ตอนที่172 ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต
ความหมายของการเป็นสหายกับหลิงฮันก่อนหน้านี้กับหลังจากนี้นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แม้แต่นักปรุงยาระดับดำขั้นกลางยังต้องเรียกหลิงฮันว่านายน้อยด้วยความเคารพ การเป็นสหายกับหลิงฮันนับว่าเป็นเกียรติอย่างแท้จริง!
ครอบครัวของเจียงเฟยหยานและตัวของเจียงเฟยหยานรู้สึกยินดีกับคำพูดของหลิงฮันเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ป้าหนึ่งและป้าสองนั้นกำลังเข้าไปใกล้หลิงฮันอย่างน่าไม่อาย “นายน้อยฮัน ฮวาเหลียนบุตรของข้า กับหยวนเอ๋อร์เป็นเด็กดีทั้งคู่ พวกเขาต้องเป็นสหายที่ดีต่อนายน้อยหลิงแน่ๆ” ป้าหนึ่งพูด
“ใช่แล้วๆ พวกเขาต้องเป็นสหายที่ดีแน่ๆ” ป้าสองรีบพูดเสริม
พวกนางช่างหน้าด้านยิ่งนัก
หลิงฮันถามอย่างเยือกเย็น “ข้ารู้จักเจ้ารึ?”
ป้าหนึ่งกับป้าสองไร้คำพูดในทันที ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ พวกนางคงไม่แยแสหลิงฮันแล้ว แต่ตอนนี้ พวกนางไม่กล้าพูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว พวกนางส่งสัญญาณสายตาบางอย่างไปทางเจียงเฟยหยาน โดยหวังว่านางจะช่วยพูดแทนให้
ถ้าบุตรของพวกนางสามารถเป็นสหายกับหลิงฮันได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ในเมืองจักรพรรดิหรอกรึ?
“พวกเจ้าไสหัวไปได้แล้ว!” หลิงฮันพูดอย่างหมดความอดทน
ป้าหนึ่งกับป้าสองจะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร? พวกนางแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้ยินคำพูดนั้นและคิดจะตื้อหลิงฮันต่อ
หลิงฮันยิ้มอย่างเย็นชาและพูด “หรือพวกเจ้าอยากให้ข้าเรียกอู๋เชียนฟงและหยวนชู่กลับมาชำระหนี้เก่ากับพวกเจ้า?” แค่ยอมปรานีพวกมันก็ถือว่าเขาไว้หน้าจิงหวู่จื้อแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกนางคงโดนเขาตบไปนานแล้ว
เมื่อได้ยินคำขู่ของหลิงฮัน ป้าหนึ่งและป้าสองทำได้เพียงลากบุตรของพวกนางกลับไปอย่างไม่เต็มใจ
หลิงฮันนั่งเก้าอี้และดื่มกับจิงหวู่จื้อและคนอื่นๆต่ออีกสักพักก่อนที่จะขอตัวกลับ เหตุผลแรกเลยเพราะบรรยากาศนั้นอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง สถานะของเขาที่จู่ๆก็พุ่งสูงขึ้นมาทำให้จิงหวู่จื้อและคนอื่นๆทำตัวสงบเสงี่ยมเกินไป เหตุผลที่สองคือ เขาอยากจะรีบกลับไปศึกษาสิ่งที่ได้มาจากอู๋เชียนฟง
หลิงฮันกลับไปสำนักพร้อมกับฮูหนิวอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องพบกับท่าทางที่ท้าทายเขาจากลิ่วลู่เอ๋อ หลิงฮันจึงปิดประตูอย่างมิดชิด และเพียงใช้ความคิดเดียว สิ่งของบางอย่างก็ปรากฏออกมาจากแหวนมิติ
มันเป็นสิ่งของบางอย่างที่มีสีดำ บางและยาว เมื่อมันปรากฏขึ้นมา มันขยับเขยื้อนเล็กน้อยก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่หลิงฮันราวกับเป็นลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันศร
สิ่งนั้นเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก มันรวดเร็วถึงขนาดอู๋เชียนฟงยังไม่สามารถป้องกันตัวเองได้และต้องติดแหงกอยู่ในระดับบ่มเพาะพลังเดิมถึงสิบปี มันรวดเร็วถึงขนาดที่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณขั้นเจ็ดไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่ต้องพูดถึงหลิงฮันที่อยู่เพียงระดับรวมธาตุขั้นเจ็ดเลย
ฟุบ สิ่งๆนั้นได้พุ่งเข้าใส่ข้อมือของหลิงฮันและเจาะผ่านข้อมือของเขาเข้าไป
“หึ!” สีหน้าของหลิงฮันกลายเป็นเย็นชา และทันใดนั้นข้อมือของเขาก็มีเปลวเพลิงปะทุออกมา “เจ้ากล้าดีอย่างไร ในเมื่อข้ามีความสามารถในการบังคับให้เจ้าออกมา มีรึที่ข้าจะหวาดกลัวเจ้า?”
สิ่งๆนั้นเริ่มพุ่งไปยังทิศทางต่างๆ มันยังพยายามสร้างรูบนร่างของหลิงฮันเพื่อเข้าไป อย่างไรก็ตาม ความพยายามทั้งหมดของมันก็ต้องถูกขวางกั้นโดยจิตวิญญาณเปลวเพลิง และในที่สุดมันก็ถูกหลิงฮันจับเอาไว้ได้อีกครั้ง ‘พรึบ’ จิตวิญญาณเปลวเพลิงแสดงอำนาจออกมาและเริ่มเผาไหม้สิ่งๆนั้น
สิ่งๆนั้นบิดไปมาเพื่อต่อต้าน มันเปลี่ยนรูปร่างจากตอนแรกจนกลายเป็นรูปร่างของอิฐบล็อก จากนั้นก็กลายเป็นดาบ กลายเป็นกระบี่ และแปลงเป็นสิ่งต่างๆเรื่อยๆไม่หยุด
“มันคือทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต” หลิงฮันยิ้ม
ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตไม่ใช่สัตว์อสูรหรือสิ่งมีชีวิตใดๆ มันคือแร่เหล็กที่พิเศษ อย่างไรก็ตาม แร่เหล็กชนิดนี้เป็นสิ่งที่แปลกมากเพราะมันชอบดูดกลืนโลหิตราวกับมันมีชีวิต แม้แต่หลิงฮันก็ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งนี้
แต่เคยมีคนคาดเดาเอาไว้ว่าเมื่อเหล็กชนิดนี้ดูดซับโลหิตจนถึงจุดๆหนึ่ง มันจะสามารถกลายเป็นสิ่งที่มีชีวิตและเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
และสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเหล็กชนิดนี้คือมันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระ เมื่อมันถูกหลอมเป็นอาวุธ อาวุธชิ้นนั้นจะสามารถเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆได้นับไม่ถ้วน! ในชีวิตที่แล้วของหลิงฮัน ‘กระบี่สะบั้นดวงตะวัน’ ที่เป็นอาวุธของหนึ่งในเจ็ดจอมยุทธระดับสวรรค์ จักรพรรดิกระบี่ตะวันนั้นถูกสร้างขึ้นจากทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต ในการต่อสู้ กระบี่เล่มนั้นสามารถดูดซับโลหิตจากจอมยุธเพื่อเพิ่มพลังของตัวมันเองได้อย่างไม่จำกัด มันเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตชิ้นนี้นั้นเล็กเกินไปและไม่สามารถหลอมเป็นอาวุธได้ แต่ถึงอย่างไร หลิงฮันก็สามารถใช้มันเปลี่ยนรูปร่างเป็นกุญแจได้
ในเมื่อมันสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระ นั่นก็หมายความว่ามันสามารถเปลี่ยนเป็นกุญแจที่สามารถปลดล็อกทุกสิ่งบนโลกได้
แค่นั้นยังไม่สุดยอดพอรึไง?
ในชีวิตที่แล้ว หลิงฮันเคยเห็นทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตที่อยู่ในมือของจักรพรรดิกระบี่ตะวันเท่านั้น และตอนที่เขาได้ยินเรื่องราวของอู๋เชียนฟง เขาได้คาดเดาถึงตัวตนของ ‘อสรพิษ’ เอาไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมช่วยรักษาสมาชิกของตระกูลอู๋โดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร?
ซึ่งเขาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ
“ย่า ยา ย้า!” จิตวิญญาณเปลวเพลิงส่งความคิดบางอย่างให้หลิงฮัน ดูมันเหมือนอยากจะหลอมแร่เหล็กชิ้นนี้ต่อ หลิงฮันสัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณเปลวเพลิงกำลังรู้สึกเหยียดหยามต่อทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต
แปลกยิ่งนัก
หากมันถูกหลอมจนละลาย จิตวิญญาณเปลวเพลิงจะสามารถได้ข้อมูลอะไรของทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตมารึไม่? แต่ถ้าเขาไม่หลอมมันมัน มันก็ไม่ฟังคำสั่งของเขาอยู่ดี แร่เหล็กชนิดนี้เต็มไปด้วยนิสัยกระหายเลือด มันเหมาะสมแล้วที่จะนำไปหลอมเป็นอาวุธ
เผาไหม้แล้วหลอมมัน... เขาจะลองดูว่าการทำเช่นนี้จะลบล้างนิสัยกระหายเลือดของมันได้รึไม่
หลิงฮันตัดสินใจยอมให้จิตวิญญาณเปลวเพลิงหลอมแร่ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตมา
อย่างไรก็ตาม ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตเป็นสิ่งที่จักรพรรดิกระบี่ตะวันชื่นชอบจนนำมาหลอมเป็นอาวุธ ความทนทานต่อไฟของมันจะต้องสูงมากแน่นอน มันเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยจากการเผาไหม้ของเปลวเพลิงจิตวิญญาณ แต่ไม่หลอมละลลายแม้แต่น้อย
ถ้าไม่ใช่เพราะเพลิงเป็นธาตุที่ได้เปรียบเหล็ก หลิงฮันคงไม่สามารถทำอะไรมันได้
เขาเพียงแค่ค่อยๆหลอมมันอย่างช้าๆ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถสยบแร่เหล็กนี้ได้
หลิงฮันนั่งลงในท่าขัดสมาธิ เขากระตุ้นปราณก่อเกิดในร่างให้เปลี่ยนเป็นความร้อนเพื่อช่วยจิตวิญญาณเปลวเพลิงหลอมทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต
แร่เหล็กเริ่มกลายเป็นอ่อนนุ่มอย่างช้าๆ จนมันในที่สุดก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นของเหลว
กระบี่สะบั้นดวงตะวันของจักรพรรดิกระบี่ตะวันนั้นอยู่ในระดับที่สูงมาก กระบี่เล่มนั้นคงกระพันต่อต่อการโจมตีจากภายนอกทุกอย่าง แม้แต่จักรพรรดิดาบที่เรียนรู้แก่นแท้แห่งดาบและสามารถผ่าสวรรค์กับปฐพีให้แยกออกจากกันได้ด้วยการตวัดดาบครั้งเดียวก็ยังไม่สามารถทำลายกระบี่เล่มนั้นได้
เหตุผลก็เพราะทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตมีความสามารถในการเติบโต มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นโดยการดูดซับโลหิต ในตอนนี้ ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตขนาดเท่าอิฐบล็อกยังไม่ได้ดูดซับโลหิตเข้าไปเท่าไหร่ ดังนั้นมันจึงทำอะไรจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณขั้นเจ็ดไม่ได้ ตลอดสิบปีที่ผ่านมามันไม่สามารถดูดซับโลหิตจากเหยื่อของมันได้ ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่ามันยังอ่อนแออยู่
ไม่เช่นนั้นหากมันอยู่ในระดับเดียวกันกับกระบี่ของจักรพรรดิกระบี่ตะวัน หลิงฮันจะต้องหันหลังเผ่นหนีไปยังทิศตรงข้ามแน่นอน เขาจะไปต่อต้านสิ่งชั่วร้ายเช่นนั้นด้วยพลังของเขาตอนนี้ได้อย่างไร?
หลังจากหลอมแร่เหล็กทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตก็กลายเป็นของเหลวที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อีกต่อไป
สีหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาเริ่มแพร่กระจายสัมผัสสวรรค์เข้าไปในทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต
การจะทำให้ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตเปลี่ยนเป็นรูปร่างที่เขาต้องการ เขาต้องใช้สัมผัสสวรรค์เจาะทะลุเข้าไปข้างใน
ฟึบ ทันใดนั้นสัมผัสสวรรค์ของหลิงฮันก็เข้าไปในโลกที่มืดมิด เสียงอันรุนแรงของการต่อสู้ดังเข้ามาในหูของเขา เมื่อภาพข้างหน้าเริ่มสว่างขึ้น เขามองเห็นผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังโจมตียักษ์ตัวหนึ่ง
ยักษ์ตัวนั้นดูมั่นคงและทนทาน ทั่วร่างของมันเป็นโลหะเงาแวววับ ร่างของมันแข็งทนทานเป็นอย่างมาก เพราะว่าแม้จะถูกการโจมตีผสานของผู้คนนับพัน ร่างกายของมันก็ปรากฏรอยเว้าเพียงเล็กน้อยและคืนสภาพเดิมในทันที
หลิงฮันตกตะลึง ร่างกายของยักษ์ตัวนั้นทั้งตัวถูกสร้างขึ้นมาจากทองคำก่อเกิดผลาญโลหิต!