DMWS ตอนที่ 217 ความมุ่งมั่นของเเจ็คสัน [ฟรี]
ในขณะที่เเจ็คสันย้อนเเย้งปฏิเสธคำพูดเขาก็เตรียมพร้อมที่จะใส่ชุดสูทภูติมายาของเขาเเน่นอนว่าคำพูดของเขาอาจถึงขั้นทำให้โลกิไม่พอใจเเจ็คสันไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับโลกิในตอนนี้เเม้ชุดสูทของเขาจะมีค่าต้านทานเวทมนตร์เเละจิตวิญญาณอยู่ในระดับ D เขาก็เชื่อว่าตัวเองก็ยังคงพอต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้บางส่วนคงไม่ถึงกับเเย่ไปซะทีเดียว
เเต่สิ่งที่เเจ็คสันเด็ดขาดในตอนนี้ไม่ใช่ความเเข็งเเกร่งของเขาเเต่เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะนี่คือโลกมาร์เวล คือโลกเเห่งความเป็นจริงที่เขาอาศัยอยู่ตอนนี้ ทั้งยังเเตกต่างจากพล็อตเรื่องในภาพยนตร์เป็นอย่างมาก สถานการณ์ของธอร์เองก็เเตกต่างจากพล็อตเรื่อองในภาพยนตร์ โลกิเองก็เช่นเดียวกัน เเต่เเจ็คสันกำลังเดิมพันกับการกระทำในครั้งนี้เพราะที่โลกมนุษย์เเห่งนี้ก็มีตัวตนเฉกเช่นเทพเจ้าอย่างโลกิอาศัยอยู่หากโลกิสร้างปัญหาที่โลกนี้ตัวตนเหล่านั้นจะต้องเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเเน่นอน
"ฮ่าฮ่า,เจ้าทำให้ข้าเเปลกใจได้เสมอ ข้าต้องขอยอมรับในความกล้าหาญของเจ้าจริงจริง"ได้ยินคำพูดปฏิเสธของเเจ็คสันเเละใบหน้าเตรียมพร้อมที่จะเข้าปะทะโลกิหัวเราะออกมาอย่างกระทันหัน
ได้ยินคำตอบของโลกิ,เเจ็คสันผ่อนคลายใจเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะชนะเดิมพันในครั้งนี้ เพียงเเต่ว่าหลังจากนั้นเป็นเวลาหนึ่งวินาทีโลกิก็ทำให้เขาต้องรู้สึกอึดอัดใจอีกครั้ง
"เเม้ว่าการจะฆ่าเจ้านั้นค่อนข้างจะยากลำบาก เเต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถต่อต้านข้าได้จริงจริง?"โลกิได้หยุดหัวเราะลง การเเสดงออกของเขาเผยให้เห็นถึงภัยคุกคามขนาดใหญ่
"เจ้าอยากจะลองไหมล่ะ?"โลกิได้กล่าวถามอีกครั้ง
"ฉันมีตัวเลือกงั้นหรอ?ก็ได้ฉันจะช่วยธอร์อย่างไรก็ตามเขายังไม่สามารถเข้าใจชัดเจนถึงพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขา ฉันจะสนับสนุนเขาได้อย่างไร?"เเจ็คสันยิ้มอย่างขมขื่น
"บางทีเจ้าอาจจะไม่ต้องอทำสิ่งใดเลย ธอร์เองก็ไม่ได้โง่ ในช่วงเวลาสำคัญนั้นเขาจะต้องสามารถเข้าใจมันได้อย่างเเน่นอน"ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โลกิ กล่าวพูดอย่างไม่เเยเเส
เผชิญหน้ากับโลกิเเจ็คสันเข้าใจสถานการณ์ดีดูเหมือนตอนนี้เขายังคงไม่มีกำลังมาพอจะต่อต้านคนคนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้ตัวเองลำบากเเละเเย่ลง
"ข้ารู้สึกดีใจที่ได้ร่วมสนทนากับเจ้าควรจะได้เวลาที่ข้าจะต้องไปเเล้ว"โลกิได้กล่าวพูดอออกมาดูเหมือนเขาต้องการจะออกเดินทางในตอนนี้
"เช่นนั้นก็ลาก่อน..."จนถึงตอนนี้เเจ็คสันก็ไม่เข้าใจตัวตนของโลกิที่ขอให้เขาช่วยเหลือธอร์ ตอนนี้ความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันต่ำมากเกินไปเขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับโลกิได้ หากเเจ็คสันต้องการท้าทายตัวตนเหล่านี้มีเเต่เขาจะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นผู้ชนะเท่านั้นย่อมมีสิทธิ์ตัดสินชะตาชีวิตของคนอื่น
~
ไม่นานโลกิก็หายไป เห็นโลกิจากไป เเจ็คสันได้ยืนรออยู่เเถวนั้นเป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่เขาจะออกจากพื้นที่ทะเลสาบเเห่งนี้วันนี้เขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามขนาดใหญ่
ในช่วงเวลาที่เเจ็คสันยืนอยู่ในพื้นที่เเถวทะเลสาบเเละครุ่นคิดถึงเรื่องของโลกิเเละธอร์อยู่ ห่างจากจุดที่เขายืนอยู่ไม่ถึงร้อยเมตร มีบุคคลที่พิเศษปรากฏขึ้นออยู่สองคนพวกเขาได้สังเกตุการณ์ตั้งเเต่ต้นจนจบ
"เจ้าว่าฝ่าบาทโลกิได้ตรัสอะไรกับเด็กคนนั้น พวกเราควรจะไปถามเขาดีรึไม่?"ทั้งสองคนพูดคุยกันเกี่ยวกับตัวตนของเเจ็คสัน
"ข้าคิดว่าคงไม่ต้องถึงขนาดนั้น เเม้ว่าฝ่าบาทโลกิจะมีเเผนบางอย่างเเต่หากเขาคิดจะทำอะไรเขาก็คงต้องให้เกียรติท่านเอนเชี่ยนวัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องกังวล"สหายอีกคนกล่าว
"อืม,พวกเรากลับกันเถอะ"
ฟุ่บ!
จากนั้นไม่นานพวกเขาก็สร้างประตูเวทมนตร์ขึ้นพวกเขาได้เดินเข้าไปเเละก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว
...
ครอบครัวลุง,เเจ็คสันได้รั้งพักอยู่ที่นี่อีกสองวันก่อนที่จะขับรถกลับไปที่นิวยอร์ก ในช่วงเวลาสองวันนี้เเจ็คสันได้ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องของธอร์เเม้ว่าโลกิจะไม่ได้ขอให้เขาช่วยเหลือธอร์ในการฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้า เเจ็คสันก็ต้องการจะช่วยเหลือธอร์อยู่เเล้ว เขาจะช่วยเหลือธอร์ให้ได้รับพลังเหนือธรรมชาติคืนเเละต้องตอกอหน้าเอาคืนโลกิให้สาสม
หลังจากที่เเจ็คสันเดินทางกลับถึงบ้านในจิตใจของเขาก็ปรากฏเสียงเตือนเควสลับของเขาที่ช่วยปกป้องนิคเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากเสร็จภารกิจเควสลับนี้ เขาได้คะแนนมาทั้งหมดสองหมื่นเเต้มคะแนนเเน่นอนว่ามันค่อนข้างมาก
ทันทีที่ได้รับเเต้มคะแนนเเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนการ์กฝึกฝนระดับ D หลาย ๆ อัน เขาได้พนันกับการเพิ่มความเเข็งเเกร่งในตอนนี้เพื่อที่จะเอาคืนโลกิ เขารู้ดีว่าความเเข็งเเกร่งของตัวเองเล็กน้อยเกินไปหากไม่เร่งพัฒนาโดยเร็วเขาก็จะกลายเป็นผู้เเพ้แบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ตอนนี้เเจ็คสันกำลังสงสัยเทคนิคบ่มเพาะ «ต้นกำเนิดหัวใจสวรรค์» ของเขา เเม้ว่ามันจะเป็นเทคนิคระดับสูงเเต่ก็คงไม่สามารถนำไปใช้กับการต่อกรกับโลกิได้ เนื่องเพราะโลกิเป็นชาวเเอสการ์ดเเละมีเวทมนตร์ที่น่าเกรงขาม คนเหล่านี้มีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่สิ่งนึงที่พวกเขาเเตกต่างจากเเจ็คสันก็คือการส่งเสริมความเเข็งเเกร่งด้วยความรวดเร็วอย่างเช่นการอัพเกรดระบบชุดอย่างต่อเนื่อง หรือ ไอเทม เเละ อาวุธ สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเเข็งของเเจ็คสัน
"บางทีฉันอาจจะวางเเผนเรื่องเวทมนตร์พวกนี้เผื่อไว้บ้างก็ดี ในโลกมาร์เวลเเห่งนี้ การมีอยู่ของเวทมนตร์ถือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็น เเอสการ์ด หรือพวกที่สืบเชื้อสายจอมเวทย์โบราณ ตอนนี้ฉันได้ฝึกฝนในเส้นทางของเทคนิคการต่อสู้จึงไม่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์เเม้เเต่น้อย"
เเจ็คสันนอนลงบนเตียงเเละครุ่นคิด
"ก่อนอื่นฉันจะต้อองเเจกเเจงการใช้คะแนนเหล่านี้เเละดูเกี่ยวกับความสามารถของพวกเวทมนตร์บางทีฉันอาจจะไปที่คามาร์ทัชเพื่อไปศึกษาเรื่องเวทมนตร์เพราะเเม้เเต่ สตีเฟ่นสแตรนจ์ ยังสามารถเรียนรู้ได้ ทำไมฉันจะทำไม่ได้"เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับผลการทดสอบ
"หืม?ไม่เหมาะเเก่การศึกษาเวทมนตร์?จะบอกว่าฉันไม่มีพรสวรรค์งั้นสินะ?"หลังจากผ่านไปหลายนาทีเเจ็คสันได้ซื้อหยดน้ำเเห่งการทดสอบพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์มาผลปรากฏว่าเขาไม่มีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์
เเจ็คสันได้เดินบนเส้นทางของกำลังภายในดังนั้นเขาจึงไม่มีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์ เช่นนั้นเเจ็คสันก็จะต้อองเดินบนเส้นทางของตัวเองให้เเข็งเเกร่งขึ้นในตอนนี้เพื่อปูเส้นทางในการใช้เวทมนตร์ในอนาคต
ที่จริงเเล้วที่เเจ็คสันเลือกเส้นทางที่กำลังเดินตอนนี้ก็คือเส้นทางที่ระบบเเนะนำมันเป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับเขาที่สุดการฝึกฝนพวกร่างกายเเละพวกกำลังภายในจะทำให้พรสวรรค์ของเขาเติบโตมากขึ้นเขายังต้องเรียนรู้อีกหลายสิ่งไม่งั้นระบบคงไม่เเนะนำให้เเจ็คสันเลือกฝึกฝนความเเข็งเเกร่งภายในก่อน
เพียงเเต่ว่าเขาก็อดรู้สึกถูกกระตุ้นเรื่องเวทมนตร์ไม่ได้เพราะหลังจากที่เขาเผชิญหน้ากับโลกิ เขาก็เข้าใจความเเข็งเเกร่งของตัวเอง ดูเหมือนเขาจะต้องเพิ่มความเเข็งเเกร่งโดยเร็วเพื่อให้ตัวตนของเขามีอิทธิพลมากพอในโลกมาร์เวลเเห่งนี้