ตอนที่ 186 ยันต์อาคมเมฆาล่อง
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป ต่อไปเป็นภาพวาดและตัวอักษร รวมถึงเครื่องประดับบางอย่าง พวกมันไม่มีความสำคัญสำหรับจอมยุทธ แต่สามารถนำมาใช้เป็นเป็นสิ่งฟื้นฟูจิตใจและสร้างความรื่นเริงได้ นอกจากนั้นมันยังมีทักษะต่อสู้และเทคนิคบ่มเพาะพลัง อย่างไรก็ตาม พวกมันเป็นระดับที่ต่ำเกินไป ดังนั้นราคาของพวกมันจึงไม่สูงมากนัก
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง การประมูลเม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดที่สองได้เริ่มต้นขึ้น
ทำให้บรรยกาศครึกครื้นขึ้นมาทันที และไม่เพียงแต่การประมูลจะจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ราคาประมูลจบที่สิบห้าล้าน มันสูงกว่าเม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดแรกเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์!
สีหน้าขององค์ชายหนึ่งบิดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้ามันเป็นแบบนี้อีกต่อไป เขาจะไม่มีทางซื้อยาสร้างรากฐานมาได้แม้แต่เม็ดเดียว เขาจึงตัดสินใจ เขาจะพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะได้รับเม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดที่สาม
เมื่อหลิงฮันเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจึงส่ายหน้า เขาชื่อว่าด้วยอารมณ์ที่สะสมมาจากการประมูลทั้งสองรอบที่ผ่านมา เม็ดยาสร้างรากฐานเม็ดที่สามจะต้องมีราคาสูงขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน
"ทุกท่าน สิ่งที่จะนำมาประมูลถัดไปคือยันต์อาคมเมฆาล่องสามใบ" ผู้ประมูลหยุดดื่มน้ำให้หายคอแห้งและพูดประกาศออกมาอีกครั้งว่า "พวกมันคือยันต์อาคมเมฆาล่องสามใบ ถ้าใครแปะมันไว้ที่ร่างกาย มันจะทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า และมีผลประมาณสิบนาที"
เขากวาดสายตามองคนที่อยู่รอบข้าง "ตามการประเมินของผู้ประเมินราคาของตำหนักสมบัติวิญญาณของพวกเราแล้ว ยิ่งมีระดับบ่มเพาะพลังสูงขึ้นเท่าไหร่ ความเร็วก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น จอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณจะสามารถใช้พวกมันเพิ่มความเร็วได้เพียงสองเท่า ขณะที่จอมยุทธระดับรวมธาตุจะสามารถใช้พวกมันเพิ่มความเร็วได้ถึงสิบเท่า และมันจะไม่มีผลกับจอมยุทธที่อยู่ระดับบุปผาผลิบาน"
จอมยุทธที่อยู่ระดับบุปผาผลิบานสามารถที่จะโปยบินบนท้องฟ้าได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะไม่มีผลกับพวกเขา
หลิงฮันรู้สึกสนใจมันและนั่งหลังตรงทันที อย่างไรก็ตาม มันทำให้ฮูหนิวรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะนางต้องเปลี่ยนตำแหน่งนั่งบนตักของเขา
ยันต์อาคมวิญญาณสามารถนับได้ว่าเป็นอาวุธวิญญาณอีกประเภทหนึ่ง เพราะพวกมันถูกสลักเอาไว้ด้วยเจตจำนงของขอมยุทธเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เจตจำนงที่สลักเอาไว้สามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียว เมื่อยันต์อาคมถูกแปะติดไว้บนร่างกาย มันจะเริ่มทำงานโดยไม่สามารถหยุดกลางคันได้ ต่อให้ใช้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ยันต์อาคมก็จะถูกใช้ออกมาได้เพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตาม ยันต์อาคมจิตวิญญาณสามารถสร้างได้ยากกว่าอาวุธวิญญาณทั่วไป เพราะมันไม่เหมือนกับอาวุธวิญญาณที่ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้พลังก่อเกิดเพื่อใช้งานพวกมันและมันจะไม่ทำงานหากผู้ใช้มีพลังก่อเกิดไม่เพียงพอ แต่ยันต์อาคมวิญญาณนั้นไม่มีปัญหานี้ เมื่อมันถูกแปะบนร่างกายของผู้ใช้ ประสิทธิภาพของมันจะทำงานทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น
แน่นอนว่ายันต์อาคมวิญญาณบางชนิดอาจมีอำนาจมากเกินไป มันจะนำพาพลังมหาศาลเข้าสู่ร่างกายของผู้ใช้ และอาจทำให้ร่างกายของผู้ใช้สลายได้
ยันต์อาคมจิตวิญญาณทั้งสามใบ...เขาตัดสินใจว่าต้องการพวกมัน
อย่างแรก เขาสามารถเรียนรู้เจตจำนงของยันต์อาคมจิตวิญญาณได้ และอย่างที่สองพวกมันสามารถทำให้ความเร็วของเขารวดเร็วขึ้นถึงสิบเท่าของความเร็วปกติของเขา ด้วยสิ่งนี้มันอาจมีความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมากและอาจช่วยชีวิตเขาได้ในอนาคต
สำหรับหลิงฮันแล้ว ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ และค่อยกลับมาเอาคืนด้วยตัวเขาเอง
"ยันต์อาคมเมฆาล่องทั้งสามใบจะถูกนำมาประมูลทั้งหมดในครั้งเดียว ราคาเริ่มต้นของพวกมันคือห้าล้าน" ผู้ประมูลกล่าวประกาศ
ราคาเริ่มต้นของมันคือห้าล้านมันเพียงพอที่จะเปรียบเทียบกับราคาเริ่มต้นของเม็ดยาสร้างรากฐาน และมันเห็นได้ชัดว่าในสายตาของตำหนักสมบัติวิญญาณ พวกมันเป็นของที่หาได้ยากและมีค่ามาก เหตุผลที่พวกมันไม่ถูกนำมาประมูลทีหลังเพราะทางตำหนักสมบัติวิญญาณเกรงว่าทุกคนจะใช้เงินของตัวเองไปกับเม็ดยาสร้างรากฐานจนหมด
"ห้าล้านหนึ่งแสน" ใครบางคนเสนอราคาออกมา แต่ราคาของมันไม่ได้เพิ่มขึ้นสูงมากนัก
ในเมืองจักรพรรดิ ใครกล้าที่จะลงมือสังหารผู้อื่น? ดังนั้น ราคาของยันต์อาคมเมฆาล่องจึงต่ำกว่าราคาโดยประมาณของพวกเขา
"ห้าล้านสองแสน"
"ห้าล้านสามแสน"
การประมูลยังคงดำเนินต่อไปอย่างช้าๆ และไม่อาจเทียบกับการประมูลเม็ดยาสร้างรากฐานก่อนหน้านี้ได้
"สิบล้าน!" ในขณะนั้นเสียงที่เกียจคร้านได้กล่าวออกมา
นายน้อยเสเพลคนไหนกันที่ใช้เงินแบบนี้? เขาพยายามทำให้พ่อของตัวเองล่มจมหรือยังไง
ทุกคนหันไปจ้องมองที่ห้องส่วนตัวบนชั้นสาม มีคนจำนวนมากทีเดียวที่รู้สึกประหลาดใจเพราะพวกเขาได้ยินเสียงขององค์ชายหนึ่งออกมาจากที่นั่น นี่ยังคงพอเข้าใจได้ ใครจะไปรู้ว่าบางทีตำหนักสมบัติวิญญาณอาจคิดว่าองค์ชายหนึ่งมีโอกาสมากที่สุดที่จะสืบทอดบัลลังก์ ดังนั้นพวกเขาจึงมอบห้องส่วนตัวชั้นที่สามให้กับเขาก็เป็นได้
แต่ทว่าตอนนี้ เสียงที่พูดออกมาเมื่อครู่มันไม่มีความคุ้นเคยแม้แต่น้อย ดังนั้นคนผู้นั้นคือใครกัน? เขาไม่เพียงแต่จะได้นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสาม แต่การเสนอราคาครั้งแรกของเขายังเป็นจำนวนเงินที่น่าทึ่ง
ซุนจือหยานหดม่านตาลงทันที เขาจำได้ว่านั่นเป็นเสียงของหลิงฮัน
เจ้าเด็กเหลือขอนี่มีเงินมากเสียจริง
ใช่แล้ว ถ้าเขาไม่มีเงินมาก เขาจะเปิดร้านค้าจำนวนมากได้อย่างไรเพื่อที่จะแข่งขันกับตระกูลเฉินแม้จะขาดทุนก็ตาม?
"ตอนนี้คือโอกาสของท่านที่จะช่วยเหลือธุรกิจของตระกูลท่าน" เขากล่าวกับเฉินหยุนเซียง
ชายชราคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเข้าใจอย่างรวดเร็วและพูดออกไปว่า "จือหยาน เจ้าหมายความว่าข้าควรแข่งขันราคากับมันและบังคับให้มันใช้จ่ายเงินมากขึ้นใช่หรือไม่?"
"ถูกต้อง ตอนนี้ท่านกับมันกำลังแข่งขันกันอยู่แล้ว และถ้าเจ้าเด็กเหลือขอนั่นใช้เงินออกไปจำนวนมาก นั่นหมายความว่าท่านจะมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายล้าน" ซุนจือหยานกล่าวอย่างเย็นชา
"ตกลง!" เฉินหยุนเซียงกัดฟัน "ข้าจะทำให้เจ้าเด็กเหลือขอนั่นต้องสำนึก!"
"สิบเอ็ดล้าน!" เขากล่าวออกมาเสียงดัง
"โอ้ว..." ผู้คนที่อยู่รอบๆส่งเสียงโห่ร้องออกมา สิบเอ็ดล้านไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุดของวันนี้ แต่มันเป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับยันต์อาคมสามใบ
"หรือว่ามันจะเป็นเจ้าสุนัขเฒ่า?" หลิงฮันพูดพึมพัมออกมา เขาจำเสียงของเฉินหยุนเซียงได้ "งั้นข้าจะทำให้เจ้ากลัวจนตาย!" จากนั้นหลิงฮันได้กล่าวเสนอราคาออกมา "ยี่สิบล้าน!"
"อึก!"
ทุกคนรู้สึกตกใจ นี่ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่จะนำความหายนะมาสู่พ่อของเขาแล้ว แต่มันเป็นความหายนะที่จะทำให้บรรพบุรุษของเขาต้องล่มจม แม้แต่แปดตระกูลใหญ่ยังไม่มีคนที่กล้าใช้จ่ายเงินเช่นนี้ ถูกต้องไหม?
"นายน้อยฮันมีเงินมากขนาดนั้นเลยหรือ?" องค์ชายหนึ่งถามด้วยความอยากรู้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าหลิงฮันมีภูมิหลังที่ทรงพลังมาก แต่เขาไม่คิดว่าหลิงฮันจะหาเงินยี่สิบล้านมาได้โดยง่าย
"ไม่ต้องห่วง องค์ชายหนึ่งท่านมีเงินยี่สิบล้านอยู่กับตัวมิใช่หรือ?" หลิงฮันกล่าวล้อเล่น
องค์ชายหนึ่งเกือบจะกระโจนออกจากที่นั่งของเขา หลิงฮันคิดที่จะใช้เงินของเขารึ? แม้ว่าเขาต้องการแรงสนับสนุนของหลิงฮัน แต่ถ้าเป็นเงินยี่สิบล้าน แม้แต่เขายังต้องเหงื่อตก
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาใช้เงินยี่สิบล้านไปเพื่อซื้อเศษกระดาษทั้งสามใบนั่น แล้วเขาจะเสนอราคาเม็ดยาสร้างรากฐานได้อย่างไร?
"นายน้อยฮัน อย่าพูดล้อข้าเล่น" องค์ชายหนึ่งกล่าวขณะเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา
หลิงฮันหัวเราะออกมา แต่ไม่ได้พูดอธิบายอะไร เป็นเหตุทำให้หลิ่วอู๋ตงและหลีซื่อฉางปิดปากของพวกนางและส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา หลิงฮันได้ปรุงเม็ดยาที่ตำหนักโอสถสวรรค์และได้รับเงินมาแปดล้านจากการดูเขาปรุงยา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคนปรุงเม็ดยาสร้างรากฐานและราคารวมของพวกมันยังมีค่าสูงกว่าหนึ่งร้อยล้าน
ภายในห้องส่วนตัวชั้นสอง ซุนจือหยานยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "ดูสิ เพียงแค่ไม่กี่วินาที ท่านมีรายได้ถึงยี่สิบล้าน เสนอราคาต่อเลย!"
ในขณะเดียวกัน เฉินหยุนเซียงปาดเหงื่อของมัน จากน้ำเสียงที่เฉยเมยของหลิงฮันแล้ว ยี่สิบล้านมันไม่ได้มากมายสำหรับเขา แต่สำหรับตระกูลเฉิน แม้ว่าจำนวนเงินยี่สิบล้านจะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่พวกเขาไม่ได้มีเงินสดมากนัก พวกเขาจะต้องขายทรัพย์สินบางส่วนเพื่อให้ได้เงินสดจำนวนมากมา
ถ้าเขายังคงเสนอราคาต่อ เขาเกรงว่าหัวใจของเขาจะทนรับความตกตะลึงได้
แต่เมื่อเขาขบคิดถึงหลิงฮัน เฉินหยุนเซียงจึงกัดฟันของเขาและประกาศว่า "ยี่สิบเอ็ดล้าน!"
ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ เขาจงใจที่จะเรียกราคาให้สูงขึ้น!