ตอนที่แล้วตอนที่ 179 ผูกมิตร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 181 สัญญา

ตอนที่ 180 เนตรแห่งสัจธรรม


พลังจักรภพสามารถช่วยให้ระดับแก่นแท้จิตวิญญาณทะลวงผ่านไปยังระดับบุปผาผลิบานได้ ความลับสุดยอดเช่นนี้องค์ชายหนึ่งไปรู้เข้าโดยบังเอิญเท่านั้น ยิ่งกว่านั้น นี่ไม่ถือว่าเป็นระดับบุปผาผลิบานที่แท้จริง การดูดซับพลังแห่งจักรภพอย่างต่อเนื่องจะทำให้ประคับประคองพลังบ่มเพาะระดับบุปผาผลิบานเอาไว้ได้ หากไม่ดูดซับพลังอย่างต่อเนื่อง คนคนนั้นจะร่วงหล่นกลับมาสู่ขอบเขตมนุษย์อีกครั้ง

และเพราะแบบนี้เองทำให้มีจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเพียงคนเดียวในแคว้นพิรุณ

เมื่อองค์ชายหนึ่งยื่นข้อเสนอนี้ มันแอบหลอกลวงอยู่นิดหน่อย หากเขาขึ้นครองบัลลังก์ได้  เขาจะกระตุ้นพลังจักรภพให้หลิงฮันใช้แน่นอน ส่วนระยะเวลาที่หลิงฮันจะใช้ได้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะอย่างไรในตอนนั้นเขาก็กลายเป็นจักรพรรดิพิรุณคนใหม่แล้ว พร้อมกับควบคุมอำนาจมากมายทั่วทั้งจักรวรรดิ ใครจะกล้าต่อต้านหรือปฏิเสธเขา?

เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลิงฮันจะเข้าใจถึงพลังแห่งจักรภพมากกว่าตัวเขาเอง และเห็นได้ชัดว่าพลังนี้ไม่สำคัญกับเขาแม้แต่น้อย

องค์ชายหนึ่งอดที่จะตกตะลึงไม่ได้ สตรี ความมั่งคั่งและอำนาจ เขาพอจะเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่จำเป็น แต่ขนาดการทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานยังถูกเมินเฉินอย่างง่ายดายราวกับมันเป็นสิ่งของธรรมดา... ตอนนี้เขาไร้หนทางแล้วจริงๆ คนอย่างหลิงฮันดูราวกับไม่มีความต้องการอะไรสักอย่าง

หลิงฮันยิ้มและพูด “ที่จริง ข้าเป็นเพียงสหายขององค์ชายสามเท่านั้น และข้าไม่เคยเป็นสมุนของเขา ข้าสามารถเป็นสหายกับองค์ชายหนึ่งได้เช่นกัน ข้าไม่ได้ปรารถนาในอำนาจ และข้าไม่มีความคิดที่จะแทรกแซงการแย่งชิงอำนาจด้วยเช่นกัน”

องค์ชายหนึ่งมีสีหน้าที่ดูดีขึ้นมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดอยู่ชั่วขณะ “นายน้อยหลิงสนใจในพลังลี้ลับรึไม่?”

ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าหลิงฮันเป็นนายน้อยที่กระเป๋าเงินหนักที่ได้รับการโปรดปรานจากนักปรุงยานับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตาม จากการสนทนากับหลิงฮัน เขาไม่กล้าดูถูกหลิงฮันว่าเป็นเพียงชายหนุ่มอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปีอีกต่อไป

หลิงฮันประหลาดใจและถาม “พลังลี้ลับ?”

“ใช่แล้ว พลังลี้ลับ!” องค์ชายหนึ่งพยักหน้าและเริ่มอธิบาย “พลังลี้ลับนั้นพิเศษเป็นอย่างมาก พลังลี้ลับบางชนิดมีพลังที่น่าหวาดกลัวและสร้างความเสียหายให้กับศัตรูของเจ้าได้ พลังลี้ลับบางชนิดสามารถทำได้เพียงสนับสนุนเจ้สในการสู้รบ และบางชนิดสามารถเรียกได้ว่าเป็นทักษะยุทธ แต่มันไม่สิ้นเปลืองปราณก่อเกิดแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม พลังลี้ลับทุกๆชนิดล้วนล้ำค่าและไม่สามารถได้รับมาจากความร่ำรวย”

แน่นอนว่าหลิงฮันรู้ว่าพลังลี้ลับคืออะไร มันคือทักษะที่หายากเป็นอย่างมาก แม้แต่ในชีวิตที่แล้วเขาก็เคยเห็นพลังลี้ลับไม่บ่อยนัก อย่างไรก็ตาม พลังอันน่าสะพรึงกลัวของมันก็สลักเอาไว้เป็นความประทับใจในความทรงจำของเขา

ตอนที่เขาตระเวนค้นหาโบราณสถานไปทั่ว เขาพบกับร่างกายพิเศษบางประเภทที่สามารถใช้พลังลี้ลับจนสามารถ ‘กลืนสวรรค์สะท้านภพ’ได้ ซึ่งผู้ใช้เป็นเพียงจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวาเท่านั้น

ถึงแม้ผู้ครองร่างกายพิเศษคนนั้นจะถูกหลิงฮันสังหาร แต่ถ้าพลังบ่มเพาะของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกันและหลิงฮันอยู่ขั้นเก้าส่วนอีกฝ่ายอยู่ขั้นหนึ่ง  ผลลัพธ์ของการต่อสู้อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

โชคร้ายที่เขาไม่สามารถตรวจสอบพลังลี้ลับของศัตรูคนนั้นได้

ความสนใจของหลิงฮันถูกกระตุ้นและถามออกไป “จากคำพูดขององค์ชาย ท่านคงจะครอบครองพลังลี้ลับอยู่สินะ?”

“ข้าไม่ได้ครอบครองมัน มันอยู่ในคลังสมบัติของจักรวรรดิพิรุณ” องค์ชายหหนึ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ตราบใดที่นายน้อยฮันช่วยข้าขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ ข้าจะต้องมอบพลังลี้ลับชิ้นนี้ให้นายน้อยฮันแน่นอน!”

หลิงฮันส่ายหัวและพูด “องค์ชายช่างไม่จริงใจเอาเสียเลย ถ้าท่านสามารถนำพลังลี้ลับมาให้ข้าเห็นภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ข้าจะยอมพิจารณาข้อเสนอนั่นดู”

“พลังลี้ลับมีค่าอย่างมาก และมันถูกล็อคเก็บเอาไว้ที่ห้องโถงภายใน แม้แต่ข้าก็ไม่สามารถเข้าไปได้ แล้วข้าจะนำมันมาให้นายน้อยฮันดูได้อย่างไร!” องค์ชายหนึ่งพูดด้วยความขุ่นเคืองเล็กน้อย

หลิงฮันได้รับข้อมูลอันล้ำค่ามาแล้ว เขาหัวเราะและพูด “งั้นพลังลึกลับชิ้นนั้นมันพลังแบบไหนล่ะ? องค์ชายคงจะทราบสินะ?”

“เนตรแห่งสัจธรรม” องค์ชายหนึ่งพูดด้วยความเศร้าเล็กน้อย

เขาไม่เคยฝึกฝนพลังลึกลับชิ้นนี้มาก่อน แต่เขารู้ว่าเนตรแห่งสัจธรรมไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้แต่อย่างใด มันสามารถช่วยให้มองทะลุผ่านภาพลวงตาได้เท่านั้น ในความคิดของเขา ความสามารถเช่นนี้จะนำไปใช้อะไรได้?

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่ไม่ว่าพลังลึกลับจะไร้ประโยชน์แค่ไหน มันก็ยังถือว่าเป็นพลังลี้ลับ เพราะงั้นเขาถึงได้กล้านำมาเสนอเพื่อเป็นสิ่งยั่วยวนให้หลิงฮันสนับสนุนเขา

หลิงฮันชะงักไปชั่วขณะก่อนที่ความดีใจจะปะทุขึ้นในใจของเขา

เนตรแห่งสัจธรรมไม่มีความสามารถในการทำความเสียหายหรือทำร้ายศัตรูได้ก็จริง อย่างไรก็ตาม มันมีค่ายิ่งกว่าพลังลี้ลับที่มีความสามารถในการโจมตีเสียอีก เพราะมันสามารถทำให้ผู้ใช้มองทะลุภาพลวงตาและมองเห็นความเป็นจริง หากจะพูดง่ายๆ หลังจากบ่มเพาะเนตรแห่งสัจธรรมแล้ว เขาจะไม่ต้องหวาดกลัวภาพลวงตาใดๆ

และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือเนตรแห่งสัจธรรมสามารถช่วยให้เขามองเห็นจุดอ่อนของทั้งตัวเองและศัตรูได้

การที่สามารถมองเห็นจุดอ่อนของศัตรูจะทำให้เขาโจมตีอีกฝ่ายด้วยพลังเต็มที่ได้ ในขณะที่การมองเห็นจุดอ่อนตนเองจะทำให้เขาพัฒนาตัวเองได้ ถึงแม้จะไม่มีทางที่เขาจะพัฒนาจุดอ่อนได้ เขาก็ยังสามารถป้องกันจุดอ่อนของตนเองได้ดีกว่าเดิม

หลิงฮันไม่รู้ว่าพลังลี้ลับชิ้นนี้มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมกว่านี้รึไม่ เพราะอย่างไรเขาก็เพียงแค่เคยได้ยินพลังลี้ลับชนิดนี้มาเท่านั้น แต่ยังไม่เคยเห็นมันมาก่อนในชีวิตที่แล้ว

ใครจะไปคิดกันล่ะว่าแคว้นพิรุณที่เล็กๆเช่นนี้จะซ่อนพลังลี้ลับเอาไว้?

หลิงฮันคิดอยู่ชั่วขณะ เขาค้นพบสมบัติล้ำค่ามากมายในแคว้นพิรุณ อย่างเช่น ซากศพของจอมยุทธระดับทลายมิติ!

บางทีเมื่อตอนที่จอมยุทธที่ทรงพลังมากมายมารวมตัวกันเมื่อหลายปีก่อน บางคนในพวกเขาเหล่านั้นคงได้รับบาดเจ็บหนักแต่ยังไม่ตาย หลังจากสงครามครั้งนั้นเขาก็เข้ามาอาศัยอยู่ที่แคว้นพิรุณและทิ้งพลังลี้ลับอย่างเนตรแห่งสัจธรรมเอาไว้

จิตใจของหลิงฮันสั่นไหว แต่สีหน้าของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง “ดูเหมือนองค์ชายจะยังไม่เคยบ่มเพาะพลังลี้ลับชิ้นนี้?”

ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่นำมันมาเป็นข้อต่อรองหรอก

องค์ชายหนึ่งส่ายหัวและพูด “เนตรแห่งสัจธรรมมีเงื่อนไขพิเศษในการสืบทอดซึ่งซ่อนอยู่ภายในดวงตาชิ้นนั้น คนที่จะบ่มเพาะมันต้องได้รับการยอมรับจากมันเสียก่อน หากไม่ได้รับการยอมรับมันก็ไม่ต่างอะไรกับเศษเหล็ก”

หลิงฮันเข้าใจในทันที ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถหาพลังลี้ลับจากคนที่เขาเคยพบในชีวิตก่อนเจอ นั่นเพราะการสืบทอดมันต่างจากทักษะบ่มเพาะและวิถีวรยุทธ ซึ่งไม่ได้ปรากฎออกมาเป็นคำพูดหรือภาพวาด

น่าสนใจยิ่งนัก

เขายิ้มและพูด “เมื่อองค์ชายสามารถนำดวงตานั่นมาให้ข้าได้ พวกเราถึงจะเริ่มพูดถึงการร่วมมือของเรา แค่สำหรับตอนนี้ พวกเราเป็นแค่สหายกันไปก่อน ตกลงนะ?”

องค์ชายหนึ่งรู้ดีว่าสัญญาปากเปล่าเช่นนี้ไม่สามารถดึงดูดหลิงฮันได้ ไม่ว่าอะไรที่เขาสามารถสัญญาได้ องค์ชายสามก็สามารถทำได้เช่นกัน นั่นหมายความว่าเขาไม่มีความได้เปรียบองค์ชายสามเลย แต่อย่างน้อยเขาก็สามารถเป็นสหายกับหลิงฮัน เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยทำอย่างช้าๆก็ได้

“นายน้อยฮัน อีกสองวันจะมีการประมือจัดขึ้นที่ตำหนักสมบัติวิญญาณ และมีข่าวลือว่าจะมีเม็ดยาสร้างรากฐานถูกนำมาประมูล นายน้อยฮันสนใจไปดูรึไม่?” องค์ชายหนึ่งถามขึ้นมา

หลิงฮันทำสีหน้าแปลกประหลาดอย่างช่วยไม่ได้ เม็ดยาสร้างรากฐานที่ว่านั่นเป็นของเขาเอง แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในการประมูลครั้งนี้ เขากำลังจะส่ายหัวปฏิเสธ แต่เมื่อคิดอีกครั้งว่าแคว้นพิรุณเป็นแคว้นที่มีขนาดเล็กและอยู่ในระดับต่ำ บางทีอาจจะมีสมบัติบางอย่างที่ยังไม่มีใครรู้มูลค่าอยู่ก็ได้

“ข้าไม่รังเกียจที่จะไปดูการประมูลเสียหน่อย” หลิงฮันเปลี่ยนความคิด

“ฮ่าๆๆ งั้นอีกสองวันข้าจะมารับนายน้อยฮันด้วยตัวเอง” องค์ชายหนึ่งพึงพอใจอย่างยิ่ง ถ้าเขาปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณชนพร้อมกับหลิงฮัน เขาก็จะสร้างภาพได้ว่าเขามีความใกล้ชิดกับหลิงฮัน เมื่อถึงตอนนั้น เหล่าตระกูลชั้นกลางจะต้องพิจารณาการตัดสินใจของพวกมันใหม่อีกครั้ง

หลิงฮันพยักหน้าและขอตัว เขาต้องไปเยี่ยมหลี่เฮ่ากับจูเสวี่ยอี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด