ตอนที่ 170 เว้นเสียแต่ว่าเจ้าต้องการให้ปรมาจารย์ฟู่ลงมือ?
สมาชิกของตระกูลเจียงรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังจะสลบเพราะความตกตะลึง อย่างแรก มันเป็นเพราะปรมาจารย์หยวนชู่ทำตัวประจบประแจงต่อหน้าหลิงฮัน และตอนนี้อู๋เชียงฟงดูเหมือนจะสนับสนุนการกระทำของหลิงฮันอย่างเต็มที่ พวกเขารู้สึกว่ามุมมองต่อโลกของพวกเขาถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
แต่พวกเขาไม่ใช่คนโง่ ตัวอย่างเช่น ป้าหนึ่งและป้าสองรู้สึกตกใจมากในตอนที่พวกนางมึนเมา ตอนนี้ ร่างกายของพวกนางกำลังสั่นเทาขณะที่พวกนางย้อนนึกกลับไปว่าพวกนางแสดงความรังเกียจและไม่เคารพต่อหลิงฮันมากเพียงใด ใครจะรู้ว่าเขาจะคิดบัญชีกับพวกนางหรือไม่
นอกจากนี้พวกนางยังเต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ถ้าพวกนางรู้ว่าแท้จริงแล้วหลิงฮันเป็นคนที่น่าหวาดกลัว ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือถ้าพวกนางจะประจบเขาตั้งแต่ตอนนี้?
ใครขอให้พวกเขาทำตัวโง่เขลาขนาดนั้นกัน?
ในขณะเดียวกัน หยวนชู่ถามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า "นายน้อยฮัน พวกมันทำอะไรให้ท่านหรือ?"
"โอ้ เจ้านั่นมันเรียกตัวเองว่ามันเป็นพ่อของข้า" หลิงฮันชี้ไปที่ชายชุดเขียว
"อึก" อู๋เชียนฟงแทบจะกระโจนออกไปด้วยความรังเกียจ สำหรับจอมยุทธแล้วมันถือเป็นเรื่องปกติที่จะทำตัวหยาบคายในแบบของตัวเอง มันเป็นเรื่องปกติมากที่พวกเขาจะพูดคำว่า "หลานชาย" หรือ "ข้าคือพ่อของเจ้า" เจ้าตบตีพวกเขาเพียงแค่เพราะคำพูดแบบนั้น? ไม่ใช่ว่านั่นเป็นการตอบโต้ที่ค่อนข้างเกินไปหรือไม่?
สีหน้าของหยวนชู่เปลี่ยนไปอย่างมาก และเขากล่าวออกมาว่า "เจ้ากล้ามากที่เรียกตัวเองว่าเป็นพ่อของนายน้อยหลิงฮัน! เจ้าสมควรตาย!"
ใครคือหลิงฮัน? เขาเป็นปรมาจารย์นักปรุงยาที่แท้จริง และในไม่ช้าเขาจะได้ครอบครองเหรียญตราประจำตัวของนักปรุงยาระดับดำขั้นสูง! ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่เคยเห็นความสามารถในการปรุงยาของหลิงฮันเมื่อวันก่อนจะรู้ว่าหลิงฮันสามารถปรุงเม็ดยาที่มีระดับใกล้เคียงกับเม็ดยาระดับปฐพีได้ นั่นหมายความว่าแท้จริงแล้วเท้าข้างหนึ่งของหลิงฮันก้าวอยู่ในระดับนักปรุงยาระดับปฐพีแล้ว
เขาเป็นคนที่มีเกียรติและมีสถานะสูงส่ง ใครจะเรียกตัวเองว่าพ่อของหลิงฮันได้?
หืม ถ้ามันกลายเป็นพ่อของนักปรุงยาระดับปฐพี นั่นไม่ได้หมายความว่านักปรุงยาระดับดำอย่างพวกเขาจะกลายเป็นหลานชายของมัน เหลนของมัน หรือลื่อของมันหรอกรึ?
หยวนชู่และนักปรุงยาคนอื่นได้รับแนะนำในการปรุงยาจากหลิงฮัน และนับถือเขาเป็นอาจารย์ของพวกเขาอยู่ครึ่งหนึ่ง แล้วศิษย์จะไม่โกรธเกรี้ยวได้อย่างไรเมื่ออาจารย์ของพวกเขาถูกดูหมิ่น?
เขาจ้องเขม็งไปที่ชายชุดเขียวและสหายของมันทั้งสองคนและถามออกไปอย่างเย็นชาว่า "เจ้าอยากตายแบบไหน?"
เพียงแค่เรียกตัวเองว่าพ่อของใครบางคนมันถึงกับต้องโทษประหารชีวิตเลยรึ? หากเป็นแบบนั้นมันจะต้องมีสักกี่คนกันที่ต้องตายทุกวันในแคว้นพิรุณเพียงแค่คำพูด?
ใบหน้าของชายชุดเขียวและสหายของมันสองคนกลายเป็นมืดมน พวกมันเป็นเหยื่อที่แท้จริงและพวกมันถูกตบตีอย่างรุนแรงจนเสียฟันจนหมดปาก และตอนนี้พวกมันกำลังถูกถามอีกว่าต้องการตายแบบไหน? ทำให้พวกมันรู้สึกผิดมาก
ครั้งนี้ แม้แต่อู๋เชียนฟงยังไม่อาจมองข้ามเรื่องนี้ไปได้และได้ถามออกไปว่า "ปรมาจารย์หยวนชู่ ไม่ใช่ว่าท่านจะทำเกินไปหน่อยหรือ?"
"ทำเกินไป?" หยวนชู่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "เช่นนั้นปล่อยให้พวกข้าไปหาปรมาจารย์ฟูหยวนเชิง และมาดูกันว่าปรมาจารย์ฟูหยวนเชิงจะพูดอะไร!อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถรับรองได้เลยว่าปรมาจารย์ฟูจะต้องเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง และต้องการคำขอโทษเป็นการส่วนตัวจากปากผู้นำตระกูลอู๋!"
เมื่อเขาพูดจบ ความเงียบงันได้เข้าปกคลุมไปทั้งลาน
คำขอโทษเป็นการส่วนตัวจากปากผู้นำตระกูลอู๋...ความคิดนั่นมันอะไรกัน? ถึงแม้ว่าถ้าเจ้าเด็กเหลือขอนี่จะเป็นบุตรชายของฟูหยวนเชิง เขาคงไม่มีทางทำเช่นนั้น มันเหมือนกับว่าฟูหยวนเชิงกำลังเคารพเขาเหมือนกับลูกชายเคารพพ่อของเขา
อู๋เชียนฟงเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากของเขาและพูดว่า "ปรมาจารย์หยวนชู่ ท่านกำลังพูดล้อข้าเล่น?" ไม่ว่าเขาจะมองยังไงเด็กเหลือขออย่างหลิงฮันไม่มีทางมีความสามารถทำเช่นนั้นได้
"เจ้าจะเดิมพันกับข้าก็ได้" หยวนชู่กล่าวอย่างเย็นชา
อู๋เชียนฟงอดที่จะรู้สึกลังเลไม่ได้ ถ้าหยวนชู่ไม่ได้พูดเกินจริงและฟูหยวนเชิงลงมือด้วยตัวเอง นั่นจะต้องเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก คำถามในตอนนี้คือ คำพูดของหยวนชู่เชื่อถือได้หรือไม่?
มันไม่น่าเป็นไปได้ที่นักปรุงยาระดับดำจะพูดโกหก แต่คำพูดที่เขาพูดออกมาล้วนเป็นคำพูดที่พูดเกินจริง อู๋เชียงฟงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำใจเชื่อได้
เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"ช่างมันเถอะ เพียงแค่ให้พวกมันพูดขอโทษ เรื่องก็จบแล้ว" หลิงฮันโบกมือของเขาในเชิงขับไล่พวกมัน
"นายน้อยฮันเป็นคนที่ใจดีอย่างแท้จริง!" หยวนชู่พูดประจบอย่างรวดเร็ว
เขาเป็นคนใจดี? เขาตบตีพวกมันและยังต้องการให้พวกมันขอโทษ นี่หรือที่เรียกว่าใจดี?
อู๋เชียนฟงถอนหายใจออกมา เขาตัดสินใจที่จะยอมแพ้เพราะเขายังมีเรื่องที่ต้องไหว้วานหยวนชู่อยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้ชวนหยวนชู่มารับประทานอาหารค่ำที่นี่ และไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น อันที่จริงเขาไม่ได้เป็นฝ่ายผิดกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะมีพวกโง่เขลาสองคนก่อปัญหาขึ้นมาในตอนแรก และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาบอกให้คนในตระกูลของเขาจัดการปัญหาให้หยวนชู่ และเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะชนเข้ากับกำแพงอย่างหลิงฮัน
"ซื่อฟง ขอโทษนายน้อยฮันซะ!" เขากล่าวกับชายชุดเขียวและบังคับให้เปลวเพลิงแห่งความโกรธที่ลุกโชนอยู่ในหัวใจของเขาสงบลง
ชายชุดเขียวรู้สึกโกรธมากจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ มือของเขากำหมัดแน่น มันอยากตบตีหลิงฮันด้วยตัวเอง แต่เมื่อมันเห็นอู๋เชียนฟงกำลังพูดกับมันโดยตรง มันจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหัวลงและกัดฟันยอมรับ "ข้าผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ข้าด้วยเถิด นายน้อยฮัน"
หลิงฮันยิ้มออกมาและยอมรับคำขอโทษของมัน และรู้สึกไม่ค่อยประทับใจตระกูลอู๋เท่าไหร่นัก
"ปรมาจารย์หยวนชู่ เกี่ยวกับเม็ดยาขับไล่พลังหยาง...." อู๋เชียนฟงพูดกับหยวนชู่อย่างสุภาพ
"หึ่ม หลังจากที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เจ้ายังกล้าขอให้ข้าปรุงเม็ดยาขับไล่พลังหยางอีกรึ?" หยาวชู่ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
มีชั้นเหงื่ออันหนาวเย็นบนหน้าผากของอู๋เชียนฟงขณะที่เขากล่าวออกมาว่า "ปรมาจารย์ชู่ ท่านไม่อาจกลืนคำพูดของท่านได้!"
"ข้าไม่ต้องการปรุงเม็ดยาให้ตระกูลอู๋ของเจ้า แล้วเจ้าจะทำไม?" หยวนชู่กล่าวออกนอกหน้า
"ท่าน!" อู๋เชียนฟงชี้นิ้วไปที่หยวนชู่ แต่ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ หยวนชู่เป็นจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณเหมือนกับเขา และด้วยสถานะนักปรุงยาระดับดำขั้นกลางของเขา เขาจึงไม่กล้าพูดข่มขู่ใดๆออกมา
ดวงตาของหลิงฮันกวาดสายตาไปมองเขาและอดที่จะรู้สึกตกใจเล็กน้อยไม่ได้ เขาจึงถามออกไปว่า "เฒ่าอู๋ ทำไมท่านถึงต้องการเม็ดยาขับไล่พลังหยางด้วย?"
เฒ่า... เฒ่าอู๋?
อู๋เชียนฟงแทบอยากจะวิ่งไปตบหน้าหลิงฮัน เขาเป็นถึงจอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณและมีอายุมากพอที่จะเป็นปู่ของหลิงฮัน แต่หลิงฮันกลับกล้าที่จะเรียกเขาว่าเฒ่าอู๋ แล้วเขาจะทนต่อความอับอายขายหน้านี้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหลิงฮัน สำหรับจอมยุทธที่อยู่ระดับห้วงจิตวิญญาณและมีอายุ 60 ปี เขายังไว้หน้ามันอยู่บ้างที่ไม่เรียกมันว่าอู๋น้อย
"นายน้อยฮัน ขาของเขาข้างหนึ่งถูกสงสัยว่าถูกกัดโดยอสรพิษที่มีพิษร้ายแรง ดังนั้น เขาจึงต้องการเม็ดยาขับไล่พลังหยางเพื่อรักษาพิษของเขา" หยวนชู่กล่าวอธิบายให้หลิงฮันฟังทันที
หลิงฮันมองไปที่ขาของเขาและเห็นว่าขาข้างซ้ายของอู๋เชียนฟงใหญ่กว่าขาข้างขวาของเขามาก มันทำให้หลิงฮันเกิดความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากและกล่าวออกไปว่า "ดึงขากางเกงของท่านขึ้นให้ข้าได้เห็นมัน"
อู๋เชียนฟงดูไม่พอใจขึ้นมาทันที หลิงฮันกำลังสั่งเขา?
ในขณะเดียวกัน หยวนชู่ได้กล่าวออกมาอย่างใจเย็นว่า "ทักษะปรุงยาของนายน้อยฮันเหนือกว่าแม้กระทั่งข้า มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับข้าที่จะปรุงเม็ดยาขับไล่พลังหยาง แต่สำหรับนายน้อยฮันนั้น...มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก!"
"นายนายฮันได้โปรดดู!" อู๋เชียนฟงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกและรีบดึงขากางเกงของเขาขึ้นมาทันที
ท่าทีที่เปลี่ยนไปอันรวดเร็วของเขาเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึง มันทำให้พวกเขาแทบจะสลบ จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณและสมาชิกหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ทำตัวหน้าขายหน้าเกินไปแล้ว
มีกลิ่นอันแปลกประหลาดหลุดลอยออกมา มันเป็นกลิ่นที่เหมือนกับเหล็กและเมื่อดูดีๆ ขาข้างซ้ายของอู๋เชียนไม่เพียงแค่จะบวมปูดมากเท่านั้น มันยังมีสีดำเหมือนกับหมึก จากที่มองมัน มันดูเหมือนกับว่าเขาถูกพิษบางอย่าง
หลิงฮันค่อยๆแตะมันเบาๆด้วยนิ้วที่ต้นขาของอู๋เชียนฟง และถามออกไปว่า "ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าท่านถูกมันกัดได้ยังไง?"
"ในขณะที่ข้ากำลังสำรวจสุสานโบราณอยู่ ข้าได้พบบางอย่างที่มีสีดำ เมื่อข้ากำลังจะหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ มันก็พุ่งเข้ามาและกัดขาของข้า หลังจากนั้น มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย" อู๋เชียนฟงตอบ
หลิงฮันยิ้มและกล่าวว่า "ข้าสามารถช่วยแก้ปัญหาของท่านได้"
"จ...จริงรึ?" อู๋เชียงฟงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
"หากนายน้อยฮันพูดเช่นนั้น เขาจะพูดโกหกเจ้าได้อย่างไร!" หยวนชู่พูดออกมาทันทีด้วยความไม่พอใจ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าแค่รู้สึกตื่นเต้น โปรดช่วยข้าด้วย นายน้อยฮัน!" อู๋เทียนฟงกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มประจบ การกระทำของเขาในตอนนี้ มันไม่มีความเย่อยิ่งใดๆเลย