DBWG ตอนที่ 9 สมบัติล้ำค่า
ในห้องโถงมีเพียงบุรุษสองคน บุตรชายคนที่สองของตระกูลหยาง 'หยางหยุนเทียน' นั่งอยู่ด้านข้าง ขณะที่คนที่นั่งตรงกลาง เป็นบุรุษวัยกลางคนที่มีท่าทีสง่างาม
นี่คือบุตรชายคนโตของผู้ก่อตั้งตระกูลหยาง ท่านลุงใหญ่ของหลงเฉิน 'หยางฉิงซวน'
หลงเฉินเดินเข้าไปในห้องโถง และเขาได้สบตากับหยางฉิงซวน
"หยางฉิงซวนผู้นี้ดูเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ประกายตาของเขามีร่องรอยความลึกลับบางอย่าง เมื่อเทียบกับหยางหยุนเทียนที่อยู่ข้างๆแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีขอบเขตพลังยุทธ์สูง"
หลงเฉินได้ยกระดับการบ่มเพาะของเขาแล้ว ดังนั้นความเข้าใจในพลังยุทธ์ของเขาจึงเพิ่มมากขึ้น
หยางฉิงซวนจ้องมองไปที่หลงเฉินและกล่าวว่า "เจ้าควรจะเป็นหยางเฉิน ตั้งแต่เล็กเจ้าใช้เวลาอยู่แต่นอกตระกูล ข้าเองก็เคยเห็นเจ้าเพียงน้อยครั้งไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว"
"หยางฉิงซวนไม่ได้ตำหนิข้าตั้งแต่ที่ข้าเข้ามา หรือว่าจะเป็นการเเสดงของเขา"
หลงเฉินคิดกับตัวเอง คติประจำใจของเขาก็คือ 'บุรุษผู้หนึ่งสามารถยอมจำนนหรือยืนอย่างสูงส่งได้ตามต้องการ โดยต้องเตรียมแผนสำรองเอาไว้หนึ่ง เมื่อนั้นแล้วจักไม่ต้องเกรงกลัวผลของการกระทำที่ย้อนกลับมาสู่ตน' และในตอนนี้เขาได้ทุบตีบุตรชายของหยางหยุนเทียน เขาแน่นอนว่ามีความผิด ดังนั้นเขาจึงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ เขาโค้งคำนับต่อหน้าทั้งสองและกล่าวว่า "หลานชาย....หยางเฉิน คารวะท่านลุงใหญ่และท่านลุงสอง"
เขาสัญญากับบิดาว่าจะเปลี่ยนแซ่ของเขา แต่ตอนนี้เขายังไม่สามารถประกาศต่อหน้าผู้คนในตระกูลหยางได้
"จริงๆแล้วเจ้าได้มาถึงขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 3 แต่มองไปที่พลังของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าคงได้เรียนรู้ทักษะยุทธ์เสริมพลังกาย ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าแอบฝึกฝนอย่างหนัก ด้วยการทำเช่นนั้นเจ้าจึงได้ประสบความสำเร็จในตอนนี้ การไล่ตามหลิงฉิงและหลิงเยว่ได้ทัน ก็มีความเป็นไปได้สูงมากในอนาคต"
หลงเฉินไม่ได้ตอบอะไร
"คนๆนี้ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับที่ข้าทุบตีคนในตระกูลเลย และพูดคุยกับข้าเหมือนเป็นการสนทนาปกติ แต่สำหรับหยางหยุนเทียน จากสายตาที่เขามองมา ข้าบอกได้เลยว่าเขาต้องการที่จะสังหารข้า"
เมื่อถึงจุดนี้ หยางหยุนเทียนก็คำรามขึ้นมาว่า "พี่ใหญ่!!"
เมื่อได้ยินเสียงของหยางหยุนเทียน หยางฉิงซวนยิ้มและกล่าว "เจ้าเป็นต้นกล้าที่ดี... แต่เจ้าได้ทุบตีพี่น้องในตระกูลของเจ้าเอง... เรื่องนี้จริงหรือไม่?"
หลงเฉินกล่าวอย่างเร่งรีบ "ท่านลุงใหญ่ ในระหว่างการต่อสู้ หมัดและเท้าของข้าหามีตาหามีเเววไม่ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมความรุนแรงของการโจมตี ดังนั้นเมื่อข้าทำร้ายเขาก่อนหน้านี้ มันไม่ได้เป็นความตั้งใจของข้าที่จะทำเช่นนั้นจริงๆ"
ถูกกล่าวแทรกโดยหลงเฉิน ดังนั้นหยางฉิงซวนก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีกต่อไป เมื่อมาถึงจุดนี้หยางหยุนเทียนก็กล่าวอย่างเย็นชา "เจ้าไม่ได้ตั้งใจ? ข้าได้ยินมาว่าเจ้าต้องการที่จะทุบตีหยางจ้านจนกว่าจะตาย? ด้วยนิสัยที่โหดร้ายตั้งแต่วัยเยาว์เช่นนี้ ในอนาคตมีเเต่จะทวีคูณความเลวร้ายมากขึ้น ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้ตักเตือนเจ้า เจ้าจะไม่สร้างความวุ่นวายมากมายในอนาคต?"
หยางหยุนเทียนยืนขึ้นทันที และเริ่มเดินไปทางหลงเฉิน ชั้นพลังปราณที่หนาแน่นกดดันไปที่ร่างของหลงเฉิน เกือบบดขยี้เขาลงไปกับพื้น
หลงเฉินไม่ได้กล่าวอะไรสักคำและทนทุกข์ทรมาณอย่างเงียบๆ
เขารู้ว่าวันนี้ถ้าหยางหยุนเทียนจะสังหารเขา มันคงไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายเลย
ในตอนนั้นเอง ได้มีเสียงสตรีดังออกมาจากนอกประตู
"พี่สอง ปล่อยให้ข้าจัดการกับเขา ข้าจะคิดบัญชีให้ท่านแน่นอน"
เท่านั้นแล้วหลงเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เขาก็ยังคงมีความกลัวอยู่ลึกๆ
เขารู้ดีว่าใครคือคนที่อยู่ข้างหลังเขา มันเป็นหยางเสวี่ยฉิง
วิธีที่หยางเสวี่ยฉิงได้ปฏิบัติกับเขาในหลายปีมานี้เป็นที่รู้กันดีของทุกคน ถ้าหลงเฉินตกอยู่ในมือของนาง เขาจะไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีแน่นอน
หยางหยุนเทียนคิดถึงตอนนี้ก็หัวเราะพร้อมกล่าว "น้องสาวสาม อย่าลังเลที่จะพาเขาไป อย่างไรก็ตามระหว่างเด็กรุ่นเยาว์ในตระกูลการต่อสู้เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อย ดังนั้นน้องสาวสามเพียงแสดงให้เขาเห็นถึงเส้นทางที่ถูกต้องและให้เขาแก้ไขมัน"
หลังจากล่าวจบแล้วเขาก็ออกไป
หยางฉิงซวนเห็นว่าไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับตนอีกต่อไปแล้ว เขาก็ยิ้มและจากไป แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาก็กระซิบที่ข้างหูของหยางเสวี่ยฉิงว่า "ไม่ถึงห้าวัน เขาได้กระโดดข้ามระดับจริงๆและยังเรียนรู้ทักษะหมัดดาวตก ด้วยพรสวรรค์ของเขา ท่านพ่อคงจะชื่นชมเขามากเป็นแน่ ดังนั้นเจ้าควรคิดถึงสถานการณ์ตอนนี้ให้ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้...."
หยางเสวี่ยฉิงตกตะลึงชั่วขณะ หลังจากนั้นหยางฉิงซวนก็จากไป เช่นนั้นแล้วนางก็เดินไปข้างหลงเฉิน
หลงเฉินได้ยินเสียงกระซิบของหยางฉิงซวนก่อนหน้านี้ เขาแปลกใจมากเกี่ยวการแสดงออกของหยางเสวี่ยฉิงที่ตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่น่าเสียดายที่สตรีคนนี้ยังสวมสีหน้าเย็นชาบนใบหน้าของนาง
"หึ วันนี้หลังจากที่ข้าทุบตีหยางจ้านจนมีสภาพนั้นดูเหมือนว่า มันยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้นางมองข้าแตกต่างไปจากเดิม"
ในใจของหลงเฉินก็ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยความใจเย็นว่า "มีชีวิตรอดหรือถูกสังหารขึ้นอยู่กับท่าน แต่ถ้าท่านจะไม่สังหารข้าแล้วรีบกล่าวมาโดยเร็ว ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะรั้งอยู่ที่นี่นานนัก"
หยางเสวี่ยฉิงขุ่นเคืองและพูดอย่างเย็นชา "ด้วยความสำเร็จเพียงเล็กน้อยเช่นนี้ น้ำเสียงของเจ้ากลับเปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมือนกับขยะที่ไร้ประโยชน์ เพียงเเค่เป็นอัจฉริยะในช่วงสั้นๆ ทั้งพ่อและบุตรชายคิดว่าตัวเองเป็นตัวสำคัญ ช่างน่าขันยิ่งนัก!"
ดวงตาของหลงเฉินสาดประกายจิตสังหาร
เขาทนไม่ได้อีกต่อไป
"ถ้าไม่มีอะไรอีก ข้าขอตัว!"
หลังจากพูดดังกล่าวเขาก็เดินผ่านหยางเสวี่ยฉิง และเมื่อเขามาถึงหน้าประตู หยางเสวี่ยฉิงก็กล่าวว่า "ภายในหนึ่งเดือน ข้าจะแต่งงานกับบุตรชายคนที่สามของตระกูลไป่ 'ไป่จ้านซ่ง' สำหรับเจ้า ข้าไม่ต้องการให้เจ้าอยู่ในเมืองไป่เห๋อหยางในวันนั้น ถ้าเจ้ายังคงอยู่อย่าได้โทษข้าที่ไม่ได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเรา"
ได้ฟังดังกล่าว หลงเฉินไม่ได้รู้สึกแปลกใจสักนิด
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะเข้มแข็งอย่างไร เมื่อถึงจุดนี้ในหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ไม่คาดคิดว่ามารดาของเขาจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้
หลงเฉินหันกลับไปมองที่นางและกล่าวอย่างเย็นชาว่า "อย่าตำหนิข้าเมื่อถึงเวลานั้นว่าข้าไม่ได้บอกท่าน ไป่จ้านซ่งสุภาพบุรุษที่สง่างามนั้นเป็นการแสดงเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น จริงๆแล้วเขาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่ข้าไม่เคยพบมาก่อนข้าเคยเห็นเขาใช้พลังของตัวเองเพื่อลักพาตัวสตรีวัยเยาว์สองสามคนที่อายุต่ำกว่าสิบหกปีแล้วขายให้กับคนอื่น..... "
หลังจากที่พูดถึงความลับที่เขาเก็บไว้ในใจเขามาตลอดเวลาแล้ว หลงเฉินคิดว่านางจะประทับใจ แต่เขาก็พบว่า หยางเสวี่ยฉิงมองเขาอย่างเย็นชากว่าเดิม เมื่อหลงเฉินกล่าวจบแล้ว นางก็แก้เผ็ดด้วยวาจาโดยกล่าวอย่างเย็นชาว่า "หยางเฉิน เนื่องจากตอนนี้เจ้ามีความสามารถที่จะเอาชนะหยางจ้าน แล้ว อย่าคิดว่ามันจะทำให้ข้ามองเจ้าในแง่ดีขึ้น ข้ายังคงคิดเช่นเดิม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปละทิ้งนิสัยเสียๆของเจ้าและกลับเป็นคนใหม่ซะ ในอดีตข้าอาจจะพอรู้สึกดีกับเจ้าอยู่บ้าง เเต่หัวใจของข้า ตอนนี้เจ้าได้ทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างมาก"
"ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าแต่งงานใหม่ แต่เจ้าได้ทำลายชื่อเสียงของพี่ชายไป่ โดยการใส่ร้ายป้ายความผิดนี่ชั่งเป็นเรื่องที่น่าขันนัก ข้าและพี่ชายไป่เป็นคนรักกันในวัยเยาว์ ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อของเจ้า ข้าคงจะเป็นสตรีของเขามานานแล้ว ความเข้าใจของข้าเกี่ยวกับตัวเขา ยังมากมายกว่าเจ้านับหมื่นเท่า! เจ้าต้องการสร้างความสับสนให้ข้าด้วยคำโกหกที่น่าตลกขบขันของเจ้า? "
หลงเฉินงงงวยมองไปที่สตรีคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า เขาเต็มไปด้วยความผิดหวังและความรังเกียจ เขาค่อย ๆ กำหมัดของเขาและรู้สึกว่าเลือดได้วิ่งเข้าสมองของเขา ในหัวใจของเขาราวสัตว์ป่าที่โหดร้ายกำลังแผดเสียง!
หลงเฉินจ้องเขม็งไปที่นางไม่เปลี่ยนแปลง และเริ่มกล่าว "โอ้ จริงหรือ? เช่นนั้นคำแนะนำจากอดีตบุตรชายของท่านคนนี้คงไม่มีน้ำหนักมากพอ? "
หยางเสวี่ยฉิงเงียบอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า "การกระทำที่เจ้าทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ไม่ใช่การบ่มเพาะ แต่เป็นการข่มขู่บุรุษและการพิชิตใจสตรี เหตุการณ์ทุกอย่างที่เจ้าได้กระทำ ข้ารู้จักเจ้าดี ข้ารู้สึกผิดหวังกับเจ้ามานานกว่า 10 ปี คนในตระกูลหยางยังไม่เชื่อถือเจ้า แล้วข้าควรจะเชื่อเจ้า? "
หลงเฉินรู้สึกว่าอกของเขากำลังจะระเบิดขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำและจ้องมองที่หยางเสวี่ยฉิง ทันใดนั้นเขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและกล่าว "หยางเสวี่ยฉิง พูดมันง่าย แต่ในฐานะคนเป็นแม่เช่นเจ้า เจ้าเคยรับผิดชอบหน้าที่นี้หรือไม่? ข้าสูญเสียพ่อและไม่มีเเม่คอยอบรมสั่งสอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าเหมือนกับสุนัขเช่นนั้น แต่เจ้ากลับกล้าตำหนิข้า? เจ้ากล้าบอกว่าข้าเป็นขยะตั้งแต่ข้าเกิด มักมากในกามตัณหาไม่มีใครสามารถรักษาได้ แต่ข้าจะบอกเจ้าตอนนี้ แม้ว่าข้าได้ทำร้ายคนไม่กี่คนมาก่อน แต่ข้าไม่เคยทำร้ายคนดีแม้เพียงคนเดียว! แต่พี่ชายไป่จ้านซ่งยอดรักของเจ้ามันต่างกัน..."
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลงเฉินจากนั้นก็พูดอย่างบ้าคลั่ง "ความผิดหวังของเจ้าที่มีต่อข้า ทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังมากๆ กับเจ้า แต่ถ้าเจ้าต้องการที่จะแต่งงาน ถ้าข้าหลงเฉินยังคงอยู่อย่าคิดว่ามันจะง่าย! เจ้าได้ยินใช่ไหม? ข้า หลงเฉิน! "
ใบหน้าของหยางเสวี่ยฉิงปราศจากความรู้สึกใดๆ นางโยนถุงใส่ของไปที่เท้าของหลงเฉิน
"ในหัวใจของข้า เจ้าไม่เคยใช้แซ่หยางมาก่อน เอาหยกจิตวิญญาณ 50 ชิ้นนี้ไป เเละออกจากเมืองไป่เห๋อหยางไปซะ"
การพูดมากกว่านี้ไปก็ไม่มีความหมายเลย แม้ว่าหลงเฉินมักชอบยอมรับของดีเล็กๆน้อยๆจากคนอื่นๆ แต่คราวนี้เขาไม่ได้มองหยกจิตวิญญาณเขาหันกลับและเดินออกไป
รีบออกไปจากที่พักของตระกูลหยาง เขาโกรธอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงเขาชกไปที่ก้อนหินขนาดใหญ่มากมาย จนกระทั่งเขาเหนื่อยและก็นั่งลงบนพื้น
เขามองไปทางทิศทางของตระกูลหยางที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงนี้ ตระกูลอันยิ่งใหญ่นี้อยู่ตรงข้ามกับสายตาของเขาแล้ว เขารู้สึกราวกับว่ามีภูเขาขนาดมหึมากำลังบดบังหัวใจของเขา
หลงเฉินค่อยๆกำหมัดของเขาแล้วกลิ่นอายของการฆ่าฟันเริ่มแผ่กระจายอย่างรุนแรงออกจากร่างกายของเขา
"ท่านพ่อ ข้าไม่สนว่านางจะเป็นคนอย่างไร ข้ารู้เพียงแค่ว่าไป่จ้านซ่งไม่ใช่คนดี ไม่ว่านางจะปฏิบัติต่อข้าอย่างไร ไม่ว่ายังไงข้าก็จะหยุดนาง นอกจากนี้ข้าไม่สามารถปล่อยให้นางมองเหยียดหยามลงมาที่ข้าเช่นนี้อีกได้และข้ายิ่งไม่สามารถปล่อยให้เหยียดหยามท่าน! "
เขากำหมัดตลอดจนกระทั่งเล็บของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา
"ท่านพ่อ ไม่มีใครจะยืนหยัดขัดขวางเส้นทางของข้าได้ตราบเท่าที่ข้าแข็งแกร่งขึ้นคำพูดระหว่างเราในวันนั้นในที่สุดข้าก็เข้าใจ หากต้องการเหนือกว่าคนอื่น ๆ ต้องการให้ทุกคนนับถือและเลียแข้งเลียขาของตัวเอง ข้าจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งเหนือคนอื่น! "
"สำหรับพวกมันที่มองเหยียดหยามลงมาที่ข้าจนถึงตอนนี้ ต้องขอบคุณท่าน ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงยังคงโง่เขลาเชื่อว่าการบ่มเพาะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดเท่าที่เคย ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขาต้องการดังนั้นต่อไปให้ข้าจะตอบแทนท่าน โดยการแสดงให้ท่านตกตะลึงในความแข็งแกร่งของข้า! "
"การแข่งขันภายในตระกูลเหลืออีกครึ่งเดือนและการแต่งงานที่เหลืออีกครึ่งเดือนหลังจากนั้น เนื่องจากการมีตัวตนของข้า หลงเฉิน แน่นอนว่าข้าจะทำให้บุคคลที่สำคัญทุกคนในงานต้องกลับคำพูดที่มีต่อข้า!"
หลังจากเขาได้ระบายความโกรธ ยามราตรีก็ได้มาถึง
หลงเฉินนั่งอยู่บนหลังคาบ้านของตัวเองมองไปที่แสงโคมไฟมากมายยามราตรี
"หยางเสวี่ยฉิงต้องการให้ข้าออกจากเมืองไป่เห๋อหยาง แต่ท่านพ่อต้องการให้ข้าได้รับ [ตราประทับมังกร] ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถที่จะออกไปได้ในตอนนี้? แต่ถ้านางโจมตีข้า ข้าจะปกป้องตัวเองได้อย่างไร? หรือข้าควรออกจากเมืองไป่เห๋อหยางและซ่อนตัวเป็นระยะเวลาหนึ่งและรอจนกว่าการแข่งขันจะเริ่มขึ้นแล้วข้าค่อยกลับมา? "
หลงเฉินจมลงไปในความคิดอยู่ชั่วขณะและคิ้วของเขาที่ขมวดกันเป็นปมก็ค่อยๆคลายออก เขาคิด "ทำไมข้าจะต้องอยู่ในเมืองไป่เห๋อหยางตอนนี้? ข้าเเค่ออกไปและสังหารสัตว์อสูรปีศาจบางตัว ด้วยวิธีนี้บางทีความก้าวหน้าในการบ่มเพาะของข้าควรจะรวดเร็วมากขึ้นบางทีข้าอาจจะโชคดีได้รับโชควาสนาบางอย่าง!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะออกไปข้างนอกเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ตอนนี้ท้องเขาก็ร้องขึ้นมา เขาจึงกระโดดลงจากหลังคาและเดินตรงไปที่โรงเตี๊ยมตะวันลอย
เวลาเกือบเที่ยงคืน แต่โรงเตี๊ยมตะวันลอยยังคงเป็นสถานที่ที่ครึกครื้นและเสียงดัง
หลงเฉินเดินไปอย่างเงียบๆเมื่อใกล้ถึงโรงเตี๊ยมแล้วก็ได้ยินเสียงคนพูดกันว่า "ข่าวใหญ่!! พวกเจ้ายังไม่รู้อะไร แต่มีเรื่องใหญ่บางอย่างเกิดขึ้นในตระกูลหยาง!"
"ข่าวใหญ่อันใด รีบพูดมันเร็ว!"
"พวกเจ้ายังไม่รู้ แต่เมื่อเช้านี้ข้าได้ยินมาว่าหยางจ้านของตระกูลหยางและบุตรชายของหยางเสวี่ยฉิงที่ชื่อหยางเฉินได้ต่อสู้กันและนายน้อยหยางจ้านได้ถูกจัดการเเละถูกปลดเสื้อผ้าของเขาต่อหน้าทุกคนและเมื่อเขากลับไปเขาแท้จริงแล้วก็ได้ฆ่าตัวตาย!”
"นี่เป็นความจริงหรือ?"
"มันจะปลอมได้อย่างไร? ข่าวเพิ่งเกิดขึ้น ตอนนี้ตระกูลหยางกำลังตามหาตัวหยางเฉิน! "
หลังจากได้ยินเรื่องนี้หลงเฉินก็รีบออกไป
"ตอนแรกข้าคิดว่ามันจะไม่สามารถมองหน้าคนอื่นได้อีกต่อไป แต่ข้าไม่เคยคิดว่าคนผู้นี้จะไม่สามารถทนได้และเลือกที่จะฆ่าตัวตายแทน เขาชั่งเป็นขยะจริงๆ อย่างไรก็ตาม ปกติมันไม่ได้ปฏิบัติต่อข้าเป็นเหมือนมนุษย์ และความแตกต่างในวันนี้มันใหญ่มากจนหัวใจของมันไม่สามารถยอมรับได้ ดังนั้นข้าเดาว่านี่เป็นเหตุผลที่มันฆ่าตัวตาย"
"ตอนนี้หยางจ้านตายไปแล้ว ข้ายิ่งไม่สามารถอยู่ที่เมืองไป่เห๋อหยางได้ ตอนนี้ข้าต้องรีบออกไปทันที!"
ในอดีตเขาได้รู้จักเมืองไป่เห๋อหยางเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับพื้นที่เส้นทางหลังจากเดินทางผ่านอุโมงค์ใต้ดินบางแห่ง เขาก็รีบออกจากเมืองก่อนที่ตระกูลหยางจะพบเขา
หลังจากเดินเป็นเวลานานแล้วเขาก็หันกลับไปที่ เมืองไป่เห๋อหยาง
"หยางจ้านตายไปแล้ว ในอนาคตแม้ข้าจะกลับมางานประลองภายในตระกูลข้าเกรงว่ามันจะเป็นอันตรายต่อข้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ข้าได้ยินมาว่าผู้ก่อตั้งของตระกูลหยางรักคนที่มีความสามารถพิเศษมากที่สุดในชีวิตของเขา ถ้าข้าแสดงความสามารถพิเศษบางอย่าง ข้าอาจจะมีโอกาส! เพียงแค่ทักษะหมัดดาวตกในวันนี้ เขาอาจจะรู้สึกประหลาดใจมากแล้ว
"แต่หลังจากออกจากเมืองไป่เห๋อหยางแล้ว ข้าจะไปที่ไหนดี? "
"ทางตะวันออกของเมืองไป่เห๋อหยางคือภูเขาสันโดษเป็นที่ ที่อยู่อาศัยของสัตว์ปีศาจบางทีข้าอาจจะได้รับโชควาสนาที่นั่นก็เป็นได้..... "
ขณะที่เขากำลังจะจากไปยังภูเขาสันโดษในเวลานี้ก็มีใครบางคนที่อยู่ข้างหลังได้ออกมาหลังจากเขา
ใบหน้าของหลงเฉินเปลี่ยนสีเล็กน้อยก่อนที่จะรีบซ่อนตัว
หลังจากได้เห็นคนที่มาที่นี่แล้ว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มหัวเราะอย่างมีความสุข
คนที่ออกมาเป็นบุรุษที่ยืนอยู่ด้านหลังหยางหลิงเยว่ก่อนหน้านี้เมื่อตอนเช้า ชื่อของมันคือไป่ฉวี่ชิง บุตรชายคนเล็กของไป่จ้านซ่ง
ความทรงจำที่เคยถูกไป่ฉวี่ชิงรังแกในเรือนหยกเขียวมรกตได้ปรากฏขึ้นในจิตใจของหลงเฉิน
"ไป่ฉวี่ฉิงมันกำลังทำอะไร?"
หลงเฉินคิดว่าไป่ฉวี่ฉิงกำลังออกตามหาตัวเขา แต่หลังจากมองอย่างใกล้ชิด เขาเห็นว่าไป่ฉวี่ชิงแท้จริงแล้วไล่ตามวัตถุส่องสว่างที่ลอยอยู่ วัตถุส่องเเสงได้บินไปมาอยู่ในอากาศ บางทีนั่นเเท้จริงเเล้วอาจเป็นสมบัติล้ำค่าบางอย่าง!