บทที่ 43 เอาไงดี 1 (2) [อ่านฟรี]
บทที่ 43 เอาไงดี 1 (2)
ทหารองครักษ์ได้ปิดทางเข้าทั้งหมดเพื่ออนุญาตให้เฉพาะขุนนางใช้ทางเข้าทางนี้ทางเดียวในการเข้าไปด้านใน ก่อนที่คาร์ลจะหักนิ้วมือของตนขึ้นทันที
กร๊อบ!
มันเป็นท่าทางปกติที่ใครๆก็สามารถทำได้จึงไม่มีใครสงสัยในสิ่งที่เขาทำ
ล็อกได้หายไปจากจุดนั้นทันทีที่คาร์ลทำเช่นนั้น มันถึงเวลาที่จะต้องหาระเบิดพลังเวทย์ที่ซุกซ่อนอยู่ในฝูงชนเหล่านี้และแน่นอนว่ามันไม่มีความจำเป็นใดๆเลย
‘คำตอบจะปรากฏตัวขึ้นเวลาเก้าโมง....’
อย่างไรก็ตามมันง่ายกว่าหากพวกเขารู้คำตอบล่วงหน้าอีกทั้งคาร์ลไม่ต้องการขยับตัวย้ายไปที่อื่นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมองหาสิ่งที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ล่วงหน้าก่อน
“พวกท่านทั้งหมดสามารถนั่งลงบริเวณนี้ได้ขอรับ”
ที่นั่งถูกจัดเรียงตามรายชื่อของเหล่าขุนนางที่ระบุติดอยู่กับที่นั่ง พระราชาและเหล่าเชื้อพระวงศ์ไม่ได้อยู่ในจัตุรัสกลางเมืองในตอนนี้แม้แต่องค์ชายรัชทายาทที่เสด็จมาถึงพร้อมๆกับเหล่าขุนนางก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เช่นกัน
คาร์ลเดินมาถึงที่นั่งของตนและเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
“นายน้อยคาร์ล....ดูเหมือนว่าเราจะได้เจอกันบ่อยๆ”
“คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ...นายน้อยเทย์เลอร์”
มันเป็นลักษณะเดียวกับตำแหน่งที่นั่งในงานชุมนุมของเหล่าขุนนางในครั้งนั้น คาร์ลได้ที่นั่งใกล้กับเทย์เลอร์และดูเหมือนว่าคนอื่นๆก็ได้ที่นั่งแบบเดียวกันกับงานนั้นเช่นกัน คาร์ลหันกลับไปมองที่หอระฆังอีกครั้ง
เขายังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิยายได้ดี
สถานที่ที่เชวฮันพยายามมองหาระเบิดพลังเวทย์ในนิยายนั้นไม่ใช่สถานที่เดียวกันกับในตอนนี้แล้ว มันมีเรื่องราวที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายในตอนนี้ ถึงจะเป็นเช่นนั้นอย่างน้อยก็ไม่ควรมีใครต้องมาตายด้วยเศษซากของอาคารเหล่านี้ซึ่งมันก็จะต่างจากเนื้อหาในนิยายเช่นกัน
‘เครื่องมือรบกวนพลังเวทย์’ถูกฝังอยู่ใต้หอระฆังนั่น
เวลาในตอนนี้คือ 8.45 น. คาร์ลหันไปทางด้านซ้ายของตนเองเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากอีริค
“คาร์ล...จงนิ่งเข้าไว้....เข้าใจหรือไม่?”
“ท่านพี่อีริค....”
อีริคเริ่มรู้สึกกังวลหลังจากได้ยินเสียงคาร์ลเอ่ยเรียกตน คาร์ลที่เคยสนุกกับการสวมใส่เสื้อผ้าหลากสีสันและขี้อวดมาตลอดสองปีที่ผ่านมาจู่ๆก็หันกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าสีเข้มและดูสุภาพเรียบร้อยอีกทั้งท่าทางของเขาก็ดูแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
“ข้าจะอยู่ให้เฉยมากที่สุดและวางแผนที่จะไม่ทำสิ่งใดๆในวันนี้เลย”
อีริครู้สึกหลงใหลในน้ำเสียงของคาร์ลและพยักหน้าตอบรับให้แก่คาร์ลโดยที่อีริคไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ คาร์ลดูเหมือนจะพอใจปฏิกิริยาเช่นนี้ของอีริคก่อนที่จะหัวเราะเบาๆภายในลำคอของตนและเหลือบมองดูนาฬิกาอีกครั้ง
8.45 น. คาร์ลได้ยินเสียงของมังกรดำดังเข้ามาในหัวของเขา มังกรดำเฝ้ามองเขาอย่างที่คิดไว้จริงๆ
~ เหลือเวลาอีก 15 นาที ~
มังกรดำมีความสามารถทุกอย่างจริงๆไม่มีสิ่งใดที่พลังเวทย์ของมันจะไม่ประสบผลสำเร็จได้ คาร์ลนึกชมมังกรดำภายในใจของตนเมื่อเขาลุกขึ้นจากที่นั่ง
“ราชวงศ์คอสแมนผู้เป็นดั่งดวงดาราของเหล่าชาวประชา....เสด็จมาถึงแล้ว!”
ในตอนนี้มีเพียงทางเข้าเพียงจุดเดียวที่เปิดอยู่ องค์ชายรัชทายาทเสด็จนำเข้ามาโดยมีองค์ชายรองและองค์ชายสามขนาบข้างเขาพร้อมทั้งเหล่าองค์ชายและเหล่าองค์หญิงคนอื่นๆก็เสด็จมาตามหลังของพวกเขาเช่นกัน
กลุ่มคนที่มีเส้นผมสีบลอนด์สวยงามทรงเดินเข้ามาด้านในจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ นี่คือเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่ได้รับพรจากพระเจ้าแห่งแสงตะวันและนับเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนแห่งอาณาจักรโรมันเป็นอย่างยิ่ง
“ทรงพระเจริญ.....ทรงพระเจริญ”
“เฮ!!!!!!!!!!!!!....”
เสียงจากเหล่าชาวเมืองดังปกคลุมไปทั่วจัตุรัสกลางเมืองนี้มันดังกึกก้องไปทั่วพื้นที่จนรู้สึกได้ว่าแผ่นดินกำลังสั่นสะเทือนและคาร์ลยังคงจำคำพูดของมังกรดำได้ดี
‘ผมและดวงตาขององค์ชายรัชทายาทเป็นสีน้ำตาล’
‘สีน้ำตาล’ เป็นที่รู้จักของสีผมและสีดวงตาที่มีมากที่สุดในโลกแห่งนี้ คาร์ลมองไปยังเหล่าเชื้อพระวงศ์และปรบมือเบาๆก่อนที่นาฬิกาจะเคลื่อนเข้าสู่เวลา 8.50 น.
“พระราชาเซด คอสแมน...พระองค์ผู้เป็นดั่งดวงอาทิตย์แห่งอาณาจักรโรมันเสด็จมาถึงแล้ว!”
“เฮ!!!!!!!!!!!!!....”
“เฮ!!!!!!!!!!!!!....”
“ทรงพระเจริญ!.....ทรงพระเจริญ!”
พระราชาผู้มีพระชนมายุครบ 50 พรรษาและยังคงมีพระวรกายที่แข็งแรงกำลังเสด็จเข้ามาด้านในของจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ คาร์ลกำลังเฝ้ามองขบวนเสด็จของพระราชาก่อนที่จะย้ายสายตาของเขาไปยังจุดอื่นในจัตุรัสกลางเมือง
เขาเห็นกระถางดอกไม้ที่อยู่ชั้นบนของอาคารจำหน่ายเซรามิกส์ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ เวลาในตอนนี้คือ 8.55 น.
‘พวกเขารื้อถอนมันหมดแล้วสินะ’
คาร์ลเริ่มยิ้มออกมา
โรสลิน มังกรดำ ออนและฮงจะแฝงตัวเข้ามาด้านในพร้อมกับเหล่าชาวเมืองที่มาร่วมงาน
พระราชาเซดลงจากขบวนรถม้าของพระองค์ก่อนจะทรงเดินไปยังที่ประทับของตนช้าๆ
‘เซด คอสแมน’ ขึ้นสู่ตำแหน่งพระราชาเมื่อครั้งพระชนมายุได้ 20 พรรษาหลังจากการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันของพระราชาองค์ก่อน พระองค์ได้ใช้โอกาสจากช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกนี้ลอบปลงพระชนม์เหล่าพี่น้องของตนจนหมดเพื่อทำให้สถานะทางอำนาจของพระองค์มีความมั่นคงมากขึ้น
“เฮ!!!!!!!!!!!!!....”
“ทรงพระเจริญ!.....ทรงพระเจริญ!”
เสียงของเหล่าชาวเมืองที่มีต่อพระราชายังคงดังกึกก้อง พระราชาเซดทรงเดินเข้ามายังด้านในจัตุรัสกลางเมืองและมุ่งหน้าไปยังที่ประทับที่อยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุด คาร์ลยังคงเฝ้ามองอย่างใจเย็นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
มีพระที่นั่งที่พิเศษที่สุดสำหรับพระราชาอยู่ด้านหน้าหอระฆัง
พระราชาและพระราชินีโบกพระหัตถ์ให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้าต้อนรับพระองค์ก่อนจะทรงเดินไปยังพระที่นั่งของตน พระราชินีทรงยืนประทับด้านหน้าของพระที่นั่งในขณะที่พระราชาเซดประทับอยู่ด้านหน้าเครื่องเวทย์ขยายเสียง
คาร์ลหันไปมองนาฬิกาอีกครั้ง เวลาในตอนนี้คือ 8.58 น.
พระราชาเซดยกพระหัตถ์ของตนขึ้นก่อนที่เสียงจากประชาชนจะสงบลงและเงียบสนิทไปในที่สุด เมื่อทรงเห็นว่าในจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เงียบลงแล้วพระราชาเซดจึงตรัสขึ้น
“เป็นเวลากว่าสามสิบปีแล้วที่พระราชาองค์นี้ได้รับพรจากดวงอาทิตย์ให้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้”
พระราชาเซดทรงเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่งแต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เป็นเวลา 9.00 น.
“หืม?”
คาร์ลได้ยินเสียงอุทานขึ้นด้วยความสับสนจากอีริค
“นั่นมันคืออะไร?”
คาร์ลได้ยินเสียงกังวลของเทย์เลอร์ดังขึ้นเช่นกัน คาร์ลรีบเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนสุดของหอระฆังทันที
“อะไร?”
“นั่นใคร?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เสียงพึมพำเริ่มดังขึ้นจากเหล่าชาวเมืองที่มาร่วมงานในวันนี้ พระราชาเซดทอดพระเนตรไปยังด้านหลังของพระองค์แล้วหยุดสายตาของพระองค์ไปยังหอระฆัง คาร์ลยังคงมองไปที่ด้านบนของหอระฆังและเริ่มยิ้มออกมา
พระราชาเซดทรงตะโกนขึ้นทันที
“เจ้าเป็นใคร?!!!!!”
เหล่าทหารองครักษ์และเหล่านักเวทย์รีบมุ่งหน้าไปยังหอระฆังทันที เหล่าชาวเมืองไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้นอกจากเริ่มวิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีคนปรากฏตัวขึ้นด้านบนสุดของหอระฆังและหลังจากนั้นไม่นานก็มีเหล่าคนชุดดำปรากฏตัวขึ้นบริเวณดาดฟ้าและชั้นบนสุดของอาคารที่อยู่ใกล้เคียงเช่นกัน
“ลงมาเดี๋ยวนี้!”
“พวกเรามุ่งหน้าไปยังดาดฟ้าและด้านบนของอาคารเดี๋ยวนี้เลย!”
คาร์ลได้ยินเสียงของเหล่าทหารองครักษ์ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงดังขึ้นก่อนที่เขาจะหันไปมองชายชุดดำและสวมหน้ากากปกปิดใบหน้าของตนอยู่ เขากำลังยืนอยู่ด้านบนสุดของหอระฆังในตอนนี้ เขาคือ ‘เรดิก้า’นักเวทย์เล่นเลือดผู้จิตวิปริตคนนั้นนั่นเอง
‘ฉันกังวลว่าเรื่องนี้จะต่างไปจากเนื้อหาในนิยายเช่นกัน’
ถ้าเรดิก้าไม่ปรากฏตัวขึ้นเขาอาจจะต้องให้มังกรดำใช้พลังเวทย์ของมันเพื่อมองหาคลื่นสัญญาณของพลังเวทย์ที่จะถูกส่งมายังระเบิดพลังเวทย์เพื่อค้นหาตัวเรดิก้าให้พบและยอมให้เชวฮันลงมือฆ่าเรดิก้าในที่สุด
คาร์ลรู้สึกโล่งใจที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นและนึกถึงคำอธิบายในนิยาย
มือทั้งสองข้างของเรดิก้าถูกปกคลุมด้วยพลังเวทย์สีแดง เจ้าโรคจิตคนนี้มีจุดเด่นตรงที่ผู้คนทั่วไปสามารถมองเห็นสีของพลังเวทย์ของเขาได้แม้ว่าเขาจะเป็นนักเวทย์ระดับสูงเพียงใดก็ตาม จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมือและประกาศก้องด้วยประโยคเดียวกับในนิยาย
< ‘น่าสนุกดี’>
“น่าสนุกดี”
เสียงเยือกเย็นที่ดังขึ้นราวกับเสียงโลหะที่ถูกกระทบเป็นจังหวะต่อเนื่องดังปกคลุมไปทั่วจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ จากนั้นไม่นานลูกบอลพลังเวทย์สีแดงก็ถูกปล่อยออกไปยังจุดต่างๆภายในจัตุรัสกลางเมืองและบริเวณใกล้เคียงโดยทันที
ตอนนี้เป็นเวลา 9.01 น.
ครืดดดดดดดดดดด!!!!!!!
การสั่นสะเทือนเริ่มส่งเสียงมาจากใต้หอระฆัง
ปี๊บบบบบบ!!!!!!
ปิ๊บปี๊บบบบบบบบ!!!!!!
อุปกรณ์พลังเวทย์เริ่มหยุดการทำงานของมันในหลายๆพื้นที่ เช่นเดียวกับลูกบอลพลังเวทย์สีแดงที่ถูกขว้างส่งไปยังเครื่องมือเวทย์ที่อยู่ในระเบิดพลังเวทย์นั้นก็เริ่มสูญเสียความแข็งแกร่งและเริ่มหมุนคว้างอย่างไร้จุดหมาย
มันเป็นผลมาจากการทำงานของเครื่องมือรบกวนพลังเวทย์
จากนั้นไม่นานมันก็เกิดขึ้นด้านในจัตุรัสกลางเมืองนี้เช่นกัน
ปี๊บบบบบบ!!!!!!
มีจุดสี่จุดที่ส่งเสียงดังขึ้นภายในจัตุรัส
“เจอแล้ว”
เสียงอุทานที่เอ่ยขึ้นอย่างเงียบๆของคาร์ลดังขึ้น เขากำลังจดจ่ออยู่กับเสียงเตือนที่ดังขึ้นจากอุปกรณ์พลังเวทย์ในตอนนี้
ชาวเมืองบางคนที่อยู่ในพื้นที่ของสัญญาณเตือนทั้งสี่จุดนั้นจะมีระเบิดพลังเวทย์อยู่กับตัว อย่างที่คาร์ลได้คาดเอาไว้ระเบิดพลังเวทย์จะส่งเสียงเตือนเมื่อมันเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
คาร์ลมองเห็นเชวฮัน โรสลินและล็อกมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งทั้งสี่นั้นอย่างรวดเร็ว
‘10 นาที’ แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรื้อถอนระเบิดภายใน10นาทีได้ แต่พวกเขาก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะเคลื่อนย้ายระเบิดไปยังภูเขาทางด้านหลังเพื่อทำให้มันระเบิดขึ้นโดยไม่ทำร้ายใคร มันจะเป็นไปได้เพราะความสามารถของโรสลินและมังกรดำ
~ พบระเบิดพลังเวทย์ในมนุษย์หนึ่งคนแล้ว ~
คาร์ลเริ่มยิ้มออกมาหลังจากได้ยินรายงานของมังกรดำที่ใช้เวทย์ล่องหนซ่อนตัวตนของมันอยู่
‘10 นาที’ เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น