ตอนที่ 192 ไปที่สมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อเดินเล่น
นั่นเป็นเพราะข้อความที่อยู่บนป้ายของหลิงฮันมันดูน่าตกใจเล็กน้อย
"รับสมัครคนไปสมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อต่อสู้ รางวัลตอบแทนจะเป็นไปตามนี้ จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุ 10000 เหรียญเงินต่อวัน จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ 100000 เหรียญเงินต่อวัน ส่วนจอมยุทธระดับรวมธาตุไม่รับ"
ไปที่สมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อต่อสู้?
สมาคมวารีล้างปฐพีมันเป็นสถานที่แบบไหนกัน? มันมีจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณคอยจัดการดูแลเรื่องต่างๆและเทียบได้กับตระกูลชั้นกลาง ไปที่นั่นเพื่อต่อสู้ นั่นหมายความว่าอาจต้องมีการปะทะกับจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ! แล้วใครจะกล้าสร้างปัญหาให้กับเขา!
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน รางวัลตอบแทนที่หลิงฮันสัญญาว่าจะให้เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกตะลึง จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุจะได้รับ 10000 เหรียญเงินต่อวัน ขณะที่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณจะได้รับเงินถึง 100000 เหรียญเงินต่อวัน
รายได้ 100000 เหรียญเงินต่อวัน นั่นหมายความว่ามันอาจทำให้พวกเขามีรายได้ถึง 3 ล้านภายในเดือนเดียว นี่มันเรื่องเพ้อฝันอะไรกัน?
แม้ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่เหมือนกับหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ รายได้สุทธิรายเดือนของพวกเขายังไม่เกิน 10 ล้าน และตอนนี้คนเพียงคนเดียวสามารถหารายได้มากถึง 3 ล้าน นั่นเปรียบเทียบได้กับหนึ่งในสามของรายได้ต่อเดือนของตระกูลใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น แปดตระกูลใหญ่ได้รับผลตอบแทนมากเพราะพวกเขามีจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณในหมู่พวกเขา และตอนนี้จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณสามคนจะได้รับเงินเทียบเท่ากับพวกเขา!
ในทันทีทันใด ป้ายของหลิงฮันได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก แต่ทุกคนเพียงแค่เฝ้าดูเท่านั้น ไม่มีใครกล้าเข้ามาขอรายละเอียดของภารกิจ นั่นเป็นเพราะหลิงฮันดูเด็กเกินไป แล้วใครจะเชื่อว่าเขาจะมีเงินมากมายขนาดนั้น? ยิ่งไปกว่านั้น สมาคมวารีล้างปฐพีไม่ใช่ที่ที่จะเล่นด้วยได้
ดังนั้น ทุกคนจึงเลือกที่จะยืนดูอยู่ห่างๆ
"เจ้าไม่อาจติดป้ายที่นี่ได้ ถ้าสัญญาไม่ได้รับการยอมรับและรับประกันจากหอกองทัพสวรรค์ ทุกคนก็จะไม่เชื่อว่าเจ้ามีเงินที่จะว่าจ้าง" หลิ่วอู๋ตงกล่าวเตือน
"เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ" หลิงฮันกล่าวและเดินเข้าไปในหอกองทัพสวรรค์
หลังจากที่หลิงฮันเดินเข้ามาข้างใน เขาได้พูดคุยกับพนักงานว่า "ข้าต้องการว่าจ้างทำภารกิจ"
"นายน้อย ท่านอยากว่าจ้างทำภารกิจแบบไหนหรือ?" หญิงสาวผู้รับผิดชอบการลงทะเบียนภารกิจถาม นางเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างสวยทีเดียว
หลิงฮันยิ้มออกมาและกล่าวว่า "ข้าจะไปที่สมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อต่อสู้"
ใบหน้าอันงดงามของหญิงสาวกระตุก แน่นอนว่านางย่อมรู้ว่าสมาคมวารีล้างปฐพีเป็นสถานที่แบบไหน นางส่ายหัวอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า "นายน้อย อย่าได้พูดจาล้อเล่นแบบนั้น สมาคมวารีล้างปฐพีเป็นขุมอำนาจหนึ่งของเมืองจักรพรรดิ แม้ว่าท่านจะมีความสามารถทำเช่นนั้น องครักษ์จักรพรรดิก็จะหยุดท่านเพื่อไม่ให้ไปสร้างปัญหาที่นั่น และหอกองทัพสวรรค์จะไม่ยอมรับคำขอดังกล่าว"
"ถ้างั้นเอาเป็นแบบนี้ล่ะ?" หลิงฮันขบคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นเขาได้กล่าวออกมาว่า "เปลี่ยนเป็นไปสมาคมวารีล้างปฐพีเพื่อเดินเล่นและหาคนเพื่อปกป้องข้า"
เพื่อเดินเล่น?
ปากของหญิงสาวกระตุกอีกครั้ง ใครจะยอมให้ผู้บุกรุกเข้าไปในบ้านของพวกเขาเพื่อเดินเล่น?
"คำขอแบบนี้ไม่มีปัญหาถูกต้องหรือไม่?" หลิงฮันถาม
หากเป็นการเดินเล่นปกติมันคงไม่มีปัญหา แต่ทุกคนนั้นทราบกันดีว่าการเดินเล่นครั้งนี้อาจมีการต่อสู้เกิดขึ้น หญิงสาวทำหน้าตาบูดเบี้ยวแล้วกล่าวออกมาว่า "แน่นอนว่าไม่มีปัญหา แต่ว่านายน้อย...."
"ถ้าไม่มีปัญหา เช่นนั้นรับคำขอของข้า และเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอื่น" หลิงฮันยิ้มออกมาและมอบสัญญาเงินตราให้กับนางแล้วกล่าวว่า "นี่คือรางวัลตอบแทน..." เขาพูดรายละเอียดของรางวัลแล้วพูดเพิ่มเติมว่า" จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณสิบคนก็เพียงพอแล้ว และระดับก่อเกิดธาตุ...สักร้อยคนกำลังดี"
สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนไปทันที ปฏิกิริยาแรกของนางคือหลิงฮันต้องพูดล้อเล่นเป็นแน่ แต่ไม่มีอะไรแปลกปลอมเกี่ยวกับสัญญาเงินตราที่เขามอบให้ รวมทั้งสิ้น 6 ล้าน มันเพียงพอที่จะจ้างกลุ่มดังกล่าวได้ถึงสามวัน
นายน้อยผู้นี้...เป็นชายหนุ่มที่มั่งคั่งยิ่งนัก
นางรีบลงทะเบียนคำขอของหลิงฮันทันที ตราบใดที่ยังไม่มีการละเมิดกฎของหอกองทัพสวรรค์และเงินรางวัลได้รับการยืนยัน เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นคำขอที่แปลกประหลาดอะไรก็ตาม มันก็จะถูกป่าวประกาศให้กับสมาชิกของหอกองทัพสวรรค์ทุกคนได้รับรู้
เนื่องจากรางวลสำหรับภารกิจนี้มันมหาศาลมาก มันจึงกลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในทันที
"อะไรนะ จ้างผู้คุ้มกันเพื่อไปเดินเล่นในสมาคมวารีล้างปฐพี? นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?"
"ข้าไม่สนว่ามันจะเป็นเรื่องตลกหรือไม่ แต่เงินรางวัลได้รับการยืนยันแล้ว นั่นหมายความว่ามันไม่มีปัญหากับความถูกต้องของรางวัล"
"หืม หนึ่งวันหนึ่งหมื่นเหรียญ!"
"ถ้าเจ้าเป็นจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณ เจ้าจะได้รับถึงหนึ่งแสนเหรียญ!"
ทั้งจัตุรัสเริ่มมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น บางคนนึกถึงป้ายที่หลิงฮันเคยติดไว้ก่อนหน้านี้ และพวกเขาได้เดินไปหาเขา
หลิงฮันได้ยืนอยู่ที่นั่น และคนเหล่านั้นเริ่มถามเขาเกี่ยวกับรายละเอียดของคำขอ
"นายน้อย ข้าเป็นจอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นเก้า เท้าข้างหนึ่งของข้าเหยียบย่ำอยู่บนระดับก่อเกิดธาตุแล้ว ท่านรับข้าเข้าร่วมภารกิจได้หรือไม่? ข้าต้องการเงินแค่ห้าพันเหรียญเงินเท่านั้น"
"ข้าเป็นจอมยุทธระดับรวมธาตุขั้นแปด และข้าต้องการเงินสี่พันเท่านั้น"
คำถามเหล่านั้นส่วนส่วนใหญ่มาจากจอมยุทธระดับรวมธาตุ และต้องการเข้าร่วมภารกิจ ในขณะที่บรรดาจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเพียงแค่ยืนสังเกตการณ์อยู่เท่านั้น นั่นเป็นเพราะสมาคมวารีล้างปฐพีไม่ใช่สถานที่ที่จะเล่นด้วยได้
หลิงฮัยเพียงแค่ชี้ไปที่ป้ายที่เขาติดไว้ เขาจะเอาจอมยุทธระดับรวมธาตุไปเพื่อ? เพราะตัวเขาเองก็อยู่ระดับรวมธาตุขั้นเก้าอยู่แล้ว
หลิงฮันกวาดสายตามองรอบๆ และแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของเขา เขาได้เดินไปข้างหน้า ซึ่งมีชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่บนรูปปั้นสิงโต และมีน้ำเต้าอยู่ในมือของเขา
"หืม เจ้าเด็กเหลือขอนี่มีสายตาที่ดีทีเดียว ถึงจับจ้องไปที่ปรมาจารย์กว่างหยวน!"
"อะไรนะ ปรมาจารย์กว่างหยวนที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขาสามารถทลายภูเขาได้ด้วยเจ็ดกำปั้น?"
"ถูกต้อง เขาเป็นหนึ่งในสิบจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของหอกองทัพสวรรค์ของพวกเรา!"
"ระดับบ่มเพาะพลังของเขาอยู่ที่ระดับห้วงจิตวิญญาณขั้น 5 ในอดีต เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะในวีถียุทธ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาติดอยู่ที่ระดับห้วงจิตวิญญาณขั้นห้ามาเป็นเวลานาน"
"เจ้าโง่หรือเปล่า? ทุกขั้นในระดับห้วงจิตวิญญาณมันยากมากเหมือนกับปีนไต่ขึ้นสรวงสวรรค์ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับใครบางคนที่ต้องติดอยู่ในขั้นนั้นตลอดชีวิตของพวกเขา"
เมื่อพวกเขาเห็นชายวัยกลางคน ทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ
หลิงฮันไม่รู้ว่าชายคนนี้ชื่อกว่างหยวน เขาเพิ่งสังเกตเห็นระดับบ่มเพาะพลังของเขา และตัดสินใจที่จะเข้าใกล้เขา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาจ้องมองไปที่ชายวัยกลางคนมากขึ้น เขาก็รู้อะไรมากขึ้นและอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
"ท่านดื่มหนักเพื่อลืมปัญหาของท่าน แต่มันกลับทำให้ท่านรู้สึกเป็นทุกข์มากยิ่งขึ้น" หลิงฮันกล่าวกับกว่างหยวน
"เด็กน้อยอย่างเจ้าจะรู้ปัญหาของข้าได้ยังไง?" กว่างหยวนถามออกมาอย่างใจเย็น เขาไม่แม้แต่จะมองหลิงฮัน
"ท่านกำลังฝึกฝนทักษะหัวใจดวงตะวันถูกต้องหรือไม่?" หลิงฮันพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบามีเพียงแค่กว่างหยวนเท่านั้นที่ได้ยิน
สีหน้าของกว่างหยวนเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาหยุดที่จะดื่มต่อทันที เขาจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงและถามหลิงฮันว่า "เจ้ารู้ได้ยังไง?"
"ข้าไม่เพียงแต่จะรู้ว่าท่านกำลังฝึกทักษะหัวใจดวงตะวัน แต่ข้ายังรู้ว่าท่านได้ทำผิดพลาดในการบ่มเพาะพลังของท่าน ปัจจุบัน ท่านเจ็บปวดกระดูกซี่โครงซี่ที่สามใช่หรือไม่?" หลิงฮันถาม
คราวนี้ กว่างหยวนไม่อาจรักษาความสงบของเขาได้อีกต่อไป เขากระโดดลงมาจากรูปปั้นสิงโตทันทีแล้วยืนอยู่ด้านหน้าหลิงฮันและถามว่า "เจ้าเป็นใครกัน?" มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้และมีอาการเหมือนกับที่หลิงฮันได้กล่าวว่าว่ากระดูกซี่ที่สามของเขาทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
"มา มา มา ยอมรับคำขอของข้าและข้าจะมอบโอกาสที่ยอดเยี่ยมให้กับท่าน มันไม่เพียงแค่จะช่วยแก้ปัญหาในปัจจุบันของท่าน แต่มันอาจทำให้ท่านก้าวไปข้างหน้าได้อีกด้วย" หลิงฮันกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกับปีศาจที่หลอกล่อมนุษย์
กว่างหยวนมองไปที่แผ่นป้ายของหลิงฮัน เขาจึงอดที่จะแสดงท่าทีประหลาดใจออกมาไม่ได้และกล่าวว่า "เจ้ามีบุคลิกที่กล้าหาญมาก!"
"ก็ไม่เชิงทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการผู้คุ้มกัน!" หลิงฮันกล่าวและยิ้มออกมา
ใบหน้าของกว่างหยวนแสดงให้เห็นว่าเขากำลังขบคิดอยู่ ตั้งแต่ที่หลิงฮันสามารถบอกได้ว่าเขากำลังฝึกฝนทักษะหัวใจดวงตะวัน และรู้ว่าเขากำลังประสบปัญหาในการบ่มเพาะพลังของเขา ดังนั้นมันจึงมีโอกาสสูงมากที่หลิงฮันสามารถแก้ไขปัญหาของเขาได้
เขาจึงตัดสินใจที่จะวางเดิมพันดู
"เอาล่ะ ข้าตกลงรับคำขอของเจ้า!"