บทที่่ 105 - ฉันคือวิญญาณเร่ร่อน (6) [อ่านฟรีวันที่ 14/01/2562]
บทที่่ 105 - ฉันคือวิญญาณเร่ร่อน (6)
แม้ว่าเขาจะไม่อาจตรวจข้อมูลหรือสเตตัสของหอกได้เนื่องจากเลียร่าเอาแต่ซ่อนหอกไว้ข้างหลังของเธอ หอกนั่นมันจะต้องเป็นสิ่งที่เติมเต็มเงื่อนไขบางอย่างให้เขาอย่างแน่นอน
แต่ว่าหอกนั่นมันเกี่ยวกับเขายังไงกันล่ะ ยังไงก็ตามเพียงเมื่อเขาพยายามจะประเมินหอกด้วยการมองอย่างต่อเนือง เลียร่าก็ได้ทำท่าจะร้องออกมาดังนั้นเขาทำได้แต่ยอมรับ มีเพียงแค่เอิลต้าที่รู้ในคำตอบที่ยูอิลฮานต้องการเท่านั้น แต่ว่าเธอทำแค่เฝ้ามองดูสถานการณ์นี้ในขณะถอนหายใจออกมา
[ยูอิลฮานนายก็แค่รับรางวัลของนายไปดีๆก็พอแล้ว] (เอิลต้า)
"ครับคุณผู้หญิง"
[ภารกิจสวรรค์ 006 กวาดล้างดาเรย์ได้เสร็จสมบูรณ์]
[สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 พละกำลังเพิ่มขึ้นอีก 10]
[คุณได้เรียนรู้สกิลใช้งาน การปกครอง คุณสามารถจะใช้มันกับผู้ใต้บังคับบัญชาและคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาคุณจะไม่สามารถจะทำอันตรายผู้ปกครองได้เนื่องจากข้อจำกัดที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าการเป็นปาร์ตี้ คุณจะสามารถใช้กับผู้ใต้บังคัญบัญชาได้ดีขึ้นเมื่อสกิลเลเวลสูงขึ้นและจะสามารถเร่งการพัฒนาของพวกเขาได้ ปัจจุบันในเลเวล 1 คุณจะสามารถใช้ได้กับผู้บังคัญบัญชา 5 คน หากไม่ได้รับการยินยอมคุณจะไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้]
"หืม"
[สกิลที่จะถูกส่งให้คุณจากสวรรค์จะมีความเกี่ยวข้องกับบันทึกและความสำเร็จที่คุณได้รับมาเสมอ คุณรู้ใช่ไหมว่าทำไมคุณถึงได้สกิลนี้มานะ] (เอิลต้า)
ใช่แล้วเขารู้แน่นอน มันก็แค่ว่าเขามีข้อสงสัยมากเกินไป
พูดตรงๆแล้วมันก็ดี เขาเป็นกังวลอยู่ว่าเอลฟ์ที่ติดตามเขามาที่โลกอ่อนแอเกินไป และถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกแย่เล็กนอยที่ทำแบบนี้ด้วยการช่วยจากสกิล แต่ว่าในตอนนี้เขาก็จะได้ไว้ใจเอลฟ์ที่ติดตามเขามาได้อย่างสมบูรณ์
ความสุขและความเศร้า ความรู้สึกผิดและความรู้สึกถึงความปลอดภัย และอื่นๆอีกมาก - ความรู้สึกที่หลากหลลายได้ผสมกันอยู่ที่ยูอิลฮาน เอิลต้าที่เห็นเขาเป็นแบบนี้ได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
[ตามปกติแล้วพวกเขาคิดว่าในมุมมองของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำแค่สกิลผู้นำก็พอแล้ว แต่ว่าความสำเร็จของคุณมันยอดเยี่ยมมาจนมันได้รับการอัพเกรดโดยอัตโนมัติ คุณน่าจะได้เห็นใบหน้าของทูตสวรรค์ในตอนนั้นนะ] (เอิลต้า)
[ถ้าเป็นอิลฮาน นี่มันก็แค่เรื่องปกติ] (เลียร่า)
[แล้วก็นะ] (เอิลต้า)
เอิลต้าได้ชี้ไปที่กระเป๋าสะพายของยูอิลฮษน ในทันทีที่เธอทำแบบนั้น กระเป๋าสะพายของเาก็ได้หายไปอย่างน่าตกใจ
"เฮ้!"
[ยูอิลฮาน นายได้กวาดล้างดาเรย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถจะตั้งสมดุลได้เนื่องจากการเชื่อมต่อกับโลก และแม้กระทั่งให้การสนับสนุนสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาจนถึงจุดที่พวกเขาสามารถพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต คุณธรรมในเรื่องนี้มันสูงมากๆและดังนี้สวรรค์ก็ได้ตัดสินใจว่าพวกเราจะมอบช่องเก็บของของทูตสวรรค์ที่ได้ตายไประหว่างสงครามที่กำแพงแห่งความโกลาหลในคราวนี้กับคุณ] (เอิลต้า)
ยูอิลฮานได้กระพริบตาของเขา เขาไม่ได้เขาใจในสิ่งที่เธอพูดออกมามากนัก
"ฉันคิดว่าเธอพูดถึงช่องเก็บของเวทย์หรอ?"
[พูดให้ชัดคือช่องเก็บของมันได้เกิดขึ้นมาพร้อมกับเวทย์สร้างพื้นที่ภานใน และเมื่อเจ้าของตายมันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลื่ยนมือเจ้าของเป็นคนอื่น รูปแบบมันก็คล้ายๆกับการที่คุณได้กลายมาเป็นเจ้าของวงเวทย์จักรวรรดิเอลฟ์นั่นแหละ] (เอิลต้า)
"แล้วเธอทำไมตอนฉันอยากได้มันมากๆเธอถึงไม่ให้ฉันกันล่ะ!"
[พวกเราจะต้องฆ่าทูตสวรรค์เพียงแค่มอบช่องเก็บของให้คุณงั้นหรอ? นอกจากนี้มันก็ยังไม่มีวิธีไหนด้วยที่จะมอบมันให้กับคนที่ใช้มานาไม่ได้] (เอิลต้า)
ที่เธอพูดมันก็ถูกเอามากๆ ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้วรางวัลในครั้งนี้มันบังเอิญมากเกินไป
"แล้วกระเป๋าสะพายฉันไปไหนแล้วล่ะ?"
เขาต้องการช่องเก็บของมาเสมอแต่ว่ายูอิลฮานก็ยังได้รับประโยชน์อย่างมากจากออฟชั่นการถ่ายโอนน้ำหนักกับการควบคุมเก็บของระยะไกลที่ติดอยู่กับกระเป๋าสะพาย มันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จู่ๆออฟชั่นพวกนี้ได้หายไป
[ของทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าสะพายทั้งหมดจะถูกย้ายไปในช่องเก็บของพร้อมๆกับการทำลายกระเป๋าสะพาย ออฟชั่นของกระเป๋าก็จะยังถูกปรับเข้ากับช่องเก็บของด้วยเช่นกัน ยังไงก็ตามการควบคุมเก็บของระยะไกลกับการถ่ายโอนน้ำหนักก็อาจจะเปลื่ยนไปอย่างมากดังนั้นช่วยเตรียมใจไว้ด้วย] (เอิลต้า)
ด้วยคำพูดนี้เธอได้แตะมือของเธอลงบนมือของยูอิลฮาน
ยูอิลฮานสามารถจะรู้สึกได้ถึงช่องเก็บของที่ถูกส่งมาให้เขาและวิธีที่จะใช้งานมันในทันทีที่เธอได้แตะเขาอย่างน่าอัศจรรย์
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อาจเห็นได้โดยตาเนื่องจากว่าของต่างๆไม่ได้อยู่บนโลก แต่อยู่ในพื้นที่ว่างเปล่าซึ่งยูอิลฮานสามารถเรียกออกมาได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ นี้มันคือวินาทีที่ยูอิลฮานได้รับเศษเสี้ยงของเวทย์สิ่งมีชีวิตชั้นสูง
[คุณได้รับสิทธิครอบครองช่องเก็บของ พื้นที่ทั้งหมดเท่ากับพื้นที่ว่างของทูตสวรรค์ระดับต่ำกว่ายี่สิบ ออฟชั่นที่ติดมากับความสามารถจะเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาเวทย์ของผู้ใช้]
[1.ถ่ายโอน/ควบคุมน้ำหนัก]
[2.หยุดเวลา]
[3.เก็บสิ่งของจากระยะไกล]
เขารู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในทันที แม้ว่าเขาจะควบคุมกระเป๋าสะพายด้วยออฟชั่นควบคุมน้ำหนัก แต่ในตอนนี้มันได้กลายเป็นช่องเก็บของไปแล้ว ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องควบคุมมันอีก นอกไปจากนี้ออฟชั่นควบคุมน้ำหนักได้รวมเข้ากับถ่ายโอนน้ำหนัก และนั่นมันเป็นการผสานกันในฝัน
ในตอนนี้ยูอิลฮานสามารถถ่ายน้ำหนักได้โดยเฉพาะเจาะจงจะเป็นหนึ่งแสนตันหรือสิบดันก็ได้ถึงแม้ว่ากระเป๋าของเขามันจะมีน้ำหนักเป็นล้านๆตัน
"หืม ถ้าเป็นพละกำลังของฉันในตอนนี้ฉันจะรับมือได้กี่ตันกันนะ?"
[นายต้องทดสอบมันเอง] (เอิลต้า)
ออฟชั่นที่สองหยุดเวลาภายในพื้นที่ว่างเปล่า นี่มันก็เหมือนกับช่องเก็บของของพวกตัวเอง แน่นอนว่ามันจะไม่มีอะไรเน่าเสียภายในนั้นดังนั้นออฟชั่นป้องกันการเน่าเสียของกระเป๋าจะหายไป
นอกไปจากนี้มันยังมีการถ่ายโอนที่สมบูรณ์แบบอีกด้วยนั่นมันก็คือการควบคุมเก็บของจากระยะไกล บางทีมันอาจจะเป็นเพราะความเกี่ยวข้องโดยตรงกับช่องเก็บของมากกว่ากระเป๋าสะพาย ในตอนนี้เขาจึงสามารถจะเอาไอเทมหลายชนิดออกมาได้ในสถานที่ต่างกันในครั้งเดียวได้ และมันก็ยังกลายเป็นง่ายในการตั้งตำแหน่งอีกด้วย
"เยี่ยม นี่มันใกล้เคียงกับแผนในอุดมคติของฉันแล้ว!"
[ถ้าหากคุณบอกฉันก่อนที่จะได้มัน ฉันจะหยุดพวกเขาก่อนแน่] (เอิลต้า)
[ถ้าหากว่ามันมาถึงจุดที่เขาได้รับช่องเก็บของมา เขาจะต้องกวาดล้างดาเรย์จนหมดจดจริงๆ] (เลียร่า)
ในเมื่อมันมีมอนสเตอร์คลาส 4 อยู่เต็มไปหมดเขาจัดการได้ยังไงกันนะ? เลียร่าได้พบว่านี่มันบ้ามากๆ แต่ว่ายูอิลฮานกับเอิลต้าก็ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดอะไร เนื่องจากว่าต่อให้พวกเขาบอกออกไปเธอก็จะไม่เชื่อมัน
หลังจากได้รางวัลทั้งหมดมาแล้วยูอิลฮานได้ไปที่ห้องของเอลฟ์เพื่อจะใช้สกิลปกครอง แต่ว่าเอลฟ์ได้หลับลงไปบนพื้นโดยที่ไม่มีเตียง
แม้ว่าพวกเขาจะพูดออกมาว่าพวกเขาจะรับใช้องค์จักรพรรดิหรือที่บอกวาพวกเขาไม่มีอะไรที่พวกเขาสงสัย แต่ว่าพวกเขาก็ได้มาต่างโลกโดยสมบูรณ์ จากบ้านเกิดของตนมาและเลือกจะเชื่อในยูอิลฮาน พวกเขาอาจจะกังวลและเหนื่อย นี่มันเป็นเรื่องปกติมากๆ
ยังไงก็ตามพวกเขาได้ผ่อนคลายลงด้วยความคิดที่ว่าที่นี่คือที่ที่ยูอิลฮานอยู่ เอลฟ์ทั้งหมดได้หลับลงไปอย่างไร้เดียงสา
แม้ว่าฉากที่เขาได้เห็นมันจะดูเซ็กซี่มากกว่าน่ารักเนื่องจากหน้าตาของพวกเอลฟ์ แต่ว่ายูอิลฮานก็อดจะขำไม่ได้เมื่อเห็นพวกเขา
"เจ้าพวกนี้นี่น่ะ"
[คุณกำลังพูดอะไรอยู่น่ะ?] (เอิลต้า)
[เอลฟ์พวกนี้เป็นใครกัน? ฉันจำเป็นต้องลบพวกเขาออกไปเพื่ออนาคตของฉันกับยูอิลฮานใช่ไหม?] (เลียร่า)
[แล้วนี่พวกเราเกือบจะมีฉากที่อบอุ่นแล้ว.... เลียร่าในเมื่อเธอได้เลื่อนขั้นมาแล้ว เธอควรหยุดทำให้เราอายได้แล้วนะ] (เอิลต้า)
เธอได้ลดการ์ดลงจากพวกเอลฟ์ทีละนิดๆ
เนื่องจากว่าเขาไม่อาจจะใช้สกิลกับฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ยินยอมได้ ทำให้เขาเลือกที่จะเลื่อนเวลาออกไปและออกมาจาบ้าน
ทำไมล่ะ? แน่นอนว่างานไงล่ะ ในเมื่อเขาพักมาพอแล้ว สามสิ่งที่ยูอิลฮานชอบมากที่สุดก็คือการนอน กินและการทำงาน! แน่นอนว่าในส่วนท้ายของทุกๆการทำเหล่านั้นจะมีคำว่า 'เพียงลำพัง' ติดมาด้วย
ยูอิลฮานได้ตรงไปที่ขั้นใต้ดินของตึกที่เขาเป็นเจ้าของใกล้ๆอพาร์ตเมนต์ ที่ทำงานของเขาก็ยังอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเข้ามาได้
[ถึงฉันจะทิ้งที่นี่ไว้สามเดือนมันก็ดูไม่เป็นไรเลยนะ]
พรึบ พรึบ เพลิงนิรันดร์ที่ซึ่งได้พบกับเจ้านายหลังจากไม่ได้เจอกันนานได้ทักทายเขาออกมา ยูอิลฮานได้โยนหินพลังเวทย์คลาส 3 และเนื้อของเผ่ามังกรเข้าไปในเตาเผาและพูดออกมา
"มีของหลายอย่างให้นายกินเลยล่ะ"
เพลิงนิรันดร์ได้ดีใจอย่างมาก มันดูจะเป็นอย่างนั้น แน่นอนว่าหากมันไม่ยินดีกินเขาก็จะบังคับมันอยู่ดี
'ดี่ล่ะ ถ้างั้น'
ถึงเวลาตีเหล็กแล้ว - นี้คือความคิดแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา
"ฉันยังไม่ได้เลือกคลาสรองเลยนี่!"
[ฉันคิดว่านายตั้งใจเลื่อนเวลาออกไปซะอีกนะ!?]
มันหากได้ยากที่จะมีคนดื้อรั้นที่จะไม่รับเอาคลาสย่อยมาในทันทีที่ได้รับคลาสหลักมาด้วยความคิดที่ว่าพวกเขาอาจจะได้รับคลาสย่อยที่ดีหากว่ารออีกนิด
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่กับยูอิลฮาน เขาก็แค่ลืมมันเท่านั้นเอง
"ฉันอยากรู้จังว่ามันจะมีอะไรคล้ายกับค้อนของเทพไหมนะ"
[เนื่องจากนายได้บอกว่านายได้เติมเต็มเงื่อนไขอีกอย่าง มันไม่ใช่ว่าคุณจะได้รับอะไรที่คล้ายกันหรอ?]
ยูอิลฮานได้เรียกลิสต์คลาสย่อยที่รับได้ออกมาในทันที ยังไงก็ตามราวกับว่ามันโกรธที่ยูอิลฮานไม่เลือกคลาสช่างตีเหล็กเป็นคลาสหลักทำให้ไม่มีคลาสเกี่ยวกับการตีเหล็กในคลาสย่อยให้เห็นเลยสักนิด
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะความเกี่ยวข้องกับการนำเหล่าเอลฟ์ทำให้มันมีอะไรบางอย่างแบบ 'ราชันมือใหม่' แต่ถึงแบบนั้น
"ยังไงฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว ดังนั้นก็แค่เลือกคลาสธรรมดาๆอย่างช่าง....หืมม?"
ยูอิลฮานได้เมินคลาสย่อยจำนวนนับไม่ถ้วนชั่วคลาสและกำลังจะเลือกคลาสช่างตีเหล็กแต่แล้วเขาก็หลุดลงด้วยความตื่นตระหนก สำหรับเอิลต้ากับเลียร่าแล้วเรื่องแบบนี้มันเป็นสิ่งที่พวกเธอเคยชินทำให้ไม่ได้เปลื่ยนแปลงท่าทางอะไร
[มีอาชีพนักปฏิวัติหรืออะไรแบบนั้นปรากฏออกมาล่ะ]
[เจ้ามอนสเตอร์หรือผู้ปกครองล่ะ?]
"ใกล้เคียงเอิลต้า มันคือนักขี่มังกร"
[27.นักขี่มังกร]
คลาสย่อยนักขี่มังกรมันมีข้อความเป็นสีทองซึ่งต่างไปจากคลาสย่อยอื่นๆที่มีสีเป็นเพียงสีเขียวเท่านั้น มันโดดเด่นออกมาจนอันอื่นๆทั้งหมดดูกระจอกไปเลย
[นี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินว่ามีคนได้รับอาชีพนักขี่มังกรเป็นคลาสย่อยไม่ใช่คลาสหลัก แม้ว่าในช่วงชีวิตของฉันในฐานะทูตสวรรค์.....] (เลียร่า)
[มาถึงขนาดนี้แล้วมันดูเหมือนกับมีคนตั้งใจไม่ใช่คุณกลายเป็นช่างตีเหล็กเลยแหะ] (เอิลต้า)
"มันก็เพราะว่าเธอในตอนเลื่อนคลาส 2 นั่นแหละ"
เอิลต้าได้เมินคำพูดของเขาและพูดต่อไป
[แต่ว่าการเลือกนักขี่มังกรมันเป็นเรื่องดี นี่มันไม่จำเป็นต้องลังเลเลย] (เอิลต้า)
[ต่อให้เขาทำแบบนั้นแล้วเขาจะทำอะไรได้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าเขาฆ่ามังกรทั้งหมดไปแล้วหรอ?] (เลียร่า)
[นั่นมันก็เพราะยูอิลฮานมีไข่มังกรอยู่] (เอิลต้า)
[อ่า งั้นนายต้องเลือกมัน] (เลียร่า)
เลียร่าได้ตัดสินใจหยุดคิดทันที
ยูอิลฮานได้ลังเลเนื่องจากว่าเขาจะไม่อาจได้รับคลาสช่างตีเหล็กอีกจนกว่าเขาจะได้รับคลาส 4 หากว่าเขาเลือกคลาสนักขี่มังกรมาเป็นคลาสย่อย
ยังไงก็ตามเขาก็คิดว่ามันก็ต้องมีเหตุผลที่พวกเอิลต้าใส่ใจในเรื่องนี้แน่และเขาตัดสินใจจบลงด้วยการเลือกมันมา
ในตอนนี้มันแตกต่างไปจากความรู้สึกในตอนที่เขาได้รับคลาสคู่หูทูตสวรรค์ผ่านมานา มันร้อนเหลือกว่าสิ่งอื่นใด แต่ก็หายไปราวกับภาพลวงตา มันเหมือนกับคลื่น!
มันแทบจะเหมือนกับไม่มีการเปลื่ยนแปลงใดๆกับร่างกายของเขาและพลังเวทย์เขาก็เช่นกัน มันเป็นแค่ในความคิดของเขาด้วยความรู้สึกเหมือนมีระบบอะไรสักอย่างเขามาในร่างของเขาเท่านั้น และยูอิลฮานก็ตระหนักได้ว่าเขาจะไม่อาจจะใช้มันได้หากว่าเขาไม่มีมังกร
[คุณได้การเป็นนักขี่มังกร ตอนนี้คุณจะต้องทำพันธะสัญญากับมังกร ความสามารถท้งหมดเพิ่มขึ้น 20% ต่อการต่อสู้กับเผ่ามังกร]
[คุณได้รับสกิลติดตัว เสียงสะท้อนมังกรและมนุษย์ ความสามารถทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10% เมื่อต่อสู้ร่วมกับมังกรสำหรับทั้งผู้ขี่และมังกร และจะเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อทำการขี่มังกร เสียงสะท้อนจะถูกเสริมพลังหากว่าเป้็นคลาสที่เกี่ยวข้องกับการนำซึ่งจะปรับใช้กับมังกรด้วย]
[คุณได้รับสกิลใช้งาน สายเลือดมังกร คุณสามารถจะเสริมสกิลใช้งานของคุณได้ด้วยการยืมพลังจากคู่หูของคุณและจะสามารถสกิลของคุณได้หลากหลายตามเอกลักษณ์พิเศษของคู่หูคุณและเลเวลของสกิล คุณยังสามารถเสริมสกิลติดตัวได้ที่มีความสามารถใช้งานได้อีกด้วย]
[ไม่มีมังกรที่คุณได้ทำพันธะสัญญาอยู่]
ทูตสวรรค์พูดถูก ภายใต้เงื่อนไขที่สามารถทำพันธะสัญญากับมังกรได้ นักขี่มังกรเป็นคลาสรองสายต่อสู้ ยูอิลฮานได้ถอนหายใจออกมาเมื่อคิดว่าเขาเลือกได้ถูกแล้ว
"คนอื่่นๆก็ยังเลือกคลาสรองสายต่อสู้แต่ว่าฉันที่คิดจะเป็นช่างตีเหล็กโดยไม่รู้อะไรเลย"
[มันไม่ใช่ในเรื่องคลาสรองสายต่อสู้ แต่ว่าคุณไม่อาจจะคิดง่ายๆว่าใครๆก็กลายเป็นนักขี่มังกรได้นะ!]
แม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้ตกใจมากนักเนื่องจากว่ายูอิลฮานเป็นคนพูดเนื่องนี้ แต่ว่าโดยปกติแล้วคลาสรองนักขี่มังกรไม่ได้มีให้เห็นบ่อยมากๆ
มันจะไปปกติได้ยังไงหากว่ามีมนุษย์หรือต่อให้เป็นเผ่าพันธ์อื่นๆที่สามารถยืนคุยกับมังกรได้อย่างเท่าเทียม
ที่ยูอิลฮานได้มีโอกาสได้เลือกนักขี่มังกรเพียงเพราะว่าเขามีพลังที่เหนือกว่ามังกรมากๆและเขาก็ยังเคยอยู่ปาร์ตี้เดียวกับมังกร
นอกไปจากนี้ถึงแม้ว่าคนๆหนึ่งจะกลายเป็นนักขี่มังกร มันก็ยังเป็นการยากที่จะหากมังกรที่เชื่อฟังที่จะให้มนุษย์มาขี่ดังนั้นจึงมีคนมากมายที่ไม่อาจจะใช้คลาสย่อยที่หายากนี้ได้ไปชั่วชีวิตของเขา....
ยังไงก็ตามในปัจจุบันยูอิลฮานก็ได้ครอบครองไข่ของมังกรอยู่และเขาก็ยังมีสกิลผู้ปกครองซึ่งมันจะไม่มีใครอื่นเป็นแบบเขา
แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ต้องลำบากมากๆจนกว่ามังกรจะเติบโตกลายเป็นมังกรเต็มวัย
"ถ้างั้นฉันก็ควรจะฟักไข่ก่อน"
ยูอิลฮานได้หยิบเอาไข่ออกมาจากช่องเก็บของ เมื่อมองไปที่ไข่แล้วมันยังคงส่องแสงสีทองออกมาอยู่ เพลิงนิรันดร์ได้ส่องแสงสดใสออกมาด้วยความยินดี
"แกกินไข่นี่ไม่ได้นะ"
ทันใดนั้นเพลิงได้กลายเป็นหดเล็กลงราวกับว่ามันช็อคไป ยูอิลฮานได้พูดกับมัน
"แกกินมันไม่ได้จริงๆ นับจากนี้ไปเราจะฟักเลี้ยงเจ้านี่ ฉันจะเพิ่มไฟลงไปอีกด้วยดังนั้นช่วยควมคุมไฟและปลุกเจ้านี่นะ เข้าใจไหม?"
เขารู้สึกเหมือนกับเพลิงนิรันดร์หยักหน้า มันจะต้องทำแบบนั้น เขาทำได้เพียงเชื่อแบบนั้น
ยูอิลฮานได้หยิบเอาหอกออกมาและเรียกเพลิงม่วงออกมาและใส่ลงไปใต้เตาเผา เพลิงนิรันดร์ได้ดูดเพลิงม่วงไปอย่างหิวกระหายและเปลื่ยนสีไป
"ฉันจะเพิ่มประกายเพลิงด้วย!"
แน่นอนว่าเพลิงนิรันดร์ไม่ได้รู้ว่าประกายเพลิงคืออะไร ยูอิลฮานได้ดื่มมานาโพชั่นที่เหลือหลังจากเขาได้ใช้ที่ดาเรย์ไปอย่างมากลงไปและใช้งานประกายเพลิงในขณะดื่มโพชั่นอยู่
ในตอนนั้นเองเพลิงนิรันดร์ได้แสดงปฏิกิริยาราวกับมันจะพูดว่า [โอ้!? โอ้วววววววว!] ออกมาหากว่ามันพูดได้
หากว่าทุกๆสิ่งที่มันไดกินมาจนถึงตอนนี้เป็นเพียงกาแฟธรรมดา ออร่าที่แข็งแกร่งนี่ก็จะต้องเป็นสุดยอดเอสเปรสโซที่เข้มข้นสุดๆ เพลิงสีทองได้ลุกไหม้ลุนแรงขึ้นและมีความสุขพุ่งออกมาไปทุกทาง
[คุณทำมันไปจริงๆ] (เอิลต้า)
[ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรอกนะแต่ว่าฉันทึ่งกับมันจริงๆ!] (เลียร่า)
[เธอรควรจะพูดตรงๆนะว่าเธอไม่รู้อะไรเลย] (เอิลต้า)
ประกายเพลิงคือมอนสเตอร์กินมานา ยูอิลฮานได้โยนไข่เขาไปในเตาเผาโดยไม่ลังเล
มันเป็ฯเรื่องยากหากมีแค่เพลิงม่วงกับประกายเพลิง แต่ว่าเนื่องจากว่ามีเพลิงนิรันดร์ที่คอยควบคุมเพลิงทั้งคู่อยู่ทำให้มันได้รับไข่มังกรมาอย่างนุ่นนวลและค่อยๆส่งความร้อนไปให้ไข่ฟักตัวออกมา
ถ้าหากว่ามังกรได้เห็นฉากนี้ พวกมังกรก็อาจจะประกายสงครามจากสวรรค์เพียงแค่เพราะพวกมันต้องการเพลิงนิรันดร์มาฟักไข่ก็เท่านั้นก็เป็นได้
ยังไงก็ตามด้วยแค่ประกายเพลิงก็พอแล้วหรอ? ไข่ได้ส่องแสงออกมาเนื่องจากความร้อนของเตาเผาดูเหมือนจะส่องแสงก่อนที่จะขโมยมานาของยูอิลฮานไปอย่างต่อเนื่องนอกเหนือจากประกายเพลิง มันเป็นจำนวนที่มหาศาล
เนื่องจากว่านี่เป็นโอกาสสำคัญในการเกิดของมังกร ดังนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่น่าตกใจ ยูอิลฮานก็แค่คิดว่านี้มันคือเหตุการณ์การเกิดของมังกรและส่งมานาออกไปแต่โดยดี
เนื่องจากว่าเขามีมานาโพชั่นคุณภาพสูงอยู่ในปาก เขาจึงไม่ได้ล้มลงไปจากการขาดมานาแม้ว่าจะถูกประกายเพลิงกับไข่ดูดมานาออกไปก็ตาม
เมื่อมานาโพชั่นที่เขาดื่มในขวดลงไปถึง 80% ในที่สุดเขาก็ได้เห็นปฏิกิริยาบางอย่าง แสงที่ไข่ได้ส่องออกมาได้สว่างยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีรอยแตกปรากฏขึ้นบนไข่ ทูตสวรรค์ที่ดูฉากนี้อยู่ได้พูดออกมาพร้อมกับดวงตากลมโต
[นี่มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ฉันได้เห็นการฟักไข่มังกร] (เลียร่า)
[มันก็เป็นครั้งแรกของฉันเหมือนกับที่ได้เห็นมูตสวรรค์ได้รับพร@!#!@#+!] (เอิลต้า)
ในขณะที่เลียร่าปิดปากเอิลต้าไว้และลงโทษเธอ รอยแตกบนไข่ก็ได้ขยายใหญ่ขึ้น ในวินาทีที่รอยแตกได้ขยายวนรอบไข่โดยสมบูรณ์ก็ได้มีเสียงดังขึ้น
"สวัสดี"
สิ่งที่ออกมาจากไข่ได้ตะโกนอย่างมีชีวิตชีว่าเป็นเด็กที่ดูเหมือนมีอายุประมาณ 2 ปี เพลิงได้ทะลักออกมาจากเตาเผาและเด็กคนนั้นได้ลงมาถึงพื้น ภาพนี้มันไม่ได้ดูเหมือนพึ่งเกิดเลยสักนิด
ด้วยผิวสีขาว ดวงตาสีทองและผมสีดำแม้ว่าจะเพียงเกิดมาเมื่อกี้ก็ตาม นี่มันคือเด็กหนุ่มสุขภาพดี
ภาพลักษณ์ของเขาเป็นพิเศษอย่างที่คาดไว้จากมังกร แต่แม้ว่าจะได้เห็นเด็กเป็นครั้งแรก แต่ใบหน้าก็ดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
"พ่อ!"
นอกไปจากนี้เด็กคนนี้ก็ยังพูดออกมาอย่างมีชีวิตชีว่ามากๆเช่นกัน เสียงที่พูดออกมาไม่ใช่ทั้งภาษามังกร ภาษาอังกฤษแต่เป็นภาษาเกาหลี
"....นายไปเรียภาษาเกาหลีมาจากไหนกัน?"
"จากพ่อ...?"
เมื่อได้ยินเสียงสั่นๆและคำถามของยูอิลฮาน มังกรเด็กได้ตอบกลับมา ถึงแม้ว่าจะไม่มั่นใจนัก แต่หลังจากนั้นสักพักเขาก็ดูเหมือนจะคิดบางอย่างก่อนจะปรบมือพร้อมพูดออกมา
"แม่บอกไว้ว่าถ้าแม่วางไข่ไว้ พ่อก็จะมาปลุกผม!"
"โฮ่..."
"ดังนั้นก็คือพ่อ! ผมเรียนมาจากพ่อ!"
นี่มันน่าสนใจมากทีเดียว - อิลฮานได้คิดแบบนี้และหันหน้าไป
ได้มีบางอย่างผุดขึ้นในหัวของเขาซึ่งมันเป็นประโยคที่เขาได้อ่านจากจดหมาย 'ถ้าลูกของฉันได้สักครึ่งหนึ่งจากคุณ'
ในตอนนี้เขาได้คิดเพียงแค่ว่าให้เขาเลี้ยงลูกของเธอให้ดี ยังไงก็ตามเมื่อมองดูเด็กนี่มันดูชัดเจนแล้ว เด็กคนนี้ได้รับอิทธิพลมาจากยูอิลฮานอย่างชัดเจน
เมื่อคิดย้อนกลับไปมันจะต้องเกิดขึ้นในตอนที่มานาของยูอิลฮานได้ถูกดูดออกไปแน่
ในทันทีที่เขาประติดประต่อเรื่องราวในหัวได้ คำถามก็ได้ถูกแก้ไข เลอซิสน่าไม่ได้ตั้งใจจะอธิบายให้เขารู้ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ต้นเลย
เขาไม่มีแม้กระทั่งแรงจะโกรธ แต่ว่าเขาก็ไม่อาจจะอดทนโดยไม่โกรธได้
"เจ้านักต้มตุ๋นนี่....!"
มันดูเหมือนว่าเลอซิสน่าจะไม่ใช่แม่ที่ดีแล้ว แต่เป็นมังกรวัยสมรสนักต้มตุ๋นที่มองหาคู่