษ เพื่อที่จะแก้แค้นศัตรูที่ไล่ต้อนมัน มันได้ขุดซากศพของหนึ่งบรรพบุรุษของศัตรูขึ้นมาและหลอมศพนั่นให้กลายเป็นทหารซากศพของมันเองพร้อมกับทำลายตระกูลของศัตรูทิ้ง
มันแก้แค้นได้สำเร็จ แต่ก็หลงใหลไปกับความรู้สึกว่าตัวเองยิ่งใหญ่ มันเริ่มบ่มเพาะสร้างทหารซากตัวอื่นๆขึ้นมาและพัฒนาพวกมันไปเรื่อยๆ
“เด็กน้อย เจ้ารู้เยอะเกินไป!” หลงไหเชวียนชี้นิ้วออกมา ทหารซากศพที่กำลังดูดกลืนโลหิตและเนื้อสดๆอยู่ได้ยืนขึ้นพร้อมกับจ้องมองมายังหลิงฮัน
มันคือซากศพที่ไม่สามารถคาดเดาอายุ กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกของมันเน่าเปื่อยจนสามารถมองเห็นกระดูกที่อยู่ข้างใน แต่ว่าบริเวณหัว มือและเท้าของมันยังคงมีสภาพที่ดีอยู่และเน่าเปื่อยไปครึ่งเดียวเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งทำให้มันดูน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
จริงอยู่ว่าทหารซากศพนั่นสูญเสียความรู้สึกไปหมดแล้ว แต่หลังจากที่ถูกหลอมขึ้นมาใหม่ มันก็เหมือนกับได้รับชีวิตที่สองมา%uid_str% มันเหลือเพียงสัญชาตญาณที่ต้องการกลืนกินโลหิตและเนื้อสดๆเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตนเอง และตอนนี้มันถูกขัดจังหวะขณะกินอาหาร จึงไม่แปลกที่มันจะโกรธและคำรามใส่หลิงฮันและคนอื่นๆ
“สังหารคนพวกนี้ซะ!” หลงไหเชวียนออกคำสั่ง
‘ฟุบ’ ทหารซากศพพุ่งเขามาหาหลิงฮันและคนอื่นๆทันที
“เพียงแค่ทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสอง!” หลิงฮันเค้นเสียงเย็นชา เขาชักดาบออกจากฝักและแทงใส่ทหารซากศพ ‘ปัง’ ใบดาบเสียดสีกับกระดูกตรงหน้าอกของทหารซากศพทำให้เกิดประกายไฟที่รุนแรง
กระดูกของทหารซากศพไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้หลิงฮันประหลาดใจ
“ฮ่าๆๆๆ เมื่อกี้ทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสองตัวนี้ดูดกลืนโลหิตและเนื้อเข้าไปตอนนี้มันกำลังจะพัฒนาเป็นขั้นสามแล้ว มันจะถูกทำลายโดยขยะระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่งแบบเจ้าได้อย่างไร?” หลงไหเชวียนพูดอย่างเย็นชา ดูเหมือนมันไม่คิดจะลงมือเอง
ตัวมันอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ ถ้ามันลงมือด้วยตัวเอง มันจะต้องแข็งแกร่งกว่าทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสองมากแน่นอน
‘ฟุบ’ ทหารซากศพตวัดแขนใส่หัวใจของหลิงฮัน การโจมตีของมันไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย
หลิงฮันเค้นเสียงดูถูก ร่างของเขาพริ้วไหวหลบการโจมตีของทหารซากศพและพุ่งไปเผชิญหน้ากับหลงไหเชวียน
“งั้นข้าก็จะสังหารเจ้าโดยตรง!” หลิงฮันกระโดดสูงและฟันปราณดาบหกเล่มใส่หลงไหเชวียน
การโจมตีนี้ทั้งดูอ่อนไหวและงดงาม แถมยังเหนือการคาดเดาของหลงไหเชวียนโดยสิ้นเชิง
ถึงแม้หลิงฮันจะดูเหมือนอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นหนึ่ง แต่พลังที่แท้จริงของเขานั้นเทียบได้กับระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่ง การโจมตีของเขาจะถูกป้องกันง่ายๆได้อย่างไร?
หลงไหเชวียนต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ดูถูกหลิงฮัน
แต่มันเองก็เป็นคนที่เคยถูกต้อนให้จนมุมมาแล้ว เมื่อพบเจอกับภัยอันตราย มันไม่กระวนกระวายแต่กลับกลายเป็นสงบนิ่ง จู่ๆมันก็อ้าปากและส่งเสียงร้องออกมา
ฟู่ ฟู่ ฟู่... ปากของมันปล่อยควันสีดำออกมา ควันสีดำนั่นได้รวมตัวกันจนมีรูปร่างเหมือนอักขระโบราณอะไรสักอย่าง มันทำหน้าที่เป็นโล่ที่ป้องกันการโจมตีของหลิงฮัน ‘ปัก’ การโจมตีของหลิงฮันปะทะกับเป้าหมายจนเกิดเสียงเสียดสีที่ดูเหมือนกำลังถูกหลอมละลายโดยควันสีดำ
อย่างไรก็ตาม อักขระโบราณก็ค่อยๆหายไปเช่นกัน เมื่อปราณดาบสลายไป อักขระโบราณก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หลงไหเชวียนถูกทำให้ถอยหลังไปสามสิบฟุต ใบหน้าของมันอ่อนแรงจนกลายเป็นสีแดงทำให้ดูดีกว่าแต่ก่อน ดวงตาของมันเผยให้เห็นถึงจิตสังหารที่รุนแรง ราวกับมันต้องการจะกลืนกินหลิงฮันเข้าไปทั้งตัว
“ปราณศพ?” หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและพูดด้วยความเสียดาบเล็กน้อย “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้าเช่นเจ้าจะสามารถสร้างปราณศพขึ้นมาได้” ไม่เช่นนั้นเขาคงใช้สามกระบวนท่าของดาบเร้นลับโจมตีมันให้จบๆไปแล้ว
“เจ้ารู้แม้กระทั่งปราณศพ?” หลงไหเชวียนแสดงสีหน้าตกตะลึง
การที่หลิงฮันคาดเดาได้ว่ามันคือนิกายพันศพเพราะเห็นทหารซากศพระดับทองแดงนั้นยังพอรับได้ เพราะในอดีตนิกายพันศพนั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก
แต่สำหรับปราณศพนั้น... นี่คือทักษะลับของนิกายพันศพ ถ้าไม่ใช่คนที่มีความใกล้ชิดกับนิกายพันศพคงไม่มีทางรู้เกี่ยวกับมันแน่
หลิงฮันยิ้มย่างใจเย็นและพูด “ยังไงเจ้าก็จะตายอยู่แล้ว จะพูดไร้สาระไปทำไมเยอะแยะ?”
หลงไหเชวียนโมโหเป็นอย่างมาก มันอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้า เมื่อสักครู่มันเพียงแค่ประมาทเพราะไม่คิดว่าหลิงฮันจะแข็งแกร่งขนาดนั้นก็เท่านั้น
“เจ้าช่างแปลกประหลาดจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเจ้าอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นหนึ่ง แต่กลับมีพลังเทียบได้กับระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่ง” มันพยักหน้ายอมรับและแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “แต่ข้าอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้า แค่การสยบเจ้าน่ะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร!”
“งั้นรึ?” เมื่อตอนที่หลิงฮันอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นสี่ เขาต่อสู้แบบซึ่งๆหน้ากับจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุขั้นหนึ่งได้ และตอนนี้เขาอยู่ในระดับรวมธาตุขั้นสิบแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่กลัวคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นเก้าแม้แต่น้อย
“ในเมื่อทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสองทำอะไรเจ้าไม่ได้ งั้นถ้าเป็นขั้นสามล่ะ?” หลงไหเชวียนหัวเราะ มันกระชากมือคว้าอย่างรวดเร็ว ‘ครืด ครืด ครืด’ เสียงครูดของโซ่ดังขึ้นราวกับมีอะไรบางอย่างที่มีน้ำหนักมากกำลังถูกลากออกมา และหลังจากนั้นก็ปรากฏโลงศพทองแดงสามอัน
“สามศพ?” ดวงตาของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นหวาดหวั่นและอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “ไม่เคยนึกเลยว่าเจ้าจะสามารถหลอมศพขึ้นมาได้ถึงสามศพ!”
ศิษย์ทุกคนของนิกายพันศพจะใช้ทหารซากศพเป็นอาวุธหลัก และในทางทฤษฎี ยิ่งควบคุมศพมากเท่าไหร่ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ได้ง่ายขนาดนั้น จำนวนศพที่ศิษย์สามารถควบคุมได้นั้นมีขีดจำกัด
เพราะการจะควบคุมทหารซากศพนั้นจำเป็นต้องใช้ปราณศพในการควบคุม แต่การสร้างปราณศพขึ้นมานั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ดังนั้นศพที่ควบคุมได้จึงมีจำกัด
โดยปกติแล้วจอมยุทธที่อยู่ในระดับรวมธาตุจะสามารถควบคุมได้ตัวเดียว ระดับก่อเกิดธาตุสามารถควบคุมได้สองตัว และเมื่อบรรลุถึงระดับห้วงจิตวิญญาณก็จะควบคุมได้สามตัว
หลงไหเชวียนอยู่ในระดับก่อเกิดธาตุขั้นห้าแต่กลับสามารถควบคุมทหารซากศพได้สามตัว เรื่องนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
หลิงฮันประหลาดใจ แต่หลงไหเชวียนตกตะลึงยิ่งกว่า นั่นเพราะหลิงฮันรู้ถึงขีดจำกัดในการควบคุมทหารซากศพ! เหตุผลที่ทำไมมันถึงสามารถควบคุมได้สามตัวนั้นเป็นเพราะมันได้รับมรดกทั้งหมดของนิกายพันศพ ซึ่งรวมถึง’สมบัติวิเศษ’ชิ้นนั้นด้วย
มันเค้นเสียงและพูด “เจ้าเป็นตัวประหลาดจริงๆ ข้าต้องกำจัดเจ้าให้ได้!” มันใช้มือตบไปที่กลางโลงศพ ‘ตุบ’ ฝาโลงศพเปิดออกทันทีพร้อมกับมีทหารซากศพอีกตัวหนึ่งกระโจนออกมาจากโลง
“ทหารซากศพระดับทองแดงขั้นสาม!” หลงไหเชวียนพูดอย่างวางท่า