ตอนที่ 188 ราคาสูงเสียดฟ้า
เพราะว่ามีการพยายามจงใชจเพิ่มราคาเกิดขึ้น การประมูลก่อนหน้านี้จึงเนโมฆะ หลิงฮันเสนอราคาอีกครั้งและสามารถซื้อมาอย่างง่ายดายด้วยราคาสิบล้าน
ครั้งนี้ไม่มีใครแข่งประมูลกับหลิงฮันแม้แต่คนเดียว พวกมันรู้ถึงความมั่งคั่งของหลิงฮันแล้ว หลิงฮันยังไม่ทันกระพริบตาก็สามารถเสนอราคาถึงสี่สิบล้าน แถมไหนจะยังมีวงเงินจำนวนหนึ่งพันล้านนั่นอีก ถ้าใครกล้าประมูลแข่งกับเขาและบังเอิญมีสิ่งของที่พวกมันต้องการโผล่ออกมา หลิงฮันคงจะประมูลแข่งกับพวกมันเป็นแน่
ในไม่ช้า ตัวแทนของตำหนักสมบัติวิญญาณก็นำยันต์อาคมเมฆาล่องมาให้หลิงฮัน สำหรับการชำระเงินนั้น เขายังไม่จำเป็นต้องจ่ายตอนนี้ แต่เป็นทางด้านของตำหนักสมบัติวิญญาณต่างหากที่ต้องนำเงินมาให้เขา!
องค์ชายหนึ่งทั้งตะลึงและสงสัย หลิงฮันไปเอาเงินขนาดนั้นมาจากไหน? แถมยังได้รับการเอาใจใส่จากตำหนักสมบัติวิญญาณอีก ตัวเขาเองได้ทำการสืบค้นเบื้องหลังของหลิงฮันแล้ว นอกจากช่วงเวลาไม่นานหลังจากหลิงฮันเกิด เขาก็เป็นเด็กหนุ่มบ้านนอกมาตลอด ในมุมมองของเมืองจักรพรรดิ ตระกูลหลิงไม่มีคุณสมบัติจะนับว่าเป็นตระกูลด้วยซ้ำ
แต่จู่ๆหลิงฮันก็ผงาดขึ้นมาภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี นี่เป็นปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้
การประมูลดำเนินต่อไป หลังจากสิ่งของธรรมดาๆสองสามชิ้นผ่านไป เม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดที่สามก็ปรากฏขึ้นมาบนเวที ครั้งนี้องค์ชายหนึ่งตัดสินใจใช้ทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา อย่างไรก็ตาม คนที่คิดเช่นเดียวกับเขามีมากมาย และในไม่ช้าราคาของเม็ดยาก็เพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบล้าน
องค์ชายหนึ่งทำได้เพียงจ้องมองอย่างเสียใจเพราะเขาไม่ได้ทุ่มสุดตัวไปเมื่อสองครั้งก่อน และตอนนี้ด้วยเงินยี่สิบล้านเขาคงไม่สามารถซื้อเม็ดยาสร้างรากฐานได้
ตำหนักสมบัติวิญญาณขายสิ่งของทุกชนิด ไม่ใช่เพียงเม็ดยาหรือของประดับที่งดงาม พวกเขายังขายสมุนไพรประเภทต่างๆ ทักษะบ่มเพาะและทักษะยุทธ แม้แต่แผนที่ขุมทรัพย์ก็มี อย่างไรก็ตาม การประมูลครั้งนี้ไม่มีอาวุธวิญญาณถูกนำมาประมูล ไม่งั้นหลิงฮันอาจจะซื้อมันมาใช้เองสักชิ้น
เพราะทักษะบ่มเพาะและทักษะยุทธที่ถูกนำมาประมูลมีระดับต่ำเกินไป หลิงฮันจึงไม่สนใจแม้แต่น้อย เขานอนหลับคอตกอยู่บนเก้าอี้ อย่างไรเขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเม็ดยาสร้างรากฐานอยู่แล้ว
เม็ดที่สี่... เม็ดที่ห้า... และในที่สุดเม็ดที่หกก็ถูกประมูลออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อจำนวนของเม็ดยาสร้างรากฐานมีน้อยลง ราคาก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เม็ดที่แปดถูกประมูลไปในราคาสี่สิบแปดล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าเม็ดแรกถึงสองเท่า
จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณตระกูลหลีหัวเราะออกมาด้วยความสุข ถึงแม้ก่อนหน้านี้ราคาสิบสามล้านจะทำให้เขารู้สึกปวดหัว แต่เมื่อเทียบกับราคาตอนนี้แล้ว เขารู้สึกมีความสุขอย่างมากที่รีบซื้อเอาไว้ก่อน
ตอนนี้มีเม็ดยาเหลือเพียงเม็ดเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเสนอราคาของเม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดสุดท้ายจะต้องทะลุสามสิบล้านแน่นอน
...มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเม็ดยาสร้างรากฐานจะโผล่มาอีกเมื่อไหร่
“ยี่สิบล้าน!”
ราคาเริ่มต้นของเม็ดยาคือห้าล้าน แต่แน่นอนว่าเม็ดยาเม็ดสุดท้ายต้องมีราคาเกินกว่ายี่สิบล้านแน่นอน ดังนั้นจะเสียเวลาเสนอราคาเล็กๆน้อยๆกันไปทำไม?
หลิงฮันปรบมือและพูด “ข้าชอบคนประเภทนี้ ช่างตรงไปตรงมายิ่งนัก!”
หลิวอู๋ตงและหลีซื่อฉางปิดปากหัวเราะเบาๆ ใครจะไม่ชอบการที่มีคนนำเงินมาให้ตนเองกัน?
ในขณะเดียวกัน องค์ชายหนึ่งรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาคิดว่าหลิงฮันนั้นเป็นคนตรงไปตรงมารวมทั้งหลิงฮันยังชอบคนตรงไปตรงมาด้วย ดังนั้นองค์ชายหนึ่งจึงอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ การเป็นสหายกับหลิงฮันคงจะเป็นเรื่องยากลำบากสุดๆเลยไม่ใช่รึ?
“ยี่สิบห้าล้าน!” มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีนิสัยตรงไปตรงมา ใครบางคนเสนอเพิ่มขึ้นมาอีกห้าล้านทันที
“ยี่สิบหกล้าน!”
“ยี่สิบเจ็ดล้าน!”
“ยี่สิบแปดล้าน!”
“ยี่สิบเก้าล้าน!”
ดูเหมือนว่าราคาสามสิบล้านจะเป็นราคาที่สูงเกินไป หลังจากการเสนอราคายี่สิบเก้าล้านดังขึ้น ความเงียบสงัดก็เกิดขึ้นกับฝูงชน พวกเขารู้ว่าเม็ดยาสร้างรากฐานมีราคาประมาณสิบล้าน แต่เนื่องจากมีผู้คนที่ต้องการมันมากมายแต่กลับไม่มีใครต้องการขาย ดังนั้นราคาจึงพุ่งขึ้นสูงถึงยี่สิบล้าน อย่างไรก็ตาม เงินไม่มีทางตกลงมาจากท้องฟ้า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถใช้จ่ายเกินตัวได้
“สามสิบล้าน!” ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบสงัด มันคือจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณจากตระกูลชั้นกลาง
สำหรับแปดตระกูลใหญ่ การมีจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณเพิ่มขึ้นหนึ่งคนก็เท่ากับการมีกำลังรบเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อำนาจของพวกมันก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นถึงขนาดทำลายสมดุลของแต่ละตระกูลได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับตระกูลชั้นกลางแล้ว ถ้ามีจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณเกิดขึ้นในตระกูล นั่นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ระดับของตระกูลพวกมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นเหล่าตระกูลชั้นกลางจึงโหยหาเม็ดยาสร้างรากฐานมากกว่าผู้ใด และพร้อมที่จะกลายเป็นบ้าเพื่อเม็ดยานี้
“สี่สิบเอ็ดล้าน!”
“สี่สิบสองล้าน!”
“สี่สิบสามล้าน!”
ในที่สุดก็เหลืออยู่เพียงสามตระกูล ดวงตาของตัวแทนแต่ละตระกูลกลายเป็นแดงก่ำ พวกมันดูราวกับจะยอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อให้ได้เม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดนี้มา
“ฮ่าๆ แม้จะกินเม็ดยาสร้างรากฐานไป เจ้าก็มีโอกาสทะลวงผ่านเพิ่มขึ้นเพียงสิบหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ทำไมพวกเจ้าทั้งสองต้องแย่งชิงกับข้าอย่างกระหายเลือดขนาดนั้น?” หนึ่งในพวกมันถาม
“งั้นทำไมพี่ชายหม่าถึงไม่ยอมมอบโอกาสนี้ให้ข้าล่ะ?” อีกคนถามขึ้นมา
“นี่คือเม็ดยาสร้างรากฐานที่มีคุณภาพสิบสามดาว มันไม่ใช่สิบหรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์แต่เป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์” คนที่สามเค้นเสียงเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่สามารถเสนอราคาต่อไปได้ งั้นก็อย่ามัวทำให้ตัวเองขายหน้า!”
“งั้นก็มาแข่งกันต่อ!”
ในที่สุดราคาก็หยุดอยู่ที่สี่สิบเก้าล้าน
ทุกคนเดากันไว้แล้วว่าเม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดสุดท้ายจะต้องมีราคาสูงสุด แต่ราคาที่สูงเกือบถึงห้าสิบล้านก็ยังทำให้ทุกคนตกตะลึงอยู่ดี
หลิงฮันคำนวณอยู่ชั่วขณะและอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ นั่นเพราะเม็ดยาสร้างรากฐานทั้งเก้าเม็ดมีราคารวมกันถึง สองร้อยยี่สิบห้าล้าน! แม้จะหักค่านายหน้าออกไปสิบสี่เปอร์เซ็นต์ ก็ยังน่าตกตะลึงอยู่ดี เพราะราคาต่อเม็ดของมันอยู่ที่สิบล้านเท่านั้น
หลิวอู๋ตงและหลีซื่อฉางที่คำนวณอยู่ในใจก็ตกตะลึงเช่นกัน เงินจำนวนนั้นสามารถเทียบได้กับรายได้ทั้งปีของตระกูลใหญ่เลย!
ไม่ใช่กำไร แต่เป็นรายได้ทั้งหมด!
หรือก็คือ ภายในหนึ่งวันหลิงฮันได้รับเงินมากกว่าหนึ่งปีของตระกูลใหญ่
นักปรุงยาช่างมั่งคั่งยิ่งนัก
แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน นอกจากหลิงฮัน นักปรุงยาคนอื่นจะสามารถหลอมเม็ดยาสร้างรากฐานเก้าเม็ดได้โดยที่หม้อปรุงไม่ระเบิดได้รึไม่? และหากเป็นนักปรุงยาระดับปฐพี... นักปรุงยาระดับนั้นจะยังจำเป็นต้องใช้สิ่งของอย่างเงินตราอยู่อีกรึ?
ถ้านักปรุงยาระดับปฐพีหลอมเม็ดยาระดับปฐพีขั้นกลางหรือขั้นสูงขึ้นมา แม้จะขายแคว้นพิรุณทั้งแคว้นก็ไม่เพียงพอที่จะซื้อ!
การประมูลสิ้นสุดลงอย่างเงียบสงบ หลิงฮันเดินไปหลังเวทีเพื่อรับเงินที่ขายเม็ดยาได้ องค์ชายหนึ่งคิดว่าเขาไปเพื่อชำระเงินค่ายันต์อาคมเมฆาล่อง และไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าหลิงฮันจะไปเพื่อรับเงิน แถมเงินที่หลิงฮันได้รับมานั้นยังเพียงพอที่จะทำให้องค์ชายอย่างเขาหยุดหายใจ
“นายน้อยฮัน เม็ดยาสร้างรากฐานทั้งเก้าเม็ดถูกประมูลเป็นเงินสองร้อยสี่สิบห้าล้าน และหากหักลบค่านายหน้าและเงินสิบล้านที่นายน้อยยืมไปใช้ก่อนหน้านี้ก็จะเหลือเงินหนึ่งร้อยแปดสิบสามล้านห้าแสน” เจี่ยโป๋หยุนส่งกองสัญญาเงินตราให้หลิงฮัน เงินจำนวนนี้มันมากเกินกว่าจะมอบให้เป็นเหรียญได้
เขารู้ดีว่าหลิงฮันกำลังจะกลายเป็นนักปรุงยาระดับดำขั้นสูง และมีความเป็นไปได้ที่จะก้าวไปสู่นักปรุงยาระดับปฐพี ดังนั้นเขาจึงเรียกหลิงฮันด้วยความเคารพและหวังว่าหลิงฮันจะสามารถหลอมเม็ดยาระปฐพีที่ช่วยให้จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณทะลวงผ่านระดับได้ ไม่เช่นนั้นคนอย่างเขาคงไม่ต้องทำตัวสุภาพต่อหลิงฮันขนาดนี้
หลิงฮันยิ้มและรับเงินมา เขาไม่ตรวจสอบมันแม้แต่น้อยและเก็บเข้าไป เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าทุจริตกับเงินของเขาเด็ดขาด