ตอนที่ 195 บุก
หลิงฮันและกลุ่มของเขาทำให้เกิดฉากที่น่าทึ่งขึ้น
มันมีรอยยิ้มซ่อนอยู่บนใบหน้าของกว่างหยวนและคนที่เหลือ
พวกเขาทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธและมีนิสัยที่หุนหัน แต่ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่เป็นคนโง่ เมื่อพวกเขาเห็นท่าทีขององครักษ์จักรพรรดิทั้งสองคน มันทำให้พวกเขาตระหนักว่าหลิงฮันเป็นคนที่มีภูมิหลังที่น่าสะพรึงกลัว นั่นเป็นเพราะแม้แต่องครักษ์จักรพรรดิยังแกล้งทำเป็นตาบอดมองไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นมันจึงดูเหมือนว่าจะไม่มีเหตุร้ายใดๆที่จะเกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้
...ในสมาคมวารีล้างปฐพีมีจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเพียงแค่สามคนและมีจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุหลายสิบคน ซึ่งมันด้อยกว่ากลุ่มคนของหลิงฮัน
กลุ่มของหลิงฮันเดินผ่านถนนด้วยความภาคภูมิใจและในไม่ช้าพวกเขาได้มาถึงสมาคมวารีล้างปฐพี
แม้ว่ามันจะมีชื่อว่าสมาคมวารีล้างปฐพี แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้แตกต่างจากขุมพลังอื่นมากนัก พวกมันมีลานขนาดใหญ่ในเมืองจักรพรรดิและบรรดาผู้นำระดับสูงของสมาคมต่างอาศัยอยู่ที่นี่
ปัจจุบันมีการแจ้งเตือนในบริเวณประตูหลัก เห็นได้ชัดว่าอ้ายซงได้กลับมาพร้อมข้อมลูของมันและสมาคมวารีล้างปฐพีเตรียมพร้อมที่จะตอบโต้
"นายท่าน ท่านขโมยสมบัติจากหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มพวกเรา และท่านกล้ามากที่มาที่นี่ ท่านคิดว่าจะไม่มีใครในสมาคมวารีล้างปฐพีทำอะไรท่านได้งั้นหรือถึงพยายามที่จะข่มขู่พวกเรา?" ชายชราถามด้วยความมืดมนและกลิ่นอายที่ทรงพลังได้ปรากฏออกมาจากตัวเขา
หลิงฮันอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ มันดูเหมือนว่าสมาคมวารีล้างปฐพีนั้นจะเข้าใจผิดและเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากหินบุปผาทองคำ หลิงฮันจึงส่ายหัวและพูดว่า "ฝ่ายข่าวกรองของท่านดูเหมือนจะย่ำแย่มากเลยหรือไม่จริง? ท่านทำลายร้านค้าของข้าไปหลายร้าน แต่กลับไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร?"
ชายชราเป็นผู้อาวุสโสของสมาคมวารีล้างปฐพีและอยู่ในระดับห้วงจิตวิญญาณ ชื่อของเขาคือหลูเยว่ ตอนนี้เขากำลังจ้องมองไปที่หลิงฮัน แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าเขาคือใคร ในความเป็นจริง การทำลายร้านค้าของคนอื่นเป็นเพียงธุรกิจขนาดเล็กของสมาคมวารีล้างปฐพี และไม่อาจทราบตัวตนระดับสูงอย่างหลิงฮันได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าสมาคมตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา
ในขณะนั้น สีหน้าของชายวัยกลางคนที่อยู่ใกล้หลูเย่วได้เปลี่ยนแปลงไป เขาเดินเข้ามาใกล้หลูเย่วและส่งเสียงกระซิบเข้าไปในหูของหลูเย่วหลังจากนั้น ชายชราได้พยักหน้าเล็กน้อยและสีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นรังเกียจทันที
ในความคิดเห็นของหลูเย่ว มูลค่าของร้านเสื้อผ้าไม่กี่แห่งจะเทียบกับหินบุปผาทองคำได้อย่างไร? เจ้าขโมยสมบัติจากหนึ่งในสมาชิกของสมาคม และมูลค่าของมันมีค่ามากกว่าร้านค้าที่ถูกทำลายมากกว่าหนึ่งร้อยร้านเสียอีก
เจ้าเด็กเหลือขอนี่จะต้องเป็นนายน้อยจากครอบครัวที่มั่งคั่งบางแห่งเป็นแน่ มันถึงมีนิสัยเสียตั้งแต่เกิด นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถึงกล้าหุนหันมาที่นี่เพื่อแก้แค้นเพียงเพราะร้านค้าของเขาถูกทำลาย
"หึ่ม ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่เจ้ากำลังทำให้ชื่อเสียงสมาคมของพวกข้าเสื่อมเสีย!" หลูเย่วปฏิเสธที่คนของมันทำลายร้านค้า
"ทิ้งหินบุปผาทองคำไว้และจ่ายค่าชดเชยอีกสิบล้าน แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป!" หลูเย่วกล่าวข่มขู่หลิงฮัน
หลิงฮันหัวเราะออกมาและพูดว่า "สามห้าว! แล้วเจ้ามีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่?" หลิงฮันเดินตรงไปที่ประตูหลัก
"อวดดียิ่งนัก!" ทันใดนั้น ใครบางคนได้กระโจนออกมาและเหยียดมือออกไปเพื่อคว้าลำคอของหลิงฮัน
"ไสหัวไป!" ใครบางคนกระโดดออกมาจากด้านหลังของหลิงฮัน แสงของดาบของเขาไหลเหมือนน้ำและพุ่งเข้าหาชายคนที่เพิ่งกระโจนออกมา
ชายจากสมาคมวารีล้างปฐพีรีบหลบหลีกการปะทะทันที ในขณะนั้นมีชายวัยกลางคนยืนกวัดแกว่งดาบอยู่ด้านหน้าหลิงฮัน
หลิงฮันไม่เดินถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว และยังคงเดินหน้าต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนของสมาคมวารีล้างปฐพีรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก พวกมันทุกคนจึงกระโจนพุ่งเข้าหาหลิงฮัน อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้คนที่หลิงฮันได้ทำการว่าจ้างไม่ได้นิ่งเฉยโดยที่ไม่ทำอะไรเลย พวกเขากระโดดออกไปข้างหน้าเช่นกันและปกป้องหลิงฮัน
นี่เป็นสมาครามของคนหนึ่งร้อยคนปะทะสิบสามคน ฝ่ายหลิงฮันมีความได้เปรียบเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเจ็ดคนที่ยังไม่เคลื่อนไหว
ในตอนนั้นเองหลูเย่วได้ค้นพบว่าคนที่ยังไม่เคลื่อนไหวทั้งเจ็ดคนนั้นมีกลิ่นอายที่ไม่ได้อ่อนด้อนไปกว่าตัวมันเลย มันจึงรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ถ้าพวกเขาเป็นจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะมีกี่คน เขาไม่เพียงแต่จะทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว แต่ยังทำให้คนที่เหลืออยู่หนีกระเจิงไปเหมือนกับหนู จอมยุทธเพียงคนเดียวอาจเป็นคนที่โหดเหี้ยมกว่าทุกคนในบางครั้งเมื่อพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ แต่เมื่อใดที่พวกเขาตกอยู่ในฝ่ายเสียเปรียบ พวกเขาก็จะหลบหนีไปอย่างเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณถึงเจ็ดคน...นี่อาจเป็นปัญหาได้
เจ้าเด็กเหลือขอนี่อาจเป็นคนที่ร่ำรวยมาก มันถึงจ้างจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันถึงกล้ามาที่นี่เพื่อท้าทายพวกมัน
หลูเยว่ขบคิดอยู่ชั่วครู่แล้วกล่าวว่า "สหายเอ่ย ไม่ว่าเจ้าเด็กเหลือขอนี่จะสัญญาอะไรไว้กับพวกเจ้า ตราบใดที่พวกเจ้าเลือกที่จะยืนหยัดและไม่ทำอะไร เช่นนั้นไม่ว่าผลตอบแทนที่มันได้จะให้พวกเจ้าจะคืออะไรพวกเจ้าจะได้รับจากสมาคมวารีล้างปฐพี!"
เขาเป็นคนที่ค่อนข้างแน่วแน่ทีเดียว
กว่างหยวนหัวเราะและกล่าว "ผู้อาวุโสหลู ผู้ชายจะต้องจริงใจกับคำพูด ยิ่งไปกว่านั้น พวกข้ารับภารกิจจากหอกองทัพสวรค์แล้ว ถ้าพวกเราทิ้งกลางคัน แล้วใครจะกล้าว่าจ้างพวกข้าอีกในอนาคต?"
"เจ้ารู้หรือไม่ข้าคือใคร?" หลูเย่วถาม
"ฮ่าฮ่าฮ่า สมญานามของผู้อาวุโสหลูเย่วคือ 'เข็มเร้นลับ' ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเมื่อใดที่ท่านใช้อาวุธลับของท่าน แล้วใครจะไม่รู้จักท่าน?" กว่างหยวนกล่าวอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาได้สบัดมือและกล่าวว่า "ตัวเอกของวันนี้คือนายน้อยฮัน หากท่านต้องการพูดสิ่งใด ท่านควรพูดกับนายน้อยฮัน พวกข้าเป็นเพียงแค่ผู้รับผิดชอบในความปลอดภัยของเขา"
จิ้งจอกเฒ่าเอ้ย!
หลูเย่วสาปแช่งอยู่ในใจ เขาต้องการใช้อำนาจของสมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อกดดันให้พวกเขายอมรับ แต่เขาปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้กับหลิงฮัน
"เจ้าเด็ก ถ้าเจ้าหยุดตั้งแต่ตอนนี้มันยังไม่สายเกินไป!" เขากล่าวกับหลิงฮัน "ตราบใดที่เจ้าจ่ายเงินชดเชยให้พวกเราสมาคมวารีล้าง.....!"
ขณะที่เขากำลังพูด หลิงฮันได้ปล่อยกำปั้นที่ทรงพลังออกมาใส่ป้ายชื่อสมาคมของพวกมันที่อยู่ด้านบนของประตู ทำให้มันตกลงสู่พื้นดินและเกิดเสียงดังก้อง ป้ายนั่นถูกทำมาจากทองแดงและเมื่อมันตกลงบนพื้นจึงทำให้เกิดเสียงดังก้องที่ทำให้หลายคนรู้สึกตกใจ
เมื่อผู้คนจากสมาคมวารีล้างปฐพีเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ดวงตาของพวกมันแดงก่ำทันที
นั่นคือป้ายสมาคมวารีล้างปฐพี!
ป้ายนั่นมันเทียบได้กับใบหน้าของสมาคมวารีล้างปฐพี และตอนนี้มันถูกหลิงฮันทำลาย จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกมันทำคนจะรู้สึกโกรธ
หลิงฮันยิ้มไม่แยแสออกมาและกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าเมื่อคืนก่อนพวกเจ้าจะเล่นสนุกร้านของข้าค่อนข้างมากทีเดียว วันนี้ข้าจะทำในแบบเดียวกับที่พวกเจ้าทำ!" เขายกขาขึ้นก่อนที่จะกระทืบเท้าลงไปที่แผ่นป้ายของพวกมัน พลังของจอมยุทธระดับหลอมรวมธาตุขั้นเก้าปะทุออกมาและย่ำไปที่ป้ายของพวกมันแยกออกเป็นสองส่วน
"เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!" สมาชิกของสมาคมวารีล้างปฐพีทุกคนรู้สึกโกรธเกรี้ยวมาก มันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฉีกหลิงฮันออกเป็นชิ้นๆ
แม้ว่าจะมีกฎห้ามฆ่ากันในเมืองจักรพรรดิ แต่มันไม่ได้ห้ามหากศัตรูบุกรุกเข้ามาในถิ่นของตัวเอง มันจะไม่มีการลงโทษคนที่ทำร้ายผู้อื่นหรือสังหารผู้อื่นแต่อย่างใดหากทำไปเพราะป้องกันตัว!
"เจ้าเด็กสารเลว!" จิตสังหารของหลูเย่วปะทุออกมา เขากระโจนเข้าหาหลิงฮัน และปล่อยเข็มทองเก้าเล่มออกไป เข็มเหล่านั้นห่อหุ้มด้วยปราณก่อเกิดของมันและมีความสามารถในการทะลุการป้องกันของปราณก่อเกิดได้ มันเป็นการโจมตีที่รุนแรงอย่างหนึ่ง
"ผู้อาวุโสเย่ว คู่มือของท่านคือข้า!" กว่างหยวนตะโกนออกมาร่ายกายของเขาสั่นสะเทือนเล็กน้อยและแสงสีทองอันสว่างไสวได้เปล่งประกายออกมาราวกับว่าเขาเป็นพระพุทธรูป เขาเหยียดมือข้างหนึ่งออกไปและตะโกนว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าไร้ซึ่งขอบเขตเหนือยิ่งกว่าความตาย!"
ตู้ม แสงสีทองอันสว่างไสวแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้างและทรงพลัง
หลิงฮันไม่แม้แต่จะเหลือบมอง เขาเพียงแค่ก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไปและมุ่งหน้าไปที่ห้องโถงหลักของสมาคมวารีล้างปฐพี เขายิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดกับฮูหนิวว่า "หนิวหนิวมาแข่งกันเถอะว่าใครจะเป็นผู้สร้างความเสียหายได้มากกว่ากัน!"
"หนิวจะต้องเป็นผู้ชนะอยู่แล้ว!"ฮูหนิวกล่าวด้วยความดีอกดีใจ