DBWG ตอนที่ 16 เก้าดัชนีปีศาจวายุ
"เจ้า......เจ้ากลับมาที่นี่จริง ๆ ?"
หลงเฉินยิ้มไม่แยแสอยู่ใกล้กับเวทีและกล่าวเยาะเย้ยว่า "ก่อนหน้านี้ เจ้าไม่ได้กล่าวว่าเจ้าอยากได้รับตราประทับมังกรหรอกหรือ? แต่ในท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่ได้คือ จบลงด้วยความรู้สึกเศร้าโศก สภาพของเจ้าในตอนนี้ โอ้ ดี ให้ข้าได้ต่อสู้ต่อจากเจ้าเเล้วกัน"
หยางหลิงฉิงไม่ได้คาดหวังว่าหลงเฉินจะมาจริงๆ ดังนั้นในขณะนี้สมองของนางกลายเป็นมึนงง คนคนนี้มีเต็มไปด้วยความคิดที่ยากจะหยั่งถึง ไม่ยอมให้นางคืนสติ แต่เมื่อคิดถึงการตายของพี่ชายที่เกิดจากเขาในทางอ้อม ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและพูดกล่าวอย่างรุนแรงว่า "เจ้าคนทรยศ! คืนชีวิตพี่ชายข้ามาซะ!"
ด้วยเสียงตะโกนนี้มันดึงดูดความสนใจของทุกคนที่กำลังเมินเฉ
ทั้งเวทีเต็มไปด้วยความวุ่นวาย หลงเฉินเงยหน้าขึ้นและในขณะที่สายตาของเขาจ้องมองคนจำนวนมากเขาก็ยิ้มให้กับพวกเขา ภายใต้ความกดดันมากมายเขาก็ยืดหลังตรงและเดินขึ้นไปบนเวที
ผู้นำตระกูลหยางในตอนนี้กำลังจะมอบทักษะ [ตราประทับมังกร] ให้กับหยางหลิงเยว่!
เมื่อมองไปที่หลงเฉิน ผู้คนที่กำลังเฝ้าดูฉากนี้ก็ทำให้ม่านตาของพวกเขาหดตัว และมีไม่กี่คนของใบหน้าเหล่านั้นที่ไม่ได้มีเจตนาที่ดี ท่ามกลางพวกเขามีสายตาหนึ่งที่จ้องมองมาอย่างดุร้ายซึ่งก็คือหยางเสวี่ยฉิง ขณะที่นางกำลังจะลุกขึ้นยืน ไป่จ้านซ่งทันใหดนั้นก็จับนางไว้และกล่าวอย่างอ่อนโยน "น้องสาวฉิง คนผู้นี้มีความกล้าหาญอย่างแท้จริง ข้าอยากเห็นว่าเขาสามารถสร้างความอับอายแบบใดที่นี่ ถ้าเจ้าเผลอไปยุ่งกับเขามันจะเป็นปากเสียงของคนอื่นที่อาจนินทาเจ้าได้"
แล้วหยางเสวี่ยฉิงก็นั่งลง อย่างไรก็นางยังจับจ้องไปที่หลงเฉินด้วยแววตาไม่ใส่ใจ
หลงเฉิน ทันใดนั้นก็มองไปที่นาง และหยางเสวี่ยฉิงก็ตื่นตระหนก เนื่องจากสายตาที่จับจ้องมาราวกับมีศรน้ำแข็งสะกดภายในสายตาของเขาและมันทำให้นางสูญเสียท่าทางของนาง
"เขา...เขากลับเเข็งเเกร่งเพิ่มขึ้นอีกเเล้ว...... "
หยางเสวี่ยฉิงประหลาดใจอย่างลับๆ
หลงเฉินหรี่ตามองหางเสวี่ยฉิงเล็กน้อย แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ข้างหน้าคนหลายร้อยคน แต่ท่าทางของเขามั่นคงและไม่แยแสใครเเม้เเต่จะเป็นตัวตนระดับอาวุโสหรือคนทั้งหมดของ ตระกูลหยาง!
ผู้ก่อตั้งตระกูลหยางก็สับสนด้วยคนที่อยู่ข้างหน้าเขา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้การกระทำของ หลงเฉินกล้าหาญอย่างแท้จริงที่เขาไม่ได้แสดงอาการขี้ขลาด การกระทำของเขาดูเป็นธรรมชาติ
แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่เขาก็ชื่นชมหลงเฉินอย่างเงียบๆ เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ตระกูลหยางสำหรับหลงเฉินเป็นภูผาแห่งกริชและทะเลแห่งไฟ
"สามารถยืนอยู่ได้โดยไม่คำนึงถึงชีวิตหรือความตาย ไม่ยอมแพ้หรือหยิ่งยโส เจ้าเป็นคนโง่หรือเป็นคนที่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากันเเน่"
นี่คือมุมมองที่ผู้ก่อตั้งตระกูลหยางคิดเมื่อเขาเห็นหลงเฉิน ในความเป็นจริงเขากำลังคาดการณ์ว่าเพื่อนตัวน้อยคนนี้จะสร้างสถานการณ์แบบใด
เมื่อมาถึงจุดนี้ทุกคนก็จ้องไปที่หลงเฉิน ครึ่งหนึ่งของพวกเขายังคงไว้ซึ่งการเหยียดหยามภายในสายตา นอกจากผู้ก่อตั้งตระกูลหยางที่มีความคิดเห็นแตกต่าง คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าสมองของหลงเฉินคงเสียสติไปเเล้ว
ภายใต้การจ้องมอง สายตาหลงเฉินไม่ทั้งประจบประแจงและดื้อรั้นมองไปที่ผู้ก่อตั้งตระกูลหยาง หลงเฉินค่อยๆคุกเข่าลงกับพื้นและพูดอย่างชัดเจนว่า"หลานชายขอคารวะท่านปู่ การประลองยุทธ์ในตระกูลวันนี้ข้าได้แสดงตนล่าช้า ตามกฏเเล้วข้ามีสิทธิ์ได้เข้าร่วมการประลอง เเต่....."
เขาเงยศีรษะ มองแบบคาใจไปที่หยางหลิงเยว่ที่ยังคงตื่นตระหนกและกล่าวว่า "หลานชายของท่าน ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลหยางก็มีโอกาสได้รับ [ตราประทับมังกร] ข้าขอร้องท่านปู่อย่างจริงจัง อนุญาตให้ข้าได้ต่อสู้กับพี่สาวหยางหลิงเยว่ ในการประลองครั้งสุดท้าย!"
หลงเฉินมีความต้องการได้รับทักษะ [ตราประทับมังกร] ในใจของเขาและทุกคนก็รู้เรื่องนี้ แต่จริงๆแล้วเขาได้ประกาศความตั้งใจของเขาต่อหน้าตระกูลหยางซึ่งทำให้หลาย ๆ คนเคารพความกล้าหาญของเขา แต่หลังจากคิดถึงความแตกต่างระหว่างพลังของเขากับหยางหลิงเยว่ พวกเขาทั้งหมดก็ส่ายศีรษะอย่างต่อเนื่อง
"ช่างเพ้อฝันเสียจริง" หยางเสวี่ยฉิงยิ้มแย้มแจ่มใส
กลุ่มคนส่วนใหญ่คิดเช่นเดียวกัน
เมื่อมองไปที่ชายหนุ่มคนนี้ผู้ซึ่งไม่ยอมแพ้และหยิ่งยโส ความสนใจของผู้ก่อตั้งตระกูลหยางก็เติบโตขึ้นอย่างช้าๆและเขาพูดอย่างอ่อนโยนว่า "เฉินเอ๋อร์ตระกูลมีกฎของตัวเอง เมื่อเจ้ามาช้า เจ้าจึงสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าร่วมโดยธรรมดา นอกจากนี้ผู้ชนะครั้งนี้เกิดจากการผ่านการต่อสู้ตามกฏของตระกูล ดังนั้นโดยการก้าวออกมาเช่นนี้และอยากเป็นผู้ชนะ จึงแน่นอนว่าเป็นการไม่เคารพกฏ"
หลงเฉินเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยตรง เพราะฉะนั้นเขาก็รู้ว่ายังมีโอกาสอยู่ ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างชัดเจนว่า "ถ้าท่านปู่รู้ว่าข้าไม่ได้เข้าสู่การประลองในรอบก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปแล้วท่านสามารถจัดการต่อสู้ให้แก่ข้าได้ทักษะ [ตราประทับมังกร]ควรจะมอบให้กับรุ่นเยาว์ในตระกูลที่โดดเด่นที่สุดพี่สาวหยางหลิงเยว่และข้ายังไม่ได้ต่อสู้กันเช่นนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่านางดีกว่าข้า?"
ไม่นานหลังจากที่เขามองไปที่หยางหลิงเยว่ ชั่วขณะนั้นหยางหลิงเยว่รู้สึกว่าได้ถูกบดบังโดยหลงเฉิน เช่นนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะโกรธมาก เมื่อเพิ่มเรื่องการตายของ หยางจ้าน หยางหลิงเยว่ ณ จุดนี้นางอยากจะฆ่าหลงเฉินให้ตาย
หลงเฉินมองไปที่นางและกล่าว "ข้าไม่รู้ว่าพี่สาวหยางหลิงเยว่ยังจำได้หรือไหม เรื่องการเดิมพันของเรา ถ้า พี่สาวหยางหลิงเยว่ต้องการยอมแพ้แล้วล่ะก็...... "
"พอ!"
ใบหน้าของหยางหลิงเยว่เปลี่ยนเป็นเย็นชา นางมองไปที่ผู้ก่อตั้งตระกูลหยางและกล่าวว่า "ท่านปู่ วันนี้ข้าต้องการให้มีการแข่งขันของข้ากับเด็กคนนี้เพื่อป้องกันเขาจากการสร้างความอับอายแก่เราทุกคนและเพื่อป้องกันไม่ให้ใครกล่าวว่าข้าไม่คู่ควรกับผู้ชนะในครั้งนี้สิ่งที่ข้าเกลียดมากที่สุดในชีวิตนี้คือบุคคลประเภทที่หน้าด้านไร้ยางอายและไม่สำนึกวันนี้ข้าจะสอนบทเรียนที่ถูกต้องให้กับเขา! "
หยางหลิงเยว่ยืนยันด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ก่อตั้งตระกูลหยางแย้มรอยยิ้มอย่างลึกลับและกล่าว"เมื่อเจ้าทั้งสองคนได้ร้องขอเรื่องนี้แล้ว คนชราเช่นข้าได้แต่ปฏิบัติตามเท่านั้น แต่การต่อสู้จะหยุดลงเมื่อมีคนบาดเจ็บ หรือไม่สามารถต่อสู้ต่อได้ ดังนั้นเจ้าทั้งสองคนจะดีกว่าถ้ารู้จักควบคุมตนเอง ถ้าเจ้าทั้งสองกำลังจะสร้างความอับอายให้ตระกูลหยาง พวกเจ้าทั้งสองหยุดคิดเรื่องที่จะได้รับ ทักษะ ตราประทับมังกรไปได้เลย"
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการกดดันหยางหลิงเยว่ หลงเฉินก็แอบยินดีภายใน จากนั้นเขาก็รีบกล่าวว่า "ขอบคุณท่านปู่ เห็นเเก่พี่สาวหลิงเยว่ที่เป็นสตรีข้าจะออมมือไว้บ้าง"
"เจ้า!" หยางหลิงเยว่เต็มไปด้วยความโกรธ
นอกเวทีหยางหลิงฉิงมองที่ฉากนี้ นางจ้องมองด้วยความสับสน หลงเฉินทำให้พี่ชายของนางเสียชีวิตและบิดาของนางไม่สามารถรอที่จะสับเขาเป็น ชิ้น ๆได้ ก่อนหน้านี้นางเป็นเพื่อนกับหลงเฉินเพียงเพราะรู้สึกเคารพเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของเขาเพียงเท่านั้น
"โอ้ ดี เรื่องเกี่ยวกับพี่ชายของข้า ข้าสามารถจัดการกับมันได้ในภายหลัง ตอนนี้คนผู้นี้กำลังเดินเข้ากองไฟ ถ้าเขาไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้ววันนี้เขาจะต้องตายอย่างน่ากลัว... ครึ่งเดือนก่อนเขาอยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 ซึ่งพลังของเขายังมีช่วงของเขตที่เเตกต่างกันถึง 3 ระดับของขอบเขตชีพจรมังกร แล้วเขาจะไม่เป็นเยี่ยงข้าหรือ? ต่อสู้กับพี่สาวหลิงเยว่? เเม้เเต่ข้าก็ไม่สามารถรับมือพี่สาวหลิงเยว่ได้หลายกระบวนท่า? "
หยางฉิงซวนและหยางอู่เองก็กำลังคุยกัน
ในขณะที่มองไปที่หลงเฉินและกล่าวว่า "คนผู้นี้อย่างมากก็อยู่เพียงขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4 เขาเพียงแค่เรียนรู้ทักษะการเสริมสร้างร่างกายได้ และเขาเสียสติไปแล้ว เขาเป็นเพียงกบในก้นบ่ออย่างเเท้จริง"
หยางฉิงซวนยังพยักหน้าและกล่าวว่า "แท้จริงแล้วความแตกต่างสองระดับ ไม่สามารถแทนได้เพียงการเรียนรู้ทักษะการเสริมสร้างร่างกายเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามด้วยความกล้าหาญที่จะยืนอยู่ตรงหน้าพวกเรา พิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีความกล้าหาญอย่างแท้จริง "
หยางอู่หัวเราะเบา ๆ และกล่าว"มีแต่กล้ามเนื้อแต่ไร้สมอง เขาจะเป็นได้แค่เพียงตัวตลกเท่านั้น"
หยางฉิงซวนยิ้มบางๆ ไม่ได้ยอมรับหรือปฎิเสธ
และเมื่อถึงตอนนี้ผู้ก่อตั้งตระกูลหยางก็กลับไปที่ที่นั่งของเขา และประชุมกับแขกผู้เยือนชั่วครู่ ชั่วอึดใจต่อมาการต่อสู้ของหลงเฉินกับหยางหลิงเยว่กำลังจะเริ่มต้น
"ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 6...."
"ดูเหมือนข้าคงต้องทุ่มกำลังในการจัดการเจ้าให้เจ้ารู้สึกอับอายมั้งกระมั้ง?"
หลังจากที่หลงเฉินได้กล่าว หยางหลิงเยว่หัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าว" ฝันไปเถอะ เจ้าคงจำได้ดีว่าเจ้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนรับใช้ของตระกูลหยาง เพียงเพราะเจ้ามีความสามารถไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะไม่รู้ว่าเจ้าควรยืนอยู่ที่ไหน"
หลงเฉินไม่ได้โต้ตอบกับนาง
ร่องรอยของแสงดาวจางๆกระจายออกมาจากผิวกายของเขา สายตาของเขาเปลี่ยนไปราวกับอุกกาบาตพร่างพราวทั้งสองชั่วขณะ หยางหลิงเยว่หลังจากที่ดวงตาพร่ามัวโดยแสงเจิดจ้า ถูกทำให้มึนงงไปชั่วขณะ
"ความสามารถเพียงเล็กน้อย! ข้าได้ยินมาว่าเจ้ารู้จักทักษะ หมัดดาวตก ซึ่งยอดเยี่ยมมากตั้งแต่ที่ข้ายังมีอีกสองทักษะ วันนี้ข้าจะช่วยให้เจ้าได้สัมผัสกับหมัดดาวตกที่แท้จริง! "
หยางหลิงเยว่ร้องออกมาและความสามารถของนางในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 6 ระเบิดออกมาจากร่างกายของนาง ร่างกายของนางราวกับพายุทอร์นาโด ในขณะนี้กำปั้นของนางได้รวบรวมแสงดาวเจิดจ้าและภาพของกำปั้นที่จางหายไปซึ่งส่งไปที่หลงเฉิน!
เกี่ยวกับหมัดดาวตก หลงเฉินได้ใช้มันอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบแล้ว อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่ขาดไม่ได้เกี่ยวกับตัวเขาคือความจริงที่ว่าเขามีปราณฉีด้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาสองระดับ ความแตกต่างในปราณฉีของเขาอาจกล่าวได้ว่าน้อยกว่าของนางอย่างน้อย 20 เท่า!
"ในเรื่องของหมัดดาวตก เจ้า หลิงเยว่ ไม่แม้แต่จะมีความสามารถในการถือรองเท้าข้า!"
หลงเฉินเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หมัดดาวตกของหยางหลิงเยว่ประชิดตัวเขา ดวงตาของเขาสาดประกายพร้อมด้วยคำตำหนิที่ชั่วร้ายและเสียงตะโกน เขากระแทกตัวบนเวทีแล้วบินไปทางฝ่ายตรงข้ามเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ ทันใดนั้นเขาก็โยนหมัดที่ปกคลุมด้วยแสงดาวสว่างไสวซึ่งปะทะกับกำปั้นของหยางหลิงเยว่!
"เป็นคนที่ดี ด้วยปราณฉีของเขาในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 เขาสามารถใช้หมัดดาวตกได้ถึงระดับดังกล่าว เมื่อเทียบกับฉิงเอ๋อร์เขาทำได้ดีกว่า!"
มองไปที่เวที ผู้ก่อตั้งตระกูลอย่างกำลังจับจ้องอย่างเคร่งขรึม
คนที่คุ้นเคยกับหมัดดาวตกต่างรู้สึกประหลาดใจและพวกเขาก็ยกย่องชมเชยอย่างเงียบ ๆ ในใจ แม้กระทั่งหยางเสวี่ยฉิงก็ตกใจและคิดกับตัวเองว่า "เมื่อก่อนข้าได้ยินมาว่าเขาใช้หมัดดาวตกเพื่อเอาชนะหยางจ้าน ข้าไม่อยากเชื่อเลย แต่ตอนนี้ขณะมองไปที่กำปั้นนี้ดูเหมือนว่าความเข้าใจต่อหมัดดาวตกของเขา ไม่แตกต่างจากความเข้าใจของข้า ... "
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตื่นตกใจ นางสังเกตเห็นว่าหลงเฉินกำลังถอยกลับภายใต้การโจมตีขอหยางหลิงเยว่และกำลังจะได้รับบาดเจ็บภายใต้หมัดดาวตก หยางเวี่ยฉิงหัวเราะอย่างเย็นชา
"เขาอาจจะมีพรสวรรค์เพียงเล็กน้อยในความสามารถการทำความเข้าใจ ถ้าปราณฉีไม่เพียงพอก็ไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ที่กำลังจเกิดขึ้นได้หรอก!"
หลงเฉินมีความสามารถในการเข้าใจหมัดดาวตกมากกว่าฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก
"ปราณฉีนางมีมากกว่าข้าถึง 20 เท่า แต่ถ้านางต้องการจะจัดการข้าง่าย ๆ คงเป็นเพียงความฝัน!"
ก่อนหน้านี้มือขวาของเขารวบรวมแสงดาวซึ่งทำให้ฝูงชนตกใจ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรหยางหลิงเยว่ได้ อย่างไรก็ตามในขณะนี้หลงเฉินโห่ร้องเสียงดังและสิ่งที่ตามมาหลังจากกำปั้นขวาของเขาคือกำปั้นซ้ายของเขามาด้วยหมัดดาวตก!
ปัง!
เสียงระเบิดดัง กำปั้นที่คาดไม่ถึงของหลงเฉินได้ต้านทานหยางหลิงเยว่ไว้อย่างสมบูรณ์และยังสามารถกดดันการก้าวเท้าของนางให้ถอยกลับไปได้!
อย่างไรก็ตามกำปั้นทั้งสองด้วยทักษะหมัดดาวตกอย่างอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชมตกใจมาก "เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ เขาสามารถใช้หมัดดาวตกได้ดังกล่าวในขณะที่อยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4! มันวิเศษมาก!"
หยางฉิงซวนและคนอื่น ๆ ก็ตกใจอย่างลับๆ ก่อนหน้านี้หลงเฉินไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา แต่ในตอนนี้การแสดงออกของหยางอู่เห็นได้ชัด เขากลืนน้ำลายไปหลายอึกและกล่าว "ท่านพ่อ ...... คนผู้นี้มีอายุเพียงสิบหกปี? ถ้าเขาไม่ได้มีปัญหากับหยางจ้าน ข้าเกรงว่าในอนาคตตระกูลของเรามีโอกาสที่จะไล่ตามตระกูลไป่ได้ทัน...."
การโจมตีด้วยทักษะหมัดดาวตกถึงสองครั้งนี้ ทำให้หลงเฉินเสียสูญเสียเวลากว่าจะสามารถใช้การมันได้
การโจมตีทั้งสองกำปั้นด้วยหมัดดาวตกของเขาในที่สุดก็ทำลายหมัดดาวตกของหยางหลิงเยว่ เมื่อถึงจุดนี้เลือดของหลงเฉินยังคงเดือดพล่านอย่างรุนแรงและหยางหลิงเยว่ตกใจจนโกรธจ้องเขม็งไปที่เขา
"หยางหลิงเยว่ไม่ใช่ตัวตนที่จะจัดการโดยง่ายในตอนนี้ หลังจากใช้การโจมตี ด้วยหมัดดาวตกสองครั้ง ปราณฉีของข้าลดลงไปกว่าครึ่ง เเม้ความเข้าใจในทักษะของข้าจะดีกว่านาง แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าต้องเเพ้นางเเน่ เเละเมื่อถึงตอนนั้น ท่านปู่อาจจะไม่ปกป้องข้าและจากนั้นหยางหยุนเทียนแน่นอนว่ามันจะต้องฆ่าข้า!"
เมื่อคิดว่าเขาไม่สามารถถอยได้อีกต่อไป ดวงตาของหลงเฉินสาดประกายอย่างรุนแรง หยางหลิงเยว่ที่กำลังมองมารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่นางกัดฟันและพุ่งเข้าหาหลงเฉินอีกครั้ง!
"หากชนะก็รอด หากพ่ายก็ตาย เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะกลายเป็นตัวตลกที่ถูกกล่าวขานโดยคนอื่น ดังนั้นข้าจะต้องชนะและข้าจะไม่ยอมสูญเสียสิ่งที่ข้าพยายามจนถึงวันนี้!"
คิดแบบนี้ หลงเฉินยิ้มอย่างบ้าคลั่ง หยางหลิงเยว่เห็นสภาพที่บ้าคลั่งของเขา ก็หวาดกลัวภายในใจและใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดที่นางได้ฝึกฝนมา!
"ตราประทับมังกรไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเจ้าควรจะได้รับ! เก้าดัชนีปีศาจวายุ! "
"ดัชนีที่หนึ่งจิ้ม!"
"ดัชนีที่สองทะลุ!
"ดัชนีที่สามทะลวง!"
"นิ้วดัชนีที่สี่ทำลาย!"
หยางหลิวเยว่ อาศัยทักษะเก้าดัชนีปีศาจวายุ แต่ละขั้นพุ่งไปยังหลงเฉินอย่างรวดเร็ว ทุกคนรู้ดีว่าหลงเฉินนอกเหนือจากหมดดาวตกแล้วไม่มีทักษะอะไรเหลืออีก หยางหลิงเยว่หลังจากใช้เก้าดัชนีปีศาจวายุไม่ต้องสงสัยว่าคนอื่น ๆ เชื่อว่า หลงเฉิน จะต้องพ่ายเเพ้อย่างเเน่นอน
ด้านนอกเวทีหัวใจของหยางหลิงฉิงรู้สึกระวนกระวายมาก
"เก้าดัชนีปีศาจวายุของหลิงเยว่ไม่ใช่การโจมตีปกติ ถ้าเขาล่าถอยเขาก็ไม่มีความหวังอีกต่อไป และถ้าเขาแพ้...... "
ทุกคนในปัจจุบันอยากรู้มากกว่าหลงเฉินว่าจะจัดการกับเก้าดัชนีปีศาจวายุอย่างไร แต่ในขณะนี้หลงเฉินกลับไม่ถอยกลับ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจมากที่สุดคือความจริงที่ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆเลย!
"เขากำลังแสวงหาความตายอยู่รึไม่?"
"สวรรค์ หรือเขาคิดที่จะฆ่าตัวตาย!"