DBWG ตอนที่ 10 ดินเเดนสัตว์อสูรรกร้าง
"ประกายแสงสว่างนั่น มันจะต้องเป็นสมบัติบางอย่าง อย่างเเน่นอน ดูจากการแสดงออกบนใบหน้าของไป่ฉวี่ชิงเเล้วเห็นได้ชัดว่ามันต้องการครอบครองสิ่งนั้น"
ไป่ฉวี่ชิงไล่ตามประกายแสงนั้นไปและวิ่งอย่างบ้าคลั่ง หลงเฉินหลังจากที่ออกจากเมืองไป่เห๋อหยาง เขาเพิ่งจะไล่ตามหลังมันไป เนื่องจากระดับรู้แจ้งในทักษะแก่นแท้สวรรค์ เเละภายใต้หมู่ดาราในค่ำคืนนี้ พลังของเขาจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้เผาผลาญปราณฉีแต่อย่างใดและสามารถไล่ตามไป่ฉวี่ชิงได้อย่างต่อเนื่อง
ประกายแสงบินโฉบไปมาในอากาศ แต่ยิ่งเดินทางมากเท่าไหร่แสงกลายเป็นริบหรี่มากขึ้น
หลงเฉินมองเห็นรางๆว่ามันมีรูปร่างเป็นกระบี่และมันก็ส่ายไปมาเล็กน้อย กระบี่นั่นสามารถบินได้ด้วยตัวมันเอง เขาไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงยิ่งมั่นใจว่ามันต้องเป็นสมบัติอย่างนึงที่ล้ำค่าเเน่นอน
ถึงมันจะเริ่มส่ายไปมา แต่มันยังคงพยายามบินอย่างต่อเนื่องไปอีกครึ่งชั่วยามไปยังสถานที่ที่ห่างจากเมืองไป่เห๋อหยาง ยามนี้หลงเฉินไม่ต้องกลัวว่าหยางหยุนเทียนจะไล่ตามเขาได้ทันอีกเเล้ว
"คนผู้นี้กลับมีพลังใจที่มากมายจริงๆ มันกล้าที่จะออกห่างจากเมืองไป่เห๋อหยางมาไกลขนาดนี้"
ในระหว่างตามหลังไป่ฉวี่ชิง หลงเฉินได้ใช้ผ้าสีดำเพื่อปกปิดรูปร่างหน้าตาของเขา ตอนนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะรู้ว่าเขาคือหลงเฉิน ดังนั้นเป้าหมายในการปกปิดตัวตนของเขาก็ประสบความสำเร็จ
"ด้วยพลังทั้งหมดของมัน มันสามารถมีความเร็วเช่นนั้นได้ แม้ว่าตอนนี้มันจะเหนื่อยแล้ว ไป่ฉวี่ชิงนั้นคล้ายกับข้า อยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 เช่นเดียวกัน แต่..ข้าแตกต่างกับมัน เพราะข้ามีทักษะหมัดดาวตกและทักษะแก่นแท้สวรรค์"
หลังจากพุ่งเข้าไปในป่า กระบี่เล่มนั้นก็เริ่มจะสั่นสะเทือนเล็กน้อย หลังจากนั้นมันก็ร่วงลงไปด้วยความรวดเร็วอย่างมาก เจาะลงไปในพื้นดิน
ในที่สุดไปฉวี่ชิงก็รีบเข้าไปในป่าและเห็นว่ากระบี่ปักอยู่ต่อหน้าต่อตา มันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก มันกำลังนั่งยองๆอยู่ที่นั่นและหอบเหมือนสุนัขที่หมดเเรง อย่างไรก็ตามหลังจากมองไปที่กระบี่นั้นดวงตาของมันเริ่มทอส่องประกายที่เต็มไปด้วยความโล�
"กระบี่เล่มนี้เป็นสมบัติที่สามารถบินได้ด้วยตัวมันเอง มันเป็นสมบัติล้ำค่าบางอย่าง ถ้าข้าสามารถครอบครองมันได้ แม้ว่าข้าจะต้องเสียสละทรัพย์สมบัติทั้งตระกูลของข้า ข้าก็ยังมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ!"
คิดถึงอนาคตที่สวยงามของมัน ไป่ฉวี่ชิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตาม ทันใดนั้นมันก็พบชายสวมผ้าปิดหน้าที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับมัน ใบหน้าของมันขาวซีดและกล่าวด้วยความกลัว "ท่าน.....ท่านเป็นใคร? ท่านต้องการอะไร?"
เนื่องจากไป่ฉวี่ชิงนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 เท่านั้น ความเร็วของหลงเฉิน ก็เร็วกว่ามันถึงสองเท่า ภายใต้สายตาของไป่ฉวี่ชิง ร่างของหลงเฉินได้เคลื่อนไหวในทันที หายตัวไปต่อหน้าของมัน และในเวลาชั่วขณะ มันก็ลงเอยด้วยการถูกทุบตีลงกับพื้น ความแข็งแกร่งมหาศาลนั้นทำให้ฟันของมันหักไปหลายซี่
มันมองไปที่ชายสวมหน้ากากที่ยืนอยู่ข้างหน้ามันอย่างเย็นชา ไป่ฉวี่ชิงรู้สึกอยากจะร้องให้
"ท่านผู้อาวุโส ข้า... ข้าเพียงบังเอิญได้พบกับกระบี่เล่มนี้ ถ้าท่านต้องการท่านก็สามารถนำมันไปได้ ...... แต่ท่านได้โปรดอย่าฆ่าข้า...... ข้ายินดีที่จะเป็นข้ารับใช้ของท่าน...... "
หลงเฉินหัวเราะและกล่าว "เจ้าพูดจริง? ถึงอย่างนั้นหลังจากที่ข้าได้รับกระบี่บินเล่มนี้ ย่อมมีข่าวลือบางอย่างรั่วไหลออกไป ดังนั้นการสังหารเจ้าไม่ใช่ว่าควรจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับข้าหรอกหรือ?"
ไป่ฉวี่ชิงร้องไห้ออกมาครู่หนึ่งแล้วกล่าว "อย่าฆ่าข้า ได้โปรด..ท่าน ผะ...ผู้อาวุโส ข้าไม่เคยเห็นใบหน้าของท่าน และข้าไม่รู้จักท่าน ดังนั้นข่าวลือจะรั่วไหลไปได้อย่างไร? "
"นั่นก็จริง"
หลงเฉินยิ้มและยกคอของไปฉวี่ชิงขึ้นมา "เจ้ามีผิวพรรณที่ดีและร่างกายที่ละเอียดอ่อน ดูเหมือนว่าพ่อของเจ้าคงหล่อเหลาน่าดู แต่สิ่งที่ข้าไม่สามารถยอมรับได้ก็คือการเห็นบุรุษคนอื่นหล่อเหลามากกว่าข้า ดังนั้น...... "
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเฉิน ไปฉวี่ชิงยามนี้ตื่นตระหนกอย่างมาก มันดิ้นรนและกล่าว "ท่านผู้อาวุโส ได้โปรดอย่าทำให้ข้าเสียโฉมเลย ถ้าท่านต้องการอะไรท่านพ่อของข้าสามารถให้ทุกอย่างแก่ท่านได้...... ท่านปู่ของข้าคือผู้ก่อตั้งตระกูลไป่ของเมืองไป่เห๋อหยาง ท่าน...... ท่านรู้จักเขาใช่หรือไม่ ดังนั้นโปรดไว้ชีวิตข้า !”
"ไร้สาระ ทำไมข้าต้องทำให้เจ้าเสียโฉม?"
ในตอนนี้เสียงของหลงเฉินเริ่มทวีความน่ากลัวมากขึ้น เขาลอบจับดาบสั้นในมือและชั่วอึดใจเขาแทงมันเข้าไปที่หว่างขาของฝ่ายตรงข้าม หลังจากนั้นเขาก็บิดดาบสั้นเล็กน้อย ไป่ฉวี่ชิงก็กรีดร้องอย่างน่าอนาถ มองหลงเฉินอย่างสิ้นหวัง แล้วจากนั้นก็เป็นลมเพราะอาการเจ็บปวด
หลงเฉินจึงโยนมันลงบนพื้น
"ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าเสียโฉมเพียงแค่ไม่ให้เจ้าได้ใช้ชีวิตเยี่ยงบุรุษ ไป่ฉวี่ชิง ถ้าไม่ใช่เพราะข้ามีไหวพริบดี ข้าเกรงว่าวันนี้มันจะเป็นข้าที่มีสภาพเช่นนี้ หนี้ในครั้งนั้นข้าได้คืนสนองให้ต่อเจ้าเเล้ว"
เขาหันกลับไปและมองไปที่กระบี่เล่มนั้น
นี่เป็นกระบี่ดาบที่มีสีดำทั้งเล่ม สิ่งที่แตกต่างจากกระบี่ปกติคือใบดาบมันแคบมากๆ กว้างเพียงประมาณสองนิ้ว ความยาวประมาณ 70 เซนติเมตรและตัวดาบทำจากเหล็กที่แตกต่างกัน เมื่อถึงจุดนี้มันมีรอยเป็นจุดๆซึ่งดูเหมือนว่ามันจะแตกหักได้ทุกเวลา
หลงเฉินยิ้มอย่างขมขื่น "หลังจากที่ไล่ตามมันมานานสภาพของมันไม่ต่างไปจากกระบี่โกโรโกโสที่ใกล้จะเเตกดับทุกที"
เขาเดินเข้าไปหามันมองไปที่ด้ามกระบี่เขายื่นมือออกมาแล้วจับไปที่มัน
ทันใดนั้นก็เหมือนจะมีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังออกมา กระบี่เล่มนี้เริ่มส่งพลังที่หลงเฉินไม่สามารถต้านทานได้และมันก็ดึงเขาขึ้น เขาเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก และจากนั้นก็ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวชั่วขณะด้วยความหวาดกลัว เพราะกระบี่เล่มนี้ได้บินทะยานขึ้นไปบนนภาอีกครั้งคราวนี้เขาถูกลากขึ้นไปพร้อมกับมัน
ด้วยความเร็วในการบินของกระบี่เล่มนี้ มันเร็วมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า เเถมยังบินสูงมากขึ้นอีกด้วย ต้นไม้ด้านล่างกลายเป็นจุดเล็ก ๆ หลงเฉินจ้องมองและเริ่มกรีดร้องอย่างสั่นกลัว
"ถ้าข้าตกลงไป ร่างของข้าคงแตกเป็นเสี่ยงๆ!"
คิดถึงจุดนี้เขารีบใช้มือทั้งสองข้างจับด้ามกระบี่ไว้แน่น เขาจับมันจนร่างกายของเขาเกาะติดมัน เขาไม่อยากจะปล่อยด้ามกระบี่ในมือให้หลุดไปเเน่นอน เเต่ตัวกระบี่นั้นได้บินฟัดเหวี่ยงไปมาราวกับต้องการพยายามหลบหนีการจับกุมของ หลงเฉิน
"กระบี่เหล็กเล่มนี้มีสตินึกคิดของมันเอง ดูเหมือนมันจะเป็นสมบัติล้ำค่าบางอย่าง แต่ถ้าข้าตกลงไปตายเเม้จะมีสมบัติล้ำค่าครอบครองก็ล้วนไร้ความหมาย"
หนึ่งคนหนึ่งกระบี่กำลังบินอยู่บนผืนนภาท่ามกลางราตรีเเห่งนี้
หลงเฉินจับด้ามกระบี่แน่น แม้ว่าตัวกระบี่พยายามที่จะเหวี่ยงเขาออกไปนับหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการสลัดเขา เพื่อที่จะมีชีวิตรอดให้ตายังไงหลงเฉินก็ไม่มีทางปล่อย
ทันใดนั้นก็มีเสียงโกรธของหญิงสาวดังออกมาจากตัวกระบี่
"เจ้าคนบ้า เจ้ากล้ากอดข้าเเน่นเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ปล่อยข้า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้ายกับเจ้า!"
หลงเฉินรู้สึกตกใจในขณะนี้ เพราะเสียงนี้ชัดเจนว่ามาจากตัวกระบี่ เขาถูกด่าว่าบ้าโดย กระบี่ บินเล่มนี้ นี่มันวันบัดซบอันใด
กระบี่เล่มนี้มีจิตวิญญาณเป็นสตรี?
"เจ้าได้ยินหรือไม่? รีบปล่อยมือออกจากตัวข้าซะ ถ้าไม่งั้นข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า"
เสียงดังออกมาอีกครั้ง และตัวกระบี่ก็เริ่มแกว่งไปมามากขึ้น
หลงเฉินรีบกล่าว "มะ....แม่นางน้อย ข้าอยากจะปล่อยมือ แต่เจ้ากลับบินสูงขนาดนี้ หากข้าตกลงไป ข้าจะต้องตายอย่างเเน่นอน?"
ด้วยประโยคดังกล่าวตัวกระบี่ก็หยุดแกว่งและนางกล่าวออกมาด้วยความงุนงง "เป็นเช่นนั้นหรือ? โอ้ ข้าขอโทษทีข้าลืม ข้าจะลงไปเดี๋ยวนี้ แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะปล่อยตัวข้า เมื่อเราลงไปข้างล่างแล้ว....มันเป็นที่ไร้ศีลธรรมที่บุรุษเเละสตรีจะสัมผัสต้องตัวกันก่อนอันควร "
หลงเฉินคิดกับตัวเองว่า "ข้ารู้ว่ามันไม่เหมาะที่บุรุษและสตรีจะสัมผัสกันก่อนอันควร แต่เจ้าเป็นเพียงกระบี่ ข้าใช่จะสามารถเอาเปรียบเจ้าได้?"
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวอย่างรีบร้อน "เเน่นอน ร่างกายของสตรีมีค่าดั่งทองคำร้อยจิน ข้าได้กระทำผิดต่อเจ้าด้วยความประมาท ข้ารู้สึกเสียใจจริง ๆ "
[TL: 1 จิน = 500 กรัม, 2 จิน = 1 กิโลกรัม]
"ไม่ เจ้าไม่ผิด ข้าลืมคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ดังนั้นข้าผิดเอง รีบลงไปกันเถอะ"
หลงเฉินเเทบจะกระอักเลือดออกมา กระบี่บินเล่มนี้คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเเล้ว นางได้ส่งเขาลอยไปเป็นระยะเวลานาน เเละ ตอนนี้เพิ่งฉุดคิดได้ นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน?
หลังจากลงพื้นอย่างปลอดภัย หลงเฉินสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขา เขาตระหนักว่านี่คือภูเขารกร้าง มีแต่ก้อนหินและต้นไม้ที่แห้งแล้ง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นดินแดนสัตว์อสูรรกร้าง จากที่ห่างไกล มีเสียงร้องของสัตว์อสูร มันทำให้ผู้คนหวาดกลัว
แคร่ก แคร่ก
หลงเฉินได้ทำลายหัวกะโหลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่แล้วเขาก็ตระหนักดีว่าสภาพแวดล้อมตอนนี้เต็มไปด้วยโครงกระดูกของสัตว์อสูรปีศาจและมนุษย์ ซากศพเหล่านี้มีอยู่ไม่น้อยและในยามนี้หลงเฉินรู้สึกถูกกระตุ้นความหวาดกลัวภายในจิตใจ
"มะ..แม่นางน้อย นี่ใช่ดินเเดนสัตว์อสูรรกร้างหรือไม่ เจ้ากลับพาข้ามาที่นี่?"
ดินแดนสัตว์อสูรรกร้างเป็นส่วนที่ลึกที่สุดของภูเขาใหญ่รกร้าง นี่เป็นสถานที่ที่หนึ่งคนจะมีชีวิตอยู่ได้หลังจากที่เก้าคนตาย หลงเฉินเคยได้ยินตำนานมากมายเกี่ยวกับการผจญภัยที่นี่ คนที่เสียชีวิตที่นี่มีจำนวนมากเกินไปที่จะนับได้ ตัวเขาเองไม่แน่ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในนั้นเร็วๆนี้
[TL: (Idiom) "หนึ่งคนจะมีชีวิตอยู่ได้หลังจากที่เก้าคนตาย" หมายความว่า ในสิบครั้งเขาจะตายเก้าครั้ง มีชีวิตอยู่ได้ครั้งเดียว (โดยทั่วไปโอกาสในการมีชีวิตรอด 1ส่วน จาก 10 ส่วน)]
เขามองไปทางกระบี่ที่อยู่ติดกับเขา ในขณะนี้เสียงหญิงสาวถูกส่งออกมาอีกครั้ง
"อา ข้าขอโทษ ข้าเพียงรับรู้ได้ถึงสัตว์อสูรมากมายที่นี่เเละ มีกลิ่นอายที่เเข็งเเกร่งกว่าเจ้า ก็เลยเผลอพาเจ้ามาที่นี่ ? ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? "
หญิงสาวตื่นตระหนกและหมุนไปรอบๆ
หลงเฉินรู้สึกพูดไม่ออก
หลังจากนั้นสักพักเขาก็กล่าวว่า "เดี๋ยวก่อน ลองทำแบบเดียวกับก่อนหน้านี้เถอะ บินกลับไปยังเส้นทางที่เราจากมา ตกลงหรือไม่?"
คราวนี้กระบี่เหล็กไม่ตอบ
หลงเฉินรีบกล่าว "นี่ แม่นางน้อย เกิดสิ่งใดขึ้นกับเจ้า? ทำไมไม่พูดอะไรหน่อยเล่า? "
หลังจากกล่าวจบแล้วเขาก็รีบจับที่ตัวกระบี่
กระบี่เหล็กรีบพูดอย่างรีบร้อนว่า "นั่น......ข้าขอโทษจริงๆ ข้า...ข้าไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ ข้าพยามยามหลบหนีเจ้าก่อนหน้านี้ และข้าไม่ได้สังเกตว่าสถานที่นี้มีข้อจำกัดขนาดใหญ่ ข้าคิดว่าสามารถบินขึ้นท้องฟ้าที่นี่ได้ แต่ตอนนี้ข้าไม่สามารถบินได้.. "
"ฮึกก...."
หลังจากกล่าวจบแล้วนางก็เริ่มร้องไห้
หลงเฉินได้สูดลมหายใจเข้าลึก ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพยายามควบคุมอารมณ์ของเขา ตอนนี้ศีรษะของเขาคงระเบิดแตกตายไปเเล้ว
"ไม่คิดเลยว่า ข้า หลิงซี จะตายในสถานที่ที่ถูกสาปเช่นนี้ ข้า......ถ้าข้ารู้มาก่อนหน้านี้ ข้าจะไม่แตะต้องดาบเล่มนี้ตั้งแต่แรก...ฮือออ...ท่านแม่...ท่านพ่อ... ข้ากลัว...ข้าไม่อยากตาย..... "
"จะดีกว่านี้ถ้าเจ้าเงียบ!
หลงเฉินจับดาบไว้อย่างรวดเร็ว หมอบลงแล้วก็ซ่อนตัวอยู่ใต้หินขนาดใหญ่เพราะเขารู้สึกว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา
ในดินแดนสัตว์อสูรรกร้างนี้ การที่กระบี่เหล็กเล่มนี้ได้ทำเสียงดังวุ่นวายก็คล้ายกับการเรียกร้องขอความตาย
ถูกทำให้ตกใจโดยหลงเฉิน น้ำตานางหยุดไหลชั่วคราว หลังจากที่ได้รับรู้ว่ามีกลิ่นอายที่เป็นอันตราย นางก็ไม่กล้าที่จะร้องไห้อีกครั้ง ทำตัวดีภายใต้การจับของหลงเฉิน และไม่กล้าที่จะพูดอะไรเช่นว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับบุรุษและสตรีที่จะสัมผัสมือของกันและกัน
หัวใจของหลงเฉินเต้นรัว เขารู้สึกหวาดกลัว เขาไม่กล้าที่จะเปล่งเสียงอีกและหมอบลงใต้หินขนาดใหญ่ หูของเขาแนบติดกับพื้นขณะที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว
เสียงฝีเท้าหนักใกล้เข้ามาทุกวินาที
หัวใจของหลงเฉินแทบจะพุ่งขึ้นมาที่ลำคอ เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองจากการสั่นได้ เห็นได้ชัดว่าอันตรายเพียงใด
ระงับลมหายใจและชะลอการเต้นของหัวใจ เขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ตัวเขาอยู่ในสภาพที่ใกล้ตาย แต่ในขณะนี้เหงื่อเย็นได้ไหลอาบไปทั้งตัวแล้ว
สิ่งที่เขากลัวที่สุดคือหวังว่าสาวน้อยที่เขากอดอยู่ในอ้อมแขนของเขาจะไม่ส่งเสียงดังขึ้นโดยฉับพลัน แต่เขาไม่สามารถกล่าวเตือนใดๆได้ เพราะถ้าเขาทำเสียงใดๆ เขาอาจจะกลายเป็นศพทันทีหลังจากนั้น
เนื่องจากเสียงฝีเท้าหนัก เสียงหายใจที่หยาบกร้านกลิ่นเหม็นเน่าที่แขวนอยู่ในอากาศและกลิ่นของน้ำลาย หลงเฉินรู้สึกเกิดอาการขนลุกขึ้นทั่วทั่งตัว ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาได้พบมาจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยให้ความรู้สึกแบบนี้มาก่อน
“อะวู้ว......”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งของหิน เสียงคำรามทำให้เส้นผมของหลงเฉินตั้งชัน เมื่อมาถึงจุดนี้ถ้าเขาพลาดไปเล็ก ๆ เพียงจุดเดียวศพของเขาคงไม่สวยเป็นเเน่
โชคดีที่เขาพยายามอย่างดีและเขาได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆเดินออกไปจนถึงจุดที่พวกเขาไม่ได้ยินอีก แล้วหลงเฉินก็ถอนหายใจออกมา เหงื่อของเขาได้หลั่งจนผมบนศีรษะนั้นเปียกชุ่ม เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกกลัวมากเเค่ไหน
"สิ่งที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่คือ... อสูรหมาป่ากลืนจันทรา ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า หากถูกมันพบตัวเจ้าคงไม่เหลือเเม้เเต่กระดูก ...... "
กระบี่เหล็กในอ้อมแขนของเขาดูเหมือนจะโล่งใจ
หลงเฉินลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า "ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะต้องไปจากที่นี่ภายในครึ่งเดือน เกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าควรที่จะไปกับข้า ถ้าเจ้ามีความคิดหรือวิธีที่สามารถช่วยพวกเราออกจากที่นี่ได้ ได้โปรดบอกมาโดยเร็วโอ้ว ใช่ ชื่อของเจ้าคือหลิงซี? ข้าหลงเฉิน! "