บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 147 พนัน
ตอนที่ 147
พนัน
“ว่าไงล่ะ เจ้าบอกพวกข้าได้หรือไม่ว่าไป๋จูเหวินเป็นคนเช่นไร”ได้ยินคำถามของไช่จิน ไป๋จูเหวินก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ
“ก็ เป็นคนธรรมดาล่ะมั้ง”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ
“เป็นคำตอบที่น่าเบื่อจริงๆ”ไช่จินว่าพลางส่ายหัวช้าๆ
“แต่ก็ช่างเถอะ ข้าไม่ได้เห็นคนของกลุ่มนักล่าอสูรมานานแล้วเจ้ามาทำภารกิจงั้นหรือ”ไช่จินถามพลางเลิกคิ้วสงสัย มันดูแก่กว่าไป๋จูเหวินอยู่หลายปีมันเลยไม่ได้มีท่าทีสุภาพกับไป๋จูเหวินนัก
“เปล่า ข้าแค่กำลังเดินทางกลับจากภารกิจเท่านั้น”แม้เป้าหมายที่ไป๋จูเหวินไปจะไม่ใช่ภารกิจของกลุ่มนักล่าอสูร แต่จะเล่าสถานการณ์โดยละเอียดให้อีกฝ่ายทั้งหมดก็คงไม่ได้
“เหรอๆ ได้ข่าวว่างานล่าอสูรเงินดีไม่น้อย ไม่ทราบว่าพี่ชายกระเป๋าหนักพอจะเลี้ยงพวกเราบ้างหรือเปล่า”ไช่จินถามด้วยท่าทียิ้มแย้ม เหล้าที่มันสั่งมากระดกหายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ขวดเดียว แถมมันยังไม่ค่อยมีเงินเสียด้วย แต่น่าเสียดาย ไป๋จูเหวินที่เข้ากลุ่มนักล่าอสูรมาจนกลายเป็นศิษย์เอกของเจ้าสำนักกลับยังไม่เคยทำงานหาเงินเลยแม้แต่ครั้งเดียว พูดตามตรงคือนอกจากงานที่หวงหลงลงทาไป๋จูเหวินให้ไปสำรวจแดนอสูรแล้วก็ไม่มีงานของกลุ่มนักล่าอสูรใดๆเลยที่ไป๋จูเหวินได้ทำอย่างจริงจัง
“ได้ พวกเจ้าสั่งกันเต็มที่เลย”ไป๋จูเหวินตอบ แม้จะไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน แต่จะบอกว่ามันร่ำรวยอยู่แล้วก็ไม่ผิด
“เยี่ยม! เสี่ยวเอ้อ เอาเหล้าชั้นดีมาวางที่ตะนี้เลย ข้าจะดื่มกับพี่ชายท่านนี้”ไช่จินยิ้มกว้าง เมื่อมีคนเลี้ยงก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้คนอย่างมันต้องเกรงใจ ทำให้ไม่นานโต๊ะของไป๋จูเหวินก็เต็มไปด้วยอาหารและสุรา เพียงแต่น่าเสียดายที่เมืองแห่งนี้ค่อนข้างแร้นแค้นไปสักหน่อย อาหารและเครื่องดื่มรสชาติไม่ค่อยดีนัก ทั้งๆที่อยู่ๆห่างจากเมืองหลวงไม่มากแท้ๆ
“พี่ชาย ท่านได้ข่าวเรื่องพวกนั้นมาจากไหนเหรอ”ขณะดื่มจนเมามาย ไป๋จูเหวินเลยถือโอกาสถามไช่จินเสียเลยว่ามันได้ข่าวงานชุมนุมมาจากไหน
“เรื่อองนั้นคงบอกไม่ได้”ไช่จินยิ้มบางๆด้วยท่าทีมีเลศนัย ท่าทางความมึนเมาจะง้างปากคนอย่างไช่จินไม่ได้ง่ายๆหากไม่ใช่เรื่องที่มันอยากจะเล่าออกมาเอง
“แต่ไหนๆเจ้าก็เลี้ยงอาหารข้าแล้วจะบอกเจ้านิดหน่อย แหล่งข่าวของข้าเป็นหนึ่งในคนที่ได้เข้าร่วมงานชุมนุมนั่นล่ะ”ไช่จินหัวเราะพลางกระดกเหล้าต่ออย่างอารมดี น่าเสียดายที่พิษสุราทำอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้ จอกเหล้าในมือของมันเลยไม่ต่างจากแก้วน้ำเปล่าเท่านั้น
“ฮะๆ แบบนั้นก็ไม่ต่างจากไม่บอกเท่าไหร่ละนะ”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางนึกถึงภาพงานชุมนุม เหล่ายอดฝีมือที่ได้รับเลือกให้เข้างานมีจำนวนนับร้อย บ้างก็นำศิษย์เอกมาคนเดียวบ้างก็พากันมาทั้งสำนัก อย่างหัวหน้าถังแห่งกลุ่มผุ้ฝึกอสูรนั้นก็นำคนมาเป็นจำนวนมาก หากจะบอกว่าใครคือแหล่งข่าวของไช่จินก็คงยากเกินไป
“ฮ้า ข้าเริ่มอิ่มแล้วสิ”ไช่จินว่าพลางวางไหเหล้าว่างเปล่าไว้บนโต๊ะ จำนวนที่มันดื่มไปไม่ใช่น้อยๆ หากเป็นคนปกติคงเมาสลบไปแล้ว เพียงแต่ไช่จินที่ดื่มเยอะเป็นธรรมดาจนไม่ใช่เรื่องแปลกไม่ได้ทำให้ชาวบ้านชาวเมืองในร้านประหลาดใจเลย กลับเป็นไป๋จูเหวินเสียอีกที่ทำเอาพวกมันพูดไม่ออก ไป๋จูเหวินนอกจากจะดื่มสุราราวกับน้ำ นอกจากจะไม่เมาแล้วมันยังมีสีหน้าปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียอีก
“ถ้าเช่นนั้นก็เก็บเงินเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเรียกเสี่ยเอ้อมาคิดเงิน แน่นอนว่าเงินในกระเป๋าของไป๋จูเหวินไม่สะเทือนเลยแม้แต่น้อย
“น้องชาย เจ้าเงินหนักไม่ใช่เล่น สนใจไปละลายทรัพย์กับข้าหรือไม่”ไช่จินว่าพลางลุกขึ้นยืน ตัวมันเซเล็กน้อยแต่ก็ยังคงสติเอาไว้ได้
“ละลาย..ท่านจะเอาทองไปหลอมงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินเอียงคอสงสัย
“เจ้าพูดเล่นหรือไง ข้ากำลังชวนเจ้าไปเล่นพนันต่างหาก”ไช่จินหัวเราะพลางยิ้มกว้าง
“พนัน?”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้ว เล่นพนันงั้นหรือ ตัวมันไม่เคยทำเรื่องเช่นนั้นมาก่อน เลยมีท่าทีสนใจอยู่บ้าง
“ใช่แล้ว ตามข้ามาน้องชาย ข้ามีบ่อนที่ข้ารู้จักอยู่รับรองว่าไม่โกงเจ้าแน่ๆ”ไช่จินหัวเราะ พลางพาไป๋จูเหวินเดินออกจากร้านไป
นานมากแล้วที่ไป๋จูเหวินไม่ได้เข้ามาเดินในเมืองปกติธรรมดาเช่นนี้ ในเมืองแทบจะไม่มีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณอยู่เลย นานๆครั้งถึงจะเจอคนที่มีพลังวิญญาณบ้างเช่นเดียวกับไช่จิน
“เฮ้ย ไข่จินเจ้ายังกล้าโผล่มาอีกหรือไง”ทันทีที่ไช่จินเดินเข้ามาในตรอกแห่งหนึ่ง ชายที่ยืนอยู่หน้าทางเข้าเล็กๆที่ซ่อนอยู่ระหว่างตรอกก็มองมาทางไช่จินพลางถามออกมาทันที
หมับ! ไป๋จูเหวินคว้าข้อมือของชายที่เดินเข้ามาหาไช่จินเอาไว้ก่อนที่มันจะคว้าคอเสื้อของไช่จินได้ในเสี้ยววินาที
“อย่าเข้ามายุ่ง อึก....”ชายคนนั้นพยายามจะดึงมือออกแต่เมื่อมันพบว่ามันดึงมืออกไม่ได้ มันจึงเริ่มตรวจสอบพลังวิญญาณของไป๋จูเหวิน แต่เมื่อได้พบความห่างชั้นจนไม่อาจวัดระดับพลังของอีกฝ่ายได้ใบหน้าของชายที่เข้ามาหาเรื่องก็ซีดเผือดทันที
“อ่อ ลืมบอกไปว่าวันนี้ข้าพาแขกมาด้วย”ไช่จินยิ้มพลางมองชายตรงหน้าด้วยท่าทีโอ่อ่าราวกับคนเหนือกว่า
“ข้าเข้าใจแล้ว คุณชายท่านปล่อยข้าก่อน”ชายที่เข้ามาหาเรื่องว่าพลางพยายามดึงมือออกจากมือของไป๋จูเหวิน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะทำร้ายอีกไป๋จูเหวินก็ปล่อยไปแต่โดยดี
“วันนี้เจ้ารอดไป แต่เจ้าอย่าหวังว่าจะสามารถกู้เงินเพื่อเล่นพนันได้อีก”ชายคนนั้นว่าพลางเดินกลับเข้าไปในบ่อน ก่อนจะเดินไปบอกคนของมันว่าห้ามให้ไช่จินยืมเงินโดยเด็ดขาด
“ไปกันเถอะน้องชาย”ไช่จินว่าพลางพาไป๋จูเหวินเข้าไปอย่างสบายอารม แต่เพียงเดินเข้าไปไม่กี่ก้าวไป๋จูเหวินก็มีท่าทีไม่ชอบขึ้นมาทันที ไม่ใช่เพราะกลิ่นยาสูบที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งบ่อน แต่เพราะสายตาโลภโมโทสันของเหล่าผู้เข้ามาร่วมพนัน
“.....”แต่อยู่ๆไป๋จูเหวินก็ชะงักเท้าลงเสียดื้อๆ เพราะมุมหนึ่งของบ่อนแห่งนี้กลับปรากฏพลังวิญญาณที่มากจนไป๋จูเหวินต้องหยุดมอง ภายในเมืองแห่งนี้คงต้องบอกว่าเป็นมันที่มีพลังวิญญาณสูงที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะพลังวิญญาณของมันมากกว่าไป๋จูเหวินในยามนี้เสียอีก ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมาเจอคนเช่นนี้ในสถานที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยาสูบได้
“ต่ำสิวะ”ชายคนนั้นตะโกนพลางกำเงินในมือเอาไว้แน่น ท่าทางมันเองก็กำลังมัวเมากับการพนันในครั้งนี้ไม่น้อย
“เสียใจด้วย ฮ้าๆๆๆ”เจ้ามือประจำวงเปิดลูกเต๋าออกมาพลางหัวเราะเสียงแหบ
“เฮอะ”ชายคนนั้นส่งเสียงไม่พอใจออกมาก่อนที่มันจะโยนเงินที่มันกำเอาไว้โยนให้เจ้ามือด้วยท่าทีหัวเสีย
“อีกตา”ชายคนนั้นว่าพลางตบพื้นเสียงดังพลางควักเงินออกมาจากกระเป๋าของมัน ทำให้ไป๋จูเหวินอดสนใจและเดินเข้าไปมองไม่ได้ เกมตรงหน้าไป๋จูเหวินเหมือนจะเป็นเกมทายแต้มลูกเต๋าว่าลูกเต๋าจะออกสูงหรือต่ำนั่นเอง
“เสียใจด้วย”เจ้ามือหัวเราะพลางมองลูกเต๋าที่ออกมาแต้มต่ำทั้งๆที่ชายผู้มีพลังวิญญาณแทงแต้มสูง
“บ้าจริงๆ”ชายคนนั้นว่าพลางโยนเงินให้เจ้ามืออีกครั้งก่อนจะนำเงินออกมาเล่นต่ออย่างจริงจัง มองจากภายนอกแล้วมันก็เหมือนผีพนันธรรมดา หากไม่ใช่เพราะภายในมันมีพลังวิญญาณมหาศาลไป๋จูเหวินคงมองข้ามมันไปแล้ว
“น้องชายสนใจจะแทงสูงต่ำเหรอ”ไช่จินว่าพลางพาไป๋จูเหวินมานั่งที่ข้างๆชายผู้มีพลังวิญญาณ
“มะ ไม่ดีกว่า”ไป๋จูเหวินส่ายหัวช้าๆ ด้วยดวงตาของมันทำให้สามารถมองเห็นภายในถ้วยที่ใช้ทอยลูกเต๋าได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกมตรงหน้าสำหรับไป๋จูเหวินนั้นไม่ต่างอะไรกับการตอยคำถามที่มีคำตอบตายตัวเลย เพียงแต่ไป๋จูเหวินมองไช่จินเล่นไปสักพักมันก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ เพราะชายข้างๆไป๋จูเหวินกลับแทงเสียๆอย่างกับเอาสมบัติมาเททิ้ง ตัวมันเองก็เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ เหตุใดถึงไม่ใช้ความสามารถกัน
“พี่ชาย ระดับท่านน่าจะสามารถทราบได้ไม่ยากไม่ใช่หรือว่าหน้าลูกเต๋าออกอะไร”ไป๋จูเหวินถามพลางมองชายผู้มีพลังวิญญาณด้วยท่าทีสนใจ
“หะ”ชายคนนั้นหันมามองด้วยท่าทีแปลกใจ มันเอาแต่เล่นจนลืมสัมผัสสิ่งรอบข้างไปเลย ขนาดคนมีพลังวิญญาณสูงไม่น้อยอย่างไป๋จูเหวินเข้ามาใกล้ๆก็แทบจะยังไม่รู้ตัวเลย
“เรื่องนั้นเพราะความสนุกยังไงล่ะ”ไช่จินว่าพลางวางเงินเดิมพันช้าๆ
“ตามที่เจ้าเด็กไช่พูดนั่นล่ะ ข้าเล่นพนันเพื่อความสนุก หากข้าใช้ความสามารถเพื่อให้รู้หน้าลูกเต๋าก่อนก็ไม่เป็นการพนันน่ะสิ”ชายผู้แทงเสียบอกพลางเริ่มวางเดิมพันฝั่งตรงข้ามกับไช่จิน ทำให้ไป๋จูเหวินที่อยู่ตรงกลางได้แต่นั่งดู เพราะสายตาของมันมองทะลุถ้วยได้ แถมจะไม่มองก็ไม่ได้เสียด้วย การวางเดิมพันของมันเลยไม่ต่างจากเลือกเอาว่าจะแพ้หรือจะชนะเท่าไหร่
“เฮ้อ หมดตัวซะแล้ว”ชายข้างๆไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมา เงินในกระเป๋าของมันหมดลงเสียแล้ว แต่ด้วยระดับพลังของมันเงินที่มันลงไปทั้งหมดก็คงสามารถหามาใหม่ได้ไม่ยากกระมัง
“พี่เก้า ท่านยังดวงซวยเช่นเดิม”ไช่จินว่าพลางเก็บเงินที่มันได้มาลงกระเป๋า
“ฮ้าๆ ช่วยไม่ได้หรอก ข้าใช้ดวงไปกับเรื่องอื่นหมดแล้ว”พี่เก้าหรือเก้าเจาหัวเราะออกมาราวกับไม่ใส่ใจเงินที่เสียไปเท่าไหร่
“เจ้าไม่เล่นหรือน้องชาย”ไช่จินถามพลางวางเงินเดิมพันต่อ
“ไม่เป็นไรขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปรอบๆ การพนันนั้นไม่ใช่เรื่องดึงดูดใจสำหรับไป๋จูเหวินเสียเท่าไหร่ เพราะในกระเป๋าของมันมีเงินเต็มถุง แต่ยามนี้ไป๋จูเหวินสนใจความเป็นมาของไช่จินมากกว่า ตัวเก้าเจานั้นมีพลังวิญญาณสูงกว่าไป๋จูเหวินเสียอีก แต่กลับทักทายไช่จินราวสหายทั่วไป แถมยังมีสายข่าวของไช่จินอีก หรือว่าจริงๆแล้วไช่จินจะเป็นผู้กว้างขวางกันแน่
*ช่วงนี้จะลงช้าหรืออาจจะไม่ได้ลงนะครับ อยู่ในช่วงเดินทาง วันที่ 8 หรือ9 ถึงจะกลับมาลงได้ปกติ