บทที่ 44 เอาไงดี 2 (2) [อ่านฟรี]
บทที่ 44 เอาไงดี 2 (2)
เหล่าชาวเมืองต่างมองดูด้วยความงงงวยด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่าเมื่อมองเห็นวัตถุทั้งสี่ชิ้นลอยไปเหมือนดาวที่กำลังเคลื่อนตัวในท้องฟ้าไปยังทิศที่มีภูเขาตั้งอยู่มันเป็นภูมิประเทศที่อันตรายและเป็นสถานที่ที่ไม่ให้ผู้คนเดินทางผ่านได้ง่าย
“เสถียรภาพแห่งพลังเวทย์’ ถูกใช้งานได้อย่างสมบูรณ์!”
9.10 น.และอีก 5 วินาที นักเวทย์ก็ตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังและลูกบอลพลังเวทย์สีแดงของเรดิก้าก็เริ่มลอยขึ้นเพื่อไล่ตามวัตถุที่ลอยไปยังภูเขา เมื่อลูกบอลพลังเวทย์สีแดงสัมผัสเข้ากับสิ่งของทั้งสี่อย่างเข้า
บูมมมมมมมมมม!!!!!!!
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นบนท้องฟ้ามันมีแสงที่จ้ามากจนคนตาบอดสามารถมองเห็นมันได้ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานควันดำขนาดใหญ่ก็ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า แม้ว่าภูเขาจะอยู่ไกลถึงทางตอนใต้ของจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้แต่ลมกระโชกขนาดใหญ่ก็หอบควันดำพุ่งเข้าหาผู้คนในจัตุรัสกลางเมืองทันที
ทั่วทั้งบริเวณจัตุรัสกลางเมืองเงียบสงัดไปชั่วขณะ สีหน้าของเหล่านักเวทย์ต่างซีดเผือดลงเป็นเพราะพวกเขาตระหนักได้ถึงตัวตนและจุดประสงค์ของลูกบอลพลังเวทย์สีแดงที่เริ่มลอยขึ้นและไหลไปตามคลื่น ‘เสถียรภาพแห่งพลังเวทย์’นั่น
“....พวกมันคือระเบิดพลังเวทย์”
เทย์เลอร์ สแตนพึมพำออกมาด้วยความตกใจ แม้แต่เหล่าขุนนางที่มีความรู้เรื่องพลังเวทย์น้อยที่สุดก็ยังรู้ว่ามีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถมีพลังการทำลายล้างเช่นนี้ได้
ระเบิดพลังเวทย์
แม้แต่พระราชาและเหล่าเชื้อพระวงศ์บางพระองค์ที่กำลังเคลื่อนย้ายไปยังจุดที่ปลอดภัยยังต้องหยุดชะงักไปในทันที มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หากลองตรองดูว่าสิ่งของพวกนั้นก่อนที่จะถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้ามันมาอยู่ท่ามกลางฝูงชนเหล่านี้ได้อย่างไร?
คาร์ลจัดทรงผมของตนให้เป็นระเบียบจากลมที่พัดกระโชกแรง
‘ฉันเดาว่ามีระเบิดพลังเวทย์เพียงสี่ลูกเท่านั้น’
ไม่มีใครตายจากเหตุการณ์นี้
~พวกเราช่วยชีวิตพวกเขาทั้งหมดไว้ได้~
คาร์ลได้ยินเสียงของมังกรดำดังขึ้นในหัวของเขา คาร์ลยังคงฟังมังกรดำพูดขึ้นอย่างเงียบๆ จัตุรัสกลางเมืองที่เคยวุ่นวายก่อนหน้านี้พลันเงียบสงบลงเป็นอย่างมาก ไม่สิ...ดูเหมือนว่ามันกำลังอยู่ในสภาวะจิตตกกันต่างหาก
เหล่าผู้คนกำลังนึกถึงภาพน่ากลัวที่เกิดขึ้นในจัตุรัสกลางเมืองนี้ พวกเขาอาจมีทั้งอารมณ์ที่ผ่อนคลายลงและความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้
~ข้าช่วยพวกเขาไว้~
มังกรดำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก นี่เป็นครั้งแรกที่มังกรดำตัวน้อยผู้ปรารถนาจะจบชีวิตของมันลงด้วยความสิ้นหวังได้ช่วยชีวิตบางอย่างไว้ด้วยความแข็งแกร่งของตัวมัน
คาร์ลกำลังนึกถึงความรู้สึกที่น่าจะเกิดขึ้นของมังกรดำก่อนจะมองไปยังสถานที่ที่ระเบิดพลังเวทย์ถูกยิงขึ้นไปในอากาศ เหล่าทหารองครักษ์และนักเวทย์บางส่วนต่างมุ่งหน้าไปยังที่แห่งนั้น
อย่างไรก็ตามพรรคพวกของคาร์ลได้หลบออกไปจากฉากนี้นานแล้ว จากนั้นพวกเขาก็ใช้เครื่องเวทย์ล่องหนที่คาร์ลยืมมาจากบิลอสเพื่อซ่อนตัวในมุมที่ไกลที่สุดของจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้
‘เชวฮันจะไล่ล่านักเวทย์เล่นเลือดผู้นี้และลงมือฆ่าเขาในที่สุด’
คาร์ลมองไปที่ด้านบนสุดของหอระฆัง อีริคและคนอื่นๆหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดไปตั้งนานแล้ว พวกเขาสามารถเข้าใจในสิ่งที่เหล่านักเวทย์บอกว่าระเบิดพลังเวทย์ควรจะระเบิดขึ้นในจัตุรัสแห่งนี้แต่กลับไประเบิดในภูเขาที่ห่างออกไปทางทิศใต้
พวกเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้นจริงๆหรอกใช่มั้ย?
เรดิก้ายังคงยืนอยู่บนสุดของหอระฆังพลางคิดในใจของตน
‘อ่า....น่าเสียดายที่ไม่มีใครตาย....ทำไมระเบิดพวกนั้นต้องไปที่นั่นด้วยเล่า?......’
เรดิก้าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นดั่งเสียงของโลหะที่กระทบกันดังเป็นจังหวะช้าๆ
“อ่า.....สิ่งนี้เรียกว่าความล้มเหลวได้หรือเปล่านะ?......”
พระราชาเซดตะโกนใส่หน้าเรดิก้าทันทีที่เขาพูดจบ
“เจ้ากำลังทำอะไร?..เจ้าเป็นใครกัน?....เจ้าคิดว่าเจ้าจะยังอยู่สุขสบายได้เช่นนั้นรึ?หลังจากที่พยายามก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น!”
ปฏิกิริยาของพระราชาเซดเปลี่ยนไปหลังจากที่พระองค์ตระหนักได้ว่าไม่ใช่การลอบปลงพระชนม์โดยการโจมตีแบบธรรมดาเท่านั้น แต่มันเป็นการที่พวกมันพยายามจะจุดชนวนระเบิดพลังเวทย์ที่อยู่ติดกับเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนาง นี่คงไม่ต่างกับการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการกับอาณาจักรแห่งนี้หรอกหรือ?
แต่คาร์ลกลับรู้สึกสะดุดใจในบางอย่างที่ต่างออกไปเกี่ยวกับสิ่งที่เรดิก้าได้เอ่ยออกมา
‘......สิ่งนี้เรียกว่าความล้มเหลวหรือเปล่านะ?’
สีหน้าของคาร์ลเริ่มแข็งค้างด้วยความเป็นกังวลใจว่าอาจมีสิ่งอื่นซ่อนอยู่ก็เป็นได้? ท่าทางที่เปลี่ยนไปของคาร์ลทำให้เทย์เลอร์ซึ่งขยับเข้ามาใกล้คาร์ลเพื่อแจ้งในสิ่งที่เขาคิดว่าทุกอย่างเรียบร้อยเป็นปกติดีแล้วพลันชะงักค้างไปทันทีเช่นกันก่อนที่เทย์เลอร์จะหันไปมองด้านบนสุดของหอระฆังเหมือนที่คาร์ลมองอยู่ทันที
“ดี.....ถ้าเช่นนั้น!!!”
เสียงกรีดร้องของเสียงโลหะเพิ่มความดังขึ้นปกคลุมไปทั่วทั้งจัตุรัสกลางเมืองเมื่อเรดิก้าตะโกนใส่พระพักตร์ของพระราชาและเหล่าทหารองครักษ์โดยไม่ได้สนใจว่าในตอนนี้เหล่านักเวทย์ได้ใช้เวทย์ลอยตัวมุ่งหน้าไปหาตนอยู่
เป๊าะ!
เรดิก้าดีดนิ้วของตัวเองขึ้นหนึ่งครั้งก่อนที่จะมีคนสองคนปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา
พวกเขาทั้งสองสวมชุดสีดำโดยไม่มีสัญลักษณ์ของดาวสีแดงและดาวสีขาวประดับอยู่บนหน้าอกและสะพายกระเป๋าเป้ไว้ทางด้านหลัง
คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
‘หรือว่า...พวกนั้นจะเป็นระเบิดที่เหลืออยู่?’
คนทั้งสองน่าจะเป็นนักฆ่าขององค์กรลับนี้และพวกเขาคงเป็นหน่วยพลีชีพสำหรับภารกิจนี้เช่นกัน ในตอนนี้คาร์ลเข้าใจถึงตำแหน่งของระเบิดพลังเวทย์ที่เหลืออยู่สองลูกแล้ว
ผู้พลีชีพทั้งสองนำของสามอย่างออกมาและเริ่มใช้งานมันทันที
มันอาศัยการทำงานของโล่,ตัวนำความร้อนและเชื้อเพลิง
“ไป!!!!”
เรดิก้าตะโกนสั่งผู้พลีชีพทั้งสองที่กำลังมีเพลิงไหม้ลุกท่วมร่างของพวกเขาอยู่ในตอนนี้ ทั้งสองรีบวิ่งไปยังเหล่าผู้คนที่อยู่ทางด้านล่างของหอระฆังก่อนที่เรดิก้าจะยิงลูกบอลพลังเวทย์สีแดงไปยังคนทั้งสองทันที
“ห....หยุดพวกมันไว้!”
ระเบิดพลังเวทย์ถูกการันตีว่าพวกมันจะไม่หยุดการทำงานหากไม่ได้ถอนการติดตั้งอย่างสมบูรณ์
และน่าเสียดายที่เรดิก้าอยู่ใกล้กับผู้พลีชีพทั้งสองมากกว่าคนอื่นทำให้ลูกบอลพลังเวทย์สีแดงของเขาได้เคลื่อนตัวมาถึงกระเป๋าสะพายหลังของคนทั้งคู่เป็นที่เรียบร้อย
ระเบิดพลังเวทย์จะเริ่มการทำงานในไม่ช้านี้แล้ว
ผู้พลีชีพทั้งสองได้ใช้เวทย์เร่งความเร็วและมุ่งหน้าไปหาผู้คนด้วยความเร็วสูงราวกับว่าพวกเขาคือเครื่องบินทิ้งระเบิด
หนึ่งในสองมุ่งหน้าไปยังเหล่าเชื้อพระวงศ์ ในขณะที่อีกคนหนึ่ง
‘เขากำลังมาทางนี้....’
เขามุ่งหน้ามาหาเหล่าขุนนาง
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นใช้เวลาน้อยกว่า 10 วินาที
~ข้ามาแล้ว!!!!~
คาร์ลยกมือของตนขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของมังกรดำดังเข้ามาในหัว
“อ๊ากกก.....!!!!!!”
“ว....วิ่งหนีไป!!!!!”
“หลบ!!!!”
มันสายเกินไปที่จะหลบหรือวิ่งหนีออกไปจากพื้นที่ที่ถูกวางระเบิดเพียงแค่อาศัยการวิ่งไปในเวลา 2-3วินาทีเช่นนี้
“ค....คาร์ล..ไปเถอะ!”
“นายน้อยคาร์ล...เร็วเข้า!”
อีริค เทย์เลอร์ กิลเบิร์ตและอามูร์ ไม่ได้วิ่งหนีไปทันทีเหมือนกับคนอื่นๆ พวกเขาต่างพยายามที่จะช่วยเหลือคาร์ลให้วิ่งหนีไปพร้อมกับพวกเขาด้วย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็สายเกินไป
คาร์ลรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก หากเขาเริ่มออกวิ่งและมีการระเบิดเกิดขึ้นเขาอาจจะสูญเสียแขนของเขาไปแต่ถึงอย่างนั้น ‘โล่นิรันดร์กาล’จะช่วยฟื้นฟูแขนของเขาให้กลับมาเป็นปกติได้
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดที่พยายามปกป้องตัวเขาจะต้องสูญเสียอวัยวะบางอย่างไปแม้ว่าพวกเขาจะวิ่งเร็วเพียงใดก็ตามและพวกเขาจะไม่สามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บเหล่านี้ไปได้เลย
แทนที่จะปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น
“.......เฮ้อ”
คาร์ลสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกขึ้นและหงายฝ่ามือของตนขึ้นไปในอากาศ
‘ถึงเวลาเปลี่ยนแผนแล้ว’
ช่วงเวลานั้นโรสลินซึ่งปรากฏตัวขึ้นโดยใช้เวทย์ล่องหนของมังกรดำได้สร้างเกราะป้องกันสองชั้นโอบรอบตัวเธอและคาร์ลไว้
ในเวลาเดียวกัน
“ระเบิด!!!!!!!”
เรดิก้าตะโกนก้องออกมาด้วยความดีใจ
“หืม..?”
โรสลินชะงักค้างไปโดยทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเธอในตอนนี้
ผู้พลีชีพพร้อมระเบิดพลังเวทย์ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขาราวกับเครื่องบินทิ้งระเบิดได้ถูกโอบล้อมด้วยปีกขนาดใหญ่ ในขณะที่โล่สีเงินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับว่ามันกำลังปกป้องผู้คนในจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้และปีกของโล่ก็คอยโอบรอบเครื่องบินทิ้งระเบิดไว้มันดูคล้ายกับว่าโล่และปีกได้กลืนกินเครื่องบินทิ้งระเบิดนี้ไว้อย่างช้าๆ
และโล่ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่สามารถมองเห็นมันได้ถนัดนักเพราะแสงสีเงินที่ล้อมรอบโล่เงินนี้ไว้
~ข้าจะป้องกันมันเช่นกัน~
มังกรดำประกาศก้องในหัวของคาร์ล
บุคคลที่ดูศักดิ์สิทธิ์ราวกับเทพเจ้ามีโล่สีเงินโอบรอบลำตัว เขายืนอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่โดยมีแสงสีเงินเชื่อมต่อเส้นผมสีแดงสวยกับโล่บนท้องฟ้านั่น คาร์ลเริ่มสบถออกมาเมื่อเส้นผมของเขาพลิ้วไหวอย่างรุนแรงจากลมกระโชก
“......ให้ตายสิ!!!!!”
จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นโดยทันที