ตอนที่ 175 หลิงฮันพิโรธ
ออร่าอันเย็นเยือกถูกปลดปล่อยออกมาจากหลิงฮันในขณะที่เขาก้าวเดินไปปัดป้องการโจมตีของชายทั้งสี่
เขากำลังแส่หาความตาย?
การโจมตีผสานของจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุสี่คน หากเป็นจอมยุทธระดับรวมธาตุ แค่จะหลบหรือวิ่งหนีก็ไม่อาจทำได้แล้ว แต่หลิงฮันกลับก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับการโจมตีแบบซึ่งๆหน้า เขาไปเอาความกล้าหาญขนาดนั้นมาจากไหน?
ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงพลังปะทะกันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของผู้ชมกลายเป็นตกตะลึง
พวกเขามองเห็นร่างสี่ร่างกระเด็นออกไปด้วยแรงปะทะอันรุนแรง และร่างทั้งสี่จะเป็นใครได้หากไม่ใช่เหล่าเทวทูตพิทักษ์ของเฟิงหยาง?
หลิงฮันไม่หยุดชะงักแม้แต่น้อย เขาก้าวไปถึงยังจุดเหนือศีรษะของเฟิงหลัว ‘ปัง’ เท้าของเขากระทืบอย่างรุนแรงลงไปที่ศีรษะของมัน
ตุบ!
ศีรษะของเฟิงหลัวถูกกดลงไปกับพื้นและถูกบังคับให้คุกเข่าโดยนำแขนทั้งสองพาดเอาไว้ด้านข้าง
‘อัก!’ ร่างของหลิงฮันทรุดลงไปที่พื้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมา
นั่นไม่ใช่เพราะเขาถูกเทวทูตพิทักษ์ทำให้บาดเจ็บ แต่เพราะเขาทำร้ายตัวเองเพื่อกระตุ้นทักษะโลหิตหมาป่าเดียวดาย
บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความเงียบสงัด
จอมยุทธระดับรวมธาตุสามารถจัดการจอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุสี่คนได้ ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้น? ใครจะยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้? แม้หลิงฮันจะได้รับบาดเจ็บและกระอักเลือดออกมา มันก็ไม่ได้บดบังรัศมีอันทรงพลังของเขาแม้แต่น้อย
มันจะสุดยอดเกินไปหน่อยรึเปล่า?
หลิงฮันยิ้มอย่างสงบและพูด “ตอนนี้ไม่มีแมลงวันมาบินไปมาให้รำคาญแล้ว โลกช่างเงียบสงบกว่าเดิมมากจริงๆ”
“หลี่เฮ่า!” เมื่อสักครู่จูเสวี่ยอี้ปิดหน้าของนางเพราะทนเห็นหลี่เฮ่าถูกทำให้พิการด้วยน้ำมือของเฟิงหลัวไม่ได้ แต่เมื่อนางได้ยินเสียงตกตะลึงของผู้คนรอบข้าง นางได้เปิดตาออกมาและเห็นว่าไม่ใช่เพียงหลี่เฮ่าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เฟิงหลัวยังถูกจัดการอีกด้วย นางไม่สามารถปกปิดความรู้สึกดีใจและพุ่งไปหาหลี่เฮ่า
หลิงฮันช่วยพยุงหลี่เฮ่าขึ้นมา “ข้าทำให้เจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เสียแล้ว”
“พวกเราเป็นสหายกันไม่ใช่รึ?” หลี่เฮ่าถาม
“ฮ่าๆ ใช่แล้ว พวกเราคือสหาย!” หลิงฮันตบไหล่ของหลี่เฮ่า ก่อนหน้านี้ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าอยากจะช่วยให้หลี่เฮ่าประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่หลังการเหตุการณ์ในวันนี้เป็นต้นไป เขาจะยอมรับว่าหลี่เฮ่าเป็นสหายของเขาอย่างแท้จริง
เพื่อสหายของเขาแล้ว หลิงฮันจะทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเหลือ
“เสวี่ยอี้ ฝากดูแลหลี่เฮ่าด้วย ข้ายังมีหนี้แค้นที่ต้องสะสาง!” หลิงฮันพูดอย่างมืดมน หลี่เฮ่าถูกทำร้ายอย่างสาหัส เขาคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนในการพักผ่อนและฟื้นตัว
“หลิงฮัน เจ้ารู้รึเปล่าว่ากำลังทำอะไร?” สี่เทวทูตพิทักษ์เดินเข้ามาข้างหน้าเขาและพูดอย่างองอาจ พวกมันทุกคนปลดปล่อยแรงกดดันที่ทรงพลังออกมาข่มขู่หลิงฮัน
พวกมันถูกทำให้กระเด็นออกไปโดยแรงปะทะที่รุนแรงเท่านั้น พวกมันไม่ได้บาดเจ็บอะไร
ดวงตาของหลิงฮันกวาดมองพวกมันและพูด “เจ้าควรรู้สึกโชคดีนะเพราะที่นี่คือในสำนัก ข้าจะลงมือเพียงแค่ให้เจ้าพิการ และปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอด!”
“ช่างอวดดี!” เทวทูตพิทักษ์ทั้งสี่ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
เจ้าเด็กนี่ช่างอวดดียิ่งนัก ควรรู้ก่อนว่าถึงแม้พวกมันจะถูกทำให้กระเด็นด้วยกระบวนท่าเดียว แต่นั่นก็เพราะพวกมันประมาทและดูถูกความสามารถของหลิงฮันเกินไป หากดูให้ดีจะเห็นว่าพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
“ปล่อยตัวนายน้อยหลัวซะ!” หนึ่งในสี่เทวทูตพิทักษ์พูด สี่เทวทูตพิทักษ์เหล่านี้แต่ละคนถูกตั้งฉายาว่า พยัคฆ์ คชสาร เสือดำ และหมาป่า ส่วนคนที่พูดขึ้นมาคือเทวทูตพิทักษ์คชสาร
“โอ้ พอพวกเจ้าพูด... ข้าก็นึกออกพอดีเลย” หลิงฮันยิ้ม เขาใช้เท้าเตะไปที่ก้นของเฟิงหลัวและพูด “นี่คือเจ้านายของพวกเจ้าสี่สุนัขสินะ! เอาล่ะ คุกเข่าทักทายเจ้านายของพวกเจ้าซะ!”
“ว่าไงนะ!” สี่เทวทูตพิทักษ์จ้องมองด้วยความโกรธ เขาอยากจะให้พวกมันคุกเข่ารึ?
“อะไร? แค่คุกเข่าเพื่อเจ้านายก็ทำไม่ได้?” หลิงฮันพูดพร้อมกับชักดาบออกมา “งั้นหากข้าอารมณ์ไม่ดี ใครจะรู้ล่ะข้าอาจจะตัดแขนของมันทิ้งซักข้างเพื่อระบายความไม่พอใจก็ได้”
สี่เทวทูตพิทักษ์ตะลึง ที่จริงพวกมันไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับเฟิงหลัวแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างไรเฟิงหลัวก็เป็นน้องชายของเฟิงหยาง พวกมันได้รับคำสั่งจากเฟิงหยางว่าให้คุ้มครองและปกป้องเฟิงหลัว ถ้าเฟิงหลัวถูกทำให้พิการต่อหน้าต่อตาพวกมัน พวกมันจะมีหน้าไปพบกับเฟิงหยางได้อย่างไร?
“อาจารย์หยาน เจ้าเด็กนั่นคิดจะกระทำการรุนแรงในที่สาธารณะ ข้าอยากจะขอให้อาจารย์หยานเข้าไปหยุดเขาที!” หมาป่าแห่งเทวทูตพิทักษ์พูดกับอาจารย์ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้าง
อาจารย์หยานผู้นี้เองก็อยู่ในระดับก่อเกิดธาตุ แต่สถานะของเขานั้นต่างออกไป คำว่า’อาจารย์’ของสำนักหู่หยางนั้นแน่นอนว่าไม่ธรรมดาและควรค่าแก่การเคารพ
อาจารย์หยางไม่พอใจเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ ตอนที่เฟิงหลัวใช้สถานะของมันในการทุบตีหลี่เฮ่าและเมินเฉยกฎของสำนักนั้นทำให้อาจารย์หยานโมโหเป็นอย่างยิ่ง แต่อย่างไรเขาก็ถูกสั่งให้ร่วมมือกับการกระทำของเฟิงหลัวทุกๆอย่าง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเก็บความขุ่นเคืองใจเอาไว้ในใจ
เมื่อเขาเห็นหลิงฮันกระทืบเฟิงหลัวลงกับพื้น เขารู้สึกมีควาสุขเป็นอย่างยิ่งแถมยังแอบยกย่องหลิงฮันอยู่ในได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเฟิงหลัวกับพรรคพวกของมันจะหน้าด้านขนาดนี้ ในตอนที่พวกมันฝ่าฝืนกฎของสำนัก พวกมันทำตัวราวกับเขาไม่อยู่ที่นี่ แต่พอผู้อื่นฝ่าฝืนกฎบ้าง พวกมันกลับโยนเรื่องมาให้เขา
เขาไม่อยากจะนำตัวเองเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆ แต่เมื่อเขานึกถึงคำสั่งที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ เขาทำได้เพียงถอนหายใจและพูด “หลิงฮัน การทำร้ายผู้อื่นในพื้นที่ของสำนักเป็นสิ่งต้องห้าม เจ้าจะไม่ปล่อยตัวเฟิงหลัวรึ?”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ดังออกไป ผู้คนได้กลายเป็นเอะอะในทันที
หมายความว่าอย่างไร? ก่อนหน้านี้ตอนที่เฟิงหลัวทำร้ายหลี่เฮ่า ทำไมเขาไม่พูดเช่นนี้ออกมา?
“ที่นี่ยังเรียกว่าสำนักอยู่รึเปล่า?”
“ไม่สิๆ ที่นี่ยังเป็นสำนักหู่หยางแห่งแคว้นพิรุณอยู่รึเปล่า? ทำไมข้ารู้สึกเหมือนกับสำนักแห่งนี้เป็นของตระกูลเฟิงเลย?”
“ใช่แล้ว ต่อให้เป็นองค์หญิงหรือองค์ชายก็ต้องเคารพกฎเมื่อพวกเขาอยู่ในสำนัก หรือว่าเฟิงหยางกับเฟิงหลัวจะมีสถานะสูงยิ่งกว่าตระกูลจักรพรรดิของแคว้นพิรุณ?”
“เหอะ ข้าไม่ยอมรับ!”
“ข้าด้วย!”
ผู้คนรอบข้างเริ่มตะโกนออกมา วันนี้คนที่โดนคือหลี่เฮ่า แต่วันข้างหน้าอาจจะเป็นพวกเขาก็ได้ เมื่อไม่มีกฎคอยคุ้มครอง ผลที่ก็ตามมาจะขยายกว้างขึ้น จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะรู้สึกหวาดกลัวและหวาดหวั่นที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง
อาจารย์หยานกลายเป็นไร้คำพูด เขารู้สึกผิดมาตั้งแต่แรกแล้ว และตอนนี้ยังไม่สามารถแสดงความถูกต้องออกไปได้อีก
ด้านหนึ่งเขาคำสั่งจากเบื้องบน ส่วนอีกด้านหนึ่งเขาก็มีจรรยาบรรณของอาจารย์ และเมื่อคำสั่งกับจรรยาบรรณขัดแย้งกัน เขาจึงถอนหายใจและพูด “ข้าไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว!” เขาหันหลังเดินจากไปและไม่คิดจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้อีก
สี่เทวทูตพิทักษ์หน้าถอดสี และเค้นเสียงดูถูก
“หลิงฮัน เจ้าต้องการอะไรถึงยอมปล่อยนายน้อยหลัว?” เทวทูตพิทักษ์คชสารถาม
หลิงฮันจ้องไปที่มันและพูด “ง่ายมาก มันทำให้สหายข้าบาดเจ็บสาหัส แถมยังคิดจะตัดแขนข้างหนึ่งของสหายข้าด้วย เช่นนั้นข้าจะทุบตีมันให้เกือบตายและตัดแขนทั้งสองข้างของมัน... เพียงเท่านั้นพอ”
“เจ้าล้ำเส้นเกินไป!” เทวทูตพิทักษ์หมาป่าตะโกนอย่างเกรี้ยวกร้าว
หลิงฮันยิ้มอย่างสงบ “ข้าเป็นคนประเภทที่จะแก้แค้นแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ใครก็ตามที่ทำลายหนึ่งนิ้วของข้า ข้าจะทำลายหนึ่งแขนของมันเป็นการแก้แค้น ครั้งนี้ข้าเพียงแค่เพิ่มบทลงโทษเป็นเท่าตัว นั่นนับว่าข้าเมตตาแล้ว!”
“เจ้ากล้ารึ!” สี่เทวทูตพิทักษ์พุ่งเข้าใส่หลิงฮันพร้อมกัน พวกมันต้องการกระหน่ำโจมตีเข้าไปจนหลิงฮันไม่สามารถหาโอกาสลงมือกับเฟิงหลัวได้ ตราบใดที่พวกมันสามารถช่วยเหลือเฟิงหลัวได้แล้ว... หลิงฮันที่มีพลังเพียงระดับรวมธาตุ ไม่ว่าเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดขนาดไหนก็ตาม เขาจะทำอะไรได้?
หลิงฮันสะบัดเท้าเขี่ยเฟิงหลัวขึ้นมาจากฟื้น เขาคว้าตัวเฟิงหลัวขึ้นมาและจับมันหันไปรอบๆเพื่อใช้เป็นอาวุธในการป้องกันการโจมตีของสี่เทวทูตพิทักษ์
เมื่อเขาใช้อาวุธมนุษย์ สี่เทวทูตพิทักษ์ก็ไม่กล้าที่จะโจมตีและถอยหลังกลับไป
ในขณะนี้ ชายหนุ่มที่มีพลังเพียงระดับรวมธาตุกำลังแสดงอำนาจออกมาโดยการบังคับให้จอมยุทธระดับก่อเกิดธาตุทั้งสี่ถอยหลังกลับไปอย่างน่าสมเพช
“น่ารังเกียจ! ไร้ยางอาย!” สี่เทวทูตพิทักษ์ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ