ตอนที่ 2 สรรค์สร้างสุดยอดวิถียุทธ์ด้วยเคล็ดบัญญัติสวรรค์
“เคล็ดบัญญัติสวรรค์!”
“บัญญัติสุดยอดวิชาด้วยเคล็ดบัญญัติจากสวรรค์และโลก!”
เจียง วู่เฉิงลืมตาขึ้นมาและเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
"การบ่มเพาะ?มีวิธีการบ่มเพาะเกิดขึ้นมาในความคิดของข้า"วู่เฉิง ประหลาดใจอย่างมาก แต่ในเวลาต่อมาเขาก็เข้าใจว่าการบ่มเพาะนั้นเกี่ยวข้องกับลูกปัดหิน
การบ่มเพาะไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับวู่เฉิง ในตำหนักขุนผลดาบสาวกที่รวบรวมพลังลมปราณได้สามารถเลือกวิชาบ่มเพาะที่เหมาะสมสำหรับตัวเองได้ที่ศาลาการบ่มเพาะ แต่ถึงแม้ว่าจะมีการบ่มเพาะเป็นพันในโลกนี้ แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินการบ่มเพาะใดที่กล้าใช้ชื่อว่า “บัญญัติสุดยอดวิชาด้วยเคล็ดบัญญัติจากสวรรค์และโลก!”
"ลูกปัดหินสีเทาอยู่ในตัวข้าและซึมซับพลังลมปราณทั้งหมดที่ข้าบ่มเพาะมาตลอด4ปี มันวิเศษมากที่ตอนนี้ลูกปัดหายไปและทิ้งวิธีการบ่มเพาะไว้ให้ข้า"วู่เฉิง สำรวจ“เคล็ดบัญญัติสวรรค์!”อย่างละเอียดในครั้งเดียว
วิถีแห่งผู้ฝึกตนคือการต่อกรกับโชคชะตา เพื่อสามารถสร้างพลังแห่งสวรรค์และโลก เคล็ดบัญญัติสวรรค์จะแบ่งเป็นหลายอาณาจักร วิถี9ชั้นฟ้าแห่งเซียน ทะเลยอดลมปราณ อาณาแก่นแท้ทองคำ ทลายหยินหยาง จ้าวเหนือยุทธ์ ทะยานสู่สวรรค์ชั้น9 และอื่นๆ ทุกอาณาจักรล้วนเป็นการท้าทายสวรรค์และกฏเกณฑ์!
การใช้วิชายุทธ์ของเคล็ดบัญญัติสวรรค์เป็นการท้าทายสวรรค์-ทุกๆขั้นไม่มีอันใดธรรมดาสามัญ!
ใครก็ตามที่ท้าทายสวรรค์คือศัตรูของธรรมชาติหรือที่รู้จักกันในนามผู้ฝืนกฏแห่งสวรรค์
มันเป็นคำง่ายๆแต่ทำให้ เจียง วู่เฉิง ตื่นตะลึง
"การฝึกฝนในการฝืนกฏแห่งสวรรค์ การบ่มเพาะที่ฝืนกฏสวรรค์" เขาคิด
เจียง วู่เฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและค่อยๆสงบลง แม้ว่าจะเป็นเพียงการแนะนำแค่สั้นๆ ด้วยคำง่ายๆหลายคำ แต่เขายังเห็นความแตกต่างที่ยอดเยี่ยมของวิธีการบ่มเพาะนี้
ในความเข้าใจของ เจียง วู่เฉิง สำหรับนักรบทั่วไปวิถีแห่งการฝึกยุทธ์เริ่มต้นด้วยการบ่มเพาะลมปราณ
7ขั้นแห่งวิถีลมปราณ ก่อตั้งทะเลลมปราณ อาณาแก่นทองคำ อาณาจักรหยินหยาง และจากนั้นก็อาณาจักรในตำนานแห่งเซียนคือทุกขั้นพลังบ่มเพาะที่เจียง วู่เฉิงรู้ อย่างไรก็ตาม การบ่มเพาะของเคล็ดบัญญัติสวรรค์นั่นแตกต่างจากสิ่งที่เขารู้ไปมาก
ในขั้นแรกเริ่ม วิถีบ่มเพาะทั่วไปจะมี7ขั้น แต่วิถีบ่มเพาะที่ฝืนกฏสวรรค์กลับมีถึง9ขั้น
วิถีบ่มเพาะตัวไปมีแค่7ขั้น แต่วิถีแห่งเซียนกลับมีถึง9 นี่คือสิ่งที่ขัดแย้งกับความรู้ทั้งหมดอย่างแท้จริง!
การแบ่งอาณาพลังมันเป็นการขัดต่อกฏแห่งธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้บ่มเพาะวิถีนี้จะถูกกำหนดให้เป็นผู้ต่อต้านสวรรค์
เจียง วู่เฉิง นอนอยู่บนเตียงในขณะที่อารมณ์เขากำลังมีความซับซ้อนอย่างมาก ทั้งตกใจและตื่นกลัวในเวลาเดียวกัน แต่ความตื่นเต้นในใจของเขาก็ยังยากที่จะหลบซ่อน
วิธีการฝึกฝนที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ซ่อนอยู่ในลูกปัดหิน? ข้าควรทำอย่างไร?
"วิธีการฝึกฝนที่สามารถท้าทายสวรรค์ได้มาอยู่ตรงหน้าข้า แต่ข้าไม่รู้ว่าควรฝึกฝนดีหรือไม่" วู่เฉิง บีบมือตัวเองด้วยความลังเล แต่อย่างไรก็ตามความลังเลนี้อยู่เพียงชั่วขณะและเขาก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
การบ่มเพาะที่ต่อต้านสวรรค์มันแปลกยังไง?ตามที่เคล็ดบัญญัติสวรรค์กล่าว ในความเป็นจริง วิถีแห่งการฝึกตนคือการต่อต้านโชคชะตาและสรรค์สร้างด้วยสวรรค์และโลก เหล่านักรบไม่ต้องถูกสวรรค์และโลกลงทัณฑ์ ในกรณีนั้น ทำไมการบ่มเพาะข้าถึงแหกกฏสวรรค์?
เขาไม่สามารถหาเหตุผลที่จะหยุดเขาจากการฝึกฝนวิชานี้ได้เลย ยิ่งกว่านั้นเขาถูกทรมานจากลูกปัดหินถึงสี่ปีเต็มและตอนนี้มันก็ชดเชยให้เขาด้วยวิธีการบ่มเพาะ หากเขาไม่ฝึกฝนมันเขาจะไม่สามารถลบล้างความคับข้องใจที่เขาได้รับเป็นเวลาสี่ปี
ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป วู่เฉิง เริ่มฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะนี้ตามคำแนะนำในเคล็ดบัญญัติสวรรค์ทันที
พลังลมปราณของสวรรค์และโลกหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องและจุดชีพจรทั้ง 108 เส้นของเขาซึมซับมันอย่างบ้าคลั่ง พลังวิ่งเข้ามาในร่างกายของเขาตามเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร หลังจากนั้นพลังลมปราณได้รวมกันที่ ตันเถียนของเขา
ค่ำคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
วู่เฉิงค่อยๆลืมตาขึ้นขณะที่วางมือบนเตียง เขาบ่มเพาะทั้งคืน เมื่อมองไปที่ฝ่ามือขวา เขาสามารถมองเห็นพลังลมปราณของตัวเอง ดวงตาเขาอดทอประกายด้วยความตื่นเต้นไม่ได้
“สวรรค์ชั้นแรกแห่งวิถีเซียน!”
หลังค่ำคืนแห่งการบ่มเพาะ ไม่เพียงแต่เขาจะควบแน่นพลังลมปราณสายแรกได้ แต่จุดตันเถียนเขายังกักเก็บพลังได้เพิ่ม ในแง่ของการบ่มเพาะ ตราบเท่าที่ผู้คนสามารถควบแน่นลมปราณได้ แม้จะเป็นส่วนหนึ่ง เขาก็ยังกลายเป็นนักรบแท้จริง
เคล็ดบัญญัติสวรรค์ไม่ธรรมดาจริงๆ!
เพียงคืนเดียว ข้ากลับมีพลังลมปราณในร่างมากมายถึงเพียงนี้ ความเร็วการบ่มเพาะนี่เหนือกว่าในตำหนักขุนพลกดาบ ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังรู้สึกได้ว่าพลังที่ข้าปลดปล่อยออกมานั้นยังแข็งแกร่งกว่าขั้นแรกแห่งวิถีลมปราณ
เจียง วู่เฉิงขยับแขนเขาและรู้สึกได้ถึงะลีง
สวรรค์ชั้นแรกแห่งวิถีเซียนก็เหมือนกับขั้นแรกแห่งวิถีลมปราณสำหรับนักรบทั่วไป แต่กลับมีข้อแตกต่างด้านพลัง หลังมาถึงสวรรค์ชั้นแรกของวิถีบ่มเพาะ พลังของเจียง วู่เฉิงก็เหนือกว่านักรบขั้นแรกแห่งวิถีลมปราณมาก
จุดเริ่มต้นของเคล็ดบัญญัติสวรรค์คือ9ชั้นฟ้าแห่งวิถีเซียน ซึ่งนับรวมเป็น9ขั้น
“ความแข็งแกร่งที่ข้าสามารถปลดปล่อยได้กลับเหนือกว่านักรบทั่วไปจากขั้นแรกแห่งวิถีลมปราณ นั่นหมายความว่าเมื่อข้าบรรลุสวรรค์ชั้น7 ข้าย่อมสามารถจัดการนักรบขั้น7แห่งวิถีลมปราณได้?ดังนั้น เมื่อข้าไปถึงสวรรค์ชั้น9แห่งวิถีเซียน ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวิถีเซียน พลังที่ข้าสามารุใชจะเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญในอาณาทะเลลมปราณ?”ประกายความหวาดกลัวปรากฏผ่านดวงตาเขา
"มันสุดยอดมาก"
"เคล็ดบัญญัติสวรรค์แข็งแกร่งอย่างมาก"
ความเร็วในการบ่มเพาะของมันเร็วกว่าวิธีปกติ กุญแจสำคัญคือทุกขั้นตอนจะแข็งแกร่งจนเหมือนท้าทายสวรรค์ได้
แต่ละอาณาพลังล่วนสามารถฝืนกฏแห่งธรรมชาติ
นอกจากนี้วิถีบ่มเพาะยังมีวิธีลับ
"วิชาลับผลาญวิญญาณ"เจียงวู่เฉิงกล่าว
วิชาลับผลาญวิญญาณมีความโหดร้ายและท้าทายสวรรค์อย่างมาก
มันควรเป็นวิชาต้องห้ามมากกว่าวิชาลับ มันคือการเข่นฆ่าศัตรู1000คนด้วยการเสียสละทหารฝ่ายตัวเอง800คน
ใม่ว่าจะยังไง เมื่อเห็นคำขึ้นต้นของวิชาลับนี้ เขากลับอดกลัวมันไม่ได้ เขาไม่คิดบ่มเพาะวิชาลับในตอนนี้ หลังเขาพัฒนาการบ่มเพาะเขาสักพัก เขาจะค่อยศึกษามันอย่างระมัดระวัง
"นักรบ ข้าเจียง วู่เฉิง จะได้กลายเป็นนักรบที่แท้จริง!"
หัวใจของเขาคำรามอย่างบ้าคลั่งเพราะเขาได้รับความอัปยศทุกชนิดเป็นเวลาสี่ปี ในที่สุดเขาก็ควบแน่นพลังลมปราณของเขาเองและกลายเป็นนักรบที่แท้จริง นั่นทำให้เขาต้องการกรีดร้องออกมาดัง ๆ
เขาคือ เจียง วู่เฉิง ด้วยดาบในมือเขาจะไม่มีใครเทียบเขาได้
หลังจากชำระล้างร่างกายเสร็จ วู่เฉิง ก็ออกไปข้างนอกทันที
เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะบอกเมิ่งเอ๋อว่าตัวเขาเป็นนักรบ เขาต้องการให้เธอประหลาดใจ
เมิ่งเอ๋อ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะกลายเป็นนักรบ ไม่ใช่แค่นั้น แต่ในอนาคต ข้าจะต้องแข็งแกร่งเหมือนบิดาข้า ข้าจะกลายเป็นนักรบชั้นนำในตำหนักขุนพลดาบ ด้วยดาบสะบั้นชีพในมือและด้วยความรับผิดชอบของศาลาดาบ!
เขาไม่ได้ยินข่าวคราวของพ่อเขามาสี่ปีแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจว่าจะแข็งแกร่งพอที่จะประสบความสำเร็จแบบพ่อและดูแลศาลาดาบ นี่คือความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเขา
แต่ก่อนเขาไม่สามารถรวบรวมลมปราณได้ดังนั้นจึงห่างไกลจากความฝันนี้ แต่ตอนนี้เขาสามารถทำมันได้แล้ว
"เคยได้ยินหรือไม่ ตอนนี้เจียง หลานผู้อาวุโสใหญ่แห่งหอยุทธ์แดงได้รวมตัวกันเพื่อนเรียกร้องให้ตำหนักเสนอชื่อ เจียง เมิ่งเอ๋อ เข้าดูแลศาลาดาบ ในฐานะเจ้าตำหนักศาลาดาบ”