ตอนที่ 72 : โดนหลอก
เฟิงหยูเฮงเหลือบไปด้านข้างซึ่งเฟิงเฉินยูเดินเคียงข้างนาง ริมฝีปากของนางเผยให้เห็นรอยยิ้ม
นี่เป็นความจริงหรือไม่?
"พี่ใหญ่ พวกเราอยู่ในเรือลำเดียวกัน"
ทั้งสองเดินแยกกันไปตรงทางแยกของทางเดิน เฟิงหยูเฮงมองอย่างระมัดระวังในทิศทางที่เฉินซื่ออาศัยอยู่ แต่นางไม่สามารถมองเห็นหวงซวนได้ นางได้แต่รีบมุ่งหน้าไปยังเรือนรับรองของฮูหยินผู้เฒ่า
เมื่อมาถึงแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากำลังนั่งและคุยกับเหยาซื่อและอันชิ เมื่อนางเดินเข้ามา นางได้ยินเสียงฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวว่า "เมื่อพูดถึงตระกูลเย่ พวกเขาเป็นความภาคภูมิใจของราชวงศ์ต้าชุน เซียนหรู การที่เจ้าสนิทกับพระชายาเวิ่นซวนเป็นสิ่งที่ดี"
เหยาซื่อเข้าใจว่าฮูหยินผู้เฒ่าตั้งใจจะให้นางช่วยพูดให้เฟิงจื่อเฮา อย่างไรก็ตามนางไม่ต้องการจัดการเรื่องนี้ แต่นางก็ยิ้มให้และไม่ได้พูดอะไร
ฮูหยินผู้เฒ่ารู้สึกอับอายเล็กน้อย เมื่อนางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นางเห็นเฟิงหยูเฮงเดินเข้ามาและยิ้มให้นาง นางรีบโบกมือทักทาย "หลานสาวที่รัก มานั่งที่นี่"
เฟิงหยูเฮงเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว และเห็นวังซวนให้ความมั่นใจแก่นางจากข้างหลังเหยาซื่อ แล้วนางก็สงบลง ดูเหมือนว่าเหยาซื่อจะตรงมาหาฮูหยินผู้เฒ่าก่อน ดังนั้นด้านหวงซวนจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"อาการปวดเอวของท่านย่าดีขึ้นหรือไม่เจ้าคะ?" นางยิ้ม และมองไปที่ขนมหวานบนโต๊ะของฮูหยินผู้เฒ่า "ของหวานพวกนี้ทางวัดจัดให้หรือเจ้าค่ะ? ยอดเยี่ยมเลย"
ฮูหิยนผู้เฒ่ายิ้มและส่ายศีรษะ "วัดจะมีขนมหวานแบบนี้ได้อย่างไร ขนมหวานนำมาจากบ้านโดยฮูหยินรองเหยา" ขณะที่นางพูดถึง นางส่งขนมหวานให้เฟิงหยูเฮง "มาชิมด้วยกัน"
เหยาซื่อกล่าวต่อว่า "ตอนแรกข้าอยากจะมอบมันให้กับฮูหยินใหญ่ แต่คิดถึงสภาพของนาง...ข้ากังวลว่านางจะไม่กินขนมที่ข้าทำให้ ข้าเลยไม่ได้เอาไปให้นาง"
ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้า "ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนาง เช่นไรนางก็ไม่อดตาย"
เฟิงหยูเฮงรับของหวานมาถือไว้ จากนั้นก็ชิมมัน 2 ครั้ง และพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
ขณะที่นางกินขนม นางเริ่มไตร่ตรอง เป็นไปได้ไหมที่นางรู้สึกระแวงเกินไป?
มองไปที่แม่นมซัน นางเห็นหญิงชราคนนั้นยืนก้มหน้าอยู่ข้างเหยาซื่อ ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับการแสดงออกทางสีหน้าของนาง แต่มือทั้งสองข้างของนางกำแน่น
เฟิงหยูเฮงรู้ว่านี่เป็นสัญญาณของความวิตกกังวล
คนในห้องเริ่มคุยกัน "ทำไมเราถึงไม่เห็นจื่อหรู? น้องสามชอบจื่อหรูและอยากจะไปเล่นกับเขาเสมอ"
เฟิงหยูเฮงตกใจและก็ตระหนักถึงปัญหาที่สำคัญมาก นางถูกศัตรูหลอกล่อออกจากเรือน
นางรีบลุกขึ้นและกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่าว่า "ข้านึกได้ว่ายังคงมีบางอย่างที่ต้องทำ ข้าขอตัวก่อนเจ้าค่ะ"
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ได้ห้ามนาง ลมในภูเขาในเวลากลางคืนจะเย็นมาก ดังนั้นนางต้องใช้ผ้าห่มเพิ่ม
วังซวนตามเฟิงหยูเฮงออกไป เห็นว่านางกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางจึงถาม "คุณหนูรอง เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?"
เฟิงหยูเฮงพูดขณะที่นางเดิน "ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ เป็นเพียงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างเท่านั้น กลับไปหาจื่อหรูกันเถอะ "
วังซวนก็รู้สึกกังวลด้วย เมื่อพวกเขาออกมาเฟิงจื่อหรูนอนหลับอยู่ตามลำพังในห้อง หวงซวนมุ่งหน้าไปหาเฉินซื่อ แม้ว่าจะไม่มีอะเกิดขึ้น นางก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็ยังคงมีช่องโหว่อยู่บ้าง
ทั้งสองรีบกลับไปที่ห้องนั่งเล่นของพวกเขา เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในลานบ้านพวกเขาเห็นหวงซวนเดินไปรอบ ๆ ประตูอย่างฉับพลัน เมื่อเห็นพวกเขากลับมา นางรีบเดินไปข้างหน้าและดึงเฟิงหยูเฮงเข้าห้อง
หัวใจของเฟิงหยูเฮงเต้นเร็วขึ้น แน่นอนว่ามันอยู่ในความคาดหวังของนาง มีบางอย่างเกิดขึ้น
ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องและหวงซวนปิดประตู จากนั้นนางดึงพวกเขาไปที่เตียง ชี้ไปที่เตียงที่ว่างเปล่า นางกล่าวว่า "ข้าไปที่เรือนรับรองที่เฉินซื่ออาศัยอยู่เพื่อหยุดยั้ง และอยู่ที่นั้นสักครู่ สังเกตว่าฮูหยินใหญ่ไม่ได้ไปในทิศทางนั้น ข้าจึงกลับมา แต่เมื่อข้ากลับมา ข้าสังเกตเห็นว่าคุณชายรองหายไป" ขณะที่นางพูด นางหยิบจดหมายแผ่นหนึ่งจากหมอนขึ้นมาและส่งไปให้กับเฟิงหยูเฮง "แต่ได้สิ่งนี้มาแทน"
เฟิงหยูเฮงรับจดหมายมาและเปิดออกอ่าน ในจดหมายเขียนว่า "ถ้าเจ้าต้องการที่จะช่วยเด็ก ให้เดินไปทางด้านหลังของภูเขาในเวลาเที่ยงคืน"
ตัวอักษรที่เขียนแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและมีพลัง มันควรจะได้รับการเขียนโดยมือของมนุษย์
เฟิงหยูเฮงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีที่สุด เห็นได้ชัดว่าเฟิงจื่อหรูถูกลักพาตัว นอกจากนี้นางมั่นใจมากว่าการลักพาตัวจื่อหรูไม่ได้เป็นการเรียกค่าไถ่อย่างแน่นอน
"คุณหนูรองต้องการให้ข้าออกไปตามหารอบ ๆ หรือไม่เจ้าคะ?" หวงซวนเป็นกังวลเล็กน้อย "บางทีพวกเขายังอาจไม่ได้ไปไกล ให้บันซูตามไปดีหรือไม่ ?"
หยูเฮงส่ายหัว "ไม่ต้อง ประการแรกสำหรับเรื่องนี้เราจะไม่ทำอะไรที่โจ่งแจ้ง ถึงแม้ว่าเป้าหมายของศัตรูจะให้ข้าไปหาที่หลังภูเขา จื่อหรูจะปลอดภัยในตอนนี้" นางให้คำแนะนำแก่สาวใช้ 2 คน "ข้าจะให้หวงซวนไปที่หลังภูเขา วังซวนอยู่ข้างหลังเพื่อดูแลห้อง"
วังซวนพยักหน้า นางรู้ว่านางได้รับบาดเจ็บและจะกลายเป็นภาระถ้านางออกไป ดังนั้นนางจึงไม่มีการคัดค้าน นอกจากนี้ยังมีบันซูคอยดูแลลับ ๆ อยู่ นางมั่นใจมาก
ทั้งสามคนยังคงพูดต่อไปสักครู่ จนกว่าพวกเขาจะได้ยินเสียงที่มาจากนอกลาน
หยูเฮงลุกขึ้นมอง และเห็นว่าเป็นเหยาซื่อที่กลับมาพร้อมกับแม่นมซัน นางรีบเดินไปหาเหยาซื่อและกล่าวว่า "จื่อหรูเหนื่อยกับการเล่นมากเกินไปและเข้านอนแล้ว ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะให้สาวใช้นำอาหารเย็นไปที่ห้อง คืนนี้จื่อหรูจะนอนที่ห้องกับข้า"
เหยาซื่อครุ่นคิด นางรู้สึกว่าเฟิงจื่อหรูติดเฟิงหยูเฮง ดังนั้นนางจึงยิ้มแย้มแจ่มใส และพูดว่า "เจ้าจะทำให้เขาเสียเด็ก เขาอายุเท่าไหร่แล้วยังเกาะเจ้าติดแจอยู่ดี" แต่นางไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วกลับไปที่ห้องของนางพร้อมกับแม่นมซัน
เฟิงหยูเฮงนึกถึงอาการป่วยของเฟิงเซียงหรู นางเอื้อมมือเข้าไปที่แขนเสื้อและดึงยาแก้ไข้ออกจากมิติของนาง นางได้ส่งยามอบให้หวงซวนนำไปให้เฟิงเซียงหรู
การรอคอยเป็นสิ่งที่ยาวนานที่สุด เมื่อถึงเวลา เฟิงหยูเฮงและหวงซวนก็แอบออกไปที่หลังภูเขา
พวกเขายังคงได้ยินพระสงฆ์นั่งสวดมนต์เคาะไม้เบาๆ นี่น่าจะเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เงียบสงบและมีความสุข แต่เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทำให้คนรู้สึกผิดหวังอย่างขมขื่น
เฟิงหยูเฮงเป็นคนที่ไม่เคยกลัวอะไร นางได้เตรียมการรับมือมานานแล้วไม่ว่าศัตรูจะลงมือเช่นไร นอกจากนี้นางไม่ได้ตำหนิตัวเองหลังจากความจริงที่ว่านางไม่ระมัดระวังในการเฝ้าดูเฟิงจื่อหรู แต่นางได้นำบทเรียนนี้มาเป็นประสบการณ์เพื่อที่นางจะได้มีวิธีการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นนี้เช่นนี้อีก
แสงจันทร์สาดส่องมาเป็นประกายราวกับเส้นไหม และดาวก็พร่างพราวเต็มท้องฟ้า ท้องฟ้าปรอดโปร่ง แต่หลังจากที่ทั้งสองวนรอบด้านบนสุดของภูเขา ในพริบตา ดวงจันทร์และดวงดาวก็จางลง
ผู้ชายที่สวมหน้ากากสวมชุดสีดำวิ่งออกมาจากทุกสารทิศล้อมรอบเฟิงหยูเฮงและหวงซวน ในมือของพวกเขามีดาบ และดาบที่ปล่อยแสงเย็นทำให้ผู้คนไม่สามารถจ้องมองได้โดยตรง
เฟิงหยูเฮงไม่ทราบว่าพวกนี้มาจากกลุ่มเดียวกับคนที่ริมแม่น้ำหรือไม่ นางเสียใจเพียงแค่ที่นางมักเข้ามาเจอกับการต่อสู้ด้วยดาบเหล่านี้ และฝนก็ตกลงมา
หวงซวนยืนหลังชนกันกับนาง และแบ่งการต่อสู้ออกเป็น 2 ฝ่าย คนรอบข้างคนหนึ่งจับตัวเฟิงจื่อหรูเป็นตัวประกัน และยืนอยู่ต่อหน้าเฟิงหยูเฮง
เมื่อเห็นว่าเฟิงจื่อหรูถูกปิดตาและยังคงมีสติอยู่ นางรู้ดีว่าเขาได้รับยาที่น่าพิศวง นางขมวดคิ้วแน่น
"คุณหนูรองจระกูลเฟิง" คราวนี้อีกฝ่ายเปิดการสนทนาของผู้ลักพาตัว เขานำมีดจ่อที่คอของเฟิงจื่อหรู และเริ่มเจรจากับเฟิงหยูเฮงว่า "แลกชีวิตของเจ้ากับเด็กคนนี้ คุณหนูรองของตระกูลเฟิงคิดว่าเรื่องนี้คุ้มค่าหรือไม่"
"ตามที่คาดไว้ ข้าคือเป้าหมาย" เฟิงหยูเฮงเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มุมปากเล้กน้อย "เนื่องจากเจ้ารู้ว่าข้าเป็นถึงคุณหนูรองของตระกูลเฟิง แต่เจ้ายังกล้ากล้าที่จะทำเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวการตอบโต้ของตระกูลเฟิงหรือ?"
"ฮ่าๆ!" เขาทำราวกับว่าได้ยินเรื่องตลก "หือ! แม้ว่าตระกูลเฟิงต้องการที่จะแก้แค้นก็คงต้องใช้ความสามารถมากหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณหนูรองเสียชีวิต เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้าจะเสียใจและหาทางแก้แค้น หรือว่าพ่อของเจ้าจะแอบยินดี ?"
คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่คำปรานี และเฟิงหยูเฮงไม่ปฏิเสธ อย่างไรก็ตามรอยยิ้มยังคงไม่หายไปจากใบหน้าของนาง นางกล่าวเตือนศัตรูว่า "เป็นไปได้ว่าตระกูลเฟิงจะยินดี แต่เจ้าคงลืมไปว่าข้ามีองค์ชายเก้าหนุนหลัง !"
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกไป เฟิงหยูเฮงไม่รอช้า นางตะโกนดังขึ้นไปในอากาศ "บันซู! ช่วยพวกเราด้วย!"
จากที่ไหนสักแห่งในอากาศ เงาที่น่ากลัวหลุดออกมา ในพริบตาเขามาอยู่ตรงหน้าเหล่าชายชุดดำ ชายชุดดำถูกตัดหัวทันที เฟิงจื่อหรูถูกจับโดยเงาอันน่ากลัว และหายไป
กลุ่มชายชุดดำที่สวมหน้ากากยังคงมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อพวกเขา ขณะที่พวกเขาตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีคนกรีดร้องเสียงดังว่า "ฆ่ามัน!"
ทันใดนั้นชายชุดดำเกือบยี่สิบคนวิ่งไปที่เฟิงหยูเฮงและหวงซวน
เวลานี้แตกต่างจากครั้งก่อนหน้า ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกซุ่มโจมตี ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับตาดู นอกจากนี้พวกเขายังไม่มีบันซูอยู่เคียงข้างพวกเขา และจำนวนคนที่พวกเขาพบก็มากกว่าตอนนี้ นอกจากนี้ศัตรูยังมีลูกศรอาบยาพิษซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน
นอกจากนี้นางมีบันซูอยู่ข้างนาง ผู้คุ้มกันที่ซ่อนอยู่นั้นก็เหมือนกับเงาของนาง เงียบและไม่มีรูปร่าง แต่ปกป้องนางจากเงามืดเสมอ
สามคนที่ต่อสู้กับยี่สิบคนไม่ได้เป็นที่น่าเบื่อหน่าย เฟิงหยูเฮงรู้ว่าเฟิงจื่อหรูถูกนำตัวไปยังที่ปลอดภัยแล้วโดยบันซู เมื่อไม่มีแผนการอะไร นางใช้ยาชาแทงเข้าที่หลังของใครบางคนและดึงดาบมา แต่น่าเสียดายที่นางไม่มีทักษะดาบ หลังจากกวัดแกว่งดาบไปมาประมาณสองสามครั้งแม้แต่บันซูก็ยังขุ่นเคืองนาง หวงซวนดึงนางกลับมา "คุณหนูรอง รีบทิ้งดาบเจ้าค่ะ"
นางยังรู้สึกว่ารูปแบบของนางดูน่าเกลียดมาก ๆ ดังนั้นนางจึงทิ้งดาบและยังคงใช้เข็มที่นางคุ้นเคย
หลังจากนั้นไม่นาน ชายชุดดำมีจำนวนน้อยลง เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เลวร้ายศัตรูที่เหลือทั้งหมดเอื้อมมือไปที่เอวของพวกเขากำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง
ดูเหมือนว่าบันซูและหวงซวนมีประสบการณ์บางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเห็นศัตรูเอื้อมมือไปที่เอว หวงซวนรีบเคลื่อนไหวทันที และกล่าวว่า "อย่าปล่อยให้พวกมันใช้อาวุธลับ !"
ส่วนบันซู เขาก็ลอยตัวเหมือนผีในเวลาเดียวกับหวงซวน ในการปะทะกันไม่กี่ครั้ง เขาจัดการชายชุดดำส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ ส่วนอีกสามคนได้รับบาดเจ็บจากเข็มฉีดยาของเฟิงหยูเฮง
ไม่นานหลังจากนั้นชายชุดดำที่สวมหน้ากากทั้งหมดถูกจัดการ เฟิงหยูเฮงได้วางแผนที่จะตรวจสอบและค้นตัวพวกเขาเพื่อหาหลักฐาน อย่างไรก็ตามนางเห็นบันซู และหวงซวนจ้องมองมาที่นาง
"อ่า... " นางก้มหัวลง และมองตัวเองว่า "มีอะไรหรือ?"
หวงซวนเช็ดเหงื่อออก "คุณหนูรองใช้อาวุธลับที่น่าอัศจรรย์มาก?"
บานซูไม่ได้พูดอะไร เขามองไปที่เฟิงหยูเฮงและรอคำตอบ
เฟิงหยูเฮงเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่มีเจตนาที่จะยอมแพ้ นางก็ตอบได้เพียงอย่างเดียวว่า "มันเป็นแค่เข็มยาชา" จากนั้นชี้คนที่อยู่บนพื้น นางบอกกับบันซูว่า "คนที่โดนข้าแทงไม่ได้ตาย พวกเขาหมดสติเท่านั้น เจ้าต้องการที่จะสอบปากคำพวกมันหรือไม่?"
บันซูไม่ได้กล่าวอะไร เขาใช้วิทยายุทธของเขา เขาเดินวนไปรอบ ๆ ไม่มีร่องรอยของการเคลื่อนไหวใด ๆ แต่เมื่อเขาหยุดเดิน เขาบอกกับพวกนางว่า "ตอนนี้ไม่อาจปล่อยให้มีใครรอดชีวิตไปได้"
เฟิงหยูเฮงทำอะไรไม่ได้ "เราควรจะทรมานพวกเขาเพื่อหาข้อมูล"
บันซูส่ายหัว "พวกเขาเป็นคนจากวังยามะ มีเครื่องหมายบนร่างกายของพวกเขา" ในขณะที่เขาพูด ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง และในพริบตาเขาพาเฟิงจื่อหรูออกมาจากที่ไหนไม่รู้
เฟิงหยูเฮงรับเฟิงจื่อหรูมา และได้ยินเสียงของคนอื่นดังใกล้เขามาในทิศทางที่พวกเขาอยู่ พวกเขายังสามารถมองเห็นเปลวไฟสว่างไสวได้
หวงซวนรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง "ข้ากลัวว่าคนอื่นจะมาที่นี่"
ขณะที่นางกล่าว พวกเขาได้ยินเสียงตะโกน "คุณหนูรอง คุณหนูรองอยู่ที่ไหนเจ้าคะ? คุณหนูรอง! "
มีคนอีกคนหนึ่งที่ร้องตะโกนออกมาว่า "หรือมีคนลักพาตัวคุณหนูรอง ได้โปรดอย่าทำร้ายคุณหนูรองของตระกูลข้าเลย ไม่ว่าพวกเจ้าต้องการเงินเท่าไหร่ ข้าจะจ่ายให้ทั้งหมด ขอเพียงแต่คุณหนูรองยังมีชีวิตอยู่ !"