Chapter 43 - บทสวด
Chapter 43 บทสวด
เพราะม่านนั้นบังแสงเอาไว้ ห้องนอนจึงมืดสลัว จูเลีย เริ่มรู้สึกตัว เธอกลิ้งไปมาแล้วดูนาฬิกาตัวเอง หลังจากที่เห็นเวลาแล้ว เธอก็ลุกขึ้นนั่งคิดเรื่องงานที่ต้องทำ ใช้เวลากว่านาทีที่เธอจะนึกได้ว่าเธออยู่ที่ไหนและเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาแล้วนอนลงไปที่เตียง
เมื่อมองไปรอบๆชายที่ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแรงนั้นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่าเธอตื่นขึ้นมาในห้องนอนเขาแล้ว เธอคงคิดว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ความฝัน มันเหมือนกับฝันร้ายมมากว่าที่ปิศาจอย่างเขาค่อยๆหลอกล่อเธอลงสู่นรก
ด้วยความคิดที่ปั่นป่วนอยู่ในหัว เธอได้ลุกขึ้นจากเตียงแล้วมองไปยังเสื้อผ้าตัวเองที่กองอยู่ที่พื้น เธอกัดฟันแน่นด้วยความแค้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ,บรา, กางเกงในรึแม้แต่กางเกงยีนส์ของเธอก็ขาดไปบ้าง ลองคิดภาพดูได้ว่าเมื่อคืนมันจะโหดร้ายแค่ไหน
เธอค่อยๆสวมกางเกงยีนส์ของเธอแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะหยิบเอาเสื้อตัวหนึ่งของเขามา เมื่อเปิดม่านที่ระเบียงออก แสงอาทิตย์ยามเช้าของ LA ก็สาดทอเข้ามาจนแสงนั่นมันทำให้เธอรำคาญ
เธอสูดหายใจเข้าไปหลายครั้งก่อนที่จะเดินลงบันไดมาชั้นล่าง
เมื่อได้ยินเสียงที่ครัว จูเลีย ก็หยุดและลองมองเข้าไป เธอเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดธรรมดากำลังยุ่งอยู่ในครัวพร้อมกับกลิ่นหอมที่ลอยออกมา
เมื่อเห็นร่างของเด็กสาว เอริค ก็ได้พูดขึ้นมา - " อรุณสวัสดิ์ จูเลีย "
" อรุณสวัสดิ์ .." - แม้ว่าจะรู้สึกกระอักกระอ่วนแต่เธอก็ยังคงทักทายเขา เธอได้แต่กดความแค้นในใจเอาไว้ ชายคนนี้เล่นงานเธออย่างหนักแต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้พูดทักทายเธอด้วยคำพูดที่สวยหรูอย่าง ' ที่รัก ' รึ ' หวานใจ ' เลย ช่างเป็นชายที่น่าเกลียดจริงๆ !
" คุณรวยแล้วแต่ก็ยังทำอาหารเองงั้นเหรอ ? " - เธอพิงไปที่กรอบประตูพร้อมกับกอดอกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความตลก
เอริค ได้ยินแบบนั้นก็ยักคิ้วขึ้น - " โอ้ ดูเหมือนว่าเธอน่ะจะลืมเรื่องเมื่อคืนไปถึงทำให้เธอกล้าพูดแบบนี้กับฉันสินะ ? "
" คุณ...ไม่ใช่ว่าเราตกลงกันแล้วรึไง ....อย่าคิดว่าคุณสามารถทำอะไรก็ได้กับฉันล่ะ "
เอริค ทำท่าไม่มองหญิงสาวที่เหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง เขามองไปที่ชั้นว่างแล้วยกเอาหม้อขึ้นมาวางไว้บนเตาก่อนที่จะพูดขึ้น -" โอ้ ? อืม ...ฉันคิดว่าฉันคงเป็นฝ่ายเสียหายสินะงั้น ? "
จูเลีย หมดคำพูด เธอได้แต่มองไปที่ เอริค หวังว่าจะฆ่าไอ้บัดซบนี่ด้วยสายตาของเธอ
" ได้ๆ หยุดจ้องได้แล้ว ฉันได้ยินเสียงหนังสือพิมพ์โยนมาใส่ประตู ไปเอาให้หน่อยสิ "
จูเลีย กระทืบเท้าเหมือนกับเด็กน้อยก่อนจะหันกลับแล้วเดินไปที่ประตู
จากครัวนั้น เอริค ได้มองไปที่แผ่นหลังอันเซ็กซี่ของเธอและมุมปากเขาก็ได้ยิ้มออกมา เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะแกล้ง จูเลีย เมื่อคืนนี้ เขาแค่ต้องการที่จะทำให้เธอเชื่อฟัง เมื่อดูตอนนี้แม้ว่าเธอจะพูดไม่ฟังแต่ดูเหมือนว่า ' การสั่งสอน ' ของเขาจะได้ผล ตอนนี้เมื่อเธอเป็นดาวดัง เธอก็จะหนีจากกำมือเขาไปไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นผู้หญิง แต่เขาก็รู้ว่าเธอน่ะมีจิตใจที่แข็งแกร่งมากว่าผู้ชายส่วนมากซะอีก เมื่อเธอมีชื่อเสียง เอริคไม่ต้องการให้เธอเปลี่ยนท่าทีและพังแผนของเขา ถ้าเขาไม่ดูแลเธอตอนนี้ ถ้ารู้จักเธอแล้ว มันก็คงพอมองออกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จูเลีย เอาหนังสือพิมพ์กลับมาที่ห้องนั่งเล่นและไม่ได้มองไปที่ เอริค เธอนั่งลงไปในห้องนั่งเล่นแล้วอ่านหนังสือพิมพ์ เธอหาวออกมาแล้วโยนมันไปข้างๆคราวกับมันไม่น่าสนใจแต่ตอนที่เธอเห็นหัวข้อข่าวของ Los Angeles Daily เธอก็นิ้งไปก่อนที่จะเผยรอยยิ้มออกมา
ผู้กำกับ Home Alone และ ดรูว์แบรี่มอร์ นอนกัน, พนักงานร้านค้าถึงกับต้องหลั่งน้ำตา
ด้านล่างหัวข้อนั้นคือรายละเอียดของข่าวพร้อมกับรูป
" เฮ้ เฮ้ เธอไม่ได้ดูน่าสนใจแบบนั้น แต่ด้วยปากขอเธอแล้วเธอไม่กลัวมันยืดรึไง ? " - เอริค ถือมื้อเช้าเข้ามาแล้ววางลงไปที่โต๊ะกาแฟ
จูเลีย มองไปที่เขา ชายคนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเจอปัญหา เธอส่งหนังสือพิมพ์ให้กับเขาก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัว - " คุณควรที่จะห่วงเรื่องตัวเองก่อน ไม่อยากเชื่อเลย คุณนี่มันไอ้บ้าดีๆนี่เอง คุณถึงกับทำให้แฟนสาวที่สวยแบบนั้นต้องเจ็บปวด "
เอริค มองไปที่หนังสือพิมพ์และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา พวกปาปารัซซี่มีอยู่ทุกที่จริงๆ พวกเขามาแอบจับตาดูที่บ้านทั้งคืน
เมื่ออ่านบทความนี้แล้วกว่า 70% น่ะไร้สาระ มันมีเนื้อหาว่าเขาได้พา ดรูว์ กลับมาบ้านและวันต่อมาแฟนสาวของเขาก็จับได้ว่านอนอยู่ด้วยกัน คำอธิบายก็มองเห็นภาพราวกับว่าพวกปาปารัซซี่มาเห็นทุกอย่างเอง
หลังจากที่อ่านมันแล้ว เอริค ได้โยนหนังสือพิมพ์ลงไปที่โต๊ะกาแฟและคิดเกี่ยวกับเรื่องวุ่นๆที่จะตามมาพร้อมกับกินมื้อเช้าไปด้วย
จูเลีย เดินกลับมายังห้องนั่งเล่นพร้อมกับถ้วยข้าวโอ๊ต เมื่อเห็นว่าสีหน้าของ เอริค ยังคงเหมือนเดิม เธอก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย- " คุณไม่กังวลรึไง ? "
เอริค พูดขึ้นโดยไม่มองกลับไป - " มันก็แค่ข่าวลือแต่งเติม ถ้าฉันกังวลทุกครั้ง ฉันคงมีชีวิตที่น่าเศร้า ตั้งแต่ที่เข้ามาในวงการนี้ ฉันก็ต้องเตรียมรับมือกับทุกอย่างที่ประดังเข้ามาอยู่แล้ว "
" ฉันรู้ ฉันกำลังพูดถึงเรื่องนั้นอยู่ คุณไม่รู้รึไง ? หัวข้อนี้น่ะตั้งใจรึไม่ตั้งใจพูดถึงเรื่องอายุของ ดรูว์ อยู่ คุณไม่เข้าใจรึไง ? เธอน่ะอายุแค่ 13 ปีและตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนียแล้ว...." - จูเลีย ยกนิ้วสามนิ้วขึ้นมา - " คุณจะคงจะติดคุกสักสามปีแม้ว่าเธอจะเต็มใจก็ตาม "
เอริค ชัดแล้วว่ารู้จุดประสงค์ของนักข่าว พวกข่าวนี้น่ะทำแบบนี้เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างเรื่องแต่เขาไม่ได้กังวลเรื่องนี้ มันมีอย่างอื่นอยู่นหัวเขาที่สำคัญมากกว่า
ด้วยระเบิดที่ทิ้งลงมา พวกบริษัทหนังอื่นๆที่แพ้ให้กับหนัง Home Alone และ 17 Again แน่นอนว่าไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ไปแน่
" เอาล่ะ ไม่ต้องมองฉันแบบนั้น ใช่ ฉันพูดถึงเรื่องโชคร้ายของเธอน่ะคือโชคดีของฉัน ล้างจานด้วยถ้ากินเสร็จ ฉันจะออกไปก่อน " - เอริค รีบกินให้เสร็จก่อนจะหยิบเสื้อคุมแล้วบอกกับ จูเลีย - " อ่ะ ใช่ ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะไปที่ร้านอาหารและลาออกซะ จากนั้นก็อยู่ที่บ้านสักสองสามวัน"
จูเลีย ค้านขึ้นมา - " ทำไม ? คุณน่ะกีดกันความเป็นส่วนตัวฉันไม่ได้หรอกนะ ! "
เอริค ชี้ไปที่หนังสือพิมพ์บนโต๊ะ - " เพราะพรุ่งนี้เธอเองก็จะเป็นข่าว "
" อั๊ก ! "- อยู่ๆ จูเลีย ก็รู้สึกหมดหนทาง
....
" เอริค สวัสดีตอนเช้า "
ที่ Burbank ในส่วนทีนัดกันไว้ ต่อหน้าตัวแทนฝ่ายจัดตั้งเอเจนซี่ เอริค ได้ลงจากรถลงมาและเห็น เจฟฟี่แฮนสัน ที่รอเขาอยู่
" สวัสดี เจฟฟี่ เข้าไปข้างในกันเถอะ "
เจฟฟี่ หยุด เอริค เอาไว้และพูดขึ้น- " เดี๋ยว มีเรื่องที่เราต้องคุยกันก่อน "
" ว่ามา ? "
เจฟฟี่ ดึงเขาไปข้างๆแล้วเอาหนังสือพิมพ์ออกมาจากกระเป๋า - " เอริค เอาจริงๆ เรื่องไร้สาระพวกนี้มันอะไรกัน ? แม้ว่าฉันจะเห็นเธอไม่กี่ครั้งแต่ อนิสตัน น่ะเป็นเด็กดี นายไม่ควรทำร้ายเธอแบบนี้ ที่สำคัญกว่านั้นแม้ว่านายอยากหาผู้หญิงอื่นแต่ทำไมต้อง ดรูว์ ? เธออายุแค่ 13 นายน่ะทำมันพัง ดู โรมันโปแลนสกี สิ เรื่องเขาน่ะเมื่อ 11 ปีที่แล้วแต่ตอนนี้เขาก็ยังเข้ามาตั้งตัวในอเมริกายังไม่ได้เลย "
เอริค รู้ว่าเพื่อนน่ะเป็นห่วงเขา เขาจึงฟังอย่างอดทนและเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ เอริค ก็ได้ตบไหล่เพื่อตัวเองและพูดขึ้น - " สบายใจได้ เจฟฟี่ เรื่องทั้งหมดน่ะแค่เข้าใจผิด แม้ว่า ดรูว์ จะอยู่บ้านฉันทั้งคืนแต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น "
" ยังไงก็ตาม " - เจฟฟี่ ยังไม่สบายใจ- "นายก็ควรระวัง เอริค นายน่ะเติบโตมาเร็วมาก ความสามารถของนายโดดเด่นและนายก็ทำให้หลายคนสนใจและมันยากที่จะรู้ว่าพวกนั้นจะใช้วิธีไหนจัดการกับนาย ฉันจำได้ว่าเคยเห็นสุภาษิตจีนที่เกี่ยวกับต้นไม้ต้นใหญ่ในป่า..."
เอริค ได้ยินคำพูดของ เจฟฟี่ และรู้สึกตลกจนอดไม่ได้ที่จะพึมพำภาษาจีนออกมา : " Mù xiù yú lín, fēng bì cuī zhī; duī chū yú àn, liú bì tuān zhī; háng gāo yú zhòng, rén bì fēi zhī " ( ลมจะทำลายต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในป่า น้ำจะทำลายหินที่แหลมคมที่สุดในหน้าผา ผู้คนจะเข่นฆ่าคนที่สูงส่งที่สุด)
" เอ่อ ?....ฉันไม่ได้ยินตะกี้ นายว่าไงนะ ?" - เจฟฟี่ ถามออกมาด้วยท่าทีแปลกๆ
เอริค มองไปที่ดวงอาทิตย์แล้วพูดขึ้นมาด้วยภาษาเดิมซึ่งทำให้เขารู้สึกคิดถึงความหลังขึ้นมา เขาขี้เกียจอธิบายและตอบปัดๆไป - " มันเป็นบทสวดที่ฉันเคยเห็นในหนังสือ มันทำให้จิตใจฉันสงบและสดชื่นได้ "
เจฟฟี่ รู้สึกว่า เอริค น่ะมีท่าทีคึกคักและเขาก็ไม่อยากจี้ถามต่อ เขาได้พูดขึ้นมา - " เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะ เรามีเรื่องสัญญาต้องไปคุย "