GE73 ทะเลสติกระบี่ ภูติผีที่ถึงคราวตาย [ฟรี]
เมื่อหนิงหงหงเห็นผู้เยาว์ผู้มีใบหน้าคุ้นเคยเดินออกมาจากทะเลเพลิงม่วง นางผ่อนคลาย มู่เหว่ยเหลียงเห็นหนิงฝานปลอดภัย นางแทบร่ำไห้
เพียงแต่ความเย็นชาของหนิงฝานทำให้จิตใจของพวกนางสั่นสะท้าน
พวกนางไม่มีเวลาให้กล่าวถามสิ่งใด เมื่อหนิงฝานเดินมาถึง เขานำเอาเมฆเซียนออกมา นำพวกนางขึ้นไว้บนเมฆเซียนแล้วยืนบังพวกนางไว้
“หงหง เจ้าพักผ่อนก่อน… เหว่ยเหลียง เจ้าช่วยข้าเก็บมุกภาวนา...”
แววตาของหนิงฝานเรียบเฉย ไร้ซึ่งความเย่อหยิ่ง แต่จากแววตาของเขาแล้ว ภูติผีเหล่านี้ไม่มีทางรอดกลับไปเด็ดขาด
เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ แหวนกระถางขัดเกลาสั่นไหว สัตว์อเวจีปรากฏ นางส่ายหัวไปมาอย่างเกียจคร้าน
ยามนี้ องค์หญิงเหม่ยฟื้นคืนพลังในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุดแล้ว แรงกดดันของนางแผ่ไปทั่วส่วนที่ 3 ของป่า ภูตผีที่สัมผัสได้ต้องเค้นพลังเพื่อป้องกัน
ผู้อาวุโสสองและผู้เชี่ยวชาญของเผ่าครามหวาดกลัวจนตัวสั่น
“องค์หญิงเหม่ย... นางฟื้นคืนพลังในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุดแล้ว! หนีเร็ว ในส่วนที่ 3 ของป่านี้ไม่มีผู้ใดเป็นคู่มือของนางได้”
ผู้เชี่ยวชาญเผ่าครามที่เหลืออยู่เร่งทะยานแยกย้ายจากไปอย่างรวดเร็ว
ในความคิดของพวกมันแล้ว เหม่ยเฉินนั้นทรงพลังมาก หากนางคิดจะไล่ตาม คงไล่ตามได้ทันในพริบตา พวกมันจึงเร่งทะยานหนีสุดชีวิต พวกมันโชคร้ายที่ต้องมาเผชิญกับผู้ที่ไม่อาจรับมือ
เพียงแต่หนิงฝานไม่ได้ให้เหม่ยเฉินลงมือ...เพราะไม่จำเป็น
“เจ้าอยู่นิ่งๆ...”
“ข้าก็ไม่อยากขยับเช่นกัน...”
ด้วยแรงกดดันของเหม่ยเฉิน ภูตผีทุกตนในส่วนที่ 3 ของป่าจะถูกผนึกพลังบางส่วน มู่เหว่ยเหลียงและหนิงหงหงก็รู้สึกว่าพลังของตนถูกจำกัด พวกนางไม่ทราบว่าเหตุใดหนิงฝานจึงได้อยู่ร่วมกับจักรพรรดิอสูรอย่างเหม่ยเฉิน ทั้งยังทำราวกับนางเป็นสัตว์เลี้ยงที่นอนขดอยู่ในอกเสื้อ
ด้วยแรงกดดันของเหม่ยเฉิน ทำให้พลังของผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางเหลือเพียงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูง
ผู้อาวุโสสองและสามเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสุดท้าย ระดับพลังของพวกมันจึงลดลงเหลือขอบเขตแก่นทองคำขั้นแรก
ภูตผีในขอบเขตแก่นทองคำหนีอย่างไม่คิดชีวิต พวกมันไปไกลกว่าหลายลี้ แววตาของหนิงฝานเผยประกาย ภายในทะเลสติปรากฏเสียงกระทบกันของกระบี่ ก่อนที่สัมผัสเทพที่ทรงพลังจะกวาดผ่านไปรอบทิศอย่างรวดเร็ว
สัมผัสเทพในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสุดท้ายของหนิงฝาน กวาดผ่านกินพื้นที่กว่า 300 ลี้อย่างรวดเร็ว แต่ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น!
ผู้เชี่ยวชาญตนอื่นๆนอกจากผู้อาวุโสสอง ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ราวกับถูกฟาดฟันด้วยกระบี่ จนโลหิตสาดกระจาย
แม้ผู้อาวุโสสองไม่ตายเหมือนภูตผีตนอื่นๆ แต่จิตวิญญาณของมันได้รับความเสียหายร้ายแรง มันทรุดตัวลงพื้น ไร้เรี่ยวแรงจะหลบหนี
หนิงฝานหันมองไปทางด้านหลัง จ้องมองผู้อาวุโสสองด้วยแววตาอาฆาต
“เป็นไปไม่ได้! เจ้าทำสิ่งใด? เหตุใดข้าถึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้? เหตุใดผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจำนวนมากถึงถูกสังหาร!”
หนิงฝานไม่ตอบ เขานำสัตว์อเวจีและสตรีทั้งสองนางไปหาเบื้องหน้าผู้อาวุโสสอง
“เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้...”
ใบหน้าผู้อาวุโสสองซีดขาวไร้โลหิต คำกล่าวของหนิงฝานเป็นเหมือนกระบี่ที่ทะลวงเข้ามาในร่างของมัน ทำให้มันเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
สำหรับผู้อาวุโสสองแล้ว หนิงฝานในยามนี้ยิ่งดูเป็นตัวตนที่ลึกลับและน่าหวาดกลัว มันจ้องมองหนิงฝานด้วยร่างกายที่สั่นเทา แววตาของหนิงฝานทำให้รู้สึกราวกับว่าเป็นลูกไก่ในกำมือ
“เจ้าทำอะไร... เจ้าสังหารผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากในพริบตา เจ้ามันคนเลว!” ผู้อาวุโสสองแผดเสียงคำรามด้วยน้ำเสียงที่แฝงด้วยความหวาดกลัว
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย ก่อนใช้กระบี่แยกสวรรค์แทงเข้าที่กลางอกของผู้อาวุโสสอง
ผู้อาวุโสสองกระอักโลหิตสีดำ ใบหน้าซีดขาวไร้โลหิต
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงอย่างมัน กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือของผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ... ไม่! มันจะตายแบบนี้ไม่ได้!
ยามนี้มันสูญสิ้นปราณ มันจึงขบฟันใช้วิชาลับ แยกจิตวิญญาณออกจากร่าง มุ่งตรงไปยังทะเลสติของหนิงฝานทันที
กลิ่นอายที่หนิงฝานสัมผัสได้ ช่างคล้ายกับทักษะยกระดับร่างกายของลี่สื่อหวน แต่อานุภาพของมันช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว!
“วิชายกระดับกาย... คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีวิชานี้เช่นกัน แต่ช่างน่าเสียดาย น่าเสียดาย...”
หนิงฝานประหลาดใจ เขาคาดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสสองจะครอบครองวิชายกระดับกาย
วิชายกระดับกายคือวิชาฝ่ายอธรรม หากจิตวิญญาณของผู้ที่ฝึกวิชายังไม่ถูกทำลาย คนผู้นั้นก็สามารถเคลื่อนเข้าไปยังทะเลสติของคู่ต่อสู้ ดูดกลืนจิตวิญญาณและยึดร่างเพื่อถือกำเนิดใหม่ได้
ดูคล้ายผู้อาวุโสสองตั้งใจจะทำเช่นนั้นกับหนิงฝาน แต่น่าเศร้าที่มันไม่อาจได้ดังหวัง
ผู้ฝึกตนที่น่าเกรงขาม แต่มีทะเลสติที่อ่อนแอ หากถูกศัตรูบุกจู่โจมถึงทะเลสติได้ คนผู้นั้นจะได้รับความเสียหายร้ายแรง
หนิงฝานไม่ได้ป้องกันวิชายกระดับกายของผู้อาวุโสสอง ปล่อยให้เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของมันเข้ามาในทะเลสติ
ผู้อาวุโสสองมีความสุขในความประมาทของหนิงฝาน ที่ปล่อยให้มันเข้าถึงทะเลสติได้
มันเย้ยหยัน หากมันยึดร่างของหนิงฝานได้ นอกจากมันจะได้เกิดใหม่ แต่มันยังจะเป็นมนุษย์และออกจากป่าแห่งภูติพรายแห่งนี้ได้ จากนั้น มันจะกลับคืนสู่โลกหยางได้อีกครั้ง!
แต่ทันทีที่จิตวิญญาณของมันเข้าสู่ทะเลสติของหนิงฝานอย่างมีความสุขนั้น มันกลับโศกเศร้าในทันที มันรู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นราด ความหวาดกลัวสุดขีดเข้าครอบงำ
“ปะ...เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้!” มันกรีดร้อง
“ยินดีต้อนรับ...” มุมปากของหนิงฝานยิ้มยก แสดงออกถึงการเย้ยหยัน
เหตุผลที่หนิงฝานปล่อยให้มันเข้ามาในทะเลสติได้นั้น เพราะทะเลสติของหนิงฝานแตกต่างจากคนทั่วไป
นั่นมันทะเลสติอะไร?
หากเป็นทะเลสติของคนทั่วไป ทะเลสติของคนผู้นั้นจะอยู่ในจิต พลังของจิตวิญญาณจะผันแปรกลายเป็นสัมผัสเทพ ผู้ฝึกตนสามารถขัดเกลาและเปลี่ยนให้ทะเลสติของตนกลายเป็นทะเลเพลิง ทะเลน้ำแข็ง หรืออีกหลายๆอย่างได้ไม่จำกัด
แต่ทะเลสติของหนิงฝานในยามนี้เป็น ‘ทะเลสติกระบี่’ ผิวทะเลสติมีกระบี่สีเงินขนาดเล็กจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เหนือทะเลสติขึ้นไปยังมีกระบี่หันคมลงมายังผิวทะเล ลอยเด่นประดับราวกับดวงดารา
ทะเลสติกระบี่! ทะเลสติที่แปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่มากมายนับไม่ถ้วน!
ทะเลสติกระบี่ของหนิงฝานนั้น ในอดีต มีเซียนที่แท้จริงอยู่น้อยคนที่จะมี นั่นหมายความว่า ทะเลสติกระบี่นี้เป็นประเภทที่หาได้ยาก... หนิงฝานได้กลืนกินเศษเสี้ยวปราณกระบี่สังหารเซียนเข้าไป ดูดซับพวกมันจนกลายเป็นพลังวิญญาณ ขัดเกลาให้ทะเลสติกลายเป็นทะเลสติกระบี่
แม้ทะเลสติของหนิงฝานจะเต็มไปด้วยปราณกระบี่ที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้น รูปร่างสัมผัสของเทพหนิงฝานก็แปรเปลี่ยนเป็นเหมือนกระบี่ ที่มีลักษณะคล้ายกระบี่สังหารเซียน ดังนั้น มันจึงได้ชื่อว่า ‘สัมผัสกระบี่’
โดยความเข้าใจทั่วไปแล้ว สัมผัสเทพไม่สามารถทำร้ายมนุษย์ได้ แต่สัมผัสกระบี่ สามารถสังหารมนุษย์ได้อย่างไร้ร่องรอย แม้จะอยู่ห่างออกไปพันลี้ ก็ไม่อาจรอดพ้นสัมผัสกระบี่ไปได้
ลักษณะของหนิงฝานในยามนี้ เขายืนนิ่งเอามือไพล่หลัง แต่สัมผัสกระบี่ในขอบเขตแก่นทองคำของเขากลับเคลื่อนไหว
สัมผัสกระบี่สามารถเสริมอานุภาพให้กับปราณกระบี่ได้ แต่ด้วยที่หนิงฝานเพิ่งบรรลุ เขาจึงยังไม่อาจควบคุมมันได้อย่างอิสระ แต่ถึงอย่างนั้นยามนี้ สัมผัสกระบี่ที่มีก็เพียงพอให้สังหารผู้อาวุโสสองได้
จิตวิญญาณของหนิงฝานที่อยู่ในทะเลสติเผยจิตสังหาร จิตวิญญาณของผู้อาวุโสสองเผยสีหน้าหวาดกลัวและโศกเศร้า
มันไม่ควรยั่วยุหนิงฝาน ไม่ควรใช้วิชายกระดับร่างกาย และไม่ควรเข้าสู่ทะเลสติของหนิงฝาน
แต่ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกใช้วิชายกระดับร่างกาย นำจิตวิญญาณของตนเข้าสู่ทะเลสติของหนิงฝาน พวกมันย่อมมีจุดจบไม่ดีนัก บางทีในอนาคต สัมผัสกระบี่ของเฉินเซี่ยงอาจสังหารผู้เชี่ยวชาญได้
“ปะ...ปล่อยข้าไปเถอะ...” ผู้อาวุโสสองสั่นสะท้าน มันร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว
ดวงตาของหนิงฝานแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา สัมผัสกระบี่เคลื่อนไหวเข้าสังหารจิตวิญญาณของผู้อาวุโสสอง กระทั่งมันกลายเป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงทะเลสติของหนิงฝาน...
“นี่มุกภาวนา...” มือน้อยๆชองมู่เหว่ยเหลียนสั่นเทา นางยื่นส่งมุกภาวนาที่เก็บมาได้ให้หนิงฝาน
นางหวาดกลัวหนิงฝาน หนิงฝานในยามนี้ดูราวกับกระบี่ ทั้งยังให้ความรู้สึกแปลกๆบางอย่างกับนาง
“ไม่ต้องกลัว...”
หนิงฝานมองมู่เหว่ยเหลียง เขายิ้มให้นางแล้วลูบศีรษะนางเบาๆ
แววตาที่หนิงฝานจ้องมองนางไม่ได้เฉียบคมเหมือนกระบี่ แต่เป็นความอ่อนโยน
เมื่อเก็บมุกภาวนาทั้งหมดแล้ว หนิงฝานก็กระโดดขึ้นเมฆเซียน อุ้มสัตว์อเวจีแล้วมุ่งหน้าตรงไปยังเผ่าคราม
รอยยิ้มที่หนิงฝานมอบให้นางเมื่อครู่ ทำให้นางสบายใจและคลายความกังวล
ยามนี้หนิงฝานไม่ได้สกดกลิ่นอายของมนุษย์ เขานำสัตว์อเวจีออกมาอย่างเปิดเผย ทั้งยังแผ่สัมผัสเทพไปในรัศมี 300 ลี้ จนไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสัมผัสของเขา
ยามนี้หนิงฝานตั้งใจจะจู่โจมเผ่าคราม เช่นนั้นแล้ว เหตุใดเขาต้องหลบซ่อน?
หลังจากผสานกับปราณกระบี่สังหารเซียน นอกจากทะเลสติของหนิงฝานจะแปรเปลี่ยนเป็นทะเลกระบี่ สัมผัสเทพของเขายังบรรลุขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูง
แม้เป็นสัมผัสเทพเพียงสิ่งเดียวที่ยกระดับ แต่นั่นก็ทำให้ร่างวิญญาณของหนิงฝาน ยกระดับสู่ขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงเช่นกัน ดังนั้นในส่วนที่สามของป่านี้ ความแข็งแกร่งของหนิงฝานจึงนับว่าเกือบแข็งแกร่งกว่าภูติผีทั้งหมด
ยิ่งเมื่อมีสัตว์อเวจีข้างกาย ต่อให้เป็นภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูงสุด พวกมันก็ใช้พลังได้เพียงขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูง
หนิงฝานตั้งใจจะจู่โจมส่วนที่ 3 ของป่า และเป้าหมายแรกคือเผ่าคราม!
“วันนี้ เผ่าครามต้องถูกลบไปจากป่า...”
หนิงฝานกล่าวคำเย่อหยิ่ง แต่การมีกระบี่แยกสวรรค์และร่างวิญญาณในครอบครอง เขาก็ควรค่าพอให้กล่าวแบบนั้น
การที่ผู้อาวุโสใหญ่ใส่ประกาศิตสังหารกับหนิงฝาน นับเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์
ยามนี้หนิงฝานบังคับเมฆเซียนให้ลอยอย่างเชื่องช้า รอให้ภูติผีตัวอื่นๆเข้ามารนหาที่ตาย
เหล่าภูติผีไม่ทราบว่าหนิงฝานเกี่ยวพันกับเหม่ยเฉินยังไง แต่ยามนี้ พวกมันรู้ดีว่าหนิงฝานไม่ปล่อยพวกมันไปแน่
ระหว่างทางที่มุ่งไปเผ่าคราม หนิงฝานพบภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำขั้นต้นหลายตัว พวกมันกำลังทะยานมา
“ฮ่าฮ่า! องค์หญิงเหม่ยอยู่นี่นี่จริงๆ! สังหารนาง แล้วไปรับสมบัติจากจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่!”
“ละเว้นชีวิตของมนุษย์นั่นไว้ ให้จักรพรรดิปีศาจสังหารมันด้วยตนเอง!”
“สตรีอาภรณ์ขาวช่างงดงามนัก ข้าอยากได้นาง!”
“ส่วนข้าอยากได้สตรีอาภรณ์แดง!”
ภูติผีที่มาไม่รู้ว่า หากพวกมันก้าวเข้าสู่รัศมี 300 ลี้แล้ว พวกมันก็ไม่ต่างจากคนตาย เพราะพวกมันอยู่ในระยะสัมผัสของหนิงฝาน
“ตายซะ...”
เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ ภูติผีที่มาก็ถูกสังหาร ทะเลสติของพวกมันถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ร่างของพวกมันร่วงหล่นสู่พื้นดิน มุกภาวนาที่ปรากฏลอยเข้าหาหนิงฝาน
ไกลออกไป 500 ลี้... ชายชราผู้เป็นอาวุโสใหญ่ของเผ่าแดงได้ใช้สัมผัสเทพเฝ้าจับตามองหนิงฝาน มันตกตะลึงกับฉากที่เกิดขึ้น กระทั่งสีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
มันเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ เป็นตัวตนที่สูงชั้นกว่าภูติผีมากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันหวาดกลัวผู้เยาว์ในขอบเขตประสานวิญญาณ
“เป็นไปไม่ได้... เหตุใดผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณขั้นสูงจึงสังหารภูติผีในขอบเขตแก่นทองคำได้ในพริบตา! นี่มันช่าง...ไร้เหตุผลสิ้นดี!”
เดิมทีมันคิดหวังเข้าจู่โจมหนิงฝาน แต่เมื่อเห็นฉากที่เกิดขึ้น มันจะกล้าจู่โจมได้อย่างไร
มันตัดสินใจได้ทันทีว่า นอกจากมันจะไม่ลงมือกับหนิงฝาน มันยังจะบอกให้ภูติผีในเผ่าของมันหนีห่างจากหนิงฝาน
“คนผู้นั้นมิอาจยั่วยุได้!”
มันส่ายหัวอย่างหนักแน่น และยกให้หนิงฝานเป็นผู้ที่ภูติผีไม่ควรเข้าใกล้มากที่สุด
ขนาดประกาศิตสังหารของเผ่าครามยังสังหารไม่ได้ ขนาดจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่ยังลงมือสังหารไม่ได้ เช่นนั้นก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่มันต้องยื่นมือไปเกี่ยวข้อง! อีกอย่าง เผ่าแดงของมันก็มิได้พักดีต่อจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่
เพียงแต่สิ่งที่มันสะดุดตาคือสตรีสองนางที่อยู่บนเมฆเซียน ซึ่งก็คือมู่เหว่ยเหลียงและหนิงหงหง มันรู้สึกคุ้นตาพวกนางอย่างบอกไม่ถูก แต่มันก็ส่ายหน้าและไม่สนใจอีก
มันเร่งถอยห่างอย่างรวดเร็ว เพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน... ผู้อาวุโสใหญ่ของเผ่าแดงอย่างมัน ถึงกับต้องถอยหนีด้วยความหวาดกลัว!...