ตอนที่แล้วDBWG ตอนที่ 13 เทพธิดาจากสรวงสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDBWG ตอนที่ 15 การประลองภายในตระกูล

DBWG ตอนที่ 14 ทักษะเเก่นเเท้สวรรค์ระดับเชี่ยวชาญ


สี่วันผ่านไปนับจากเวลาที่หลงเฉินได้รับบาดเจ็บจนถึงเวลาที่หลิงซีตื่นขึ้นมา หลงเฉินนึกได้ตระหนักบางอย่างว่าอีกไม่นานการประลองภายในตระกูลก็จะเริ่มขึ้นเเล้ว

 

"ถ้าข้ายังไม่สามารถพัฒนาทักษะแก่นเเท้สวรรค์ให้อยู่ในระดับเชี่ยวชาญ และยังติดอยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4 การเผชิญกับหยางหลิงเยว่ที่อยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 6 ข้าคงพ่ายเเพ้เเก่นาง...... "

 

หลงเฉินขมวดคิ้วและตัดสินใจจะออกไปเมื่อหลิงซีตื่นขึ้นมา

 

หลังจากสี่วันต่อมาหลิงซีก็ตื่นขึ้น

 

เมื่อมองไปที่ความก้าวหน้าอย่างมากในการบ่มเพาะของหลงเฉิน นางได้กล่าวอย่างรวดเร็วว่า "มองไปที่ความจริงที่ว่าเจ้าได้ปรับแต่งโสมเนินเขารัญจวนไปแล้ว ยามนี้ความสามารถในการต่อสู้ที่แท้จริงของเจ้าสามารถจัดการหมาป่าดารามายาได้ นอกจากนี้อีกไม่นานการประลองภายในตระกูลของเจ้าก็จะเริ่มขึ้น พวกเราจะกลับไปที่ถ้ำของมันกัน"

 

หลงเฉินจ้องมองอย่างว่างเปล่าและกล่าวว่า "ทำไมเรายังต้องไปที่นั่นอยู่อีก? ไม่ใช่ว่าสมบัติทั้งหมดเราก็เก็บกวาดมาหมดเเล้ว"

 

"เจ้ายังไม่รู้อะไร สำหรับเจ้า สมบัติที่แท้จริงก็คือตัวสัตว์อสูรเอง" หลิงซีกระซิบกระซาบ

 

"ข้าไม่รู้ว่าเจ้าหมายความว่า สมบัติที่เเท้จริงของข้านางต้องการสื่ออะไรกันเเน่"

ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัย แต่หลงเฉินยังคงเลือกที่จะเชื่อในตัวหลิงซี ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปยังถ้ำของหมาป่าดารามายา

 

"ซีน้อย หมาป่าดารามายาที่เจ้ากล่าวว่ามีประโยชน์กับข้าคือสิ่งใดกัน?"

 

"ขนของหมาป่าดารามายา มันมีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถดูดกลืนแสงดาวได้โดยธรรมชาติ และหลังจากการดูดซับมัน ขนจะผิดแปลกกลายเป็นแข็ง นั่นคือเหตุผลที่มันสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกตนที่เเข็งเเกร่งกว่าตัวเองได้ โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะสามารถจัดการหมาป่าดารามายา เเต่หากเจ้าสามารถจัดการมันได้เจ้าจะได้รับเงินเป็นจำนวนมากจากการขายขนของมัน นอกจากนี้ขนของสัตว์ตัวนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ ทักษะแก่นแท้สวรรค์ของเจ้า! "

 

หลังจากฟังคำอธิบายของหลิงซี หลงเฉินกลับกลายเป็นใบ้ มีสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆมากมายระหว่างสวรรค์กับปฐพี

 

ขณะที่คิดว่าขนของหมาป่าดารามายาจะเป็นประโยชน์ต่อทักษะแก่นแท้สวรรค์ของเขา หลงเฉินรู้ว่ายามนี้เขาได้เสี่ยงเดิมพันไว้ และถ้าเขาชนะ เขาจะตอบแทนความคาดหวังของหลงชิงหลานได้

 

หลงเฉินแต่เดิมคิดว่าที่หลิงซีสนใจเกี่ยวกับหมาดารามายาเพื่อผลประโยชน์ของนางเอง ไม่ใช่เพื่อเขา

 

"แม้ว่าแม่นางคนนี้ออกจะดื้อรั้นไปบ้างแต่ลึกลงไปแล้วนางก็เป็นคนที่ดีจริง ๆ"

 

เพื่อหลิงซี เพื่อหลงชิงหลาน คราวนี้เขาจะได้มาทั้งหมดหรือไม่ได้อะไร และยามนี้ที่เขาได้เข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4 เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นโอกาสที่เขาจะชนะหมาป่าดารามายาได้นั้นไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป

 

"นักรบมังกร ชื่อที่ไม่เคยปรากฏ ไม่มีใครสักคนรู้เกี่ยวกับมัน และสิ่งตกทอดมันคืออะไรกันแน่ คนลึกลับเช่นพ่อของข้ากลับรับรู้เกี่ยวกับมัน...... "

 

ไม่นานพวกเขาก็ปรากฏตัวหน้าถ้ำอีกครั้ง

 

หลิงซีกล่าวอย่างเครียดกล่าวว่า "ร่างกายของ หมาป่าดารามายามีความแข็งแกร่งมาก ไม่ด้อยไปปกว่าเจ้า ดังนั้นหากเจ้าไม่สามารถเอาชนะได้ เจ้าก็เลือกที่จะหนีไปซะ ข้าแค่ต้องการให้เจ้ามีโอกาสสำหรับการพัฒนาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันภายในตระกูล แต่อย่าทิ้งชีวิตของเจ้าไปด้วยเรื่องเเค่นี้"

 

หลงเฉินยิ้มและกล่าว "ไม่ต้องกังวล ข้าเข้าใจความตั้งใจของเจ้า แต่ข้า หลงเฉิน ไม่ใช่คนที่ถูกรังเเกโดยง่าย"

 

วางดาบหลิงซีลงบนพื้น หลงเฉินกล่าวว่า "เจ้าเพียงแค่รอดูว่าข้าจะเหยียบย่ำสัตว์ร้ายตัวน้อยนี้อย่างไร"

 

ความเชื่อมั่นรุนแรงทำให้ หลิงซีสูญเสียท่าทางไปเล็กน้อย

"เจ้าสารเลวนี่"

นางตำหนิเขาในใจ

 

หลงเฉินเดินเข้าไปและเปิดถ้ำ และรวบรวมพลังจากระดับรู้แจ้งทักษะแก่นแท้สวรรค์ออกมา รวมทั้งพลังของขอบพลังเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 4

 

ด้วยการกระทำนี้ หมาป่าดารามายาที่อยู่ภายในถ้ำจะสามารถตรวจจับการปรากฏตัวของหลงเฉินได้อย่างรวดเร็ว

 

การรับรู้ถึงสัตว์อสูรในอาณาเขตโดยรอบของมันสูงมาก และหลงเฉินก็ล่วงล้ำอาณาเขตนั้น เป็นเรื่องปกติที่เขาจะสมควรตายในสายตาของมัน

 

หลังจากออกมาและรู้ตัวว่าบุคคลนั้นเป็นคนที่ขโมยสมบัติมัน หมาป่าดารามายาได้ส่งเสียงคำรามและปราศจากคำอื่นใดก็พุ่งเข้าไปที่หลงเฉิน

 

บนหน้าอกสัตว์อสูรมีร่องรอยของเลือดอยู่บ้าง หลงเฉินรู้ว่าหลิงซีเป็นคนทำแบบนี้ดังนั้นจึงน่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมหลิงซีจึงมั่นใจได้ว่า หลงเฉินจะได้ต่อสู้กับมัน

 

อย่างไรก็ตามความเร็วและความแข็งแกร่งของ หมาป่าดารามายา ยังทำให้ม่านตาของเขาหดตัว

 

เมื่อมองไปที่พลังของหมาป่าดารามายา หลิงซีก็กังวลด้วย กลัวว่านางจะกระทำผิดร้ายแรง

 

"อย่าได้เข้ามายุ่ง เชื่อมั่นในตัวข้า!"

 

เสียงของหลงเฉินดังขึ้นข้างหูของนาง และขณะที่มองไปด้านหน้าเด็กหนุ่มที่ไม่เหมือนใครที่กำลังต่อสู้กับศัตรู หลิงซีได้ตัดสินใจและในตอนท้ายนางไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ

 

"เอาล่ะ ข้าเชื่อในตัวเจ้า"

 

นางให้กำลังใจหลงเฉินอย่างเงียบๆ

 

ขณะนี้หลงเฉินใช้พลังจากทักษะแก่นแท้สวรรค์ระดับรู้แจ้ง การป้องกันของเขาไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเท่านั้น แต่ยังมีแสงดาวสะท้อนซึ่งหมุนวนไปทั่วร่างของเขาเฉกเช่นใบมีดนับไม่ถ้วน ถ้ากลิ่นอายของมันถูกสัมผัสโดยมนุษย์ธรรมดาพวกเขาจะได้รับอันตรายจากความคมชัดของกลิ่นอาย!

 

นอกจากนี้ร่างกายจุดที่เชื่อมต่อกับปราณฉีใหม่ของเขาที่เพิ่มขึ้นหลังจากทะลวงผ่าน ดังนั้นความแข็งแกร่งของหลงเฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่อาจต่อต้านหมาป่าดารามายาได้ แต่ตอนนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับมันได้

 

เสียงระเบิดจากทักษะหมดพยัคฆ์เหี้ยมและหมาป่าดารามายาได้ปะทะกัน แม้ว่ารูปร่างทางกายภาพของหมาป่าดารามายามีขนาดใหญ่มากกว่าหลงเฉิน แต่ทั้งคู่มีพลังที่เท่าเทียมกัน ดังนั้นพวกเขาจึงแยกออกจากกันอีกครั้ง

 

ความน่าสะพรึงกลัวของหมาป่าดารามายาอาจทำให้เเขนของหลงเฉินรู้สึกชาด้านแต่ด้วยทักษะแก่นแท้สวรรค์ของหลงเฉินก็สร้างบาดแผลให้กับมันด้วยเช่นเดียวกัน

 

แขนขาทั้งสี่ข้างของมันเต็มไปด้วยบาดแผลจากความเเหลมคมของทักษะแก่นแท้สวรรค์ ซึ่งทำให้มันโกรธมากขึ้น หมาป่าดารมายาส่งเสียงคำรามและพุ่งเข้าหาหลงเฉินอีกครั้งหนึ่ง กลิ่นอายปีศาจของมันกระจายออกมาแล้วครงไปยังหลงเฉิน

 

"ถึงแม้ว่าขนาดของสัตว์อสูรจะน่ากลัว พลังโจมตีก็ยิ่งน่ากลัวกว่า แต่ความกล้าหาญของข้าใหญ่กว่าร่างกายของเจ้ามากนัก เช่นนั้นข้าจึงไม่กลัวเจ้า!"

 

การโจมตีของหมาป่าดารามายาเป็นสิ่งเลวร้ายเมื่อการโจมตีแต่ละครั้งสร้างผลกระทบร้ายแรง แต่หลงเฉินก็ไม่ควรที่จะถูกมองข้าม ลึกเข้าไปภายในตัวของเขามีบุคลิกที่โหดเหี้ยมเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่เขาปกปิดมานานกว่าสิบปี แต่มันก็เริ่มแสดงให้เห็นในระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้ แม้ว่าหมาป่าดารามายาจะมีกำลังมาก แต่ก็ถอยหลังจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของ หลงเฉิน!

 

ทักษะแก่นแท้สวรรค์ส่งผลให้หลงเฉินมีปฏิกิริยาตอบสนองได้อย่างฉับพลันและความคล่องแคล่วในการต่อสู้ หมาป่าดารามายาโจมตีเฉกเช่นสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการต่อสู้แบบเดียวกันกับสัตว์ร้าย

ราวกับพายุทอร์นาโด ลูกเตะของหลงเฉินได้ส่งมันลอยถอยห่างออกไปหลายสิบฟุต จนส่งเสียงร้องออกมา เขารวบรวมพลังงานไว้ที่ขาของเขาและพุ่งไปข้างหน้ากระแทกใส่หมาป่าดารามายาราวกับอุกกาบาต

 

"หลังจากที่เข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4 แล้ว ข้าสามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงของ หมัดดาวตกได้ ดังนั้นข้าจะให้เจ้าลิ้มรสการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งเจ้าจะไม่สามารถรับมันได้เหมือนก่อนหน้านี้!

 

"หมัดดาวตก, พิฆาตสวรรค์ปฐพี!"

 

ด้วยการระเบิดดังกล่าวมีพลังกำลังมหาศาลและส่งร่างของหมาป่าดารามายาฝังเข้าไปในผนังบนภูเขา ในขณะนั้นจุดที่มันโดนหมัดดาวตกได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มแล้วกำแพงหลังภูเขาก็มีรอยแตกจำนวนมาก!

 

หลังจากร่วงลงสู่พื้นดินร่างของหมาป่าดารามายาก็บาดเจ็บสาหัส

 

ในขณะนี้แววตาของหมาป่าดารามายายังจับจ้องมาด้วยสายตาชั่วร้ายของสัตว์อสูรเช่นหลงเฉิน อย่างไรก็ตามหลังจากถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องแล้วมันก็ไม่มีพลังงานเหลือมากพอที่จะต้านทาน ดังนั้นด้วยการโจมตีครั้งสุดท้ายที่โหดร้ายของหลงเฉินตรงเข้าตรงขากรระไกรล่างของมัน ขากระไกรของมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆและเศษของมันก็เจาะทะลุเข้าไปยังสมองของหมาป่าดารามายา มันทรุดตัวลงบนพื้นพร้อมด้วยเสียงร้องโหยหวน

 

เมื่อมองไปที่ฉากนี้แล้ว หลิงซีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ก่อนหน้านี้เมื่อนางตระหนักว่าหมาป่าดารามายากลับมาแข็งแกร่ง นางรู้สึกกังวลราวกับว่านางกำลังจะตาย นางรู้ดีว่าความสามารถของหลงเฉินมีจำกัดเเค่ไหนครานี้ สามารถเอาชนะหมาป่าดารามายาได้เพียงเพราะวิธีการต่อสู้ของเขาซึ่งโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์อสูร

 

"คนผู้นี้ ......ช่างประหลาดจริงๆ ในการต่อสู้เขาดูน่ากลัวมาก ปกติเขาพูดหยาบคายซึ่งมันไม่น่าฟังเลย แต่เมื่อเขาหัวเราะเขาก็ดูดีไปอักแบบ..... "

 

เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ หลิงซีทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความอบอุ่นขึ้นที่ใจของนาง

 

มาถึงจุดนี้ หลงเฉินได้ลากร่างใหญ่ของหมาป่าดารามายา และเดินตรงไปข้างหลิงซี หลงเฉินถามด้วยความรู้สึกพอใจในตัวเองว่า "สาวน้อย เกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้า? เจ้าหลงเสน่ห์ข้าเนื่องจากเห็นท่าทางอันสง่างามของข้าเเล้วกระมั้ง? "

 

หลิงซีเดิมทีคิดว่าคนผู้นี้ไม่เลว แต่หลังจากได้ยินคำพูดดังกล่าว นางก็กลายเป็นรังเกียจและกล่าวว่า "ฝันไปเถอะ! หญิงสาวเช่นข้าจะไม่ตกหลุมรักคนน่ารังเกียจเช่นเจ้า! "

 

หลงเฉินหัวเราะอย่างเบิกบานใจและเปลี่ยนกลับไปเป็นหัวข้อหลัก หัวเสียและหงุดหงิดมอง หมาป่าดารามายาแล้วกล่าวว่า "นี่ ทำไมเจ้าไม่พูด? รีบบอกพี่ใหญ่ของเจ้ามาว่าจะใช้ขนแบบนี้ได้อย่างไร"

 

หลังจากที่ได้ยินคำถาม หลิงซีรู้สึกตื่นเต้นและทันใดนั้นก็กล่าวว่า "มีวิธีอย่างแน่นอน นั่นคือการดึงขนทั้งหมดออกมากลืนเข้าไปและปรับแต่งมันภายในตันเถียนของเจ้า ด้วยวิธีนี้มันจะประสบความสำเร็จ!"

 

หลงเฉินงงงัน มองไปที่หมาป่าดารามายา ใบหน้าของเขากลายเป็นขมขื่นและพูดติดขัด"เจ้า......เจ้ากำลังบอกให้ข้ากินเศษขนนี้หรือไม่? ข้าแท้จริงแล้วต้องกินขนสัตว์? "

 

"ใช่ กินขนมัน...... "

 

หลงเฉินส่งเสียงร้องจากความรู้สึก XX และล้มลงกับพื้น

 

[TL : ผู้เขียนเขียน XX แต่จากประโยคจะเห็นได้ว่าเขาหมายถึง "ระยำ"]

 

ครึ่งชั่วยามต่อมา

 

หลงเฉินนั่งอยู่บนพื้นและแผ่กระจายแสงดาวจางๆออกมาจากผิวของเขาและค่อยๆเข้มข้นมากขึ้น ดวงตาของเขากลอกไปมา ดวงตาสองข้างของเขาราวกับอุกกาบาตกำลังเปล่งรัศมีของแสงแวววาว

 

สิ่งที่อยู่ข้างหลังเขาคือซากศพของหมาป่าดารามายา ซากศพที่เคยเป็นศัตรูของเขา

 

ฉากนี้อาจเตือนให้ผู้คนนึกถึงคำพูดที่ว่าข่มขืนก่อนและฆ่าในภายหลัง

หลิงซีจ้องมองที่หลงเฉินอย่างลึกซึ้งและยิ้มแย้มแจ่มใส หลังจากนั้นครู่หนึ่งรอยยิ้มของนางก็แช่แข็งอย่างฉับพลัน

 

"จริงๆแล้ว ข้าคิดถึงสิ่งใด เขาเป็นแค่คนที่อ่อนแอที่ถูกทิ้งในพื้นที่รกร้างเช่นนี้ สำหรับข้า...... ข้าไม่สามารถมีความสัมพันธ์ลึกลึกซึ้งกับเขาได้ ถ้าเขาสามารถช่วยฟื้นฟูกายหยาบของข้าได้จริงๆ ข้าจะช่วยเหลือเขาในอนาคต"

 

ในยามนี้หลงเฉินถึงจุดสำคัญในการบ่มเพาะ

"ขนของสุนัขตัวนี้นุ่ม แต่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วมันก็เหมือนกับใบมีดเจาะทะลุที่กำลังทำลายอวัยวะของข้าคลื่นพลังทำลายรุนแรงกำลังโจมตีภายในร่างกายของข้า ช่างอันตรายยิ่งนัก พลังงานนี้ควรจะเป็นพลังงานจากแสงดาว! "

 

ทนแบกรับความเจ็บปวดรุนแรง หลงเฉินได้ใช้ทักษะแก่นแท้สวรรค์ และบ่มเพาะทักษะนี้ด้วยพลังงานอันวุ่นวายของแสงดาวภายในตัวของเขา ภายใต้การใช้ประโยชน์นี้ เป้าหมายคือการรวมพลังอันรุนแรงและทักษะแก่นแท้สวรรค์ของหลงเฉิน มันประสบความสำเร็จและร่างกายของเขาเริ่มค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น

 

คิดถึงสภาพอันน่าสมเพชของเขาเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่านมา ลำไส้ของหลงเฉินรู้สึกบิดเบี้ยวบ่อยครั้ง ภายใต้การยุยงของหลิงซี เขาแท้จริงแล้วกลับกินขนอันน่าขยะแขยงเช่นนี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ในยามนี้มันเป็นเรื่องที่น่าขบขันยิ่งนัก แต่เพื่อความแข็งแกร่งของเขา เขาจำต้องยอมเสียสละ

 

กายหยาบดำรงอยู่ในภาวะแห่งจิตภายใต้พลังอำนาจไร้สิ้นสุดของแสงดาวและเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ถึงจุดวิกฤติ ด้วยเสียงระเบิด แล้วร่างกายของหลงเฉินก็เริ่มเปล่งประกายแสงดาวหมุนวนเวียน ซึ่งจุดนี้แรงมหาศาลถูกส่งออกไปยังทิศทางทั้งสี่!

หลงเฉินลุกขึ้นยืนและรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งอันมหาศาลภายในตัวของเขา เมื่อมองใกล้ๆผิวของเขาจะเห็นร่องรอยของแสงดาวจางๆ ราวกับใบมีดประกายแวววับอยู่ภายใน ดวงตาของเขาเปล่งแสงสว่างสุกสกาวไม่ต่างจากดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้ายามราตรี

 

"ทักษะแก่นแท้สวรรค์ระดับเชี่ยวชาญ แท้จริงแล้วกลับมีความเเข็งเเกร่งมากขนาดนี้?"

 

เขามองไปที่ทิศทางของเมืองไป่เห๋อหยางเเละกล่าวว่า"ตระกูลหยางรอข้าก่อนเถอะข้ากำลังจะกลับไปในอีกไม่ช้า...... "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด