ตอนที่ 203 รวมเมล็ดก่อเกิดเก้าเมล็ด
วิธีที่สองเขาจะต้องเริ่มด้วยการทำลายมันและสร้างขึ้นมาใหม่
เขาต้องทำลายเมล็ดก่อเกิดเก้าเมล็ดก่อนเป็นอันดับแรกและสร้างเมล็ดก่อเกิดขนาดมหึมาขึ้นมาเมล็ดเดียว นี่จะสอดคล้องกับวิธีแห่งเต๋าของโลกและเขาไม่อาจประมาทได้เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากกว่าที่คิด
เมล็ดก่อเกิดเก้าเมล็ดเป็นแหล่งพลังงานของเขา ถ้าเขาทำลายพวกมันในครั้งเดียวแบบนั้นพลังที่ถูกสร้างขึ้นจากการทำลายพวกมันในครั้งเดียวมันเพียงพอที่จะฆ่าเขาได้ 1000 ครั้ง หรือ 10000 ครั้ง
แต่เหตุผลที่ทำให้หลิงฮันกล้าทำแบบนั้นเพราะในตันเถียนของเขายังมีหอคอยทมิฬอยู่
หอคอยทมิฬนี่ทำลายร่างกายของเขาในชีวิตที่แล้วเพื่อให้เขาบ่มเพาะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ และทำให้เขามาเกิดใหม่ ตอนนี้เขาตั้งใจจะทำลายเมล็ดก่อเกิดของตัวเอง แล้วหอคอยทมิฬจะเข้ามาแทรกแซงหรือไม่?
เจ้าจะต้องเข้ามาแทรงแซงถูกไหม? แล้วทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
หลิงฮันเป็นคนที่ไร้ยางอายเล็กน้อย แต่มันไม่มีวิธีอื่นนอกแล้ว นี่จะเป็นความพยายามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะบรรลุระดับรวมธาตุขั้นสิบ และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวิธีที่ถูกต้องคืออะไรเพื่อที่จะบรรลุมัน ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงพึ่งหอคอยทมิฬ มิฉะนั้นจะมีเพียงโอกาสหนึ่งในล้านที่เขาจะประสบความสำเร็จ แล้วเขาจะกล้าเสี่ยงได้อย่างไร?
เอาล่ะ!
หลิงฮันควบคุมเมล็ดก่อเกิดในตันเถียน และเริ่มต้นกระบวนการทำลายมัน
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำแบบนั้น เพราะเมล็ดก่อเกิดเมล็ดใหญ่ทุกเม็ดจะมีเมล็ดก่อเกิดเมล็ดเล็กอยู่ห้าเมล็ดซึ่งมีการจัดเรียงที่แตกต่างกันและเมล็ดก่อเกิดเมล็ดเล็กพวกนั้นจะสร้างความสมดุลระหว่างพวกมันได้อย่างลงตัว เขาเพียงแค่ต้องทำลายความสมดุลนี่ทิ้งและธาตุทั้งห้าก็จะเสียการควบคุมและเมล็ดก่อเกิดก็จะทำลายตัวเอง
ไม่ใช่ทีละเมล็ด แต่ทั้งหมดในคราวเดียว!
การทำลายมักง่ายกว่าการสร้าง ภายในเสี้ยววินาที เมล็ดก่อเกิดทุกเมล็ดเริ่มสั่นสะเทือน ธาตุทั้งห้าเริ่มสูญเสียความสมดุลและห้ำหั่นกัน และมันกำลังจะพังทลายลง
ปัง ปัง ปัง เมล็ดก่อเกิดห้าเมล็ดถูกทำลายในครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม แรงระเบิดของพวกมันไม่ได้ปะทุออกมาถึงข้างนอก กลับกัน การระเบิดของพวกมันถูกรวมไว้อยู่ที่ภายใน ราวกับว่าพวกมันกำลังจะสร้างหลุมดำขึ้นมา จากโครงสร้างขนาดใหญ่ของพวกมัน หดตัวเป็นวงกลมลูกเล็กๆ
ดวงวิญญาณของหลิงฮันและหัวใจของเขาสั่นไหว แล้วรูปสึกได้ถึงการปรากฏขึ้นของพลังภายนอก
หอคอยทมิฬ!
จิตสำนึกของหลิงฮันตรวจสอบทั่วตันเถียนของเขาและเห็นหอคอยทมิฬกำลังเปล่งแสงอันเรือนรางออกมา มันมีตัวอักษรอยู่บนหอคอยทมิฬ แต่หลิงฮันไม่รู้จักมันแม้แต่ตัวอักษรเดียว ซึ่งมันเป็นเหมือนกับครั้งแรกที่เขาได้พบกับคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 10000 ปีเพื่อทำความเข้าใจมัน
ไม่ ไม่ ไม่ 10000 ปีเพียงพอที่จะเข้าใจมันแค่ส่วนแรกเท่านั้น
มิฉะนั้น...ตันเถียน
รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลิงฮัน เขาชนะการเดิมพัน หอคอยทมิฬมีการเคลื่อนไหว!
ก่อนหน้านี้เขาพยายามทำอะไรหลายๆอย่าง แต่หอคอยทมิฬก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร นั่นเป็นเพราะความพยายามนั้นมันไม่ได้ทำให้ชีวิตของหลิงฮันตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นหอคอยทมิฬจึงไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย
จากนั้นหลิงฮันหยุดความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวและเริ่มรวบเมล็ดก่อเกิดเข้าด้วยกัน ดินกับดิน ไฟกับไฟ และอื่นๆ ท้ายที่สุด เมล็ดก่อเกิดทั้งสี่สิบห้าเมล็ดก่อรูปร่างใหม่กลายเป็นเมล็ดก่อเกิดธาตุเมล็ดใหญ่ห้าเมล็ด แม้มันจะดูเหมือนว่ามันยังมีขนาดที่เล็กมาก แต่มันอัดแน่นไปด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวอยู่ภายใน
ความคิดของหลิงฮันแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็วและทันใดนั้นเขาได้เกิดความคิดที่แปลกประหลาดขึ้นมา เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาสามารถหลอมรวมเมล็ดก่อเกิดธาตุทั้งห้าที่แตกต่างกันเพื่อที่จะกลายเป็นหนึ่งได้และมีเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้นในตันเถียนของเขา?
อีกครั้ง!
เขาเริ่ม
แต่ระดับความยากที่จะทำเช่นนั้นสูงมาก นั่นเป็นเพราะเมล็ดก่อเกิดแต่ละเมล็ดถูกสร้างขึ้นจากเมล็ดก่อเกิดขนาดเล็กเก้าเมล็ด และมันเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัวอยู่แล้วในตอนแรก ยิ่งไปกว่านั้น ธาตุทั้งห้ายังหลุดออกเป็นอิสระ ตอนแรก ธาตุน้ำและไฟนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แล้วเขาจะสามารถรวมพวกมันเข้าด้วยกันได้อย่างไร?
หลิงฮันหยุดและเริ่มไตร่ตรอง
ในโลกใบนี้ธาตุแต่ละธาตุเป็นอิสระจากกันและกัน แน่นอนว่าหากใครพยายามที่จะจับพวกมันรวมกันย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ธาตุทั้งห้าต่างแสดงอำนาจของตัวเองออกมาและสะกดข่มธาตุอื่น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวมธาตุทั้งห้าหลอมรวมเข้าด้วยกัน ดั่งคำพูด เต๋าก่อให้เกิดหนึ่ง จากหนึ่งสองก็เกิดขึ้น จากสองสามก็เกิดขึ้น และจากสามก่อให้เกิดทุกสรรพสิ่ง และทุกสิ่งทุกอย่างสามารถกลับกลายเป็นหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม โลกจะไม่อนุญาตให้มนุษย์ได้รับพลังแห่งเต๋า
เขากล้าที่จะทำลายเมล็ดก่อเกิดเก้าเมล็ดและผสานพวกมันกลายเป็นหนึ่งอีกครั้ง แต่มันยังไม่ใช่วิถีแห่งเต๋าที่แท้จริง
นี่ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของเขาในเรื่องเต๋าแห่งศาสตร์วรยุทธจากชีวิตที่แล้วของเขาในฐานะจอมยุทธระดับสวรรค์ มิฉะนั้น ใครจะกล้าลองทำอะไรแบบนี้?
ธาตุทั้งห้ายับยั้งซึ่งกันและกัน และวิวัฒนาการไปสู่ทุกสรรพสิ่ง เช่นนั้น ถ้าเขาต้องการให้พวกมันกลับมาเป็นหนึ่ง เขาก็จะย้อนรอยเดิมของมัน
ดวงตาของหลิงฮันเปล่งประกายขึ้นอย่างช้าๆ เขารู้แล้วว่าต้องทำอะไร
เขาต้องปล่อยให้เมล็ดก่อเกิดธาตุทั้งห้ากลืนกินอีกธาตุทีละธาตุ จนกระทั่งพวกมันกลายเป็น "หนึ่ง"
นี่เป็นเรื่องที่พูดออกมาง่าย แต่เมื่อเขาลองทำดู เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเมล็ดก่อเกิดธาตุทั้งห้าจะอยู่ในจุดที่สมดุลกันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อพวกมันกลืนกินกันและกัน มิฉะนั้น ตราบใดที่มีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ชีวิตของเขาจะไม่เหลืออะไรเลย
เขาต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น เขาไม่อาจล้มเหลวได้!
มันเป้นเรื่องที่ท้าทายมาก แต่เขารู้สึกชอบมัน
ธาตุทั้งห้ายับยั้งซึ่งกันและกัน ทองยับยั้งไม้ ไม้ยับยั้งดิน ดินยับยั้งน้ำ น้ำยับยั้งไฟ และไฟยับยั้งทอง
ดอกบัวหายนะห้าธาตุผสานดูดซับพลังปราณแล้วไหลผ่านเส้นโลหิตของเขาและรวมกันอยู่ในตันเถียนของเขาในรูปแบบของพลังใหม่ หลิงฮันกระตุ้นเมล็ดก่อเกิดธาตุทั้งห้าและเริ่มขั้นตอนสุดท้าย
เมล็ดก่อเกิดธาตุทองเริ่มกลืนกินเมล็ดก่อเกิดธาตุไม้ และเมล็ดก่อเกิดธาตุไม้เริ่มกลืนกินเมล็ดก่อเกิดธาตุดิน...และในที่สุด เมล็ดก่อเกิดธาตุไฟเริ่มกลืนกินเมล็ดก่อเกิดธาตุทอง
ความรู้สึกของหลิงฮันรู้สึกได้ว่าเมล็ดก่อเกิดห้าเมล็ดกำลังหดตัวลงและเริ่มรวมเข้าด้วยกันอย่างช้าๆจนกระทั่งก่อเมล็ดก่อเกิดเมล็ดใหม่ขึ้น ทอง ไม้ น้ำ ไฟและดิน ธาตุทั้งห้าหลอมรวมกันกลายเป็นหนึ่งอย่างเหนียวแน่น
เขาประสบความสำเร็จแล้ว
หลิงฮันลืมตาตื่นขึ้นมาทันที และรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย เขาไม่มีพลังเหลือแม้แต่จะยืน ราวกับว่าร่างกายของเขาตกอยู่ในจุดที่อ่อนแอที่สุด อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน จิตวิญญาณของเขาอยู่ในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์และนี่เป็นการเปรียบเทียบที่แปลกมาก
หลิงฮันเปิดประตูและเปล่งเสียงออกมา เมื่อคำพูดออกมาจากปากของเขา เขาก็ตระหนักว่าเสียงของเขาต่ำลงและแหบแห้งมาก ทำให้หลิงฮันแทบจะจัดเสียงของตัวเองไม่ได้
"หลิงฮัน!" ตึก ตึก ตึก หูของฮูหนิวดีมากและนางวิ่งเข้ามาจากด้านนอก และเมื่อนางวิ่งเข้าชนหลิงฮัน การชนกันครั้งนี้มันรุนแรงมาก ไม่เบาไปกว่าการระเบิด และหลิงฮันก็ทรุดตัวลงบนพื้นทันทีจากการปะทะ
ฮูหนิวไม่ได้สนใจและซบหลิงฮัง จากนั้นฮูหนิวพูดออกมาว่า "หลิงฮันหมายความว่าไง หมายความว่าไง หมายความว่าไง! ไม่ยอมเล่นกับหนิว!"
"หลิงฮัน ถ้าเจ้าปลีกตัวฝึกฝนอีกสักสองสามวัน ฮูหนิวอาจต้องตาย!" อีกคนกล่าวขณะเดินเข้ามา นางคือหลิ่วอู๋ตง นางส่ายหัวและกล่าวออกมาว่า "เจ้าปิดด่านฝึกตนเกือบทั้งเดือน มันอาจทำให้นางเสียชีวิตด้วยความวิตกกังวล"
หนึ่งเดือน?
หลิงฮันรู้สึกตกใจ เท่าที่เขาใจได้มันเพิ่งผ่านไปแค่สิบวันเท่านั้น หรือว่าการรวมตัวกันของเมล็ดก่อเกิดธาตุทั้งห้าเมล็ดใช้เวลาไปเกือบยี่สิบวัน?
ไม่น่าแปลกว่าทำไมเขาถึงอ่อนแรงขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะเขาไม่ได้กินและดื่มอะไรเลยเป็นเวลาหลายวัน
"เอาผลไม้มาให้ข้าหน่อย ข้าจำเป็นต้องเติมเต็มพลังงานของข้า มิฉะนั้นข้าอาจตายจริงๆ" เขากล่าว
"เจ้าเป็นคนที่แปลกยิ่งนัก เจ้าหนู!" กว่างหยวนได้ยินเสียงของความตื่นตกใจ เขาจึงเดินเข้ามาด้วย เมื่อเขามองไปที่หลิงฮัน มันเหมือนกับว่าเขากำลังจ้องมองสัตว์ประหลาด