GE74 ทำลายเผ่าคราม [ฟรี]
หนิงฝานบังคับเมฆเซียนให้เคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า เพราะยามนี้คือโอกาสได้จู่โจมภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำ
ภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นตนใดล่วงเข้ามาในระยะสัมผัสเทพของหนิงฝาน พวกมันจะถูกสัมผัสกระบี่ทำลายทะเลสติทันที
หากเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางล่วงเข้ามาในรัศมี 100 ลี้ กลิ่นอายของสัตว์อเวจีจะสะกดพลังของมันเอาไว้ และถูกสังหารด้วยสัมผัสกระบี่ของหนิงฝานเช่นกัน
มีเพียงผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงเท่านั้นที่เข้าประชิดตัวหนิงฝานได้ แต่ในเมื่อมันถูกกลิ่นอายของสัตว์อเวจีสะกดพลัง ชะตากรรมของพวกมันก็ไม่พ้นความตาย
เมฆเซียนทั้ง 3 ก้อนนำพาหนิงฝานและสตรีอีก 2 นางลอยผ่านหมอกโลหิต ที่เกิดจากการสังหารภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำ
หนิงฝานสังหารภูตผีไปมากมาย ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตแก่นขอบคำขั้นต้น แต่ขั้นกลางและขั้นสูงมีน้อยมาก
ภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น 1 ตนให้แต้ม 2000 ขั้นกลาง 5000 ขั้นสูงอีก 10000
ดังนั้นยามนี้ แต้มภายในนิกายของหนิงฝานจึงปรับเปลี่ยนอย่างน่าสะพรึงกลัว แต่หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจ
กระทั่งยามนี้ แต้มของหนิงฝานบรรลุถึง 1.89 ล้านแต้มแล้ว!
สีหน้าของหนิงฝานเริ่มซีดขาวไร้โลหิต เขาเร่งกลืนโอสถ เพื่อฟื้นฟูสัมผัสเทพที่เสียไป เพราะการสังหารภูติผีด้วยสัมผัสกระบี่นั้น เผาผลาญพลังไปไม่น้อย เขาต้องฟื้นฟูตนเองให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอ
เมื่อหนิงฝานเก็บรวบรวมมุกภาวนาทั้งหมด เขาก็จ้องมองไปยังฟากฟ้าที่อยู่ไกลออกไป
ไกลออกไปกว่า 300 ลี้ มีกลุ่มสีดำบางอย่างลอยปรากฏ จุดเหล่านั้นคือภูตผีที่รวมตัวกัน พวกมันเฝ้ามองและไม่กล้าเข้าใกล้หนิงฝาน
หนิงฝานมาถึงขอบแม่น้ำคราม หากข้ามไปอีกฝั่ง จะเป็นที่ตั้งของเผ่าคราม
เผ่าครามในยามนี้มีข่ายอาคมคุ้มกัน 9 ชั้น... 8 ชั้นแรกเป็นข่ายอาคมระดับแก่นทองคำ มีลักษณะเป็นหมอกดำ ชั้นในสุดเป็นหมอกโลหิต ซึ่งก็คือข่ายอาคมระดับดวงจิตแรกเริ่ม
ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าครามได้รับข่าวจากผู้อาวุโสสองว่าผู้เชี่ยวชาญของพวกมันถูกสังหารตายไปเป็นจำนวนมาก มันจึงเตรียมข่ายอาคม 9 ชั้นไว้เพื่อรอต้อนรับหนิงฝาน
หนิงฝานเก็บเมฆเซียน เขากระโดดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับสัตว์อเวจี เหยียบย่านภาตรงไปยังม่านหมอกสีดำทมิฬ
หากมองจากด้านนอก หมอกสีดำทมิฬปกคลุมพื้นที่กว่า 100 ลี้ เมื่อหนิงฝานผ่านเข้าไปภายใน เบื้องหน้าของเขาก็ปรากฏชายชราในชุดคลุมสีคราม
กลิ่นอายของชายชราผู้นี้ดูยิ่งใหญ่ราวกับมหาสมุทร ดวงตาลุกโหมด้วยเพลิง ร่างกายห่มคลุมด้วยผ้าคลุมสีคราม ในมือถือกระบี่คราม พลังที่แผ่ออกมาน่าสะพรึงกลัว
ชายชราผู้นี้คือผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าคราม! และด้านหลังของมันมีผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองขั้นสูงอีก 8 ตน หนึ่งในนั้นคือฉู่หาน ผู้เฝ้าคลังสมบัติของเผ่า ไกลออกไปเป็นภูติในขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลางและต้น พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้
ผู้อาวุโสใหญ่ได้รับแจ้งจากสหายของมันว่าหนิงฝานมีวิธีการบางอย่าง ที่สามารถสังหารภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำได้ในพริบตา หากอยู่ในระยะ 300 ลี้ ต่อให้เป็นขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงและกลางก็ไม่เว้น... หนิงฝานจึงไม่ต่างจากภัยคุกคามของพวกมัน
คำกล่าวเหล่านั้น ผู้อาวุโสใหญ่ไม่เชื่อ ไม่ว่าอย่างไร มันยังคงเย่อหยิ่งและคิดว่าตนเองแข็งแกร่ง
มันยืนเอามือไพล่หลัง พลางจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาที่ดูราวกับข่มขู่
“ซัวหมิง? ข้าไม่จำเป็นต้องไปหาเจ้า แต่เจ้ากลับคิดมาหาข้าถึงที่... ฮ่าฮ่า ช่างกล้าหาญนัก ไม่ว่าเจ้าจะสังหารภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำไปมากเพียงใด เจ้าก็ไม่มีทางทะลวงฝ่าข่ายอาคมทั้ง 9 ชั้นนี้ไปได้! ‘ข่ายอาคมเก้าชั้นคราม’ ทำงาน”
ชายชราและผู้เชี่ยวชาญอีก 9 คนยืนโบกกิ่งไม้เป็นท่าทาง กิ่งไม้นั่นน่าจะเป็นกุญแจในการเปิดหรือปิดการทำงานของข่าอาคม พวกมันทั้ง 9 ผสานสัมผัสเทพของตนเข้าไปในข่ายอาคม เสียงมังกรคำรามดังสนั่น ก่อนปรากฏร่างของมังกร 9 ตัว!
มังกรแต่ละตัวแผ่กลิ่นอายพลังในขอบเขตแก่นทองคำ แต่ละตัวถูกควบคุมด้วยอาวุโสในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงหนึ่งตน แต่มีมังกรตัวหนึ่งที่มีกลิ่นอายครึ่งก้าวดวงจิตแรกเริ่ม มังกรตัวนั้นถูกควบคุมด้วยผู้อาวุโสใหญ่ มังกรทุกตัวก่อกำเนิดจากอำนาจของข่ายอาคม จึงยากจะทำลาย
ข่ายอาคม 9 ชั้นของเผ่าครามนั้น เป็นข่ายอาคมที่ดูราวกับผู้อาวุโสใหญ่ ทุ่มความรู้ที่สั่งสมมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างมันขึ้นมา
ข่ายอาคมถูกกระตุ้น... มังกรถูกอัญเชิญ... ยามนี้ ผู้อาวุโสใหญ่จ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาเย้ยหยัน “ซัวหมิง... ข้าจะให้โอกาสเจ้า หากเจ้ายอมทำลายตันเถียน และส่งสมบัติของภูตผีจำนวนมากที่เจ้าสังหารไปคืนมา ข้า...จะไว้ชีวิตเจ้า!”
นอกจากผู้อาวุโสใหญ่จะถูกหนิงฝานชิงสมบัติของเผ่าไป ผู้เชี่ยวชาญในเผ่าครามจำนวนมากยังถูกสังหาร... สิ่งที่ทำให้ชายชรากังวลคือเหม่ยเฉินที่หนิงฝานอุ้มอยู่... แต่นั่นก็เป็นเพียงความกังวล ตัวมันที่ทรงพลัง มีข่ายอาคม 9 ชั้นเสริมกำลัง มีสิ่งช่วยชีวิต และมีภูติในเผ่าอีกมาก เหตุใดมันต้องกังวล?
เพียงแต่สิ่งที่ทำทั้งหมดนั้น สำหรับหนิงฝานแล้วเป็นเพียงเรื่องน่าขบขัน
ในแคว้นเยว่ ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้ายมีมากมายราวกับมหาสมุทร แต่สำหรับหนิงฝานแล้ว คนเหล่านั้นไม่นับว่าสลักสำคัญอันใด แม้ข่ายอาคม 9 ชั้นจะดูยิ่งใหญ่และใช้สัมผัสเทพเสริมพลัง... แต่มันไม่ทำให้หนิงฝานหวาดกลัว
ทันทีที่หนิงฝานสัมผัสเหม่ยเฉิน นางรู้ความหมายทันที นางโคจรปราณจนปะทุทั่วร่าง ก่อกำเนิดเป็นสายลมสีดำทมิฬพัดกระจายไปรอบทิศ ทำให้ระดับพลังของภูติผีลดลงอย่างรวดเร็ว
ระดับพลังของผู้อาวุโสใหญ่ลดลงเหลือขอบเขตแก่นทองคำขั้นกลาง ส่วนผู้อาวุโสตนอื่นๆลดลงเหลือเพียงขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้น
หนิงฝานเปล่งเสียงคำราม สัมผัสกระบี่กวาดไปรอบทิศ พาดผ่านผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสทั้ง 8 จนทำให้พวกมันเหงื่อตก
“ทำลาย!”
ชั่วลมหายใจต่อมา สัมผัสกระบี่ที่มองไม่เห็น เข้าจู่โจมทะเลสติของพวกมันทั้ง 9 ตนอย่างแม่นยำ พวกมันแต่ละตนได้รับบาดเจ็บแตกต่างกันไป แต่ไม่ร้ายแรงและไม่ถึงตาย
ในช่วงเวลานั้นเอง จี้หยกสีครามของพวกมันทั้ง 9 แตกกระจายพร้อมๆกัน จี้นั้นแปรสภาพเป็นปราณสีดำและส่งกลิ่นเหม็น
“เหตุใดพวกมันไม่ตาย?”
หนิงฝานประหลาดใจ พวกมันทั้ง 9 ระดับพลังลดลงเป็นอย่างมาก เมื่อครู่พวกมันสมควรตายด้วยสัมผัสกระบี่
เมื่อหนิงฝานเห็นปราณสีดำที่ลอยออกจากพวกมันทั้ง 9 เขาจึงรู้สาเหตุทันที
“ประกาศิตทดแทน!” สีหน้าของหนิงฝานแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
พวกมันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะลงมืออย่างรวดเร็ว จนทำลาย ‘ประกาศิตทดแทน’ ที่พวกมันตระเตรียมมา
เผ่าครามได้รับประกาศิตสังหารและประกาศิตทดแทนมาโดยบังเอิญ ประกาศิตสังหารมีผลในการสังหาร แต่ประกาศิตทดแทนมีผลในการช่วยชีวิต
ผู้อาวุโสใหญ่ยังเหลือประกาศิตสังหารอีก 2 ชิ้น ส่วนประกาศิตทดแทนมีทั้งหมด 12 ชิ้น แต่ด้วยใช้ช่วยไป 9 ชีวิต ยามนี้จึงเหลืออยู่เพียง 3 เท่านั้น!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลัน ทำให้ผู้อาวุโสใหญ่ลืมเลือนทุกสิ่ง มันคิดเพียงว่ามันต้องหนี!
“ถอยก่อน ไม่งั้นเราได้ตายกันหมดแน่!”
ผู้อาวุโสใหญ่และผู้เชี่ยวชาญอีก 8 ตนถอยกลับเข้าไปในส่วนลึกของหมอก สีหน้าของพวกมันแต่ละคนเผยให้เห็นความหวาดกลัว
ครั้งแรกที่เห็นหนิงฝานกลับมา ผู้อาวุโสใหญ่ดูแคลน แต่ยามนี้ มันกลับหวาดกลัว
“วิชาของมันท้าทายสวรรค์นัก! หากไม่เพราะประกาศิตทดแทน เราคงไม่รอด!”
ไม่เพียงผู้อาวุโสใหญ่ที่หวาดกลัว ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็เช่นกัน พวกมันจ้องมองหนิงฝานผ่านม่านหมอกด้วยความหวาดกลัว... ฉู่หานผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยดูแคลนหนิงฝานไว้ก็ตกตะลึง แววตาของนางปรากฏความรู้สึกซับซ้อน
ครั้งแรกที่นางพบหนิงฝาน นางคิดว่าหนิงฝานเป็นเพียงนักปรุงโอสถผันแปรที่ 2 จึงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
ครั้งที่สอง เป็นครั้งที่หนิงฝานใช้กระบี่แยกสวรรค์ตัดผ่าข่ายอาคม และช่วงชิงสิ่งที่อยู่ในคลังสมบัติไป ครั้งนั้น นางเริ่มรู้แล้วว่าหนิงฝานเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นผ่านไปไม่กี่วัน หนิงฝานก็ย้อนกลับมาด้วยความแข็งแกร่งที่ทำให้นางหวาดกลัว
นางหน้าถอดสี เมื่อครู่นางเกือบเอาชีวิตไม่รอด หากไม่ได้ประกาศิตทดแทน นางคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือของหนิงฝาน
นางควรจะทำอย่างไร...
“ห้ามออกจากข่ายอาคมเด็ดขาด หากซ่อนตัวอยู่ในนี้ วิชาของเด็กนั่นย่อมจู่โจมเราไม่ได้ เราจะร่วมมือกับใช้อำนาจของข่ายอาคมสังหารมัน!”
กำลังใจของภูติผีเพิ่มมากขึ้น พวกมันกิ่งไม้ในมือเพื่อควบคุมมังกรที่เกิดจากข่ายอาคม
หากย้อนเวลาได้ พวกมันจะไม่ยั่วยุหนิงฝานอีกครั้ง แต่พวกมันไม่มีช่องว่างให้เสียใจ มีแต่ต้องหาทางออกเท่านั้น!
มังกรทั้ง 9 เริ่มเรียกสายลม อัญเชิญสายฝน ชักนำสายฟ้าที่ทรงพลังฟาดฝ่าเข้าใส่หนิงฝาน
“หากข้าไม่ออกจากข่ายอาคม มันจะทำอะไรข้าได้... 8 ข่ายอาคมระดับแก่นทองคำ... 1 ข่ายระดับดวงจิตแรกเริ่ม ผสานเข้าด้วยกัน โดยมีข้าเป็นเสาหลัก”
แววตาของผู้อาวุโสใหญ่เผยถึงความภาคภูมิ เพราะด้วยข่ายอาคมที่ทรงพลัง ทั้งยังมีผู้ที่หนุนเสริมที่ทรงพลัง... เพียงนั่นทำให้มันปลอดภัยเพียงชั่วครู่ เพราะชั่วอึดใจต่อมา ข่ายอาคมของมันก็ถูกหนิงฝานทำลาย
แสงสีเงินวาบผ่าน ฟาดทำลายหมอกหนา ราวกับสายฟ้าที่ฟาดผ่าหมู่เมฆ ทำลายทุกสิ่งไม่เหลือซาก
“ทำลาย!”
หนิงฝานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เงากระบี่แยกสวรรค์เคลื่อนผ่าน ทะลวงร่างมังกรทั้ง 9 ตัวอย่างต่อเนื่อง
แต่ด้วยมังกรเหล่านั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากสัมผัสเทพ พวกมันไร้ตัวตนแต่เดิม ปราณกระบี่จึงไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับพวกมัน แม้แต่เพลงกระบี่ ‘กระดูกขาวดุจขุนเขา’ ก็ยังไม่สามารถทำอันตรายได้
“ปราณกระบี่ระดับแก่นทองคำ... เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆ... แต่มังกรของข้าไม่มีวันถูกทำลาย”
ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มอย่างมีความสุข แต่ชั่วลมหายใจถัดมา รอยยิ้มของมันกลับแข็งค้าง
มันเริ่มสังเหตุเห็นว่ามังกรทั้ง 9 ตัวได้ถูกเพลิงแผดเผา มังกรเหล่านั้นเปล่งแสงร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเริ่มสูญสลายไป
“เป็นไปได้ยังไง! ไม่มีวิชาใดที่สังหารมังกรไร้ร่างได้!” มือของมันเริ่มเย็นเฉียบและสั่นเทา
มังกรของมันถูกหนิงฝานทำลาย ต่อให้หนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นในพริบตา มันก็ยังไม่ตกตะลึงขนาดนี้
“หรือว่า...กระบี่ของมันจะแฝงวิชาวิญญาณ ‘เผาวิญญาณ’! แย่แล้ว! หากวิชาวิญญาณของมันเป็นวิชาระดับไร้แบ่งแยก ข่ายอาคมของข้าคงไม่อาจต้านทานได้!”
ชายชราเริ่มหวาดกลัว ข่ายอาคมของมันสร้างขึ้นจากพลังวิญญาณบริสุทธิ์ และสิ่งที่พลังวิญญาณหวาดกลัวที่สุดก็คือวิชา ‘เผาวิญญาณ’
ชายชราก้มมองเบื้องล่าง กระบี่แยกสวรรค์ของหนิงฝานกวัดแกว่งเคลื่อนไหว ปราณปีศาจปะทุ พร้อมกับใต้เท้าของมันปรากฏกระดูกสีขาวทิ่มแทงขึ้นมาจากพื้นดิน
กระบี่แยกสวรรค์ของหนิงฝานเปล่งแสงสีแดงราวกับโลหิต พุ่งทะลวงข่ายอมคมทั้ง 9 ชั้นขาดสะบั้น เสียงของภูตผีร้องโหยหวนดังมา
‘เผาวิญญาณ’ สำแดงอานุภาพ เข้าทำลายข่ายอมคมทั้ง 9 ชั้นที่ทะลวงผ่านก่อนที่มันจะผสานตัว... เพียงชั่วอึดใจ ข่ายอาคมทั้งหมดก็สูญสิ้น
“ข่ายอาคมถูกทำลายแล้ว... เผ่าครามของข้าถูกทำลายแล้ว!”
แววตาของชายชราแปรเปลี่ยน หนิงฝานคุ้นเคยกับแววตาเช่นนี้ดี เพรามันเป็นแววตาของสัตว์ป่า ยามที่มันหวาดกลัวและจะทำทุกกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด
“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสใหญ่สั่งการภูตผีในเผ่าครามทั้งหมด ภูติผีจำนวนมากพุ่งทะยานเข้าหาหนิงฝาน
แม้หนิงฝานจะมีสัมผัสกระบี่ แต่เขาไม่สามารถสังหารภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำพร้อมๆกันถึงพันตัวได้...
หนิงฝานก้มมองมุกภาวนากว่า 100 เม็ดในกระเป๋าที่ยังไม่ได้ถูกดูดซับพลังงาน ภายในนั้นจึงยังอัดแน่นด้วยพลังวิญญาณมหาศาล ซึ่งพร้อมจะผสานเป็นหนึ่งเดียวกับทะเลกระบี่
ทันใดนั้น สัมผัสเทพของหนิงฝานบรรลุจากขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงไปยังครึ่งก้าวดวงจิตแรกเริ่มในฉับพลัน!
มุมปากของหนิงฝานปรากฏโลหิต ทะเลสติของเขาได้รับความเสียหายร้ายแรงที่ต้องรองรับพลังวิญญาณจำนวนมหาศาลจากมุกภาวนาในฉับพลัน
“ทำลาย!”
สัมผัสเทพที่ทรงพลังกวาดผ่าน ผู้เชี่ยวชาญของเผ่าครามจำนวนมาก ร่างกายระเบิดเป็นหมอกโลหิตในฉับพลัน และมีหลายตนที่บาดเจ็บสาหัส
ทะเลสติของฉู่หานและผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงอีก 7 ตน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก พวกมันกระอักโลหิตอย่างต่อเนื่อง ได้แต่ทะยานหลบหนีอย่างรวดเร็ว กระทั่งไปไกลจากหนิงฝานเป็นพันลี้... ส่วนผู้อาวุโสใหญ่ มันเป็นศูนย์กลางการจู่โจมของสัมผัสกระบี่ ร่างของมันจึงถูกสัมผัสกระบี่กรีดเฉือนนับไม่ถ้วน กระทั่งถูกแผดเผามอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
เมื่อเหล่าผู้อาวุโสถูกสังหารและหลบหนี จึงเหลือแต่เพียงผู้เยาว์ในเผ่า และพวกมันก็ถูกสังหารตายอย่างน่าอนาถ
เผ่าครามได้สูญสิ้นแล้ว!
“นับจากวันนี้ไป ป่าภูติพรายแห่งนี้จะไม่มีเผ่าครามอีก!”
เสียงของหนิงฝานดังไปรอบทิศ สะท้อนก้องไปทั่วฟ้า เข้าหูของผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่เข้ามาสังเกตุการณ์อยู่ห่างๆ
แม้หนิงฝานจะดูอ่อนแอ แต่เขากลับแข็งแกร่ง และยามนี้เป็นโอกาสดีให้ลอบโจมตีหนิงฝาน เพราะเขาเหน็ดเหนื่อยไปกับการสังหารผู้เชี่ยวชาญของเผ่าคราม แต่เมื่อเห็นหนิงฝานโบกมือ มุกภาวนาที่อยู่บนพื้นกว่าหลายร้อยเม็ด ลอยเข้ามายังกระเป๋าเก็บของ ทำให้ภูตผีที่ดูอยู่รอบนอกหวาดกลัวและไม่กล้าเคลื่อนไหว
มุกภาวนาจำนวนมากเหล่านี้ หากหนิงฝานฝืนดูดซับพวกมันในฉับพลันเหมือนเมื่อครู่อีก ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าเขาจะรอดหรือไม่
“เด็กนั่นช่างไร้หัวใจ ใจกล้า และบ้าบิ่น... เราไม่ควรยั่วยุมัน...”
ผู้เชี่ยวชาญที่จัดอยู่ในกลุ่มแนวหน้าของส่วนที่ 3 ของป่าต่างล่าถอย พวกมันไม่อยากยั่วยุหนิงฝาน
จักรพรรดิไป๋กู่ที่ต้องการสังหารหนิงฝาน ก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจเช่นกัน
สำหรับจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่แล้ว หนิงฝานถือเป็นตัวอันตรายที่สุด!
...
ภายในนิกายกุ่ยเชว่ เป็นครั้งแรกที่โต๊ะแสดงแต้มเกิดปัญหา
เพราะแต้มนิกายของหนิงฝานบรรลุถึง 2.15 ล้าน ขึ้นเป็นอันดับที่ 5 ของนิกาย!
“เป็นไปไม่ได้... โต๊ะแสดงแต้มต้องมีปัญหาแน่!”
ไป๋เฟยเถิงทุบโต๊ะแสดงแต้ม มันหันมองกุ่ยเช่วสื่อด้วยสีหน้าตกตะลึง ราวกับหวังให้กุ่ยเชว่สื่อลดแต้มของหนิงฝาน
มันไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของหนิงฝาน ที่จะสามารถสังหารภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำจำนวนมากได้ในพริบตา...