ตอนที่แล้วตอนที่ 132 ท่านพูดว่าใครเป็นคนไร้ค่า ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 134 ช่วยฮ่องเต้ควบคุมโลก!

ตอนที่ 133 เล่ห์เหลี่ยมของคุณหนูรอง


ตอนที่ 133 เล่ห์เหลี่ยมของคุณหนูรอง

ก่อนหน้านี้เฟิงจินหยวนรู้สึกเพียงว่าบุตรสาวคนนี้มีความแตกต่างเมื่อสามปีที่แล้วตอนที่นางออกจากคฤหาสน์ ไม่สนใจว่านางจะเป็นคนที่เย็นชา นางก็กลายเป็นคนที่ดุ เขารู้ว่านางรู้ศิลปะการต่อสู้และเขาก็รู้ว่าทักษะทางการแพทย์ของนางนั้นดีมากยิ่งขึ้น แม้กระนั้นเขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นเช่นนี้ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกลัวบุตรสาวคนนี้

เขาต้องการจะเพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเขากับเฟิงหยูเฮง แต่นางก็จับที่พิงแขนส่วนที่เหลือ ความรู้สึกที่อึดอัดใจ และตระหนกในตัวเฟิงหยูเฮงไม่ลดลงเลย

"อาเฮง" ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นว่าบางสิ่งไม่ถูกต้องและอยากจะพูดคำปลอบโยน แต่เมื่อนางเห็นความเย็นชาของเฟิงหยูเฮง นางก็เหงื่อออก นางก็ไม่รู้ว่านางควรจะพูดอะไรอีก

ในขณะที่บรรยากาศในห้องโถงแย่ลง ฮูหยินผู้เฒ่าและเฟิงจินหยวนกลัวเฟิงหยูเฮง ต่อหน้าคนที่มองมาด้วยสายตาเช่นนี้ ทั้งสองรู้สึกหวั่นเล็กน้อยและคิ้วของเฟิงจินหยวนกำลังกระตุกอย่างรวดเร็ว

"ท่านพ่อ" ในที่สุดเฟิงหยูเฮงกล่าวอีกครั้งว่า "ท่านเป็นเสนาบดีมาหลายปีแล้ว แต่ท่านก็ไม่รู้อีกหรือสิ่งไหนควรพูดและสิ่งไหนไม่ควรพูด ต่อหน้าผู้คน ข้าไม่เข้าใจว่าท่านกลายเป็นเสนาบดีของราชสำนักในปัจจุบันได้อย่างไร"

"เจ้า..." เฟิงจินหยวนทั้งโกรธทั้งอาย เขาเป็นข้าราชสำนักระดับสูงในปัจจุบัน นอกจากฮ่องเต้และองค์ชายบางพระองค์ ก็ไม่เคยมีคนกล้าที่จะดูถูกเขาเช่นนี้? แต่ตอนนี้เขาถูกเยาะเย้ยโดยบุตรสาวของเขาเอง เขาจะทนกับการเสียหน้าแบบนี้ได้อย่างไร? "เจ้ามันลูกอกตัญญู !" เขาจ้องมองที่เฟิงหยูเฮง ขณะที่เขาตัวสั่น หน้าของเขาซีดและดวงตาของเขาปูดโปน

แต่เฟิงหยูเฮงจะกลัวเขาได้อย่างไร บิดาที่ไร้ยางอายนี้เป็นสิ่งที่นางสามารถทนได้ และนางก็จำได้ว่าจะยอมลงให้เขาเนื่องจากศักดิ์ศรีและความเคารพนับถือในตัวผู้อาวุโส อย่างไรก็ตามเขาดูถูกซวนหมิงหมิงนี้ นางไม่สามารถทนได้!

"ถ้าข้าเป็นลูกอกตัญญูแล้ว ความหมายที่อยู่เบื้องหลังการดูถูกว่าที่ลูกเขยของท่านพ่อคืออะไร?" ถ้าท่านไม่ทำตัวเป็นบิดาที่ดีแล้ว อย่าคาดหวังว่าข้าจะทำตัวเป็นบุตรสาว

"ข้าเป็นบิดาของเจ้า!" เฟิงจินหยวนรู้สึกว่าบุตรสาวคนนี้ไม่เคยมองเขาว่าเป็นบิดา เมื่อสามปีที่แล้วเขาไม่ได้ดูแลภรรยาและบุตรสาวให้ดี แต่เหยาซื่อกับบุตรทั้งสองคนของนางกลับมาที่คฤหาสน์ ในฐานะที่เป็นอนุ เฟิงหยูเฮงควรรู้สึกขอบคุณ เหตุใดางถึงมีอาฆาตพยาบาทอย่างรุนแรง?

"ถูกต้อง ท่านพ่อเป็นบิดา" ใบหน้าของเฟิงหยูเฮงขยับไปด้านข้าง ละสายตาจากเฟิงจินหยวน "ท่านพ่อ แต่ท่านพ่ออย่าลืม ท่านพ่อเป็นพลเมืองของราชวงศ์ต้าชุน และเป็นหนึ่งในข้าราชสำนัก สำหรับข้าราชสำนัก การดูหมิ่นเชื้อพระวงศ์เป็นการกระทำผิดที่อาจส่งผลให้เกิดการประหารทั้งตระกูล ท่านพ่อต้องการให้ตระกูลเฟิงทั้งครอบครัวตามท่านพ่อไปขึ้นลานประหารหรือเจ้าคะ?"

คำพูดของนางมีพลังและมีประสิทธิภาพทำให้เฟิงจินหยวนไม่พูดออก และทำให้ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเปลี่ยนเป็นขาวซีดด้วยความกลัว

ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวใจของยายจาวแทบจะหยุดเต้น นางเงียบ ๆ คิดกับตัวเองคุณหนูรองมีเล่ห์เหลี่ยมมากเกินไป!

เมื่อเห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่ากำลังหายใจไม่ออก ยายจาวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะทำอย่างดีที่สุดและพูดขัดขึ้นมา  "ท่านฮูหยินผู้เฒ่า ท่านทำใจดี ๆ นะเจ้าคะ!"

เฟิงหยูเฮงได้ยินก็เม้มปาก จากนั้นนางมองเฟิงจินหยวนด้วยความโกรธ, การจ้องมองของนางถือเป็นการเตือน

ไม่นานนางก็ถอนสายตากลับ เมื่อนางหันไปทางฮูหยินผู้เฒ่า ท่าทางของนางดูเป็นกังวลมาก "ท่านย่า, เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?"

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกตกใจและรู้สึกว่าสิ่งที่นางเห็นไม่เป็นความจริง เฟิงหยูเฮงไม่ได้ทำร้ายเฟิงจินหยวน นางยังคงเป็นหลานสาวที่ดีที่จะรักษานาง และสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของนางได้

ยายจาวช่วยปรนนิบัติให้ฮูหยินผู้เฒ่าหายใจได้และเห็นเฟิงหยูเฮงเดินเข้าไป นางกล่าวว่า "คุณหนูรอง ดูเหมือนว่าฮูหยินผู้เฒ่าสูดหายใจเข้าไป แต่หายใจไม่ออกเจ้า" เมื่อนางพูดกับเฟิงหยูเฮง นางก็ไม่กล้าที่จะมองเฟิงหยูเฮง นางรู้สึกว่าหนังศีรษะของนางชาด้านไปหมด เพราะนางกลัวเฟิงหยูเฮงจะทำท่าเหมือนก่อนหน้านี้

โชคดีที่อารมณ์ของเฟิงหยูเฮงเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ยืนอยู่ที่นั่นเป็นเพียงแค่หลานสาวที่มีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของย่านาง

นางเอื้อมมือไปตบหลังคอของฮูหยินผู้เฒ่า พวกเขาไม่ทราบว่าจุดที่นางตบเบา ๆ แต่การที่ฮูหยินผู้เฒ่าที่หายใจไม่ออกกลับหายไปทันที

"ท่านย่าต้องดูแลสุขภาพของตัวเองมาก ๆ เจ้าค่ะ แม้ว่าท่านพ่อจะกระตุ้นความโกรธของท่านย่า ท่านย่าก็ต้องอดทนเจ้าค่ะ!" คำพูดเหล่านี้ทำให้เฟิงจินหยวนรู้สึกผิด

ฮูหยินผู้เฒ่าสามารถพูดได้อย่างไร นางเปลี่ยนความคิดของนางขณะที่นางพยักหน้าและรับรู้ถึงสิ่งที่เฟิงหยูเฮงกล่าว

ไม่ว่ากรณีใด ๆ สิ่งที่เฟิงจินหยวนก็ไม่ควรกล่าวเช่นนั้นในฐานะที่เป็นถึงเสนาบดี ถ้าตัดความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรสาวทิ้งไป คำพูดของเฟิงหยูเฮงก็ถูกต้อง

"เฟิงจินหยวน เจ้าต้องระวังในสิ่งที่เจ้าพูด" ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว เมื่อเห็นเฟิงจินหยวนพยักหน้า นางก็สงบลงเล็กน้อย จากนั้นนางก็มองไปที่เฟิงหยูเฮงและเห็นว่านางยังคงกังวลอยู่ ดังนั้นนางจึงรวบรวมความกล้าหาญของนาง และกล่าวว่า "อาเฮงอย่าโกรธที่พ่อของเจ้าพูดเลย เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน เจ้าและพี่สาวของเจ้าหายตัวไป"

เฟิงหยูเฮงยิ้ม แล้วกล่าวว่า "ถูกต้อง! ท่านพ่อเป็นห่วงลูกสาว และอาเองรู้สึกดีขึ้นเจ้าค่ะ  แต่ข้าไม่รู้ว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงสวมชุดสีแดงเพื่อทำหน้าที่เป็นสาวใช้ของฉิงเล่อ นางไม่คิดว่าเรื่องนี้จะสร้างความเดือดร้อนให้ท่านพ่อหรือตระกูลเฟิงหรือเจ้าคะ" นางพูดเตือนสติขึ้นมา ท่าทีเย็นชาและไม่แยแสของนางต่อหน้าคนอื่น ก็ทำให้คนรู้สึกหนาวเหน็บ

ฮูหยินผู้เฒ่ากลัวว่าเฟิงจินหยวนจะรังแกเฟิงหยูเฮง นางพยายามพูดไกลเกลี่ยอีกครั้ง "พี่ใหญ่ของเจ้ากังวลเรื่องที่ไม่สามารถเข้าพระราชวังได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉินซื่อ แม้กระทั่งกับการเสียชีวิตของนาง นางทำให้ลูก ๆ ของนางเดือดร้อน"

เฟิงจินหยวนเห็นด้วยจึงพยักหน้า เขาไม่กล้ามองเฟิงหยูเฮง ขณะที่เขาพูดคล้อยตามฮูหยินผู้เฒ่า "ครอบครัวของเราติดร่างแหไปกับหญิงชั่วร้ายคนนั้น!"

ดวงตาของเฟิงหยูเฮงแฝงแววดูถูก การหาแพะรับบาปนี่ตระกูลเฟิงถนัดนัก

ในเวลานั้นสาวใช้รีบเข้ามาและทักทายทั้งสามคน แล้วกล่าวว่า "ฮูหยินผู้เฒ่า, ใต้เท้า, คุณหนูใหญ่กลับมาถึงคฤหาสน์แล้วเจ้าค่ะ!"

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เฟิงจินหยวนลุกขึ้นยืนทันที "เฉินหยูกลับมาแล้ว"

ฮูหยินผู้เฒ่าถามว่า "นางเป็นไงบ้าง นางบาดเจ็บหรือเปล่า? "

บ่าวรับใช้รีบตอบ "ข้าช่วยพยุงคุณหนูใหญ่เข้ามาเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่ามีอาการบาดเจ็บที่ขาของนาง ตอนนี้นางกลับไปที่เรือนแล้วเจ้าค่ะ"

เฟิงจินหยวนรีบพูดว่า "ส่งคนไปตามหมอมา!" เขาพูดอย่างนี้ เขาเดินออกมา "ข้าจะไปดูนาง"

เมื่อเห็นเขารีบออกไป ฮูหยินผู้เฒ่าไม่สามารถนั่งนิ่งได้ นางยืนขึ้นมาจากเก้าอี้ นางมองไปที่เฟิงหยูเฮง และใช้น้ำเสียงกลาง ๆในการพูด "ไปดูกันเถอะ"

เฟิงหยูเฮงพยักหน้า ช่วยพยุงฮูหยินผู้เฒ่า "ถ้าท่านย่าจะไป ท่านย่าห้ามทะเลาะกับท่านพ่อ ไม่อย่างนั้นร่างกายของท่านย่าจะป่วยมากกว่าเดิมเจ้าค่ะ"

ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกว่าหัวของนางมึนงงจากการฟังเฟิงหยูเฮง นางกลัวแต่นางจะโกรธบุตรชายของนางได้อย่างไร? หลานสาวคนนี้พูดโกหกหน้าตาย นั่นคือสิ่งที่นางเห็น

ข่าวที่ว่าเฟิงเฉินหยูกลับมาที่คฤหาสน์ได้ล่วงรู้ไปถึงทุกคนในคฤหาสน์ บรรดาอนุและคุณหนูที่กำลังเดินไปยังเรือนซูหยาเพื่อคารวะฮูหยินผู้เฒ่า ตอนนี้เปลี่ยนทิศทางเดินไปยังเรือนซูหยา ทุกคนรู้ดีว่าการกลับมาของเฟิงเฉินหยู เฟิงจินหยวนและฮูหยินผู้เฒ่าจะต้องไปดู

ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนเดินช้าที่สุด เมื่อเฟิงหยูเฮงและยายจาวช่วยพยุงนาง ในห้องของเฉินหยู ตอนนี้เหยาซื่อ อันชิ ฮันชิ จินเฉินและเฟิงเซียงหรูมาถึงก่อนแล้ว

รอยคล้ำใต้ตาของเหยาซื่อแสดงให้เห็นว่านางนอนไม่หลับตลอดคืน เฟิงหยูเฮงรู้ว่าเหยาซื่อเป็นห่วงนาง ดังนั้นนางจึงส่งรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสให้เหยาซื่อ นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในขณะนี้เฟิงเฉินหยูนั่งอยู่บนเตียงของนาง ใบหน้าของนางซูบซีดขณะที่นางร้องไห้

เฟิงจินหยวนยืนอยู่ข้างนาง การตำหนินางเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและจะโอ๋นางก็ไม่ได้ เขาเดินไปมานางโดยไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไร

บุตรสาวคนนี้เขาตั้งความหวังไว้มากมาย เขาได้ขีดเส้นทางที่ดีไว้ให้นางอย่างชัดเจน แต่ใครจะรู้ว่านางจะล้มเหลวที่จะทำตามความคาดหวังและทำสิ่งนั้นได้

ก่อนหน้านี้นางไม่สามารถเข้าไปในพระราชวังเพราะเฉินซื่อก่อเรื่องไว้ และนี่ไม่อาจถูกกล่าวหาว่าเพราะเฉินหยู เมื่อวานนี้ที่งานเลี้ยงเฉินหยูได้ก่อสร้างปัญหามากเกินไป

เฟิงหยูเฮงเห็นว่าไม่มีใครพูด นางถอนหายใจเบา ๆ 2 ครั้ง "เมื่อวานนี้ที่พระราชวังข้าไม่สะดวกที่จะถาม แต่ตอนนี้พี่ใหญ่กลับมาที่คฤหาสน์แล้ว ข้าอยากรู้และต้องถามที่ท่านพี่ว่า ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้เข้าไปในพระราชวังเจ้าคะ?"

ทุกคนรู้สึกว่าเสื้อผ้าสีแดงของเฉินหยูโดดเด่นมากเกินไป ตอนที่เฟิงหยูเฮงถามพวกเขามองนางด้วยความสงสัย

ด้วยเหตุที่เกิดขึ้นกับเฟิงเฟินได ฮันชิจึงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก บุคลิกของนางไม่ได้มีเสน่ห์เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เมื่อนางมองไปที่บรรดาบุตรสาวของตระกูล นางรู้สึกว่าพวกเขาทำลายอนาคตของเฟิงเฟินได นางอยากจะทำให้บุตรสาวของฮูหยินใหญ่และบุตรสาวของอนุคนอื่น ๆ ออกไปจากตระกูล ดังนั้นเฟิงเฟินไดจะกลายเป็นบุตรคนเดียวของคฤหาสน์

คำพูดของเฟิงหยูเฮง และชุดเสื้อผ้าสีแดงของเฉินหยูได้ประสบความสำเร็จในการกวนประสาทของนาง ฮันชิเริ่มหัวเราะคิดคักไม่เหมือนเคย เป็นเรื่องที่น่าสยดสยองมากขึ้น "คุณหนูใหญ่ คงมีความสุขมากกับการที่มารดาของนางตาย !"

อันชิจ้องมองไปที่ฮันชิ หลังจากนั้นไม่นานนางกระซิบกับเหยาซื่อว่า "อนุฮันชิต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เจ้าค่ะ น่าจะบ้ามาก ๆ "

ฮูหยินผู้เฒ่าคิดแบบนั้น เฉินหยูร้องไห้ดังขึ้น นางกระทืบเท้าของนางลงบนพื้นและชี้ไปที่ฮันชิ "พวกเจ้า ! พานังบ้านี่กลับไปที่เรือนของนาง!"

ฮันชิไม่เถียง นางหัวเราะคิกคัก ทำให้เฟิงจินหยวนรู้สึกไม่พอใจ

นานมาไปแล้วที่เขาไปที่เรือนของฮันชิ ตั้งแต่เฟิงเฟินไดถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ เขาก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อยกับฮันชิ เขาทำดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงนาง แต่เขาไม่คิดว่าฮันชิจะเป็นแบบนี้จริง ๆ

"เฉินหยู" ขณะที่ฮันชิหัวเราะเดินห่างออกไปมากขึ้น ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า "อย่าไปฟังที่อนุฮันพูด แต่ว่าเจ้าลอบเข้าไปในพระราชวังทำไม? แล้วชุดสีแดงนี้ ... "

“เจ้าสวมชุดนี้เพื่อใคร ?” ก่อนที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะพูดเสร็จ เฟิงหยูเฮงก็พูดขัดจังหวะขึ้นมาและพูดเข้าประเด็น การที่เฉินหยูที่สวมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการดึงดูดความสนใจของใครบางคน

เฟิงจินหยวนไม่ใช่คนโง่ หลังจากที่กลับมาที่คฤหาสน์แล้วเขาก็คิดถึงการกระทำของเฉินหยูอยู่พักหนึ่ง

องค์ชายเจ็ด, ซวนเทียนฮั่วอยู่ในโลกอื่น เขาไม่ค่อยมีความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ เขาเคยได้ยินคนพูดว่าองค์ชายเจ็ดชอบสีแดง ตามแนวความคิดนี้การที่เฉินหยูสวมชุดสีแดงไปงานเลี้ยงก็สามารถอธิบายได้

แต่เฉินหยูพบองค์ชายเจ็ดเพียงไม่กี่ครั้ง แม้ว่านางจะแอบชอบ นางก็ไม่มีโอกาสได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะสอบเรื่องที่เขาชอบ จากนั้นก็ต้องมีคนจงใจให้เฉินหยูได้ยิน ซึ่งทำให้นางต้องใส่ชุดสีแดงเพื่อเข้าไปในพระราชวัง

เขาหันไปมองเฟิงหยูเฮงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะสามารถพูดได้ เฟิงหยูเฮงสบตาเขาและกล่าวว่า "ราชวงศ์ต้าชุนให้ความสำคัญกับความกตัญญูมากที่สุด พี่ใหญ่ทำผิดกฏ ท่านพ่อจะลงโทษท่านพี่อย่างไรเจ้าค่ะ? โอ้ ใช่ ท่านพี่ขโมยหยกหลากสีที่ท่านพ่อจะมอบให้ฮองเฮาและเกือบทำให้ท่านพ่อต้องถูกลงโทษถึงตาย ข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อทำสิ่งใดให้ท่านพี่ขุ่นเคือง หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ในที่สุดจะกลายเป็นศัตรูกัน!"

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด