ตอนที่ 9 สืบทอดตำแหน่งต่อจากบิดา
หยาวเว่ยกับกั๊วว่านไม่มีทางเลือกพวกเขาต้องทำตามเดิมพันที่ให้ไว้ เซียะปิงไม่สนใจที่จะดูเพราะตอนนี้สายมากแล้วเขาต้องการที่จะกลับบ้านไปกินข้าว
เมื่อไปถึงบ้าน เซียะปิงได้กลิ่นหอมๆ ลอยออกมา กลิ่นหอมเข้าจมูก เซลล์ในร่างกายของเขาทนไม่ไหวทำงานออกมาส่งผลให้เขาต้องกลืนน้ำลาย
"แม่วันนี้ทำอะไรกิน ทำไมกลิ่นมันหอมจังเลย? "
หญิงสาววัยกลางคนสวมผ้ากันเปื้อนที่อยู่ตรงหน้าเซียะปิงคือ ฮวงหลันชิง เธอกำลังยิ้มออกมานิดๆ "นี่คือเนื้อหมีเปลวเพลิงที่เพิ่งซื้อมาในวันนี้ วันนี้ลูกโชคดีที่มีโอกาสได้กินมัน"
"เนื้อหมีเปลวเพลิง? วันนี้พวกเรารวยเหรอ? ทำไมถึงซื้อมันมาได้? " เซียะปิงเบิกตากว้าง หมีเปลวเพลิงเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวมากในดาวเหยียนฮวง ยากที่จะจับมันได้ คนธรรมดาไม่อาจที่จะฆ่ามันได้
แต่เนื้อมีราคาแพงอย่างมาก เพราะภายในเนื้อของมันมีพลังชีวิตอย่างมากมาย มันสามารถเสริมสร้างลมปราณในร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มันมีค่าไม่น้อยกว่ายาทิพย์และโสมม่วงจากแผ่นดินใหญ่
แต่ราคามันแพงมาก มันมีราคาถึงหกร้อยเหรียญรัฐบาลกลางต่อหนึ่งจิน มันเป็นอาหารสุดหรู คนธรรมดาไม่อาจจะซื้อมันได้ นอกจากเทศกาลพิเศษบางครั้งถึงจะได้กิน
"แม้พวกเราไม่ได้รวยพอที่จะซื้อมัน แต่เราจะอยู่อย่างหรูหราบางไม่ได้หรือไง? มีเงินตายไปก็เอาเข้าไปในโลงศพไม่ได้? " พ่อของเซียะปิงเซียะชวงหลิวกระแอมออกมาในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ
เซียะปิงตอนนี้พูดไม่ออก เขาจำได้ว่าพ่อของเขาเซียะซวงหลินทำงานเป็นข้าราชการเสมือนในเมือง เขารับผิดชอบจัดการธุรกิจการซื้อขายเล็กๆ ในเมือง ในแต่ละเดือนเขาได้รับเงินเดือนละ ห้าหกพันเหรีญญรัฐบาลกลาง
แม่ของเขาก็เป็นแม่ค้าขายของหาบเร่เล็กๆ ที่ตั้งแผงลอยขายขนมในเมือง รายได้ต่อเดือนไม่มากนัก แค่สามพันเหรียญรัฐบาลกลาง ครอบครัวของเขามีรายได้ไม่เกินหมื่นเหรียญรัฐบาลกลางต่อเดือน
ปัญหาคือบ้านหลังนี้ยังคงต้องผ่อนนานสามสิบปี แต่ละเดือนต้องจ่ายเงินไปสามพันเหรียญรัฐบาลกลางต่อเดือนเพื่อเสียค่าเล่าเรียนของเซียะปิง และยังมีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย
ตอนนี้กินเนื้อหมีเปลวเพลิงในช่วงเวลาที่ไม่ได้มีการฉลองอะไร นี่จะไม่ใช่กัดฟันซื้อเหรอ?
"ดี ไม่ต้องพูดมาก มารีบกินกันเถอะ" ฮวงหลานชิงผู้เป็นแม่พูดออกมา เธอยกอาหารวางบนโต๊ะ ที่ใส่น้ำซุปห้าจาน กลิ่นหอมโชยจมูกน่าอร่อยอย่างมาก
เมื่อเห็นอาหารที่แสนอร่อยนี้ หัวใจของเซียะปิงกระโดดโลดเต้นขึ้น นี่เป็นงานเลี้ยงฉลองหงเหมินเหรอ? (กินแล้วฆ่า) พ่อที่ขี้เหนียวแม้แต่จะสูบบุหรี่ให้เหลือเพียงก้นบุหรี่ทำแบบนี้มันแปลกๆ ไป
"พ่อน่าจะซื่อสัตย์กับครอบครัวหน่อย เป็นหนี้คนอื่นแล้ว หลังจากกินอาหารเย็นแล้ว จะเก็บของเดินทาง บอกความจริงกับผมได้ ผมทนได้" เซียะปิงจ้องมองพ่อของเขาด้วยท่าทางที่สง่างาม
เขารู้สึกถอนหายใจในใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เขารู้ว่าพ่อของเขาชอบเล่นพนันเล็กๆ น้อยๆ เขาคิดว่าไม่นานไม่ช้าก็เร็วเรื่องแบบนี้จะเข้ามา
"ลูกคิดอะไรอยู่คิดพ่อติดหนี้พนัน วางแผนจะหนีไปหลังจากกินอาหารเย็นเสร็จเหรอ? "พ่อของเขาหลิวชวงหลิวโกรธมากจนจมูกแดง
เซียะปิงกระพริบตา "พ่อไม่ได้ติดหนี้พนันเหรอ? "
"ไม่ได้ทำ"
เซียะซวงหลิวท่าทางโกรธ "ฉันเป็นข้าราชการ อย่างน้อยฉันก็ฉลากกว่าคนทั่วไปที่ติดพนัน แน่นอนบางทีฉันก็เล่นพนันนิดๆ หน่อยๆ ให้อารมณ์เย็น รู้ไหมว่าตะกี้พูดอะไรออกมา? แค่พนันนิดๆ หน่อยๆ ไม่ใช่พนันเยอะแล้วเงินหายไปกับควัน"
"ดีอย่างนั้นกินอาหารเสร็จแล้วมีเรื่องอะไรจะพูดไหม? " เซียะปิงถามด้วยความสงสัยนิดๆ
เมื่อเห็นลูกชายตัวเองมีท่าทางสงสัย เซียะซวงหลิว ท่าทางของเขาอึดอัดนิด เขาทำท่าทางธรรมดาแล้วกระแอมออกมาเบาๆ " มันไม่ใช่สิ่งที่จะพูดในตอนนี้ หลังจากที่ออกจากโรงเรียน ลูกวางแผนจะทำอะไรในอนาคตละ? "
สายตาของเขามองไปที่เซียะปิงด้วยท่าทางที่สดใส
"ผมว่าผมจะเข้ามหาลัย" เซียะปิงตอบออกมาอย่างลวกๆ
ผู้เป็นแม่ฮวงหลานชิงร้องออกมาด้วยความตกใจ " ลูกวางแผนจะเข้ามหาวิทยาลัยใช่ไหม? "
"ลูกคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ? " ผู้เป็นพ่อเซียะซวงหลิวมองเซียะปิงด้วยสีหน้าที่ตกใจ
ปากของเซียะปิงยิ้มออกมา นี่เป็นเรื่องน่าอึดอัดใจ พ่อแม่ของเขาได้ยินว่าเขาจะเข้ามหาวิทยาลัยกลับดูไม่มีความสุข? ทั้งสองคนนี้มีท่าทางแบบเดียวกันเลย
"ใช่ผมคิดแบบนั้น" เซียะปิงตอบออกมาตรง
"เจ้าลูกชายความคิดแบบนี้มันไม่ถูกต้องเลย นี่มันเป็นสิ่งที่เลวร้าย"
ใบหน้าเซียะซวงหลิวโศกเศร้าเสียใจ "การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเรื่องที่ดี แต่หลังจากที่เรียนไปสี่ปี เงินที่จ่ายไม่ใช่แค่สามสี่พันเหรียญรัฐบาลกลางต่อเดือน หากโชคไม่ดีเกิดอันตรายขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เจอเจ้านายที่มีนิสัยไม่ดีอีก ในสี่ปีไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย
พ่อคิดว่าหลังจากที่ออกมาจากมัธยมปลายแล้ว ลูกจะเข้ามาทำงานเป็นข้าราชการ ไม่ใช่แผนกอื่นๆ แต่ที่แผนกบริหารเมืองที่เดียวกับพ่อ
อย่ามองพ่อด้วยท่าทางที่ต่ำต้อย พ่อทำงานมายี่สิบปีแล้ว พ่อมักจะไปเล่นไพ่นกกระจอกเพื่อตีสนิทหัวหน้า เลียแข็งเลียขาเพื่อพยายามยัดลูกเข้าไป
ในตอนนั้นพ่อเอาบุหรี่ให้หัวหน้าสองสามซอง เพื่อให้เขาเปิดประตูเอาลูกเข้าไปในแผนกบริหารเมือง เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกเข้าไปได้เสมอ ถึงตอนนั้นลูกกับพ่อจะเดินไปตามท้องถนนในเมืองด้วยความภูมิใจ เก็บภาษีพ่อค้าแม่ค้า แม่สื่อก็จะรุมล้อมประตูหน้าบ้านของพวกเรา"
พ่อของเขาแสดงให้เห็นถึงความภูมิใจแล้วมองมาที่ใบหน้าของเขาอย่างคาดหวัง
มุมปากของเซียะปิงคลี่ยิ้มออกมา เขาไม่อยากจะพูดแต่ก็ต้องพูด "พ่อผมอยากจะเข้ามหาวิทยาลัย"
"ลูก เป็นไม้เน่าที่ไม่อาจจะแกะสลักได้" (คนที่ไม่อาจจะสั่งสอนอะไรได้)
เซียะซวงหลิวดวงตาเบิกกว้าง ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความโกรธอย่างมาก
"ดี อย่าพูดอะไรออกมา รีบกินอาหาร ตอนนี้ยังเรียนมัธยมปลายค่อยๆ คิดอะไรช้าๆ " เมื่อเห็นบรรยากาศที่ไม่ดี ผู้เป็นแม่ฮวงหลินชิงก็รีบพูดออกมา
"ดี"
เมื่อได้ยินที่พูดเซียะซวงหลิวก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดต่อ
ภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากที่กินอาหารเย็นเสร็จ เซียะปิงก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน ส่วนเซียะซวงหลินกับฮวงหลานชิงก็ยังอยู่ในห้องนั่งเล่น
"ซวงหลินลูกชายของเราดูท่าจะไม่สนใจจะเดินไปตามถนนสายนี้เลย"ฮวงหลานชิงมองไปที่สามี
เซียะซวงหลินโบกมือด้วยท่าทางที่ไม่สนใจ "นี่เป็นวัยต่อต้าน แต่ยังไงหลังจากที่ผลทดสอบมหาลัยออกมา เขาจะรู้ว่าพ่อของเขาฉลาดและยิ่งใหญ่ขนาดไหน เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเขาจะต้องทำตาม"
ฮวงหลานชิงพยักหน้า เธอพยักหน้าเพราะผลทดสอบของเขา การเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่น่าจะได้แล้ว ดีไม่ดีเขาอาจจะสอบเข้าไม่ได้