บทที่ 36 นิ่งเข้าไว้ 3 (2) [อ่านฟรี]
บทที่ 36 นิ่งเข้าไว้ 3 (2)
คาร์ลกอดอกของตนขณะที่เอนหลังพิงลงบนต้นไม้ในที่อยู่ในจัตุรัสแห่งนี้พลางกล่าวต่อไป
“ระเบิดเหล่านั้นคือชิ้นส่วนสำคัญของพลังเวทย์ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าจำเป็นจะต้องใช้ผู้ที่มีพลังเวทย์ขั้นสูงในการใช้ประสาทสัมผัสของพวกเขาเข้าตรวจสอบพื้นที่และค้นหาตามสถานที่ต่างๆที่ดูเหมือนจะมีพลังเวทย์จำนวนมากอยู่ที่นั่น”
เชวฮันชะงักไปกับท่าทางที่ดูใจเย็นของคาร์ลก่อนที่จะเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“มันมีพลังเวทย์ในระดับที่สูงเพียงใดหรือขอรับ?”
“ไม่...มันไม่ได้มีระดับพลังเวทย์ที่สูงมากนัก...มันมีพลังเวทย์ที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยจากระดับความสามารถของนักเวทย์ทั่วไป...มันยากที่เหล่านักเวทย์พวกนั้นจะสัมผัสถึงมันได้แต่ระเบิดพลังเวทย์ที่มีชิ้นส่วนเล็กๆเหล่านี้สามารถดึงพลังเวทย์ที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเข้าสู่ตัวมันได้ทันทีเพื่อสร้างพลังเวทย์ของระเบิดให้มีการทำลายล้างได้สูงยิ่งขึ้น”
เชวฮันดูเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ในฐานะที่เขาเป็นเพียงผู้ใช้ดาบและใช้กลิ่นอายในการเข้าโจมตีคู่ต่อสู้ทำให้เขาอาจมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อพลังเวทย์ต่างๆได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีความสามารถที่มากไปกว่าเหล่านักเวทย์ตัวจริงได้จึงไม่สามารถช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่
“ท่านคาร์ล..กระผมไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ง่ายนัก”
“มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก..”
คาร์ลเอ่ยออกไปอย่างง่ายดายกับคำกล่าวของเชวฮัน
“ถูกต้อง!”
ก่อนที่จะมีคำตอบมาจากด้านบนเหนือศีรษะของคนทั้งคู่
“มันเป็นไปได้สิ...น่ารำคาญยิ่งนัก”
เหนือขึ้นไปจากคาร์ลก็คือ ‘มังกรดำ’มันคือสิ่งที่ถูกกล่าวได้ว่ามีประสาทสัมผัสที่ไวต่อพลังเวทย์ได้ดีที่สุด เชวฮันเพิ่งเข้าใจในตอนนี้และพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว เขาลืมไปได้อย่างไรว่ามังกรตัวนี้ยอดเยี่ยมและทรงพลังมากเพียงใด
คาร์ลยื่นแผนที่ในมือของเขาให้แก่เชวฮัน
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับระเบิดที่จะถูกติดตั้งกับตัวคนแต่ระเบิดพลังเวทย์ที่จะถูกติดตั้งตามสถานที่ต่างๆจะถูกติดตั้งล่วงหน้าอย่างน้อยสองวันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น”
วันที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นคือวันที่พระราชาเสด็จพระราชดำเนินมาถึงและนั่นหมายความว่าการรักษาความปลอดภัยจะมีความรัดกุมและเข้มงวดมากขึ้นกว่าปกติก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ทำให้พวกมันจำเป็นต้องติดตั้งระเบิดพลังเวทย์ล่วงหน้าอย่างน้อยสองวัน
“ข้าไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่อื่นๆเช่นกัน....แต่ข้าแน่ใจว่าอย่างน้อยหนึ่งจุดที่พวกมันจะติดตั้งระเบิดพลังเวทย์จะต้องเป็นบริเวณที่ใกล้กับที่แห่งนี้เพราะที่นี่เป็นสถานที่รวมตัวสำหรับชาวเมืองเป็นจำนวนมาก”
“ใช่....กระผมเห็นด้วย”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ที่นี่คือจัตุรัสกลางเมืองของอาณาจักรแห่งนี้”
คาร์ลชี้ไปยังเชวฮันก่อนจะยกมือชี้ขึ้นไปบนฟ้า
“เชวฮัน....เจ้าและมังกรจะต้องเดินสำรวจรอบเมืองทุกๆคืนเพื่อค้นหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้น”
“.......แค่เราสองคนรึ?”
คาร์ลตบที่ไหล่ของเชวฮันเบาๆและเอ่ยตอบคำถามที่เชวฮันถามตน วิธีที่เขาใช้กับมังกรก็เป็นวิธีที่คล้ายๆกับที่เขาใช้กับเชวฮัน
“ใช่!...เชวฮัน...ถ้าหากเป็นเจ้า...ข้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะสามารถเดินสำรวจบริเวณรอบๆได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นได้...เจ้าเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นยิ่งนัก”
เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำกล่าวของคาร์ลอย่างเงียบๆก่อนจะเอ่ยถามคาร์ลออกมา
“แล้วพวกกระผมจะต้องทำอย่างไรเมื่อหาพวกมันพบ?”
“ปล่อยมันไว้เช่นนั้นก่อน”
“..........จะไม่กำจัดมันหรือขอรับ?”
“เราจะกำจัดมันในวันเกิดเหตุ”
“ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นหรือขอรับ?”
คาร์ลเริ่มแสยะยิ้มออกมา
“เจ้าไม่อยากเจอตัวนักเวทย์คนนั้นรึ?”
มันไม่ใช่คำตอบสำหรับคำถามของเชวฮันแต่เชวฮันกลับพยักหน้าอย่างเข้าใจ คาร์ลมองไปรอบๆจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้ทุกคนต่างดูมีความสุขแต่เหล่าสมาชิกขององค์กรลับกลับจะทำลายมันลง คาร์ลไม่รู้ว่านักเวทย์เล่นเลือดในตอนนี้อยู่ที่ใดเขาอาจจะหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งหรืออาจจะปลอมตัวเดินผ่านไปมาก็เป็นได้
“นักเวทย์นั่นจำเป็นจะต้องมายังที่แห่งนี้เพื่อควบคุมและสั่งการการติดตั้งระเบิดพลังเวทย์ด้วยตนเองและนักเวทย์ที่ลงมือสร้างระเบิดพลังเวทย์นี้ขึ้นมาเขาต้องการที่จะขจัดสิ่งรบกวนต่างๆเพื่อให้ระเบิดพลังเวทย์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
“ถ้าเช่นนั้น............”
เชวฮันกำลังจะพูดในสิ่งที่เขาคิดแต่เขาก็ยั้งตัวเองไว้ได้ทันและมองไปยังคาร์ลที่ยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้สนใจท่าทางของเขาเมื่อครู่นี้
“ก่อนอื่นเจ้าต้องหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านี้ก่อน...หากเจ้าโชคดีอาจเจอกลุ่มคนที่ติดตั้งระเบิดพลังเวทย์นี้ได้และให้สะกดรอยตามพวกเขาไปโดยห้ามไม่ให้พวกเขารู้ตัวเป็นอันขาด”
เนื่องจากมังกรดำจะทำงานร่วมกับเชวฮันจึงทำให้เขาสามารถหยุดการทำงานของตนเองลงได้ทันก่อนที่จะถูกเจอตัวจากการใช้พลังเวทย์ของเหล่าสมาชิกในองค์กรลับแต่คาร์ลคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากที่พวกเขาจะเจอตัวกลุ่มคนเหล่านี้ได้
มันอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานกับการค้นหาระเบิดพลังเวทย์ในสถานที่ที่มีความผันผวน[1]ของระดับพลังเวทย์เช่นนี้ มันจะทำให้มีความยากลำบากและเหนื่อยเป็นอย่างมากจึงเป็นเหตุผลให้คาร์ลทิ้งงานนี้ให้กับพวกเขาทั้งสอง เขาไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้และที่สำคัญไปกว่านั้น...คือเขาไม่มีความต้องการที่จะลงมือทำมันเช่นกัน
“เราจะต้องเดินสำรวจในบริเวณนี้จนกว่าจะเหลือเวลาเพียงสองวันก่อนเกินเหตุการณ์หรือขอรับ?”
“ไม่...พวกเจ้าจะต้องมาอีกหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน”
“วันก่อนเกิดเหตุด้วยรึ?”
‘มันจะไม่เป็นเรื่องที่ยากเกินไปรึ?เพราะในวันนั้น...ที่นี่จะมีทหารยามเป็นจำนวนมาก’
เชวฮันไม่ได้เอ่ยคำถามของเขาออกมามันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแต่เขาก็สามารถที่จะจัดการมันได้เช่นกัน เขาจะต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและต้องระมัดระวังตัวเองให้มากกว่าเดิม
ในตอนนั้นเองเชวฮันก็มองเห็นรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ร้ายกาจบนใบหน้าของคาร์ลอีกครั้ง
คาร์ลหยิบลูกกลมๆสีดำออกจากกระเป๋าและยกมันสูงขึ้นเพื่อให้เชวฮันได้เห็น
“อ่า.....”
เชวฮันมีอาการตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเห็นมัน เขาคุ้นเคยกับลูกกลมๆสีดำนี้มันคือ ‘เครื่องรบกวนพลังเวทย์’ มันเคยถูกคาร์ลใช้มาก่อนหน้านี้มันมีพลังที่แข็งแกร่งมากพอที่จะหยุดทุกอย่างบนภูเขาลงได้
คาร์ลยกยิ้มด้วยความมั่นใจ เขารู้ว่าระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้นจะต้องหยุดการทำงานลงอย่างกะทันหัน
“จะมีนักเวทย์จำนวนมากที่มารวมตัวกันที่นี่ในวันนั้น...ดังนั้นอาจจะมีเวลาไม่ถึง 10 นาทีแต่มันก็พอช่วยอะไรได้บ้าง...มันจะทำให้ทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับพลังเวทย์หยุดทำงานลงได้ระยะเวลาหนึ่ง”
‘10 นาทีก็เพียงพอ’
พวกเขาต้องการจะช่วยชีวิตผู้คนจากระเบิดพลังเวทย์ในเวลา 10 นาที พวกเขาจะสามารถมองหาระเบิดพลังเวทย์เหล่านั้นได้มากยิ่งขึ้นและเมื่อถึงเวลานั้นจะมีทั้งมนุษย์และสัตว์อสูรเป็นจำนวนมากที่จะลงมือทำงานนี้นอกเหนือไปจากเชวฮันและมังกรดำอีกด้วย
เชวฮันมองสลับไปมาระหว่างลูกกลมๆสีดำและและใบหน้าของคาร์ลด้วยความทึ่งและเริ่มพูดกับคาร์ลออกมาช้าๆ
“.......ท่านคาร์ล....ท่านวางแผนที่จะทำทั้งหมดนี้ด้วยตัว.....”
“นั่นแหละคือเหตุผลของข้า.....”
คาร์ลรู้ว่าเชวฮันจะพูดอะไรออกมาจึงทำให้เขาเลือกที่จะเอ่ยตัดบทเชวฮันขึ้นก่อนจะเริ่มเอ่ยกับเชวฮันและมังกรในทันที
“ไปทำงานได้แล้ว”
เชวฮันเหลือบมองคาร์ลด้วยความไม่เต็มใจนักก่อนที่คาร์ลจะชี้ไปยังร้านเบียร์ที่มีชื่อเสียงในย่านนี้และเริ่มพูดต่อในทันที
“ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่นั่น...เพียงแค่พวกเจ้าออกไปสำรวจรอบๆบริเวณนี้จนถึง 5 ทุ่มแล้วค่อยกลับมาเจอข้าที่นี่อีกครั้ง”
เชวฮันหยุดคิดไปชั่วครู่ก่อนปล่อยเสียงออกมามันฟังคล้ายๆกับเสียงหัวเราะและพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของคาร์ลช้าๆ
“กระผมเข้าใจแล้ว..คืนนี้กระผมกับมังกรจะออกไปสำรวจรอบๆบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ก่อนกลับมาเจอท่านที่นี่อีกครั้ง”
เชวฮันเคยคิดที่จะถามคาร์ลว่าเหตุใดเขาจึงไม่ไปกับพวกตนด้วย แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว คาร์ลจะกลายเป็นภาระสำหรับตัวเขาและมังกรในขณะที่พวกเขาลงมือทำงาน
คาร์ลร่างกายอ่อนแอและไม่มีสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าร่างกายของเขามีพลังเวทย์อยู่ในนั้นรวมทั้งท่าทางที่ดูเหมือนจะไม่เคยได้รับการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวชนิดใดๆเช่นกัน เขาเป็นเพียงคนธรรมดา...แต่ก็มีความไม่ธรรมดาในเวลาเดียวกัน
“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก....ดังนั้นเจ้าช่วยซื้อเบียร์ให้ข้าดื่มด้วยสิหากข้ากลับมาถึงแล้ว”
“ได้สิเจ้ามังกร....ข้าขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเจ้าด้วย”
มังกรดำได้คลายโดมกั้นเสียงออกจากตัวพวกเขาทันทีราวกับว่ามันทำให้คาร์ลเห็นถึงความกระตือรือร้นในการทำงานของมัน เชวฮันก้มศีรษะของเขาให้แก่คาร์ลเล็กน้อยก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกห่างจากคาร์ลในทันที
อีกสองชั่วโมงต่อมาคาร์ลก็กลับไปยังบ้านพักของตนพร้อมกับเชวฮันและมังกรดำที่ไม่สามารถค้นเจอสิ่งใดได้
และในคืนต่อมาพวกเขาก็ไม่สามารถค้นเจอสิ่งใดๆได้เช่นกัน
คาร์ลซึ่งนอนไม่หลับในตอนกลางคืนได้ตื่นขึ้นมาในช่วงเที่ยงเขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเพราะพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘พละกำลังแห่งดวงใจ’จะไม่ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกเหนื่อยได้ง่าย
“นายน้อย....ตื่นแล้วหรือขอรับ?”
“รอน.......”
คาร์ลรู้สึกว่าค่ำคืนที่แสนหวานของเขาได้จางหายไปราวกับฝันเมื่อต้องตื่นกลับสู่โลกความเป็นจริง
“กระผมกลับมาแล้วขอรับ”
อ่า....รอนกลับมาแล้วจากนั้นรอนก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้แก่คาร์ล ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยสั่งรอนในเวลาต่อมาเมื่อได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว
“รอน...ไปเตรียมห่อขวดไวน์ที่ดีที่สุดเอาไว้”
มันเป็นจดหมายที่มีตราสัญลักษณ์ของตระกูลฟลินน์ คาร์ลเปิดจดหมายเพื่อเจอเนื้อหาเพียงประโยคเดียว
[นายน้อยคาร์ล...เร็วนี้ๆท่านจะให้เกียรติเลี้ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่กระผมได้หรือไม่ขอรับ?]
บิลอส บุตรชายนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าฟลินน์คือเจ้าของจดหมายฉบับนี้และเขาจะเดินทางถึงเมืองหลวงในเร็วๆนี้แล้ว
จดหมายฉบับนี้ช่วยให้คาร์ลรู้ว่าเหลือเวลาเพียงไม่นานที่เขาจะต้องเดินทางไปเข้าเฝ้าองค์ชายรัชทายาทในวังหลวง เป็นเพราะที่นั่นมีเหล่าตัวร้ายอยู่เป็นจำนวนมากจึงเป็นเหตุผลที่เขาสมควรจะวางตัวให้นิ่งและนิ่งให้มากที่สุดในตอนนั้น
[1] ความผันผวน คือ การกลับไปกลับมา ปั่นป่วน ไม่แน่นอน ไม่คงที่ แปรผัน