ตอนที่ 179 ผูกมิตร
“เฒ่าหวู่ อย่าเข้ามายุ่งเรื่องนี้!” เหลียนกวงซูสะบัดมือ “ข้าไม่อยากทำลายมิตรภาพหลายสิบปีของเรา!”
“เจ้าหนูนั่นทำให้คนอื่นพิการ ดังนั้นเขาต้องได้รับการลงโทษตามข้อบังคับของสำนัก!” เหลียนกวงซูแสดงท่าทีไม่ยอม
“ก็แค่ทำให้เศษขยะพิการไม่ใช่รึไง?” หวู่ซงหลินไม่แยแส
“อาจารย์หวู่ โปรดพูดอะไรระมัดระวังด้วย!” เฟิงหยางพูดแทรก น้ำเสียงของมันมีร่องรอยของการพูดขู่
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาตำหนิข้า!” หวู่ซงหลินเค้นเสียง มือขวาของเขากระแทกเข้าใส่เฟิงหยาง หวู่ซงหลินเป็นจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณ ถึงแม้มือของเขาจะปล่อยการโจมตีออกไปลวกๆ แต่มันก็ยังแฝงไปด้วยอำนาจที่ทรงพลัง ปราณก่อเกิดควบแน่นเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์พุ่งใส่เฟิงหยาง
ปัง!
เหลียนกวงซูลงมือทันที มันสามารถสลายการโจมตีของหวู่ซงหลินได้ มันขมวดคิ้วและพูด “เฒ่าหวู่ เจ้าคิดจะต่อต้านข้างั้นรึ?”
“ตราบใดที่เจ้าไม่แตะต้องเขา ข้าก็จะไม่สู้กับเจ้าเช่นกัน” หวู่ซงหลินถอยหลังหนึ่งก้าว
เหลียนกวงซูจ้องไปยังหวู่ซงหลิน หวู่ซงหลินเองก็จ้องไปยังเหลียนกวงซู สองชายชราที่มีอายุรวมกันเกินร้อยห้าสิบกำลังแข่งจ้องตากัน
“เช่นนั้นก็ได้ ครั้งนี้ข้าจะไว้หน้าเจ้า” เหลียนกวงซูพยักหน้า
“อาจารย์ใหญ่!” เฟิงหยางพูดขึ้นมาด้วยความไม่สบอารมณ์
“ฮึ่ม พาน้องชายของเจ้ามาด้วย มาดูกันว่าเราจะสามารถต่อแขนของมันได้รึเปล่า” เหลียนกวงซูขมวดคิ้ว
เฟิงหยางไม่กล้าพูดอะไรต่อ มันอุ้มเฟิงหลัวขึ้นมาและเดินตามเหลียนกวงซูไป สี่เทวทูตพิทักษ์สองคนถือแขนเฟิงหลัวคนละข้างและเดินไปพร้อมกัน
การทะเลาะกันได้จบเพียงเท่านี้
หวู่ซงหลินพยักหน้าให้หลิงฮันเล็กน้อยและจากไป ที่นี่มีคนอยู่มากเกินไป เขาจึงไม่อยากเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลิงฮัน เขาเพียงอยากให้ทุกคนรู้เอาไว้เท่านั้นว่าหลิงฮันอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเขา
“น้องชายหลิง ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ ทำไมไม่มาร่วมดื่มชากับข้าล่ะ?” องค์ชายหนึ่งพูดกับหลิงฮันด้วยรอยยิ้ม
หลิงฮันยิ้มและพูด “ขอบคุณการช่วยเหลือขององค์ชายเมื่อสักครู่มาก ข้ารู้สึกขอบคุณจริงๆ”
“ไม่มีปัญหา!”
ทั้งสองคนเดินออกไปพร้อมกัน และเมื่อเขาเดินผ่านหลี่เฮ่ากับจูเสวี่ยอี้ หลิงฮันพูด “พวกเจ้าสองคนไปตำหนักโอสถสวรรค์และหาคนชื่อหยวนชู่ เพียงบอกเขาว่าข้าเป็นคนให้พวกเจ้าไปพักอยู่กับเขาสักระยะ”
“ขอบคุณพี่ชายหลิงมาก!” หลี่เฮ่ากับจูเสวี่ยอี้เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
หลิงฮันพยักหน้า ไม่ว่าอย่างไรเหตุผลที่ทั้งสองตกเป็นเป้าหมายของเฟิงหลัวก็เป็นเพราะเขา ดังนั้นเขาจะไม่ยอมยืนดูพวกเขาตกเป็นเหยื่ออยู่เฉยๆแน่
องค์ชายหนึ่งพาหลิงฮันไปยังร้านน้ำชาที่มีห้องพักหรูหรา ชายวัยกลางคนยืนคุ้มกันอยู่หน้าประตูโดยมีแค่หลิงฮันกับองค์ชายหนึ่งนั่งอยู่ข้างใน
“ข้าได้ยินมาว่าน้องหลิงเป็นสหายกับปรมาจารย์นักปรุงยาหลายคน และจากที่ข้าเห็นในวันนี้มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ” องค์ชายหนึ่งพูด ดวงตาของเขาหวาดระแวงเล็กน้อย พร้อมกับมีความเร่าร้อนอยู่ในสายตาเขา
หลิงฮันรู้ดีว่าองค์ชายสามต้องการเขาและเชิญชวนเขาให้เข้าร่วมฝ่ายหลายรอบแล้ว ดังนั้นองค์ชายสามจึงไม่สามารถอยู่เฉยๆอย่างสงบได้และพยายามจะผูกมิตรกับเขา
ก่อนหน้านี้ นักปรุงยาจะไม่เคยแทรกแซงการแข่งขันแย่งชิงบัลลังก์ อย่างไรก็ตาม การปรากฎตัวของหลิงฮันทำให้ตัวแปรของสมดุลที่คาดไม่ถึงหลายอย่างพังทลายลง
ถ้าองค์ชายคนใดสามารถได้รับการช่วยเหลือของหลิงฮัน นั่นก็เท่ากับการได้รับการสนับสนุนจากนักปรุงยาทั่วแคว้นพิรุณ ซึ่งนับว่าเป็นอำนาจที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ต่อให้หากจักรพรรดิพิรุณคนปัจจุบันต้องการจะส่งต่อบัลลังก์เขาก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเรื่องนี้นั้นเกี่ยวข้องกับรากฐานของจักรวรรดิ
ดังนั้น องค์ชายหนึ่งจึงคาดหวังที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮันเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น ท่าทีของหวู่ซงหลินยิ่งทำให้มันมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก
หลิงฮันยิ้มและพูด “องค์ชายหนึ่งรู้หรือไม่ว่าทำไมอาจารย์ใหญ่เหลียนถึงได้เข้าข้างเฟิงหยางขนานั้น?”
องค์ชายหนึ่งขมวดคิ้วและปรากฏสีหน้าโกรธเกรี้ยวขึ้นมา เขาทุบโต๊ะและพูด “เจ้าทรยศนั่น!”
องค์ชายหนึ่งอาจจะไม่ได้เกลียดเฟิงหยางขนาดนั้น แต่เห็นได้ชัดว่าเฟิงหยางกับหลิงฮันเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะแสดงท่าทางเกินจริงเพื่อให้ตัวเองสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับหลิงฮัน
“เฟิงหยางมีร่างกายพิเศษและมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเพียงแค่นั้น อย่างมากมันก็ได้รับการชื่นชอบจากเหลียนกวงซูเท่านั้น แต่ไม่สามารถออกคำสั่งอีกฝ่ายได้แน่นอน แต่จากที่ดูท่าทางของเฟิงหยาง แม้มองเผินๆมันจะดูเหมือนเคารพเหลียนกวงซู แต่ในความจริงมันน่าเป็นคนที่อยู่เหนือเหลียนกวงซู นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก” หลิงฮันพึมพำ
องค์ชายหนึ่งตกอยู่ในห้วงความคิดเช่นกัน เฟิงหยางมีอำนาจอันใดกันถึงสามารถออกคำสั่งกับจอมยุทธระดับแก่นแท้จิตวิญญาณได้ อำนาจที่สูงถึงขนาดอาจารย์ใหญ่ที่น่านับถือคนนั้นยังต้องเชื่อฟัง
ในฐานะที่เป็นองค์ชายหนึ่งของแคว้นพิรุณ เขากลับไม่รู้ข้อมูลของเรื่องนี้แม้แต่น้อย
“ข้าจะเริ่มทำการตรวจสอบเรื่องนี้” องค์ชายหนึ่งพูด จากนั้นเขาได้มองไปยังหลิงฮันด้วยสีหน้าจริงจัง “น้องชายหลิงเป็นคนฉลาด ดังนั้นข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา”
“ท่านอยากจะพูดอะไรรึองค์ชายหนึ่ง?” หลิงฮันพูดด้วยรอยยิ้ม แม้เขาจะรู้ถึงเหตุผลที่องค์ชายหนึ่งเข้าหาเขาอยู่แล้วก็ตาม
“ข้าอยากจะขอให้เจ้าช่วยข้าขึ้นครองบัลลังก์!” องค์ชายหนึ่งพูด ทันใดนั้นออร่าแห่งราชาของเขาได้แพร่กระกายออกมา ดวงตาของเขาส่องประกายอันทรงพลัง
หลิงฮันยิ้มจางๆ “ข้ามีความสามารถอันใดที่จะช่วยให้องค์ชายครองบัลลังก์ได้?”
“ฮ่าๆๆ น้องชายหลิง เจ้าช่างถ่อมตัวเสียจริง!” องค์ชายหนึ่งหัวเราะลั่นก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้าขึ้นครองบัลลังก์และเป็นจักรพรรดิได้สำเร็จ ตระกูลหลิงที่จงรักภักดีช่วยเหลือข้าจะได้รับตำแหน่งราชา!”
ราชา!
ถ้าคนของจักรวรรดิได้ยินคำพูดนี้ พวกมันจะต้องตกตะลึงเป็นแน่
ในประวัติศาสตร์ของแคว้นพิรุณ ไม่มีใครเลยที่ได้รับตำแหน่งราชานอกจากตระกูลฉี ถึงแม้ตระกูลที่ถูกมอบตำแหน่งนี้จะไม่ถูกนับรวมกับตระกูลฉี แต่นี่ก็นับว่าเป็นเกียรติสูงสูดชั่วชีวิตของพวกเขาแล้ว
ใบหน้าขององค์ชายหนึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวัง เขาเชื่อว่าหลิงฮันจะต้องตอบตกลงทันที แต่องค์ชายหนึ่งก็ต้องผิดหวัง ท่าทางของหลิงฮันไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาทั้งกระจ่างและลึกลับ ราวกับในสายตาของเขา อำนาจของจักรพรรดิไม่มีผลแม้แต่น้อย
หลิงฮันค่อยๆเปิดปากและพูด “ข้าไม่สนใจในอำนาจ” ในชีวิตที่แล้ว เขาเคยเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แถมยังเคยเป็นถึงจักรพรรดิปรุงยา เพียงแค่ราชาของเหล่ามนุษย์จะนับเป็นอันใดได้?
ในชีวิตนี้ เขามีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น นั่นคือการเป็นปรมาจารย์แห่งวิถีวรยุทธ เขาจะต้องทลายมิติผ่านห่วงโซ่ของมนุษย์และกลายเป็นพระเจ้า
องค์ชายหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรต่อ นั่นเพราะเขาได้เผยไพ่ลับที่ดีที่สุดออกไปแล้ว แต่หลิงฮันก็ไม่ใช้เวลาคิดแม้แต่น้อย
หรือว่าเขาจะต้องยกบัลลังก์จักรพรรดิให้หลิงฮัน? นั่นต้องเป็นเรื่องล้อเล่นแน่ๆ
องค์ชายหนึ่งคิดอยู่ชั่วขณะและพูด “น้องชายหลิง ถ้าข้าสามารถครองบรรลังก์ได้ ข้าจะช่วยเจ้าทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน!”
หลิงฮันแสดงสีหน้าแปลกประหลาดและมองไปยังองค์ชายหนึ่ง
ในแคว้นพิรุณ ด้วยข้อกำจัดของศาสตร์วรยุทธและทักษะบ่มเพาะ ไม่ว่าใครจะมีพรสวรรค์มากเท่าใด พวกเขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบานได้ ดังนั้นคำมั่นสัญญาขององค์ชายหนึ่งจึงเรียกได้ว่าล้ำค่าอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่ผู้อาวุโสของแปดตระกูลใหญ่ก็ต้องหวั่นไหวเพราะข้อเสนอนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับหลิงฮันแล้ว การทะลวงผ่านระดับบุปผาผลิบาน จะนับว่าเป็นอันใด? เขาเป็นถึงจอมยุทธระดับสวรรค์ในชีวิตที่แล้ว!
“แม้ข้าจะไม่แน่ใจ แต่นั่นคงจะเกี่ยวข้องกับพลังแห่งจักรภพสินะ?” หลิงฮันค่อนข้างสงสัยและถามองค์ชายหนึ่งพร้อมกับยกคิ้ว
องค์ชายหนึ่งตกตะลึงในทันที