DBWG ตอนที่ 4 หมัดดาวตก
เฉินหลิวถอยหลังไปสองสามก้าว หัวเราะอย่างมีความสุขไปที่หลงเฉินและกล่าวว่า "นี่เป็นเพียงการฝึกซ้อมเท่านั้น เราจะหยุดทันทีที่มีการบาดเจ็บเกิดขึ้นนายน้อยเฉินไม่ต้องกังวลว่าจะถึงตายหรอก"
หลงเฉินมองไปที่เฉินหลิวอย่างเย็นชา และรู้สึกได้ถึงการดูถูกภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั่น แท้จริงแล้วถ้าหลงเฉิน ไม่ได้รับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ในตระกูลหยาง บางทีเขาอาจจะไม่สามารถเอาชนะคนนอกคอกเช่นเฉินหลิวได้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการต่อสู้หรือการคิดคำนวณเขาก็ได้รับประสบการณ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ ในความจริงแล้วก็หาได้ยากที่เขาจะมีโอกาสได้ต่อสู้จริง!
"เฉินหลิว ข้ารู้นิสัยเจ้าดีว่าเจ้าเป็นคนยังไง ไม่ต้องอ้อมค้อม ถ้าเจ้าต้องการจะสู้ก็เข้ามา แต่ถ้าข้าเผลอพลั้งมือฆ่าเจ้าโดยบังเอิญ ก็อย่ามาโทษโกรธเคืองข้า!"
เมื่อได้ยินน้ำเสียงจริงจังจากหลงเฉิน เฉินหลิวก็อยู่ไม่สุข ในขณะเดียวกันเมื่อมันตัดสินใจที่จะตอบโต้ด้วยวาจา มันก็เห็นร่างของหลงเฉินเคลื่อนไหวไปพร้อมกับพลังฉีที่พลุ้งพล่าน เเละ เหวี่ยงหมัดมาที่มัน!
"เเท้จริงเเล้วเจ้าเข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกร? ชั่งเถอะแต่อย่างไรก็ตามเจ้าก็ยังไม่ใช่คู่มือของข้า! ดี ถ้าเจ้าไม่รู้จักประมาณตน เช่นนั้นอย่าได้โทษข้า เฉินหลิว สำหรับการตอบโต้ในครั้งนี้!"
เฉินหลิวติดอยู่ในขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 2 เป็นระยะเวลาสองปีแล้ว และได้กักเก็บรวมรวมปราณฉีไว้เป็นจำนวนมาก ตอนนี้แทนที่จะถอยเขากลับเดินไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นและเหวี่ยงหมัดออกไปต้านกับหมัดของหลงเฉินโดยตรง
ปัง!
หมัดทั้งสองกระแทกกันสนั่นหวั่นไหว ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นของพลังฉี ซึ่งผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายถอยหลังกลับไป
เมื่อรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามที่เปรียบได้กับพลังของมัน เฉินหลิวก็ตกตะลึงอย่างมาก "ทำได้ดีจริงๆ เจ้าปกปิดความแข็งแกร่งของเจ้าไว้อย่างมิดชิด เเท้จริงเเล้วเจ้ากลับอยู่ในขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2!"
เห็นฝ่ายตรงข้ามประเมินตัวเองหลงเฉินก็ถอยกลับไป
"ปราณฉีที่ถูกกักเก็บไว้ของเฉินหลิวใกล้เคียงกับของข้า และมันมีประสบการณ์ต่อสู้มากกว่าหากเทียบกับข้า หากการต่อสู้ครั้งนี้ยืดเยื้อ ข้าย่อมไม่ใช่คู่มือของมัน วันนี้เป็นการต่อสู้ครั้งแรกของข้า ถ้ามันจบด้วยการที่ข้าพ่ายแพ้ แน่นอนว่ามันจะขัดขวางความก้าวหน้าในการบ่มเพาะของข้าในอนาคตอย่างเเน่นอน ดังนั้นถึงแม้ข้าจะตายข้าจะต้องชนะ!"
เมื่อคิดอย่างนั้น เเววตาของหลงเฉินแดงก่ำ เขาหันหลังไปอย่างรวดเร็ว เขามองเห็นก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นอยู่ใกล้ๆแล้วหันกลับมาที่เฉินหลิว
เขาจ้องเขม็งไปที่เฉินหลิวและกล่าวว่า "เฉินหลิว ข้ารู้ว่าเจ้าได้เปรียบข้าในการต่อสู้นี้ แต่ถึงอย่างไรข้าก็เเข็งเเกร่งกว่าเจ้า ลองลิ้มรสหมัดของข้าในคราวนี้ดู!"
เขาชกหมัดออกไป เฉินหลิวที่เห็นเช่นนั้นมันระเบิดปราณฉีออกมาพุ่งไปยังหลงเฉินเพื่อตอบโต้!
คราวนี้หลงเฉินถูกส่งกระเด็นออกไปและล้มลงอย่างรุนแรง!
"เป็นเเค่ลูกชายของตาแก่ไร้ประโยชน์ ตัวเจ้าเองก็ไร้ประโยชน์ ด้วยความแข็งแกร่งอันน่าสมเพชของเจ้า เจ้ากลับกล้าโอ้อวดความแข็งแกร่งอันน้อยนิดนั้นต่อเบื้องหน้าข้า? สมควรเเล้วที่เจ้าจะพ่ายเเพ้!"
เมื่อเห็นหลงเฉินล้มลง เฉินหลิวรู้สึกว่าพลังของตัวเองแข็งแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้าม เขาหัวเราะออกมาเสียงดังสนั่น
อย่างไรก็ตาม หลงเฉินก็ได้ลุกขึ้นยืน ดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องไปที่เฉินหลิว สิ่งที่เฉินหลิวไม่เห็นคือหลงเฉินได้นำมือซ้ายของเขาไปไว้ด้านหลัง
"เจ้ายังไม่คิดจะยอมแพ้อีกหรือ?"
เฉินหลิวคำรามออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ และเยาะเย้ยหลงเฉินอีกครั้ง เฉินหลิวต้องการที่จะทุบตีหลงเฉินด้วยกำปั้นและเอาชนะเขาโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามขณะนั้นเอง หลงเฉินก็ได้เหวี่ยงมือซ้ายไปข้างหน้า ภายในมือจับวัตถุสีดำแน่นและกระแทกเข้าที่ใบหน้าของเฉินหลิว
"เชี่*อะไรวะ?"
เฉินหลิวรีบใช้มือทั้งสองข้างป้องกันใบหน้าของเขา วัตถุสีดำได้กระแทกเข้าที่แขนของเขา จนบังเกิดความรู้สึกเจ็บปวดบนแขนของเขา เขาจ้องมองไปที่บางสิ่งที่โจมตีเขาจนรู้ว่ามันคือก้อนหินก้อนนึง!
หลงเฉินใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาขว้างปาโจมตีออกไป แต่เฉินหลิวได้ใช้ปราณฉีของเขาป้องกัน จึงไม่ได้สร้างผลกระทบที่แขนของเขามากนัก
ถึงอย่างนั้น หลงเฉินก็พุ่งเข้าไปหาเฉินหลิวและชกลงไปที่ท้องของมัน เกิดเสียงดังสนั่นลั่นเฉินหลิวกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างถูกส่งกระเเทกเข้ากับต้นไม้ เฉินหลิวกระอักเลือดลงบนพื้น มันหมดสภาพโดยสมบูรณ์ ทำได้เพียงจ้องไปยังหลงเฉินด้วยสายตาหวาดผวาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ..
"เจ้า...หยางเฉิน เจ้ากล้าทำร้ายข้า พี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของข้าแน่นอนว่าเขาจะจัดการเจ้า ถึงตอนนั้นเจ้าจะมาเรียกร้องชีวิตที่ไร้ประโยชน์ของเจ้ามันก็สายไปเเล้ว!"
หลงเฉินยืนอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะถ่มน้ำลายออกมา
"ไม่ว่ามันจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นไหน? ต่อหน้าทักษะที่เเข็งเเกร่งของข้า ข้าก็จะลงมือทุบตีมันผู้นั้น!"
ก่อนหน้าที่หลงเฉินจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ เขาได้ฝึกฝนการเคลื่อนไหวของตัวเองอยู่หลายครั้งเเละก่อนหน้านี้ก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดของเขา
เมื่อทั้งสองต่อสู้กัน เขาได้เหวี่ยงเศษหินไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายใบหน้าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด เเต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังเป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุด เฉินหลิวเพราะเฉินหลิวคงไม่คาดคิดว่าหลงเฉินจะขว้างปาก้อนหินเข้าหามัน ดังนั้นมันจึงใช้มือของมันป้องกันไว้ตามสัญชาตญาณ ขณะที่มันป้องกันก้อนหินที่ถูกขว้างปามา หลงเฉินก็โจมตีเข้าจุดด้านล่างตรงท้องน้อยที่ไร้ซึ่งการป้องกัน
คิดย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ที่เฉินหลิวถ่มน้ำลายใส่หลงเฉินเขากลับรู้สึกเเค้นอย่างมาก คราวนี้กลับเป็นฝ่ายเฉินหลิวที่ถูกกระทำบ้าง มันกลับกล้าที่จะข่มขู่เขา หลงเฉินเดินเข้าไปหาเฉินหลิว และบีบคอของมันแน่น เขากล่าวเยาะเย้ยทันที "เจ้าเคยเรียกข้าว่า 'สุนัข' หนึ่งครั้ง ถ่มน้ำลายใส่ข้าหนึ่งครั้ง นี่เป็นเพราะความปากเสียของเจ้า เเต่วันนี้ข้าจะไม่ทำให้เรื่องมันยากเย็นเกินไป ข้าจะปิดปากเน่า ๆ ของเจ้าซะ!"
เฉินหลิวตื่นตระหนกและแสดงออกถึงความหวาดกลัวอย่างเเท้จริง แม้เขาจะอ้อนวอนขอร้องด้วยสายตาต่อหลงเฉิน แต่ก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไร หลงเฉินก็ชกเข้าไปที่ปากของมันและทำลายฟันทั้งหมด เฉินหลิวกลิ้งไปมาบนพื้นและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในใจของเขานึกเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่น่าเสียดายที่มันสายเกินไปเเล้ว
ตอนนี้หลงเฉินสามารถ ชนะเฉินหลิวได้ เพียงเเต่ว่าเขากลับรู้สึกขนลุกจากบางสิ่งที่อยู่ด้านหลังของเขา เขารีบหันกลับไปมองและเห็นหยางจ้านกับบิดาของหยางจ้านผู้ที่เป็นพี่ชายคนโตคนที่สองของมารดาเขา ลุงของหลงเฉิน ทั้งสองยืนอยู่ห่างออกไปราวห้าเมตร
จริงๆแล้วพวกเขาแค่เดินผ่านมา แต่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงยืนเฝ้ามองอยู่ที่หน้าห้องโถงฝึกฝนทักษะเพื่อชมการแสดงที่ยอดเยี่ยม เฉินหลิวเป็นข้ารับใช้ของหยางจ้านและมันถูกทำร้ายโดยหลงเฉิน หยางจ้านรู้สึกโกรธขึ้นมาและต้องการเดินไปหาหลงเฉินเพื่อหาเรื่อง
"หยางเฉิน... เจ้ากำลังรนหาที่ตาย?"
โดยไม่ต้องกล่าวอื่นใด มันได้เหวี่ยงฝ่ามือไปที่หน้าของหลงเฉิน
ฝ่ามือซึ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากปราณฉีที่ไร้สิ้นสุดหลงเฉินพบว่าถ้าเขาไม่สามารถหลบได้ เเละถูกโจมตี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟันของเขาต้องร่วงหมดปาก เเน่นอน ดูเหมือนหยานจ้านต้องการจะระบายโทสะกับเขา
หลงเฉินรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเพราะเขายังด้อยกว่าอีกฝ่ายในเรื่องของความแข็งแกร่ง และทำไดัเพียงเเต่ยืนรอการถูกกระทำ
เขากัดฟันแน่น ความโกรธในตอนนี้ได้กัดกินจิตใจเขาจนหมด เขาทั้งถูกดูถูกเเละดูหมิ่น ชีวิตที่ถูกปฏิบัติเยี่ยงสุนัข เขาได้รับมันมามากเกินพอ
เขาสาบานว่าเขาจะต้องแก้แค้น!
"ทำไมมันถึงต้องการตบหน้าข้าโดยไม่กล่าวถามถึงความจริง ถ้าความแข็งแกร่งของข้ามากกว่ามันข้าก็คงจะสามารถชนะมันได้ เเม้จะเป็นเช่นนั้นบิดาของมันก็คงจะปกป้องมันอยู่ดี เช่นนั้นข้าจะต้องยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว? ถ้าข้าแข็งแกร่งกว่ามัน มันจะเป็นโอกาสของข้าที่ข้าจะได้สวนกลับ!"
ฝ่ามือที่ใกล้เขามา ส่งคลื่นกลิ่นไอพลังอันรุนแรงออกมาเป็นช่วงๆ
เพียงเเต่ว่าในขณะนั้นก็บังเกิดเสียงห้ามขึ้น ได้ยินเสียงห้ามดังออกมา แขนของหยางจ้านก็หยุดลงห่างจากใบหน้าของหลงเฉินเพียงไม่กี่นิ้ว แรงกดดันจากฝ่ามือที่อยู่ตรงใบหน้าของหลงเฉิน ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
คนที่จับแขนของหยางจ้านไว้คือ'หยางหยุนเทียน' หยางหยุนเทียนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า "จ้านเอ๋อร์ เจ้าลืมคำสอนของข้าไปแล้วหรือ พวกเราต่างก็เป็นคนในตระกูลเดียวกัน เจ้าจะทุบตีผู้อื่นง่าย ๆ ได้อย่างไร ดูว่าข้าจะลงโทษเจ้าอย่างไรเมื่อเรากลับไป"
ไม่นานหลังจากนั้นเขามองไปที่หลงเฉินและกล่าวว่า "โอ้ว, เจ้าเข้าสู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 แล้ว? ตามกฏ เจ้าสามารถอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้ทักษะต่อสู้ได้ ถ้าเจ้าต้องการมันก็ตรงไปข้างหน้า แต่ท่านพ่อของข้ากำลังทำการบ่มเพาะอย่างเงียบๆอยู่ ถ้าเจ้ารบกวนเขา เจ้าจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง...."
หลังจากนั้น โดยไม่มองไปที่หลงเฉินอีก เขาจับแขนหยางจ้านและเดินจากไป
เดินไปได้หลายสิบก้าว หยางจ้านในที่สุดไม่สามารถยอมรับได้และกล่าวถามว่า "ท่านพ่อ มันทำเฉินหลิวจนบาดเจ็บหนัก ทำไมท่านไม่อนุญาตให้ข้าสั่งสอนมันด้วยมือคู่นี้? ด้วยความสามารถเพียงเล็กน้อยของมัน มีหรือที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้"
หยางหยุนเทียนกล่าวว่า "เจ้าต้องการแสดงความแข็งแกร่งโดยการกลั่นแกล้งคนอ่อนเเอ? ถ้าเจ้ามีความสามารถ ทำไมเจ้าถึงไม่ท้าทายพี่สาวของเจ้า หลิงเยว่ หรือหยางหวู่? นอกจากนี้เขายังเป็นลูกชายของน้าสาวเจ้า เจ้าจะปฏิบัติต่อเข้าเหมือนขี้ข้าได้อย่างไร!"
หยางจ้านพึมพำอย่างมืดมน "เหตุผลไม่ใช่เพราะท่านน้า แต่เพียงเพราะความสามารถขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 8 ของนาง ท่านพ่อ..ให้เวลาข้ามากกว่านี้ ข้าจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างเเน่นอน?"
มองดูพวกเขาจากเงามืด หลงเฉินก็ระงับโทสะของเขาอย่างไรก็ตาม หนี้การตบในวันนี้และแม้แต่การทุบตีและการดุด่าในอดีต เขาจำได้อย่างชัดเจนทุกคน
"ข้ายังคงรู้สึกเหมือนเดิม อย่าให้ข้ามีโอกาส ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกตกตายไม่สู้มีชีวิตอยู่"
หลังจากอดทนมาหลายปี เขาได้เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเอง
เมื่อมองไปที่ห้องโถงฝึกฝนทักษะหลงเฉินก็โยนความรู้สึกหงุดหงิดเหล่านั้นทิ้งไป เขาผลักประตูหินและเดินเข้าไปในห้องโถง
สำหรับเฉินหลิวที่ยังคงหมดสติอยู่ มันถูกพาตัวไปหลังจากนั้นไม่นานภายใต้คำสั่งของหยางหยุนเทียน
หลงเฉินเดินไปยังเจดีย์สูง เงยหน้าและมองขึ้นไปที่เจดีย์และบ่นพึมพำ "ทักษะต่อสู้อันเเรกของข้าพวกมันอยู่ที่นี่!"
เขามองไปยังทางด้านข้าง มีกระท่อมไม้อยู่ ผู้ก่อตั้งตระกูลหยาง เขาเป็นปู่ของหลงเฉิน คนนอกมักไม่กล้ารบกวนเขา และด้วยผู้ก่อตั้งที่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ ห้องโถงฝึกฝนทักษะจึงปลอดภัยอย่างไร้กังวล หลงเฉินได้ปฏิบัติตามกฏเงื่อนไขในการเลือกทักษะต่อสู้เขาได้ทำถูกต้องตามกฏทุกอย่าง
"ชายชราคนนี้ ทำไมเขาถึงทำตัวลึกลับมาก เมื่อท่านพ่อของข้ายังเยาว์เขาได้เข้าสู่ขอบเขตชีพจรมังกรขั้นที่ 8 แล้ว เพียงด้อยกว่าคนคนนี้เล็กน้อย ถ้าเขาไม่มีหยกสลักมังกร ข้าเกรงว่าเเม้เเต่คนคนนี้ก็คงไม่ใช่คู่มือของท่านพ่อข้า"
เขาเดินเข้าไปในห้องโถงฝึกฝนทักษะหลังจากผ่านไปหลายเส้นทาง หลงเฉินได้มาถึงส่วนภายในของเจดีย์
"ด้วยความสามารถของข้าที่อยู่ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 2 ดูเหมือนว่าข้าจะสามารถเลือกฝึกฝนทักษะต่อสู้ระดับปฐพีได้"
ตระกูลหยางมีการคัดลอกทักษะระดับปฐพีขั้นพื้นฐานทั้งหมด 33 ชุด หลงเฉินเดินไปที่ส่วนนี้ และหยิบตำราจากชั้นแรกออกมากหนึ่งเล่ม เป็นตำราทักษะที่เรียกว่า[หมัดพยัคฆ์คำรน]
ภายในหนึ่งนาที หลงเฉินได้วางมันลง
"จะเป็นไปได้อย่างไร ทำไมทักษะนี้ถึงดูง่ายดายนัก?"
หลังจากมองผ่านตำราทักษะการต่อสู้เหล่านี้แล้ว หลงเฉินรู้สึกว่าประสาทสัมผัสทั้ง5 และความสามารถในการเรียนรู้ของเขาค่อนข้างโดดเด่นเป็นพิเศษ เขาสามารถเข้าใจรายละเอียดที่เขียนไว้ในตำราได้อย่างสมบูรณ์
ถ้าเขาฝึกภายในห้องโถงศิลปะการต่อสู้ เขารู้สึกว่าเขาจะสามารถใช้ทักษะเหล่านี้ได้ทันที
"บางทีข้าอาจจะเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะทักษะยุทธ์ก็เป็นได้ หรือว่า..."
ก่อนหน้านี้เขายังเคยมองผ่านทักษะง่ายๆเหล่านี้ แต่เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้เเตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นบางทีนี่อาจจะเป็นอิทธิพลจากหยกสลักมังกรลึกลับนั่น
"หยกสลักมังกรลึกลับนี้อยู่ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของข้า ทำให้จิตวิญญาณของข้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่งยวด ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารู้สึกผ่อนคลายเฉกเช่นเด็กแรกกำเนิด ข้าจึงสามารถอ่านได้ 10 บรรทัดในเวลาเดียวกันโดยไม่รู้สึกติดขัดประสาทสัมผัสในการรับรู้ถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวของข้าเองก็ยังยอดเยี่ยม..."
"ท่านพ่อ หยกสลักมังกรลึกลับนี้แท้จริงคืออะไรกันเเน่ มันมีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์อย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังสามารถส่งผ่านปราณฉีในการบ่มเพาะของท่านมาให้ข้าได้ แล้วยังช่วยให้ข้าเป็นอัจฉริยะในการบ่มเพาะทักษะยุทธ์อีกด้วย"
มองผ่านตำราอีกหลายเล่มแต่หลงเฉินรู้สึกว่ามันไม่ท้าทายเลย ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังส่วนของตำราทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นกลาง และมีเพียง 5 ทักษะเท่านั้น หลงเฉินมองเห็นตำราทักษะเล่มหนึ่งที่ชื่อ [หมัดดาวตก]
"....ร่างกายราวกับดารายามค่ำคืน กำปั้นหนักหน่วงดั่งอุกกาบาตที่ร่วงหล่น ความรวดเร็วคล้ายลำเเสงอสนี...."
"ความสามารถในการโจมตีของทักษะหมัดดาวตกนี้ อยู่ในอันดับต้นๆของทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นกลาง ทักษะหมัดดาวตกเองก็มีชื่อเสียงมากในตระกูลหยาง อย่างไรก็ตามจากที่ข้าเห็น มันไม่ได้มีปัญหามากนักที่จะทำความเข้าใจ ข้าได้จดจำทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นพื้นฐานนี้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นข้าจะคัดลอกทักษะหมัดดาวตกนี้เพื่อเรียนรู้มัน...."
ทักษะพวกนี้ของตระกูลหยาง ไม่สามารถนำมันออกจากห้องโถงฝึกฝนทักษะได้หลายทักษะ ดังนั้น หลังจากเลือกทักษะ สามารถคัดลอกได้เพียงหนึ่งทักษะเพียงเท่านั้น
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลงเฉินได้ทำการคัดลอกเสร็จแล้วและส่งทักษะกลับคืนที่เดิม
"ในระหว่างขั้นตอนการคัดลอก ข้าได้เข้าใจเนื้อหาภายในทั้งหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ข้าจะมุ่งมั่นไปที่การฝึกฝน อย่างไรก็ตาม ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นกลางนี้ ข้าไม่รู้ว่าข้าจะสามารถควบคุมมันได้หรือไม่"
ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีจะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นคือ ขั้นพื้นฐาน,ขั้นกลาง,และขั้นสูง โดยทั่วไปทุกสามขั้นในขอบเขตชีพจรมังกรมักจะมีการกำหนดเช่นเดียวกัน
[TL : ระดับของขอบเขตขั้นพลัง
ขั้นพื้นฐาน คือ ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่1-3
ขั้นกลาง คือ ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 4-6
และขั้นสูง คือ ขอบเขตพลังชีพจรมังกรขั้นที่ 7-9 ]
"ด้วยความพิเศษของหยกสลักมังกร ข้าควรจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่หวังได้"
หลงเฉินเดินออกจากห้องโถงศิลปะการต่อสู้และเมื่อเขาเข้าใกล้ประตูหินเสียงแหบก็ดังขึ้นข้างหูของเขา
"สำเนาคัดลอกทักษะต่อสู้ของตระกูลหยาง ควรจถูกทำลายทิ้งทันทีที่เสร็จสิ้นการฝึกฝน ถ้ามีการตรวจพบว่าถูกนำไปเผยเเพร่ พวกเขาเหล่านั้นจะต้องพบกับจุดจบของชีวิต"
หลงเฉินหันกลับไปมอง แต่ไม่เห็นใครที่อยู่ข้างหลังเขา เขารีบตอบว่า "ขอรับ ท่านอาวุโส.. หยางเฉินจะทำลายมันอย่างเเน่นอน"
เขาเลือกทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีขั้นกลาง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎ เขากลัวว่าชายชราจะค้นพบบางสิ่งบางอย่างเขาจึงตอบและรีบออกไป
ภายในกระท่อม ชายชราลืมตาขึ้น และอุทานอย่างช่วยไม่ได้ "ตอนแรกข้าคิดว่าเด็กคนนี้เดิมทีจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์เเละสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินศักยภาพของตัวเองมากเกินไปและเลือกที่จะฝึกฝนทักษะการต่อสู่ระดับปฐพีขั้นกลาง...เห้อช่างน่าเสียดาย หากเป็นหลงชิงหลานก่อนหน้านี้สามารถกล่าวได้ว่าเขามีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมจนถึงขนาดที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตเทวะได้..."