DMWS ตอนที่ 212 โลกิ [ฟรี]
หลังจากเหตุวุ่นวายที่สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. ได้สิ้นสุดลง เเจ็คสันก็ได้เดินทางกลับไปที่บ้างของลุงที่วอชิงตัน
การเดินทางของเขาครั้งนี้นับว่าคุ้มค่าอย่างมาก เเม้จะไม่สามารถอนรากถอนโคนพวกไฮดร้าทั้งหมดได้สำเร็จเเต่ก็นับว่าได้สร้างความสูญเสียให้กับพวกมันอย่างมหาศาล ทั้งเขายังสามารถปกป้องนิคได้ เนื้อหาเควสภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดพวกไฮดร้าของเขาได้สำเร็จลุล่วงไปมากกว่า 14% เพราะสมาชิกหลักนั้นกลับมีเเค่คนเดียวที่คอยเคลื่อนไหวอยู่ใน S.H.I.E.L.D.
เห็นความเคลื่อนไหวของเปอร์เซ็นภารกิจสำเร็จที่เขาทำ เเจ็คสันจ้องมองไปอย่างครุ่นคิดดูเหมือนการกำจัดพวกไฮดร้านั้นจะไม่สามารถทำให้สำเร็จลุล่วงได้โดยเร็ว เเต่การกำจัดหนึ่งในสมาชิกหลักของพวกไฮดร้าได้ก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับเขา
ท้ายที่สุดเรื่องราวที่วอชิงตันเเห่งนี้ก็จบไปได้ด้วยดีเขาสามารถหยุดการรุกรานของพวกไฮดร้าได้ชั่วคราว เขาได้ใช้เวลาทั้งหมด 5 วันในวอชิงตันเเห่งนี้ เเจ็คสันตั้งใจว่าจุดหมายต่อไปของเขา เขาจะให้ความสำคัญกับ ธอร์
ก่อนหน้านี้เเจ็คสันเเละธอร์ได้เเยกทางกันที่นิวเม็กซิโก มันก็ผ่านไปร่วมหนึ่งเดือนเเล้ว ธอร์ได้ติดต่อหาเขาหลายครั้ง ทั้งบังบ่นเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่ชาวมนุษย์โลกนั้นใช้เพราะเขาไม่ค่อยคุ้นเคย เเต่ในช่วงเร็ว ๆ มานี้ ดูเหมือนธอร์จะเริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น
นอกจากธอร์เเล้ว สเตซี่ ก็มักจะเเย่งโทรศัพท์ธอร์เพื่อพูดคุยกับเขา เเจ็คสันค่อนข้างให้ความระวังเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้เพราะว่าเธอนั้นมีเสน่ห์ที่ยั่วยวนมากเกินไป ทั้งเธอยังรู้ความสัมพันธ์ของเขากับโทนี่ ดังนั้น เธอจึงรุกเเจ็คสันอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้น เขาจึงกล่าวบอกธอร์ว่าหากภายหลังจะติดต่อหาเขาให้ระวังสเตซี่เอาไว้ไม่งั้นเขาจะไม่รับสาย
ในขณะเดียวกันเเจ็คสันก็กำลังเชื่อมสายโทรคุยกับธอร์อยู่
"เฮ้! เเจ็คสันเป็นเวลาหลายวันเเล้วที่ข้าไม่ได้ติดต่อเจ้า!"เสียงของธอร์ได้ปรากฏขึ้นปลายสายน้ำเสียงของเขาเหมือนจะดูดีกว่าตอนเเรกมาก
"ธอร์ ฟังจากน้ำเสียงของคุณดูเหมือนว่า คุณจะมีความสุขมาก มีข่าวคราวความคืบหน้าจาก คุณ ฟอสเตอร์ งั้นหรอ?"เเจ็คสันกล่าวถามอย่างรวดเร็ว
"เเน่นอน เเต่ที่ข้ามีความสุขกลับไม่ใช่เรื่องนี้ทั้งหมด เพราะว่าตอนนี้ข้าได้งานทำเเล้ว เท่านี้ข้าก็คงไม่ถูกเจนตะเพิดไล่อีกเเล้ว"ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวตอบอย่างตื่นเต้น
เจ้าชายที่ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ดกลับต้องมาหวาดกลัวหญิงสาวชาวมนุษย์หากเรื่องนี้โอดินรู้เข้าเเละเดินทางมาที่นี่มีหวังเจ้าชายคนนี้คงมีสภาพไม่สวยเท่าไหร่
เพียงเเต่ว่า ธอร์เองก็ค่อนข้างคุ้นเคยกับโลกใบนี้เเล้ว เขายังคงสถานะเจ้าชายใหญ่เเห่งเเอสการ์ดด้วยความภาคภูมิใจ เเต่ที่เขาดั้นด้นไปหางานก็เพราะนี่เป็นคำสั่งของ เจน ดังนั้นธอร์จึงไม่สามารถเลี่ยงได้
เพราะธอร์ได้ตระหนักดีว่าเขาไม่สามารถกลับไปที่เเอสการ์ดได้ในตอนนี้เขาจึงต้องอยู่อาศัยกับกลุ่มคนเหล่านี้ที่พบเจอเขาพวกเขาเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นต่อกัน เเน่นอนว่าหากธอร์ได้เลือก S.H.I.E.L.D. เขาจะมีโอกาสที่จะได้กลับบ้านได้เร็วขึ้น เเต่ธอร์กลับไม่ทำเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่า ธอร์ยังคงจดจำคำพูดของมิราจไนท์ ที่ S.H.I.E.L.D. คิดหวังจะหาประโยชน์จากเขา
"งั้นหรอ?เช่นนั้นก็ขอเเสดงความยินดีกับคุณด้วยที่สามารถมองหางานได้"เเจ็คสันยิ้มตอบกลับ
ได้เห็นว่าธอร์มีความสุขที่ได้อาศัยอยู่บนโลกนี้เเจ็คสันก็สบายใจ เเม้ในใจเขาจะมีความกังวลก็ตามเพราะธอร์ยังไม่สามารถฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาได้ ตอนนี้ธอร์จึงไม่เเตกต่างจากมนุษย์ธรรมดาทั่วไปมากนัก
"ฮ่าฮ่า, ดูเหมือนของข้าจะอยู่ในสถานที่ที่ถูกเรียกว่าห้องสมุดภายในโรงเรียน คนที่นั่นได้จ้างข้าให้จัดระเบียบหนังสือเเม้จะเรียบง่ายเเละไม่สมกับฐานะของข้าเเต่ข้าก็คิดว่ามันเป็นงานที่ดีไม่ใช่น้อย"ธอร์กล่าวตอบอย่างลำบากใจเพราะงานที่เขาได้รับนั้นค่อนข้างไม่เหมาะสมกับเขาเท่าไหร่
"บรรณารักษ์?"ได้ยินงานที่ธอร์กล่าวเเม้เเต่เเจ็คสันก็ยังพูดไม่ออก หรือว่า เจน ฟอสเตอร์ส ได้ใช้เส้นสายบางอย่างให้ธอร์ได้งานที่ห้องสมุด? เพราะถึงอย่างไร ธอร์ก็มีเสน่ห์ที่ค่อนข้างดึงดูด บางทีเขาอาจจะทำให้พวกนักเรียนสนใจมาห้องสมุดมากขึ้น
"วิเศษไปเลย,เออใช่ ตอนนี้ฉันอยู่ในวอชังตัน เเละจะอยู่ที่นี่อีกประมาณ 2 วัน คุณพอจะมีเวลาว่างหรือไม่ ฉันอยากจะพบคุณเพื่อพูดคุยบางอย่าง"เเจ็คสันได้กล่าวถามออกมา
"จริงงั้นหรอ?เจ้าอยู่ที่วอชิงตัน?หากข้ามีเวลาว่างเเน่นอนว่าข้าจะไปหาเจ้าเเน่นอน เเต่หากเจ้าว่างเจ้าก็สามารถเดินทางมาหาข้าได้"ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันที่บอกว่าตอนนี้อยู่ในวอชิงตัน ธอร์กล่าวตอบอย่างตื่นเต้น
"อืม,ฉันจะไปหาคุณพรุ่งนี้ ว่าจะไปทักทายคุณฟอสเตอร์ด้วย"
"เข้าใจล่ะ"
หลังจากนั้นเเจ็คสันก็วางสายโทรศัพท์
เนื่องเพราะธอร์ไม่สามารถกลับไปที่เเอสการ์ดได้ เจนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากสอนสิ่งต่าง ๆเกี่ยวกับโลกใบนี้ให้ธอร์รู้จัก
"ฉันควรจะช่วยธอร์ฟื้นพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาดีรึไม่? ฉันจะเเน่ใจได้อย่างไรว่าหากเขาได้รับพลังเทพเจ้าสายฟ้าคืนเขาจะยินยอมปกป้องพิทักษ์โลกนี้?"หลังจากวางสายเเจ็คสันได้นอนเอนตัวลงบนเตียงเเละกล่าวกระซิบกระซาบเห็นได้ชัดว่าเขากำลังไตร่ตรองอยู่
ความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าในภาพยนต์ มาร์เวล นั้น ไม่ใช่ธรรมดา อาจเรียกได้ว่าเเข็งเเกร่งอย่างมาก เเม้ด้านพละกำลังของเทพเจ้าสายฟ้าเเทบจะไม่ต่างจากฮัลค์ ก็ตามเเต่โดยรวมถือว่าเด็ดขาดกว่า ตั้งเเต่ที่เเจ็คสันได้รับมิตรภาพที่ดีจาก ธอร์ เขาก็เริ่มครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดตั้งทีม หรืออื่น ๆ เพียงเเต่ว่าหากเขาตัดกำลังคนไป การก่อตั้งพันธมิตรอเวนเจอร์สของนิค ก็คงจะประสบความสำเร็จได้น้อยลงมาก
"ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีเเล้วกัน,ตั้งเเต่ที่โอดินได้เนรเทศธอร์เขาก็คงจะมีความเชื่อมั่นว่าธอร์จะสามารถฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโลกิ ไม่รู้ว่าองค์ชายรองคนนี้จะมีเเผนอย่างไรบ้าง..."เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิดอย่างช้า ๆ
...
ในขณะที่เเจ็คสันอยู่ที่บ้านครอบครัวของลุง/ภายในวอชิงตันบนอารามที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
"ขอเเสดงความเคารพต่อการมาถึงของฝ่าบาทโลกิ"มาสเตอร์ หยุนเหมิง กล่าวออกมา เธอจ้องมองไปที่รูปร่างของชายร่างบอบบางที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเธอ
"อ่าไม่ต้องมากพิธี มาสเตอร์ หยุนเหมิง,ไม่ทราบว่า มาสเตอร์ เอนเชี่ยน วัน พอจะมีเวลาว่างตอนนี้รึไม่ ข้าต้องการเข้าพบ"ใบหน้าของชายหนุ่มผู้หน้ารักได้กล่าวบอกต่อ มาสเตอร์ หยุนเหมิง ในปัจจุบัน
บุคคุลที่ มาสเตอร์ หยุนเหมิง กล่าวเรียกว่าฝ่าบาทโลกินั้น เขาก็คือ เจ้าชายเเห่งเเอสการ์ด ไม่รู้ว่าเขาปรากฏตัวขึ้นที่โลกนี้ได้อย่างไร เเต่เขาไม่ได้เพื่อตามหาพี่ชายของตัวเอง ธอร์ เขากลับเลือกมายังสถานที่เเห่งนี้เเทน
"ฝ่าบาทโลกิ ท่านอาจาร์ย ได้รับรู้การมาถึงของท่านเเล้ว คาดว่าไม่นานท่านก็คงจะมาต้อนรับท่านด้วยตัวเอง"เผชิญหน้ากับโลกิ หยุนเหมิง ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
อันที่จริงพวกจอมขมังเวทย์เหล่านี้ต่างก็มีพลังที่สืบทอดมารุ่นต่อรุ่นพวกเขามีพลังเเละกำลังรบไม่ได้ด้อยไปกว่านักรบชาวเเอสการ์ดเเต่เหตุผลที่หยุนเหมิงให้ความเคารพต่อโลกิเพราะเขาคือเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดหรือก็คือบุคคลสำคัญ นอกจากนี้ เป็นเพราะ เธอสำผัสได้ถึงพลังงานเวทย์มนตร์ที่น่าเกรงกลัวของโลกิเธอจึงค่อนข้างให้ความเคารพ
"โอ้ว,เช่นนั้นข้าจะรั้งรออยู่ที่นี่"ได้ยินคำตอบของ หยุนเหมิง โลกิ ได้เก็บชายชุดกางเกงของเขาก่อนที่จะทรุดตัวนั่งลงบนพื้นที่ห้องนั่งเล่น หยุนเหมิง เองก็รีบไปหาน้ำมาเพื่อรินให้กับโลกิทันที
เพียงเเต่ว่าโลกิได้รั้งนั่งรออยู่ที่นี่นานกว่าสองชั่วโมงดูเหมือนคำกล่าวของหยุนเหมิงนั้นจะเป็นคำโกหกท้ายที่สุดโลกิก็ไม่สามารถรักษาความสุภาพของตัวเองเอาไว้ได้เขาได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้าวฝีเท้าออกจากห้องนั่งเล่นในที่สุดทันทีที่โลกิเคลื่อนไหวหยุนเหมิงก็จ้องมองไปที่เขาทันที