SGS บทที่ 85 – มากระทืบแมงมุมกันเถอะ!
พลังทำลายอันมหาศาล! ท่าโจมตีหมู่!
ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น ฟอร์เอเวอร์มิสไซล์นำวิถี ของอิคารอส แต่ไม่ว่าจะเห็นกี่ครั้งวู่หยานก็อดจะเอ่ยชื่นชมในใจไม่ได้
สมแล้วที่เป็นแองเจิ้ลรอยด์ที่ถูกสร้างเพื่อการสงคราม! ยูเรนัสควีนที่แข็งแกร่งที่สุด!
ภายใต้มิสไซล์ของอิคารอส แมงมุมน้อยใหญ่ต่างก็โดนระเบิดเป็นชิ้นๆ เหลือแต่ซากหิน นี่ทำให้วู่หยานอดสงสัยไม่ได้จริงๆว่า ตกลงแล้วเอ็งเป็นแมงมุมหรือก้อนหินกันแน่?
แมงมุมศิลาด้านหน้าเพิ่งถูกฆ่าไป พวกที่อยู่ข้างหลังก็เข้ามาแทนที่ทันที โดยการเหยียบย้ำเศษซากเพื่อนพ้องร่วมเผ่าพันธุ์ของตนเอง แล้วพุ่งตัวมาทางพวกวู่หยาน
เห็นดังนี้วู่หยานก็หรี่ตาลง จากนั้นกระทืบเท้าวิ่งเข้าใส่กองทัพแมงมุม ไม่นานนักทั้งสองฝ่ายก็เข้าประชิดตัวกัน!
เผชิญหน้ากับฝูงแมงมุมที่กระโจนเข้าใส่ตน วู่หยานยก นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ขึ้นแล้วฟาดลงไปเต็มแรงใส่ใบหน้าอัปรีย์ของมันจนกระเด็น
เพิ่งหวดแมงมุมศิลายักษ์ไปก็มีตัวใหม่ดาหน้าเข้ามา พวกมันกระโดดขึ้นแล้วอ้าปากปล่อยแทงหินใส่วู่หยาน
เกิดเส้นแสงสีเงินขึ้น วู่หยานตวัดดาบเป็นแนวนอนทำลายแทงหินจนหมด แต่ทว่าก็ยังมีแมมุมตัวอื่นกระโดดยิงแทงหินมาจากข้างหลังเขา
วู่หยานได้ยินเสียงลมฉีกกระชากจากด้านหลัง แม้ว่าเขาอยากจะหลบก็ทำไม่ได้ เพราะตนเพิ่งตวัดดาบฟันไปจึงไม่มีเวลาพอที่จะหลบ
ในช่วงเวลาวิกฤต วู่หยานก็กลับตัวมาแล้วสะบัดดาบสีดำในมือทำลายแท่งหินจนหมด
เวลานี้เอง มืออีกข้างของวู่หยานที่ควรจะว่างเปล่าอยู่ๆก็มีดาบคาตะนะสีดำปรากฏออกมา และถ้าสังเกตุตัวดาบดีๆจะเห็นว่าใบดาบมันกำลังสั่นสะเทือนด้วยความความเร็วสูง
วู่หยานยกดาบสีดำในมือขึ้นแล้วพยักอย่างพึงพอใจ ดาบทรายเหล็กที่สร้างมาจากพลังจิตบวกกับการสั่นสะเทือนด้วยความความเร็วสูง ถ้าเทียบกันด้านความคมแล้วถือว่ามันยังเหนือว่ายุทธภัณฑ์หลักเสียอีก!
มือกำดาบทั้งสอง แล้วตวัดออกไปผ่าแมงมุมศิลาสองตัว จากนั้นก้าวเท้าบุกเข้าฝูงแมงมุม
ด้วย ‘ปรมาจารย์ดาบ’ เขาสามารถใช้ดาบคู่ได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตน และถ้าไม่ใช่เพราะว่าดาบทรายเหล็กมีความคมมากกว่ายุทธภัณฑ์หลัก เขาก็คงไม่ขายดาบคุซานางิออกไป
“ฮึ้ม! อะไรกันน่ะไอ้สีหน้ามีความสุขนั่น ใช้พลังของคนอื่นอยู่แท้ๆ.......”
มิโคโตะกำลังยืนทำหน้าที่ปกป้องลิลินน้อย ตราบใดที่มีแมงมุมเข้ามาใกล้ เธอก็จะย่างสดมันทันที
ตอนแรกเธอก็กังวลว่าไฟฟ้าของตนจะใช้ได้ผลกับแมงมุมที่มีร่างกายเป็นหินรึเปล่า และเมื่อเธอลงช็อตมันดูผลก็ตามคาดมันไม่เป็นอะไร จนเธอเพิ่มระดับพลังไฟฟ้าไปจนถึงเลเวล5ถึงพอที่จะฆ่ามันได้
และเมื่อเธอมีเวลามองไปทางฝั่งวู่หยาน เห็นเขาตวัดดาบคู่ฆ่าแมงมุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มิโคโตะก็เม้มปาก
เป็นปกติที่เธอจะรู้สึกอิจฉา ต้องรู้ก่อนว่ากว่าเธอจะพัฒนาพลังจิตของตนเองมาถึงเลเวล4ก็ต้องใช้เวลาหลายปีเลยนะ
แต่ดูเจ้าบ้านี่สิ ใช้แค่การ์ดก็ย่นระยะเวลาฝึกหลายปีเหลือแค่นาทีเดียว แถมยังใช้ดาบทรายเหล็กได้เก่งกว่าเธออีก ถ้าไม่ใช่เขาแต่เปลี่ยนเป็นคนอื่น เธอคงวิ่งเข้าไปบวกแล้ว!
“เทคนิคดาบของหยานดูลึกล้ำมากเลย.....”
ฮินางิคุยืนอยู่ไม่ไกลจากมิโคโตะ เธอกำลังใช้ดาบชิโระซากุระฆ่าแมงมุมศิลาน้อยอยู่ เห็นได้ชัดว่าเมื่อเทียบกันตอนในถ้ำปีศาจ เธอแข็งแกร่งขึ้นมา แถมเธอยังเก่งกว่าวู่หยานในตอนนั้นอีก!
แน่นอนว่าที่เธอคิดว่าเทคนิคดาบตนเองอ่อนกว่าวู่หยาน เพราะเธอไม่ใช่เขาที่มี ‘ปรมาจารย์ดาบ’ ซึ่งทำให้เขาได้แก่นแท้ของวิชาดาบที่เทียบกับคนที่ฝึกดาบมาทั้งชีวิตแล้วถือว่าไม่ด้อยกว่าเลย แต่ตัวเธอเพิ่งฝึกมาได้ไม่กี่ปีเอง
“ต้องเก่งขึ้นให้ไวกว่านี้ ไม่งั้นซักวันฉันก็คงไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะยืนเคียงข้างเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่อง.......” ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร อยู่ๆฮินางิคุก็หน้าขึ้นสี ดูท่าทางน่ารักมาก
จู่ๆก็มีคลื่นไฟฟ้าปรากฏข้างๆตัวฮินางิคุ ช็อตใส่แมงมุมศิลายักษ์ที่กำลังแอบลอบโจมตีเธอ ทำเอาฮินางิคุสะดุ้งโหยง
“เธอเป็นอะไรเนี่ย ฮินางิคุดันมายืนทำหน้างุนงงในเวลาแบบนี้!” ไม่ไกลนัก มิโคโตะที่กำลังมีกระแสไฟฟ้สวิ่งรอบตัวได้ตะโกนใส่เธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
ท่านประธานที่ทำหน้างุนงงถือว่าเป็นอะไรที่หายากมากเลยล่ะ......
ฮินางิคุหน้าแดงกว่าเดิม ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง แล้วเข้าไปโรมรันกับฝูงแมงมุม
เทียบกับดาบและสายฟ้าของทั้งสามคนแล้ว อิคารอสคนเดียวยังเหนือกว่าอีก.....
ลอยอยู่บนอากาศ ในนัยน์ตาสีแดงของเธอมีวงแวงหมุนไปมาราวกับเป้าเล็งของสไนเปอร์ เธอกวาดสายตามองกองทัพแมงมุมด้านล้าง
ทุกครั้งที่เธอล็อคเป้าหมายเสร็จ ก็จะมีมิสไซล์จำมหาศาลโผล่ออกมา และด้วยความคิดเธอ มิสไซล์พุ่งทะยานออกไปถล่มกองทัพแมงมุม ด้วยหนึ่งมิสไซล์ก็ฆ่าแมงมุมไปได้หลายตัวแล้ว
และถ้าไม่ใช่เพราะว่าที่นี่มีพวกวู่หยานให้เธอต้องห่วงอยู่โดยเฉพาะมาสเตอร์ของเธอ อิคารอสคงงัดอพอลโลออกมายิงแล้ว.....
ภายใต้การร่วมมือกันของทั้งสี่คน จำนวนแมงมุมก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ.......
จนกระทั้งแมงมุมตัวสุดท้ายตายไปภายใต้คมดาบของวู่หยาน เวลาทั้งหมดก็เพิ่งผ่านไปแค่10นาที!
ยกเว้นลิลินน้อยกับอิคารอส วู่หยาน ฮินางิคุ กับ มิโคโตะก็ทำสีหน้าเหม่อลอยเล็กน้อย
จำนวนของแมงมุมเรียกได้ว่าน่าสะพรึงกลัว เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากตอนในถ้ำปีศาจเลย แต่ถ้าทางด้านพลังถือว่าพวกแมงมุมเก่งกว่าเยอะ!
ด้วยมอนสเตอร์ที่เก่งและเยอะขนาดนี้ แต่มันก็ยื้อเวลาพวกเขาไปได้แค่10นาที!
เทียบกับในถ้ำปีศาจ พวกเขาต้องใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมงแถมยังต้องใช้ ลมหายใจแห่งชีวิต ช่วยด้วยก็ยังแทบไม่ไหว
แต่ครั้งนี้ พวกเขาใช้เวลาแค่10นาทีเท่านั้น!
ถึงแม้เหตุผลส่วนใหญ่จะมาจากอิคารอสก็เถอะ แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้พวกวู่หยานทั้งสามคนตื่นเต้นน้อยลงเลย!
เป็นเพราะ ตนเองแข็งแกร่งขึ้น!
ครั้งก่อนวู่หยานมีเลเวล30 มียุทธภัณฑ์หลัก ปรมาจารย์ดาบ และ ดาราพลิกสวรรค์ ส่วนครั้งนี้เขาเลเวล50 มียุทธภัณฑ์ดินสองชิ้น ปรมาจารย์ดาบ ดาราพลิกสวรรค์ และ Electro Master Lv4 เขาเก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
ส่วนครั้งก่อนฮินางิคุก็เลเวลแค่18 มียุทธภัณฑ์หลัก แต่ตอนนี้เธอเลเวล35แล้ว ถึงจะยังใช้ชิโระซากุระอยู่เหมือนเดิม แต่ก็พูดได้เลบว่าเธอเก่งขึ้นเยอะ!
ส่วนมิโคโตะ ถึงแม้เธอจะไม่พัฒนาขึ้นเยอะจนเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับวู่หยานและฮินางิคุ แต่นั้นก็เป็นเพราะเธอมีเลเวลที่สูงมากจึงไปแปลกที่จะเลื่อนเลเวลช้า ถ้าเร็วแบบพวกเขาก็ออกจะโกงเกินไปนะว่ามั้ย?
ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้มันก็บอกพวกเขาทั้งสามคนว่า......
ตนเองแข็งแกร่งขึ้น!!
วู่หยานฉีกยิ้มด้วยความตื่นเต้น และถึงแม้สองสาวจะไม่ทำแบบเขา เพราะพวกเธอเป็นผู้หญิง แต่ถึงกระนั้นฮินางิคุกับมิโคโตะก็หันมามองตากันแล้วยิ้มน้อยๆแสดงความสุขในหัวใจจตนออกมา
ลิลินน้อยที่ถูกมิโคโตะเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดตาจึงไม่เห็นซากศพ แต่เมื่ออยู่ๆวู่หยานก็หัวเราะออกมา ทำเธอสะดุ้งโหยง ก่อนจะเอามือมาตบหน้าอกเล็กๆของตนด้วยท่าทางน่ารัก
อิคารอสเอียงคอ บนหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ขณะที่มองมาสเตอร์ของตนที่เป็นบ้าไปซะแล้ว........
ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ - ห้องสมุดคนรักนิยายแปล