บทที่ 30 หุบเขาสัตว์อสูร!
บทที่ 30 หุบเขาสัตว์อสูร!
ภายในห้องโถงที่มีแท่นบูชาที่คล้ายคลึงกับดอกของเห็ดหลินจือ ในขณะนั้นจิตวิณญาณของฮุ่ยชินเอ๋อได้ล่องลอยกลับคืนเข้าสู่่ร่างเดิมของหญิงสาวที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ ซึ่งนางกำลังหัวเราะร่วนกับความภาคภูมิใจให้กับตนเอง
สำหรับการปรับแต่งจิตวิญญาณของนางนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก....แม้มันจะเป็นเคล็ดวิชาลับของตระกูลเล่ยหู่ก็ตาม แต่มันก็ไม่ง่ายนักที่จะสามารถหลอมรวมวิญญาณให้ผสานกันจนแข็งแกร่งขึ้นได้ แม้จะมีไม้กำเนิดวิญญาณ และเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่มีจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเดียว แต่หากไม่สามารถฝึกจิตให้อยู่ท่ามกลางสายฟ้าผ่าได้นั้นก็คงไม่มีประโยชน์ ความสำเร็จของนางครั้งนี้คงจะเป็นหนึ่งในสี่ของนิกายกระบี่เทพมังกรฟ้าได้อย่างแน่นอน!
ฮุ่ยชินเอ๋อลืมตาขึ้นและกล่าวว่า"โชคดีจัง! ที่ข้าได้พบกับพี่ชายคนนนั้น....เขาคงสำเร็จการบ่มเพาะระดับสูงเป็นแน่จึงสามารถปรับจิตวิญญาณของเขาด้วยอาวุธวิญญาณได้....แต่น่าเสียดายที่ได้คุยกับเขาเพียงนิดเดียวเท่านั้น..."
แต่นางอาจไม่ได้หมายถึงผู้สำเร็จขั้นสูงสุดของตระกูลเล่ยหู่ที่นางเพิ่งขโมยเคล็ดวิชาลับมานั่นเอง! มิเช่นนั้นนางคงจะละอายใจมกเป็นแน่....
ฮุ่ยชินเอ๋อรีบออกตัวกล่าวว่า"เขาคงไม่ได้มาจากตระกูลเล่ยหู่หรอกน่ะ! เขาบอกว่ามาจากตระกูลซ่งชาน นามว่าซ่งหยูนี่นา...!"
นางสูดลมหายใจอย่างโล่งอก แต่นางก็ถามด้วยความงุนงงว่า "แต่....ข้าไม่เคยรู้จักชนเผ่านี้มาก่อน หรือเป็นไปได้ว่าเขาเองก็ขโมยเคล็ดวิชาลับมาจากตระกูลเล่ยหู่เช่นเดียวกัน...."
"เขาขโมยเคล็ดวิชาลับมาจากตระกูลเล่ยหู่เช่นนั้นหรือ!?" ฮุ่ยชินเอ๋อกล่าวกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ
หญิงสาวกลอกตาขึ้นลงไปมา และกล่าวกับตัวเอง"ขโมยเหรอ? เป็นไปไม่ได้....ก็เราเพิ่งผ่านการฝึกฝนมาด้วยกันเมื่อสักครู่จะเรียกเขาว่าขโมยได้อย่างไรกัน.....แต่อย่างไรก็ตามวันหนึ่งข้าจะขโมยเคล็ดวิชาลับที่สุดของนิกายกระบี่เทพมังกรฟ้ามาให้จงได้!"
ฮุ่ยชินเอ๋อนั่งนิ่งกับปณิธานตนเอง.....
------------------------------------------------------
อ๊ากกกกกมันเกิดอะไรขึ้น!
ซ่งหยูร้องออกมาด้วยความตกใจ ในขณะที่พบว่าห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเขานั้นเล็กลง เมื่อจิตวิญญาณของเขากลับคืนสู่ร่างกาย!
ห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเขานั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความแข็งแกร่งของเขาที่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้มันหดลงเหลือหนึ่งในสามของขนาดก่อนหน้านี้จนน่าตกใจ....
"มันเกิดอะไรขึ้น! ความแข็งแกร่งของข้ามันหายไปสองในสามเชียวหรือ?"
ซินหวงกระโดดออกมาจากดาบเลือดมังกรในขณะที่เขาต้องส่ายหัว และตอบข้อข้องใจของซ่งหยูที่กำลังหัวเสียอยู่ในขณะนี้
"เจ้้าโง่! นี่นับเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ของการฝึกฝน จิตวิญญาณการกลั่นกรองฟ้าผ่าจิตวิญญาณของเจ้านั้น แต่ก่อนเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก แม้ว่าห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเจ้าจะใหญ่สักเพียงใดนั้น หากแต่ขาดความแข็งแกร่ง การฝึกจิตวิญญาณแห่งสายฟ้าผ่านั้น ใช้พลังแห่งสายฟ้าเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกภายในจิตใจของเจ้า ดังนั้นแม้ว่าจิตวิญญาณของเจ้าจะลดลงมาก มันก็แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน เจ้าจงดูร่องรอยของฟ้าผ่าที่ผ่านั้นซ่อนอยู่ในมหาสมุทรจิตของเจ้าสิ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นหลักฐานว่าจิตวิญญาณของเจ้านั้นแข็งแกร่งขึ้น!
ซ่งหยูถอดจิตวิญญาณ และมองไปรอบๆ อีกครั้ง อันที่จริงนั้นมีสายฟ้าที่กำลังกระพริบ และกำลังเคลื่อนไหวไปรอบๆ ตัวของเขาตอนนี้.......
"เฮ้อ! จิตวิญญาณของเจ้านั้นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะสามารถเปลี่ยนห้วงมหาสมุทรแห่งจิตให้กลายเป็นแอ่งของสายฟ้าได้ หรือแม้แต่ทะเลสายฟ้าก็ตาม จิตวิญญาณนั้นกลายเป็นของเหลวสายฟ้า และน้ำสายฟ้าซึ่งมีพลังมากกว่าหมื่นจิน (หมายเหตุ 1 จิน เท่ากับ 0.5 กิโลกรัม) ซึ่งมากกว่าฮุ่ยชิงเอ๋อเสียด้วยซ้ำ..."ซินหวงกล่าว
" สระสายฟ้า ทะเลสายฟ้า? ของเหลวสายฟ้า น้ำสายฟ้า?"
ซ่งหยูเบิกตากว้าง และตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ "แล้วข้าจะไปถึงระดับนั้นได้เมื่อไหร่!"
"เจ้าอาจไม่ได้สังเกตว่าจิตวิญญาณของเจ้ามันเล็กเกินไปใช่หรือไม่?"
ซินหวงกล่าวอย่างอารมณ์ดี"ปลดปล่อยวิญญาณของเจ้าตอนนี้...แล้วดูสิ...."
ซ่งหยูปฏิบัติตามอย่างรวดเร็วหลังจบคำพูดของซินหวง และทันทีที่เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขาก็เริ่มมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น เปลวไฟเล็กว่าขนาดดวงไฟของซินหวงสักสิบเท่า....
จิตวิญญาณของเขาขณะนี้มีขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว ในขณะที่ซินหวงเป็นเหมือนยักษ์ที่ใหญ่โตกว่าเขาหลายสิบเท่า ซ่งหยูหันกลับมามองร่างของตนเองขณะที่เป็นเพียงดวงไฟเล็กๆเท่านั้น
ในตอนแรกจิตวิญญาณของเขานั้นใหญ่พอๆกับดวงไฟของซินหวง แต่ทว่า.....ในตอนนี้มันนกลับเล็กลงนิดเดียว!
"เอาล่ะ...ตอนนี้จิตวิญญาณของเจ้านั้นได้รับการขัดเกลาผ่านสายฟ้าผ่ามันควบแน่นจนสิ่งสกปรกได้รับการขัดเกลาจนสะอาด ส่วนที่เหลือเจ้าก็จงใช้เม็ดยาสมุนไพรจิตวิญญาณในการปรับแต่งร่างกายของเจ้า แล้วพรุ่งนี้เจ้าค่อยมาฝึกต่อก็แล้วกัน!"
ซินหวงอมยิ้มแล้วกล่าวว่า" ตอนนี้ก็เพียงรอร่างกายของเจ้าได้รับการฟื้นฟูและแข็งแกร่งขึ้น แล้วเจ้าจะได้รับการปรับแต่งร่างกายด้วยสายฟ้าผ่าโดยตรงอีกครั้ง แต่ตอนนี้เจ้ายังคงห่างไกลมากนัก......"
ร่างกายและสายฟ้า? ใช่แล้วร่างกายข้าก็ต้องการอาหาร?
ซ่งหยูหวนนึกถึงการใช้เม็ดยาจิตวิญญาณ และเริ่มมองเห็นเสาสัญลักษณ์แห่งมังกรทันที ประสิทธิภาพของเม็ดยาจิตวิญญาณจะถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วและไม่สามารถคงอยู่ได้นานเหมือนเมื่อก่อน และอีกสักครู่เขาจะต้องกินมันอีกสามเม็ดต่อเนื่องกัน....
ก่อนหน้านี้ข้าไม่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายได้ เสาสัญลักษณ์แห่งมังกร เท่านั้นที่จะช่วยได้ แต่ตอนนี้ด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณ ข้าจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้ได้ร่างกายอีกครั้ง!
ซ่งหยูรู้สึกประหลาดใจ และมีความสุชอย่างไม่เคยมีมาก่อน เขายังคงฝึกฝน และในคืนนั้นเขาได้กินเม็ดยาจิตวิญญาณไปถึง
หกสิบเม็ด!
หากข้าใช้เม็ดยาจิตวิญญาณขนาดนี้....แล้วอนาคตข้าไม่ต้องกินดินกินหญ้าหรือ?
มันเป็นเช้าตรู่เมื่อเขาเปิดตาของเขาอีกครั้ง และใบหน้าที่มีทั้งหัวเราะและร้องไห้ เพียงคืนเดียวและเขาได้กินเม็ดยาจิตวิญญาณไปถึงหกสิบเม็ด อัตราการบริโภคนั้นสูงเกินไป เมื่อเทียบกับการฝึกฝนในสภาวะสุดขั้ว ตอนนี้เขามีเม็ดยาจิตวิญญาณวิญญาณอยู่กับตัวสองร้อยห้าสิบเม็ดตอนนี้ และนั่นจะคงอยู่ต่อไปอีกสี่หรือห้าวันเท่านั้น!
แม้ผลลัพธ์นั้นจะน่าพอใจ และความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาก็ดีขึ้นมาก เขาสามารถรู้สึกถึงพลังระเบิดอย่างไม่น่าเชื่อไหลผ่านร่างกายของเขา ทุกการกระทำและทุกการเคลื่อนไหวทำให้เกิดสายฟ้า!
กล้ามเนื้อของเขาทุกมัดมีแรงระเบิดทุกการเคลื่อนไหวก็เหมือนธนูที่ถูงตรึง และการยิงของเซลล์ประสาทของเขานั้นเร็วเหมือนสายฟ้าอีกด้วย!
ข้าสงสัยว่าข้าจะแข็งแกร่งได้สักแค่ไหน หลังจากผ่านไปห้าวันระดับพลังของข้าจะเทียบเท่ากับฮุ่ยชินเฮ๋อหรือไม่?
ต่อจากนั้นจิตวิญญาณของซ่งหยูได้ผสานเข้ากับดาบเลือดมังกรอีกครั้ง เพื่อควบคุมมัน และอีกครั้งที่เขามาถึงเขตสายฟ้า ไม่นานหลังจากที่เขาเริ่มขัดเกลาจิตวิญญาณด้วยสายฟ้าแลบ ไม่นานฮุ่ยชินเฮ๋อก็มาถึงพวกเขาต่างแบ่งปันทัศนคติกันก่อนที่จะไปฝึกฝน
การฝึกฝนนั้นจะไม่น่าเบื่อเมื่อมีชายและหญิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยกัน
ซินหวงนั่งอยู่บนไหล่ของซ่งหยู และคิดในใจว่า" แม้นางจะเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆ และก็บรรลุการบ่มเพาะขั้นสูงสุดได้เช่นนี้นางย่อมไม่ธรรมดาเป็นแน่ ดังนั้นซ่งหยูจึงได้รับแรงกดดันเป็นแรงจูงใจในการฝึกฝน
ตอนนี้เขาเริ่มฝึกฝน...ฝึกฝน....และฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ร่างกาย วิญญาณโดยธรรมชาตินั้นแตกต่างจากคนทั่วไป คนที่มีร่างกายโดยกำเนิดจะเกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณ และจิตวิญญาณของพวกเขาเหมือนกัน พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ พวกเขาไม่ได้ฝึกฝนมัน…อืมมมมม! ข้าควรจะบอกเขาดีหรือไม่? แต่ว่าเขาจะต้องมีไฟของตัวเองที่ขับเคลื่อนพวกเขาไปข้างหน้าให้จงได้!
ซ่งหยู และฮุ่ยชินเอ๋อทำการฝึกความอดทนจากสายฟ้าผ่าร่วมกันวันแล้ววันเล่า.....
--------------------------------------------------------------
ห้าวันต่อมาห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของซ่งหยูนั้นได้รับการขัดเกลาให้มีขนาดเพียงห้าร้อยจินเท่านั้น และจิตวิญญาณของเขาก็หดขนาดเท่ากับข้อผิดพลาดเล็ก ๆ ที่เล็กกว่าขนาดเฉลี่ยของมดเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเม็ดยาจิตวิญญาณที่เขากลืนกินในช่วงสองสามวันนี้ห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเขาจะเล็กลง ในขณะที่จิตวิญญาณของเขาอาจไม่ใหญ่พอที่จะสังเกตได้เท่านั้นเอง!
แม้ว่าห้วงมหาสมุทรแห่งจิต และจิตวิญญาณของเขาจะเล็กกว่าแต่ก่อน แต่จิตวิญญาณของห้วงมหาสมุทรแห่งจิต และร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นมาก นี่คือความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเขา ปรากฏงูทองคำที่เกิดจากฟ้าผ่าอย่างอิสระในห้วงมหาสมุทรแห่งจิตของเขา และด้วยความคิดเดียวพวกเขาจะระเบิดในขณะที่ปล่อยพลังไม่อย่างย่อท้อ!
อย่างไรก็ตามซ่งหยูได้กลืนกินเม็ดยาวิญญาณของเขาทั้งหมด และเขาไม่สามารถฝึกต่อได้อีกต่อไป!
เหล่าศิษย์ที่บรรลุการบ่มเพาะขั้นสูงสุดนั้นสามารถร้องขอเม็ดยาจิตวิญญาณจำนวนสิบเม็ดได้ในทุกเดือนจากนิกายกระบี่เทพมังกรฟ้าได้ แต่มันก็ยังน้อยไปสำหรับเขาอยู่ดี เม็ดยาจิตวิญญาณจำนวนสิบเม็ดนั้นไม่สามารถแม้แต่จะฝึกฝนได้แม้เพียงครึ่งชั่วยาม.....
เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงทำให้ตอนนี้เขาจึงเป็นทุกข์มาก และคิดกับตัวเองว่าถ้าเพียงข้ายังสามารถเข้าสู่ซากปรักหักพังเพื่อสังหารเหล่าสัตว์อสูร และสามารถรับเม็ดยาจิตวิญญาณได้ แต่มันน่าจะมีหนทางอื่นที่ข้าจะสามารถเข้ารับเม็ดยาจิตวิญญาณได้.....
----------------------------------------------------------------
เมื่อเขากำลังจะลุกขึ้นก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวผู้หนึ่ง ส่งเสียงเรียกให้เขาออกมาจากด้านนอก "ซ่งหยู!....ซ่งหยู!"
"นั่นมันคือเสียงของศิษย์พี่ถิงหลานหยู!"
ซ่งหยูจดจำเสียงของนางได้ และเขาก็รีบเดินไปเปิดประตูและคิดกับตัวเองว่าเหตุใดศิษย์พี่ถิงจึงต้องมาหาเขา?!"
หลังจากที่เขาเปิดประตูออก...เขาถึงกับตกใจเมื่อเห็นเหล่าศิษย์หญิงชั้นสูงหลายสิบคนยืนอยู่ด้านนอกประตูด้วยความอยากรู้อยากเห็นด้วยตาตัวเอง.....จากหญิงสาวกว่าสามสิบคน แต่เขารู้จักเพียงแค่สามคนเท่านั้น คือคนที่เขาเรียกว่าศิษย์พี่ถิงหลานหยู
อู๋เฟยหยานผู้แต่งกายด้วยชุดสีดำ และหญิงสาวในชุดสีแดงคือ เถาอี้เอ๋อ
บรรยากาศที่อบอวลไปด้วนกลิ่นน้ำหอมที่ถูกปรุงแต่งจากเกสรดอกไม้นานาพันธุ์ต่างคนก็ต่างกลิ่นกัน ซึ่งเป็นเป็นเรื่องธรรมดาของหญิงสาวกับน้ำหอม....
เหล่าศิษย์ชายก็ต่างจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นสาวกหญิงจำนวนมากปรากฏตัวในหอพักชายของพวกเขาต่างอิจฉาซ่งหยูเป็นอย่างมากที่มีหญิงสาวมาหาถึงหอพัก.....
"เหตุใดศิษย์พี่จึงมาหาข้าถึงที่นี่?"
ซ่งหยูรู้สึกงงงวยและกล่าวว่า"เชิญเข้ามาดื่มชาก่อน ข้าจะชงชาให้...."
"ไม่เป็นไรพวกเราจะไม่เข้าไปหรอก..."
ถิงหลานหยูยิ้มและกล่าวว่า"ซ่งหยูพวกเราวางแผนที่จะออกจากนิกายฯ เพื่อไปฝึกฝนเตรียมตัวสำหรับการประลองที่กำลังจะมาถึง ความปลอดภัยของเผ่าใกล้เคียง หมู่บ้านหลายแห่งถูกคุกคาม พวกเราจะมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจสร้างความเสียหายอีกต่อไป ในระหว่างนี้เราสามารถได้รับอภิสิทธิ์จากภารกิจประตูดาบนี้และ เปลี่ยนเป็นเม็ดยาจิตวิญญาณและอาวุธจิตวิญญาณได้นะ "
เถออี้เอ๋อหัวเราะข้างๆพวกเขาและกล่าวว่า "ตอนแรกพวกเราไม่มีแผนที่จะมาชวนเจ้า เพราะข้าได้กลิ่นไม่ดีมาจากเจ้า..... แต่ศิษย์พี่หลานหยูขอไว้ ข้าจึงต้องยอมให้เจ้าเข้าร่วมเดินทางด้วย"
ซ่งหยูคิดอยู่ครู่หนึ่งฝักดาบเลือดมังกรของเขาก็บินผ่านมา และลงไปที่ใต้ขา เขายิ้มแล้วกล่าวว่า"ข้าขอบคุณเหล่าศิษย์พี่ที่อุตส่าห์มาชวนข้าให้ร่วมเดินทาง"
อู๋เฟยหยานไม่แยแส"เราไม่มีเวลาที่จะมาพูดซ้ำซากไร้ประโยชน์ ตอนนี้เราจะต้องรีบไปถึงหุบเขาสัตว์อสูรก่อนตะวันจะตกดิน!"
เถออี้เอ๋อรีบหยิบย่ามเล็ก ๆ ออกมา พลางยิ้ม "หุบเขาสัตว์อสูรนั้นไกลมันจะใช้เวลาสองถึงสามวันถ้าเราเดินไป ข้ายืมย่ามเมฆสีรุ้งมาจากผู้สำเร็จการบ่มเพาะขั้นสูงสุดของตระกูล แต่....ถ้าเราเดินทางบนเมฆ เราจะมาถึงก่อนพระอาทิตย์ตกดินอย่างแน่นอน "
จากนั้น...ย่ามก็ถูกเปิดออก
ฟ่าวววววววว
เมฆสีรุ้งพวยพุ่งออกมาจากปากย่าม .....
จากนั้นเมฆสีรุ้งก็ยกซ่งหยู และเหล่าหญิงสาวขึ้นไปในอากาศ
ซ่งหยูรู้สึกประหลาดใจ เถออี้เอ๋อยิ้มพลางกล่าวว่า "เมฆสายรุ้งเหล่านี้เป็นอาวุธจิตวิญญาณ จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อการต่อสู้ แต่ไว้เพื่อเป็นพาหนะเท่านั้น ข้าสามารถที่จะควบคุมมันในขณะเดียวกันที่ศิษย์พี่หลานหยูก็จะสามารถใช้วิชาต่อสู้กับเหล่าปีศาจได้ เราจะสามารถไปถึงหุบเขาสัตว์อสูร เราจึงจำเป็นต้องใช้มันเพื่อประหยัดพลังและเวลา..
ภายในหอพัก.....เหล่าชายหลายร้อยคนต่างจดจ้องเมฆสายรุ้ง เมื่อเหล่าหญิงสาว และซ่งหยูต่างถูกเมฆสายรุ้งยกตัวขึ้นและลอยหายไป ซึ่งทั้งหมดต่างนิ่งเงียบด้วยความงุนงง
"ชาวบ้านต่างพาฝูงวัวไปกินหญ้าไปที่นั่น หลายสิบตัวรอด แต่อีกหลายตัวที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับมัน...."
หญิงสาวผู้หญิงเงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปที่เมฆสายรุ้ง นางพูดพึมพำขึ้นว่า "แล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับฝูงวัวเหล่านั้น?"
"ใช่!ศิษย์พี่มันเกี่ยวข้องอะไรกัน!?"ศิษย์ชายอีกคนถามขึ้นอย่างฉงน
จากระยะไกล.......มีดวงตาคู่หนึ่งของชายร่างกายกำยำยืนมองดูเมฆสีรุ้งที่พุ่งออกมาจากหุบเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของนิกายกระบี่เทพมังกรฟ้า ในขณะที่เขายิ้มพลางกล่าวว่า"ในที่สุดพวกเจ้าก็ไปที่นั่น! ที่นั่นจะมีบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ให้แก่เจ้า มันจะสร้างความเพลิดเพลินให้แก่พวกเจ้าซ่งหยู......"
จากตระกูลเล่ยหู่กว่ายี่สิบคนกำลังแห่รูปปั้นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า.... ในขณะที่รูปปั้นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าถูกลากออกมา 30 เมตร และมันก็ถูกแกะสลักด้วยเสาสัญลักษณ์แห่งสายฟ้าเช่นเดียวกัน ...
และในขณะเดียวกันก็มีศิษย์จากตระกูลเล่ยหู่คนหนึ่งกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศกำลังมุ่งหน้าตรงไปที่หุบเขาสัตว์อสูรเช่นเดียวกัน....
ในเวลาเดียวกันในบ้านของหญิงนามว่าหลี่เซี่ยนเหนียงก็เรียกเหล่าศิษย์ของตระกูลหลี่ฉาน ซึ่งพวกเขาออกเดินทางไปยังหุบเขาสัตว์อสูรซึ่งเป็นอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาลและมีภยันตรายอยู่ทุกหย่อมหญ้าเช่นเดียวกัน....
"หวังว่าพวกเจ้าคงไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง......"หลี่เซี่ยนเหนียงพึมพำ
**********************************************************************************