Chapter 22 - BUYOUT
Chapter 22 - BUYOUT
เอมี่ ปาสคาลแสดงความสนใจในตัวเอริค เอริคคุณอายุน้อยกว่าที่ฉันคิดอีกนะ
ตอนฉันอายุเท่าคุณ ฉันเพิ่งเข้าเรียนมหาลัยเอง
คุณเองก็ยังดูสาวมาก คุณปาสคาล เอริคกล่าวชม
เอมี่ปาสคาลหัวเราะ ขอบคุณเอริค เรียกฉัน เอมี่ ก็ได้ ฉันได้อ่านจูราสสิก ปาร์คแล้ว
ฉันชอบงานเขียนของคุณมาก ฉันขอถามหน่อยว่า ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ยังอยู่ในมือคุณใช่ไหม?
เอริคพยักหน้า แน่นอน
ในเวลานี้ชื่อเสียงของจูราสสิก ปาร์ค เติบโตขึ้นเรื่อยๆ บริษัทภาพยนตร์หลายแห่งได้ติดต่อ
กับเขาเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์ในการทำภาพยนตร์ แต่เอริคได้ปฎิเสธพวกเขาทั้งหมด ก่อนที่เอริคจะมีพลังมากพอที่จะได้ผลประโชน์อย่างเป็นธรรม เขาไม่ได้วางแผนจะขายมัน
ดี! ฉันขอถามว่าคุณจะขายลิขสิทธิ์เหล่านั้นให้กับทางโคลัมเบียไหม ? เราไม่ตะหนี่เรื่องราคา
เอริคกล่าว เอมี่เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องนี้นะ นอกจากนี้เทคโนโลยียังไม่สมบูรณ์พอที่สร้างมันหรอกนะ ไม่ต้องพูดถึงเทคนิคพิเศษอีกดังนั้นผมไม่ได้วางแผนจะขายลิขสิทธิ์ของจูราสสิก ปาร์คเร็วๆนี้
เป็นเรื่องน่าเสียดาย ดีล่ะมาคุยเรื่องเกี่ยวกับ Home Aloneกัน ฉันเข้าใจว่าเจฟฟรีย์ได้ดูและชื่นชมมันมาก ใช่ๆฉันได้ยินมาว่าทาง20th Century Fox ปล่อยผ่านเรื่องนี้ มันเป็นมายังไงล่ะ?
เอริคยักไหล่แล้วบอกความจริง หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่ายของ 20th Century Fox คาเตอร์ ฮันท์
เขาปฎิเสธ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้
คาร์เตอร์ ฮันท์ ฉันรู้จักเขาๆ เขาเป็นคนหนึ่งที่หยิ่งจริงๆ เอมี่ ปาสคาลยิ้มและพูดว่า งั้นฉันควรดูหนังเรื่องนี้ก่อน
เอริคพยักหน้าแล้วทั้งสามคนก็เดินไปที่หอประชุมในสำนักงานใหญ่ของโคลัมเบียพิคเจอร์ส
เขาให้สำเนาแก่คนฉายภาพและนั่งลงบนเบาะหนัง
เอริคคุณดูเหมือนไม่ได้คาดหวังกับมัน ก่อนภาพยนตร์จะเริ่มเอมี่ ปาสคาล สังเกตการแสดงออกผ่านใบหน้าของ เอริค
เอริคยิ้ม เอมี่รู้ไหม ผมเป็นคนทำหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ในหัวผมจำฉากได้ทุกฉาก
แล้วผมก็ยังดูมันมาหลายรอบแล้ว เชื่อผมเถอะถ้าคุณได้ดูมันแล้ว จะไม่ผิดหวังแน่นอน
ไฟในห้องค่อยๆมืดลง เอมี่ ปาสคาลพยักหน้า เมื่อมองกลับไปเธอมีอารมณ์หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้
โคลัมเบียในตอนนี้กำลังขาดโครงการหนังดีๆจริงๆ แม้พวกเขากำลังจะตกต่ำลง แต่เมื่อคิดถึงการที่พวกเขาต้องเปลี่ยนมาดูหนังของเด็กมัธยมนี่มันทำให้เธอได้แต่ถอนหายใจภายใต้ความมืด
ในฐานะที่เป็นผู้บริหารระดับสูง เอมี่ ปาสคาลคุ้นเคยกับโคลัมเบียพิคเจอร์อย่างกับหน้ามือและหลังมือเธอเอง กำไรปีนี้ไม่ค่อยดีนัก ถ้าไม่ได้รายได้สะสมในช่วงหลายปีมานี้ บริษัทจะต้องขาดทุนเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับดิสนีย์หรือ20th Century Fox เช่นเดียวกับ Paramount เมื่อตอนแบรี่ ดิวเลอร์ยังอยู่ที่นั่น
โคลัมเบียเป็นเหมือนคนแก่ที่เฉื่อยชา หลังจากหนังเรื่อง Ghostbusters ได้อับดับ 2 ในบ็อกออฟฟิศ
ปี 1984 โคลัมเบียไม่สามารถสร้างหนังที่ขึ้นสู่สิบอันดับแรกได้ติดต่อกันถึงสามปี
ยักษ์เฒ่าแห่งโลกภาพยนตร์ได้เผชิญกับความอดสู อย่างช่วยไม่ได้
บริษัทแม่ของโคลัมเบีย .โคคา-โคล่าได้ประสบความสูญเสียอย่างหนักในปีที่แล้ว และถ้าทางโคลัมเบีย ไม่สามารถทำกำไรให้กับพวกเขาได้ก็อาจจะถูกขายทิ้งก็เป็นได้ อันที่จริงดูเหมือนทางโซนี่ได้ยื่นข้อเสนอไว้แล้วด้วย
เอมี่ ปาสคาล มีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเอริค เด็กหนุ่มคนนี้เพิ่งจบโรงเรียนมัธยมและในเวลาไม่กี่เดือน
เขาก็ได้เผยแพร่นวนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง จูราสสิก ปาร์ค เขียนบทหนังเรื่อง 17 Again และทำให้
20th Century Fox ทึ่งกับการแสดงของเขา ถ้าไม่ใช่คนที่ทำให้ใครหลายคนประหลาดใจอย่างเอริค
บางทีเอมี่อาจจะไล่เขาออกไปเช่นเดียวกับ คาร์เตอร์ ฮันท์ก็เป็นไปได้
โคลัมเบียเองก็เคยดูบทของ 17 Again เช่นเดียวกับผู้ผลิตอีกหลายรายพวกเขาสนใจมาก
แต่เมื่อพวกเขาเห็นข้อเสนอของเอริคที่จะแสดงนำ พวกเขาไม่สามารถเสี่ยง ได้แต่ยอมแพ้
เธอได้ยินมาว่าแบร์รี่ ดิวเลอร์เป็นคนอนุมัติการสร้างเรื่อง 17 Again เมื่อเทียบกับเบล้าท์ โคเฮน
CEO ของทางโคลัมเบีย เอมี่ได้แต่ถอนหายใจ ที่บริษัทอยู่ในสถานการณ์ในปัจจุบัน มันเป็นเพราะพวกระดับสูงขาดความกล้าหาญและวิสัยทัศน์
หนังเริ่มต้นมาด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจและการเล่นแผลงๆของสจ๊วต รันเคิล
เอมี่ ปาสคาล ออกจากห้วงความคิดและมุ่งความสนใจไปที่หน้าจอ
เมื่อภาพยนตร์เสร็จสิ้น เอมี่ ปาสคาล ตกตะลึงและดูโง่งัง เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า
หนังตลกชิ้นเยี่ยมนี้จะเป็นผลงานของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปี
เธอยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและหันหน้าไปหาเอริคและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เอริค คุณรอฉันคุยโทรศัพท์สักครู่ได้ไหม ?
เมื่อเห็นท่าทางของเอมี่ เอริครู้สึกมั่นใจขึ้น
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ประธานของโคลัมเบีย เบล้าท์ โคเฮนรวมทั้งผู้บริหารคนอื่นๆ
อีกกว่า 78 คนได้มารวมตัวกันและ Home Alone ก็ได้เริ่มต้นการฉายอีกครั้ง
พวกเขาได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง แม้เวลาจะผ่านไปก็ไม่มีใครลุกจากที่่นั่ง
หลังจากผ่านไป 45 นาทีของการฉายพวกเขาเริ่มกระซิบกัน
ในห้องสำนักงานของประธานโคลัมเบียพิคเจอร์ เอริคและเจฟนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเบล้าท์ โคเฮน
ซึ่งกำลังจิบกาแฟอย่างสบายๆ เขาพูดขึ้นว่า เอริค พูดตามตรงนะพวกเรามองในแง่ดีเกี่ยวกับ Home Alone เป็นอย่างมาก เรายินดีเสนอเงิน 10 ล้านดอล เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ทั้งหมด คุณคิดว่ายังไงบ้าง?
เมื่อได้ยินราคาเจฟฟรีย์ แฮนสันซึ่งนั่งอยู่ข้างเอริคมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับโครงการหนึ่งล้านดอล พวกเขายินดีที่จะซื้อในราคาถึงสิบเท่า ถ้าเขาเป็นคนตัดสินใจเขาจะพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
เบล้าท์ โคเฮนเห็นท่าทางของเจฟรีย์ก็เผยรอยยิ้มอย่างพอใจ ทางบริษัทนั้นคาดการว่าภาพยนตร์เรื่องนี้
จะทำรายได้ทะลุบ็อกออฟพิศถึง 50 ล้านดอลล่า และพวกเขายังสามารถถ่ายภาคต่อได้อีก
พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ในราคาสูง
ซื้อ Home Alone ด้วยเงินสิบล้าน ? ลุงพวกแกสิ เอริคบ่นในใจ
คุณโคเฮน พวกคุณประเมินเบื้องต้นเกี่ยวกับรายได้ในบ็อกออฟฟิสของ Home Alone แล้วใช่ไหม ?
คุณรู้ไหมว่าผลลัพธ์มันเท่าไหร่ ?
เมื่อเห็นว่าเอริคไม่เห็นด้วยเบล้าท์ โคเฮนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขายังกล่าวต่อว่า แน่นอนเรารู้แล้ว
ถ้าการคาดการณ์ของเราถูกต้อง Home Alone จะทำรายได้ประมาณ 30 ล้านดอลในอเมริกาเหนือ
ในฐานะที่คุณเป็นผู้ผลิตคุณจะได้ผลประโยชน์ถึงร้อยละยี่สิบของรายได้ ราคา10ล้านนั้น
ถือว่าสมเหตุสมผล ค่าใช้จ่ายในการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้ไม่น่าสูงนักดังนั้นเอริคคุณจะมัวลังเลอะไร?
เพียงแค่ลงนามในข้อตกลงคุณก็จะกลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยที่สุดของฮอลลีวู้ดแล้ว