บทที่ 37 นิ่งเข้าไว้ 4 (2) [อ่านฟรี]
บทที่ 37 นิ่งเข้าไว้ 4 (2)
ล็อกรู้ตัวดีว่าตัวเขายังขาดคุณสมบัติหลายอย่างที่จะถูกเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็มีน้องๆอีก 10 คนที่เขาต้องการที่จะปกป้องและดูแลในตอนนี้
นอกจากนั้น
“ข้ายังเป็นหลานชายและน้องชายอีกด้วย”
สมาชิกในเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินต่างรักใคร่และคอยดูแลเอาใจใส่แก่ล็อกผู้ขี้ขลาดและโง่เขลาอยู่เสมอ เขาไม่อาจลืมเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของตนและสมาชิกคนอื่นๆในเผ่าได้เลย
“นั่นคือเหตุผลที่ข้าอยากแก้แค้น”
มันคือเหตุผลที่ล็อกต้องการให้พวกมันได้ชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างคืนแก่เขากับสิ่งที่พวกมันได้พรากออกไปจากชีวิตของเขาเช่นนั้น
ล็อกกระชับมือที่สั่นของตนแน่นขึ้นอีกและเอ่ยพูดทุกอย่างที่ตนนึกออกในตอนนั้นขึ้นมา เมื่อเขาได้ทำมันออกมาเขารู้สึกถึงความอัดแน่นที่ศีรษะของตนได้โล่งหายไปเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นโค้งศีรษะให้แก่คาร์ลและยังคงจ้องไปที่ปลายเท้าทั้งสองข้างและพื้นพรมที่เขาเหยียบอยู่เช่นเดิม ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงที่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“หมาป่าน้อย”
ล็อกเงยศีรษะของตนขึ้นเพื่อมองไปที่ ‘คาร์ล เฮนิตัส’ เจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่ล็อกไม่สามารถฝันถึงว่าเขาจะสามารถอาศัยอยู่ในที่เช่นนี้ในหมู่บ้านของตนได้อย่างไรและเขายังเป็นคนที่พี่เชวฮันเคยบอกแก่ตนว่าเขาได้วางเดิมพันชีวิตของเขาเกือบทั้งหมดไว้ที่ชายคนนี้
คาร์ลเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงห้วนและตรงไปตรงมา
“เจ้าคือหมาป่า”
ภาพความทรงจำต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตของล็อกได้วิ่งเข้าสู่ศีรษะเขาอย่างรวดเร็ว เขาได้เห็นชีวิตของตนที่อาศัยอยู่ในเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินอย่างมีความสุข
“เผ่าหมาป่าปกป้องครอบครัวของพวกเขาและทำทุกอย่างให้แก่พวกเขาก่อนตัวเองเสมอข้าถือว่าพวกเขาเป็นเผ่าที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง”
ล็อกมองเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคาร์ล
“ข้าได้ยินสิ่งที่เจ้าต้องการจะพูดแล้ว”
ในช่วงเวลานั้นล็อกสามารถมองเห็นชายคนนี้และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องได้กระจ่างชัดมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นลูกแมวสองตัวจากเผ่าแมวที่ยืนอยู่ข้างๆเขาและแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องมันทำให้เขารู้สึกสงบและผ่อนคลายมากขึ้น
ในที่สุดล็อกก็สามารถจดจำสิ่งที่เขาต้องการจะพูด
“ขอบคุณทุกความช่วยเหลือจากท่าน.....และได้โปรดช่วยข้าด้วย”
เจ้าของบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลายได้กล่าวขึ้น
“เจ้าขอบคุณข้ามามากพอแล้ว....”
เหตุผลที่คาร์ลครุ่นคิดถึงการวางตัวเป็นเพียงขยะไร้ค่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก็เพราะเชวฮันและมังกรดำ ในส่วนของมังกรดำคาร์ลกังวลเกี่ยวตัวของมันเองในขณะที่เชวฮันนั้นเขากังวลกับสิ่งที่เชวฮันนำกลับมาพร้อมกับเขาด้วย
“ข้าไม่ต้องการที่จะช่วยเจ้า”
คาร์ลไม่ต้องการที่จะช่วยเหลือล็อกแต่เขาก็รู้ดีถึงความเจ็บปวดของเด็กๆจากเผ่าหมาป่าทั้ง10 คนที่กำลังเผชิญอยู่เมื่อต้องสูญเสียพ่อแม่และการอุ้มชูเลี้ยงดูจากพวกเขาไปเพราะมันคือสิ่งที่เขาเคยประสบมาด้วยตนเองมาก่อน อีกทั้งการที่เขาได้ย่างก้าวสู่สถานการณ์แบบนี้แล้วเขาไม่ต้องการที่จะเป็นคนที่รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างเช่นกัน
เขาวางแผนที่จะทำในสิ่งที่ใช้การลงทุนน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องขาดทุนเช่นกัน
คาร์ลยังกล่าวต่อไปในขณะที่ล็อกลดศีรษะของเขาต่ำลงหลังจากได้ยินคาร์ลเอ่ยปฏิเสธความช่วยเหลือแก่เขา
“.....แต่ข้ามีแผนที่จะทำข้อตกลงกับเจ้า”
“.....ข้อตกลง?”
“ใช่”
คาร์ลพูดต่อในทันที
“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลือในสิ่งใด?...และสิ่งที่เจ้าจะทำเพื่อตอบแทนข้าคืออะไร?”
คาร์ลไม่มีความต้องการที่จะสอนเด็กชายที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลยนั่นคือสิ่งที่เชวฮันหรือโรสลินจะต้องเป็นคนจัดการกับเรื่องนี้ คาร์ลลุกขึ้นยืนเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาจะต้องจัดการอีกสองสามอย่างก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังพระราชวังและเขาได้เอ่ยกับเด็กน้อยหมาป่านี้อีกครั้ง
“จงกลับมาเมื่อเจ้ามีคำตอบให้แก่ข้าแล้ว”
ล็อกหยุดคิดชั่วขณะก่อนที่จะลุกขึ้นโค้งศีรษะให้แก่คาร์ล
“ข้าเข้าใจแล้ว...ข้าจะกลับมาพบท่านเมื่อข้าคิดคำตอบนั้นได้”
“อืม....”
คาร์ลลูบไปที่ศีรษะของล็อกเบาๆหนึ่งครั้งทำให้ตาของล็อกเปิดกว้างเป็นประกายขึ้นมามันเหมือนกับว่าเขาค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
***********************************************************************************
คาร์ลหยิบบัตรเชิญเข้าร่วมงานขององค์ชายรัชทายาทขึ้นมาถือไว้และก้าวลงจากรถม้า การชุมนุมของเหล่าขุนนางและองค์ชายรัชทายาทจะเริ่มขึ้นเวลาห้าโมงเย็น คาร์ลมองไปรอบๆพระราชวังที่มีความสวยงามและหรูหรานี้ แม้แต่คฤหาสน์ของตระกูลเฮนิตัสกับบ้านพักในเมืองหลวงของพวกเขารวมกันก็ไม่อาจเทียบกับสิ่งที่คาร์ลเห็นตรงหน้านี้ได้เลย
‘พระราชวังแห่งความสุข’ คือชื่อของสถานที่ในการชุมนุมในครั้งนี้ มันถูกสร้างขึ้นจากพระราชาที่ต้องการแบ่งปันความสุขของพระองค์จากการประสูติขององค์ชายรัชทายาท แน่นอนว่าในตอนนี้พระราชาทรงโปรดปรานองค์ชายสามมากที่สุด
คาร์ลได้ตกลงกับอีริค กิลเบิร์ตและอามูร์ว่าจะรวมตัวกันที่ด้านนอกของพระราชวังก่อนจะเข้าไปด้านในพร้อมกัน เขามองรอบๆพระราชวังก่อนจะเริ่มคิดในใจ
‘นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไปแล้วนะ?’
มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เมื่อคนที่มาถึงพระราชวังพร้อมๆกับคาร์ลคือหนึ่งในคนที่เขาอยากหลีกเลี่ยง
“ว้าว!.....นั่นใครกันนะ?...อ้อ!....นายน้อยคาร์ลผู้โด่งดังของเรานี่เอง”
‘เฮ้อ....’
คาร์ลลอบถอนใจยาว....เขารู้สึกไม่สบายใจจากน้ำเสียงของคนที่เอ่ยกับตนเช่นนั้น คนที่ก้าวมาหาคาร์ลอย่างช้าๆคือ ‘นีโอ โทร์ส’ ทายาทจากตระกูลโทร์ส
‘ทำไมฉันต้องมาเจอพรรคพวกของเวเนี่ยนในตอนนี้ด้วยนะ?’
‘นีโอ โทร์ส’ เป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ถอดแบบมาจากตัวร้ายทั่วไปในนิยายหรือหนังเรื่องต่างๆ เขาจะวิ่งทำตามคำสั่งหรือข้อเสนอของเวนี่ยนอย่างไม่ลังเลใจ
หมู่บ้านที่มังกรดำถูกกักขังทรมานก็อยู่ในเขตพื้นที่ของนายอำเภอโทร์ส
และคนของจากตระกูลโทร์สก็ไม่เคยชื่นชอบตระกูลเฮนิตัสนั่นเป็นเพราะ...แม้ว่าพวกเขาจะถูกแยกออกจากกันด้วยภูเขาลูกเดียวแต่ความแตกต่างในความร่ำรวยมั่งคั่งช่างห่างไกลกันอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าในอดีตพวกเขาจะเคยเป็นมิตรที่ดีต่อตระกูลเฮนิตัสก็ตาม
ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อตระกูลโทร์สได้เข้ารวมกลุ่มกับมาร์คควิสสแตนเมื่อห้าปีที่แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่พูดหรือแสดงมันออกมาอย่างชัดเจนแต่พวกเขาได้ลอบทำลับหลังทุกครั้งในการประชุมขุนนางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นีโอ โทร์ส ส่งรอยยิ้มสดใสให้แก่คาร์ลเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าคาร์ลในตอนนี้
“เจ้าอยู่คนเดียวงั้นรึ?”
พวกเขาอยู่ห่างจากทางเข้าพระราชวังไม่ไกลนัก รองหัวหน้าองครักษ์และรอนกำลังเจรจากับทหารองครักษ์ของพระราชวังเพื่อขออนุญาตเข้าไปด้านในคาร์ลที่มีผู้ติดตามเพียงเล็กน้อยและยังอยู่ห่างจากตัวเองจ้องมองไปที่นีโอ
นีโอเมื่อเห็นว่าคาร์ลอยู่เพียงลำพังจึงได้ผลักไสผู้ใต้บังคับบัญชาให้ออกไปก่อน
“ข้าจะคุยกับนายน้อยคาร์ลสักหน่อย...พวกเจ้าไปขออนุญาตให้พวกเราได้เข้าไปในพระราชวังที”
นีโอส่งผู้ใต้บังคับบัญชาของตนไปให้แก่ทหารองครักษ์ของพระราชวังก่อนจะขยับเข้ามาใกล้คาร์ลมากขึ้น เมื่อทั้งสองคนมีระยะห่างจากกันไม่มากนีโอจึงเริ่มเอ่ยออกมา
“นายน้อยคาร์ล”
นีโอมีรอยยิ้มอันอบอุ่นและเป็นกันเองบนใบหน้าของเขาในขณะที่เอ่ยพูดด้วยเสียงอันเบาที่มีเพียงคาร์ลเท่านั้นที่ได้ยินมัน
“ขยะไร้ค่าเช่นเจ้ามาทำอะไรที่พระราชวังกัน?”
‘เฮ้อ....งี่เง่า....ที่มันเป็นเช่นนี้เพราะเป็นโลกในหนังสือ?หรือว่าเป็นเพราะโลกแห่งจินตนาการ? เป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้างั่งพวกนี้จะมีชีวิตอยู่ในโลกความเป็นจริง? พวกเขาไม่ควรมีตัวตนอยู่เพื่อมากระตุ้นอารมณ์ฉันเช่นนี้’
บุตรชายของนายอำเภอกล้าพูดแบบนี้กับบุตรชายของท่านเคานต์ด้วยหรือ? คาร์ลคิดว่ามันเกิดสิ่งนี้ขึ้นได้เพราะมันเป็นเพียงนิยาย แต่จริงๆแล้วการจะลงมือจัดการกับเรื่องนี้ก็ทำให้คาร์ลรู้สึกผิดหวังเหมือนกัน
‘ฉันไม่ใช่คนแต่งนิยาย...แล้วฉันจะจัดการกับเรื่องราวที่น่าเบื่อแบบนี้ได้อย่างไรกัน?’
คาร์ลอยากจะบอกให้รอนลงมือฆ่าเหล่าตัวร้ายที่โง่เง่าไม่รู้จักสถานะของพวกเขายิ่งนัก
คาร์ลยังคงมองไปที่นีโอเงียบๆ และท่าทางของนีโอก็เพิ่มระดับความสดใสมากขึ้นไปอีกสำหรับนีโอนั้นเขามองว่าคาร์ลเป็นเพียงขยะไร้ค่าที่ดูดีเพียงแค่ภายนอกและคนเช่นนีโอที่ชอบทำตัวใกล้ชิดและผูกติดกับเวเนี่ยนตลอดเวลาที่อยู่เมืองหลวง คาร์ลก็นับว่าเป็นเหยื่อที่ดีเหมาะแก่การลงมือกลั่นแกล้งและก่อกวน
“อะไร?..เจ้าอยากจะโยนขวดเหล้าใส่หน้าข้ารึ?....หรือว่าอยากจะชกหน้าข้า?....มาสิ!เอาเลย!ทำมันเลย!”
‘เขาแค่ยั่วยุให้ฉันโกรธและเขาทำมันอย่างตั้งใจ เขาไม่สามารถนำเครื่องมือเวทย์ทุกชนิดเข้าไปในพระราชวังได้ดังนั้นเขาจะไม่สามารถนำเครื่องบันทึกพลังเวทย์เข้ามาได้เช่นกันนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพยายามทำให้ฉันต้องออกไปจากที่นี่’
ถ้าคาร์ลก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่ขึ้นจริงก็จะเห็นเพียงแค่การทะเลาะวิวาทระหว่างขยะไร้ค่าและขุนนางที่สง่างาม มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวนีโอเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพยามกระตุ้นอารมณ์ของคาร์ลเพื่อทำลายชื่อเสียงของตระกูลเฮนิตัส
คาร์ลยังคงเงียบและไม่ตอบโต้ใดๆ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงดังขึ้นภายในหัวของเขา
มังกรดำกำลังพูดผ่านพลังเวทย์ของมัน
~ เจ้าโสโครกนี่มันเป็นอะไร......มันทำให้ข้านึกถึงเจ้าชั่วเวเนี่ยน ~
‘ก็เขาเป็นลูกสมุนของเวเนี่ยน’
แม้ว่าคาร์ลจะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แต่มังกรดำก็ยังพูดเข้ามาให้เขาได้ยินอีกครั้ง
~ ให้ข้าลงมือฆ่าเขาหรือไม่? ~
‘ฉันไม่คิดว่า....มันจะต้องทำถึงขนาดนั้นนะ’
คาร์ลส่ายหัวไปมาเพื่อปฏิเสธคำกล่าวของมังกรดำซึ่งติดตามเขาเข้ามาในพระราชวังด้วยการใช้เวทย์ล่องหน
เมื่อเห็นคาร์ลสั่นศีรษะของตนเองเช่นนั้นทำให้นีโอต้องการจะยั่วโมโหคาร์ลอีกครั้งเพราะดูเหมือนว่าคาร์ลในตอนนี้กำลังจะอาละวาดทำร้ายร่างกายเขาเสียแล้ว
ในขณะนั้นเอง สายตาของคาร์ลก็ไปปะทะกับรถม้าที่เพิ่งเข้ามาถึง
ปัง! ประตูรถม้าถูกกระแทกออกทันทีเมื่อรถม้าได้หยุดลงก่อนที่อีริค วิลส์แมนจะก้าวลงจากรถม้า กิลเบิร์ตและอาร์มูก็อยู่ในรถม้าคันนี้เช่นกัน
คาร์ลส่งสัญญาณให้แก่อีริคผู้ที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วด้วยสายตาที่ไม่ละออกไปจากคาร์ลและนีโอ คาร์ลส่งสายตาไปให้แก่อีริคก่อนจะหันกลับมามองที่นีโอมันเหมือนกับว่าเขาใช้สายตาคู่นี้ชี้ไปที่หน้าของนีโออยู่
“ท่านพี่อีริค.....”
น้ำเสียงที่จริงใจถูกเอ่ยออกจากปากของคาร์ลแต่สายตาเย็นชากลับจ้องไปที่นีโอนั้น ทำให้อีริครู้ถึงสิ่งที่คาร์ลต้องการได้ในทันที
‘กำจัดเขาซะ’
สายตาเย็นชาที่ยังคงสงบนิ่งของคาร์ลได้ส่งข้อความดังกล่าวไปให้แก่อีริค