ตอนที่ 2 สุดยอดระบบแห่งความเกลียดชัง
ด้านบนของอาคารเรียน
ตอนนี้เวลาสิบโมงเช้า นักเรียนกำลังอยู่ในห้อง ไม่เหลือใครมีเพียงเซียะปิงที่โดนไล่ออกมาจากคุณครูประจำชั้นชิวเยว่ ตอนนี้เขาอยากเรียนรู้ระบบสุดยอกความเกลียดชังทันที
"ระบบออกมาที" เซียะปิงเริ่มคิด "ไม่ใช่เมื่อกี้บอกได้ได้แต้มเกลียดชังไม่ใช่เหรอ? คะแนนแต้มความเกลียดชังที่ฉันได้รับมีอยู่เท่าไหร่?"
สักพักเขานึกเยาะเย้ยตัวเขาเองในชีวิตก่อนที่ถูกเยาะเย้ยว่าไม่มีพรสวรรค์ ผลที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ทำให้เขาสร้างศัตรูของผู้คน แล้วทำให้เพื่อนร่วมชั้นร้องไห้
หากการกระทำของเขาไม่ได้ผล อาจเป็นเพราะเขายังไม่ได้กลายเป็นที่เกลียดชังของใครๆ
"โฮสต์ตอนนี้ท่านได้รับแต้มความเกลียดชัง 120 แต้ม" น้ำเสียงเย็นชาของระบบดังออกมาผ่านเข้ามาในจิตใจของเขา "นี่เป็นครั้งแรกที่เปิดการใช้งานของระบบ ระบบมอบของขวัญใหญ่ให้กับโฮสต์เทคนิคการฝึกฝนลึกลับ (หยางบริสุทธิ์ไม่ดับสูญ)"
"เทคนิคการฝึกฝนลึกลับหยางบริสุทธิ์ไม่ดับสูญคืออะไร?"เซียะปิงกระพริบตาพูด
เสียงของระบบพูดออกมาอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ "ท่านจะยอมรับของขวัญชิ้นใหญ่จากระบบไหม?"
"ยอมรับ" เซียะปิงยอมรับไปอย่างไม่รู้ตัว
วิ้งๆๆ
ในตอนนี้มีข้อมูลมากมายเข้ามาอยู่ในจิตใจของเซียะปิง เขารู้สึกว่าวิญญาณของเขากำลังล่องลอยอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่า
ตอนนี้ดูเหมือนมีร่างสีขาวนั่งขัดสมาธิภายในร่างมีเส้นเอ็นทองคำแสดงให้เห็นว่าเทคนิคการเพาะบ่มลึกลับโคจรไปได้อย่างไร
"เป็นไปไม่ได้เทคนิคหยาวบริสุทธิ์ไม่ดับสูญเป็นเทคนิคผู้ฝึกตนระดับสูงไปได้ยังไง?!" เซียะปิงยากที่จะปกปิดสายตาที่แสดงความตกใจออกมา
แม้ว่าในดาวเหยียนฮวงจะเต็มไปด้วยผู้ฝึกตน แต่เทคนิคผู้ฝึกตนระดับสูงยังคงขาดแคลนอย่างมาก มันจะอยู่ในตระกูลระดับสูง หรือห้องสมุดของมหาวิทยาลัยชั้นนำ คนธรรมดาจึงฝึกฝนเทคนิคการฝึกฝนในระดับพื้นฐานเท่านั้น เป็นเรื่องยากมากที่จะดูดซับลมปราณวิญญาณของผืนฟ้าและปฐพี
ด้วยเหตุผลทางด้านความแตกต่างนี้จึงกลายเป็นช่องว่างขนาดใหญ่รากฐาน เทคนิคการฝึกฝนที่จะดูดซับลมปราณวิญญาณของผืนฟ้าและปฐพีที่มีระดับต่ำ ไม่อาจเทียบได้กับเทคนิคการฝึกตนระดับสูง รากฐานการฝึกฝนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเทคนิคการฝึกฝนอาจจะต่างกันเป็นร้อยหรือเป็นพันเท่า
แม้มีพรสวรรค์อย่างเดียว แต่เทคนิคผู้ฝึกตนต่างกัน เมื่อเวลาผ่านไปช่องว่างระดับกันก็แทบที่จะไม่ต่างกัน เทคนิคการฝึกตนระดับสูงจึงกลายเป็นสิ่งที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก
"มันเป็นเทคนิคการฝึกตนระดับสูงของจริงหรือของปลอมกัน?" เซียะปิงสงสัยนิดๆ เพราะการฝึกฝนเทคนิคหยางบริสุทธิ์ไม่ดับสูญเป็นเทคนิคที่ดูดซับพลังทั่วจักรวาล ดูดกลืนพลังดวงอาทิตย์ รวมเข้ากับร่างกายเพื่อเผาผลาญร่างกายไม่ให้ดับสูญ
แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว พลังดวงอาทิตย์เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ผู้เชี่ยวชาญบางคนเปลี่ยนมันเป็นบอลเพลิงเผาไหม้สิ่งต่างๆ ไม่ให้เหลือซาก
แม้แต่ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งยังไม่กล้าสัมผัสกับพลังของดวงอาทิตย์ แต่วิธีการฝึกฝนคือดูดซับพลังแสงแาทิตย์ เพื่อฝึกฝนร่างกายให้เป็นสิ่งที่น่ากลัว
หากมันเป็นจริงมันคือเทคนิคการฝึกฝนระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย
ดูเหมือนเซียะปิงไม่อยากจะเชื่อ หากเป็นแบบนี้เขาจะต้องแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว " นี่เป็นโอกาสของข้าแล้ว ข้าจะลองสักครั้งหากเกิดอันตรายขึ้นข้าจะหยุดฝึกฝนมันทันที"
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เขานั่งลงขัดสมาธิ เริ่มต้นเพาะบ่มตามเทคนิคลับ โคจรการฝึกฝนทันที
ปัง
เมื่อเริ่มฝึกฝนตามระบบ เซียะปิงรู้สึกเหมือนเคยได้ฝึกฝนเป็นหมื่นรอบ ท่าทางของเขาคุ้นเคยอย่างเป็นธรรมชาติ ตอนนี้จิตใจของเขาอยู่ในสภาพไร้ตัวตน
ตอนที่เขาฝึกฝนร่างกายของเขาก็เปลี่ยนกลายเป็นหลุมดำ แสงอาทิตย์ที่สาดแสงลงมาจากท้องฟ้า ก็เปลี่ยนกลายเป็นลูกไฟ เข้าดูดซับเข้ามาตามรูขุมขนเข้าไปในเส้นลมปราณของเขา
หากใครเห็นเซียะปิงตอนที่กำลังเพาะบ่มอยู่ แน่นอนพวกเขาต้องกลัวจนครึ่งหนึ่งตายไปแล้ว พื้นที่สิบเมตรที่มีเซียะปิงเป็นศูนย์กลางกลายเป็นหลุมดำดูดแสงแดดเข้าไปในร่างกายของพวกเขา
แม้กระทั่งลมยังหยุดนิ่งเปรียบเสมือนว่าเวลายังหยุดนิ่ง
เขาเพาะบ่มพลังอยู่นานสองชั่วโมง
ปัง
ร่างของเซียะปิงสั่น เขาอ้าปากออกมา พลังลมปราณไหลเวียนไปจนทั่วอากาศ เหมือนลูกศรที่แหลมคมจะฉีกไปจนทั่วอากาศ ปังเสียงระเบิดดังขึ้นมาจากกำแพงที่อยู่ตรงหน้าหลังคา
ตุบๆ กำแพงถูกต่อยเป็นรอยหมัด ภายใต้เสียงกระซิบของแสงแดด ภายใต้คำพูดของโลก นี่ก็เพียงพอที่จะชกร่างกายของคนธรรมดาได้ แน่นอนสิ่งนี้เรียกว่าลมปราณ
เขาลืมตาขึ้นปลดปล่อยแสงสีทองราวกับเปลวไฟออกมา มันคือเปลวเพลิงที่อยู่ในสายตาของเขา มันส่องแสงสว่างระยิบระยับอยู่นาน
"ผู้ฝึกฝนระดับนักรบสวรรค์ขั้นที่สี่ นี่เป็นเพียงการฝึกเพาะบ่มเทคนิคครั้งแรก มันช่วยให้เขาทะลวงเส้นลมปราณ กลายเป็นผู้ฝึกฝนระดับนักรบสวรรค์ขั้นที่สี่ มันคือเทคนิคการฝึกฝนระดับสูงจริงๆ " เซียะปิงพูดออกมา
เขาขยันเพาะบ่มมาตลอดสิบแปดปี แต่เขาก็อยู่ในขั้นผู้ฝึกฝนระดับสวรรค์ขั้นที่สาม แต่ด้วยเทคนิคหยางบริสุทธิ์ไม่ดับสูญภายในสองชั่วโมงเขาก็อยู่ในขั้นผู้ฝึกฝนระดับนักรบสวรรค์ขั้นที่สี่
ความสำเร็จนี้ดูเหมือนจะอยุ่ในระดับกลางของชั้นเรียน แค่นี้ก็สามารถบอกได้ว่าวิชาหยางบริสุทธิ์ไม่ดับสูญอยู่ในระดับไหน
"ดูเหมือนจะตัดผ่านระดับผู้ฝึกตนจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ" เซียะปิงลุกขึ้นยืนแล้วบิดตัว เขาชกออกมาโดยส่งผ่านความแข็งแกร่งขึ้นมาจากขาทั้งสองข้าง เขาจัดท่าทางหมัดของเขาแล้วชกออกไป
ปัง หมัดชกออกไปที่กำแพงหินมันชกง่ายเหมือนกับชกเต้าหู้ เพียงหมัดเดียวกำแพงก็ลึงลงไป เจ็ดแปดเซนติเมตร หินที่ขยี้จนแหลกลาญก็ร่วงลงมา
"ความแข็งแกร่งของร่างกายมีประสิทธิภาพมาก" เซียะปิงที่ชกออกไปก็คิดอยู่
ต้องรู้ไว้ก่อนว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใช้พลังลมปราณเลย เพียงแค่ความแข็งแกร่งของเขาก็ชกกำแพงลงไปโดยไม่ได้มีอันตราย
ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือการเพาะบ่มครั้งแรก หากเขาเพาะบ่มมันไปเรื่อยๆ มันไม่ได้ดูน่ากลัวไปกว่านี้เหรอ? ระดับนี้คงไม่ต่างจากผู้ยิ่งใหญ่ของโลก
เมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่เอาหมัดทำลายล้างโลก ผู้ฝึกตนระดับสุดยอดที่เหาะเหินบนอากาศ ไม่รู้ว่ามันจะต่างกันแค่ไหน
จ็อกๆๆ
ในตอนนี้ ท้องของเซียะปิงกำลังส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกลองที่เต้นระรัว เขาใช้เวลาการฝึกฝนไปสองชั่วโมง เขาไม่ได้กินอะไรเลยตอนเช้านี้ ตอนนี้เขาหิวมากจริงๆ
"ไปที่โรงอาหารกินข้าวดีกว่า" เซียะปิงลงเดินลงมาจากหลังคา ตอนนี้ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว
เพราะเมืองเทียนชุ่ย เลขที่ 95 มัธยมปลายเวลา เจ็ดโมงเช้าถึงเวลาสี่โมงเย็น เมื่อเข้าโรงเรียนก็ไม่สามารถที่จะกลับบ้านได้ นักเรียนจะต้องกินอาหารในโรงอาหารของโรงเรียนเท่านั้น ยังมีนักเรียนบางคนเอาอาหารมากินเองด้วย
เซียะปิงมาถึงโรงอาหาร ที่นี่มีใช้เหรียญสหพันธรัญห้าหกเหรียญซื้อาหารธรรมดาราดข้าวสองจาน เขากำลังมองหาที่กินข้าวที่สงบ
”
"เซียะปิง"
ตอนนี้มีน้ำเสียงที่คุ้นเคยดังออกมา เซียะปิงเงยหัวขึ้นมาเขาเห็นหยางเว่ย ที่ใบหน้าของเขามีท่าทางเสียใจและโกรธมองมาที่เซียะปิง ดูเหมือนเจ้านี่มาเพื่อกวนตีน
ข้างหลังเขาก็มีนักเรียนร่างสูงมายืนอยู่สองหรือสามคน พวกเขาดูเป็นคนแข็งแกร่งที่จะมาหาเรื่อง