บทที่ 36 นิ่งเข้าไว้ 3 (1) [อ่านฟรี]
บทที่ 36 นิ่งเข้าไว้ 3 (1)
เชวฮันเหลือบมองไปที่มังกรก่อนที่จะหันกลับมามองคาร์ลพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
“พวกเรากำลังจะไปทำลายบางอย่างใช่หรือไม่?”
“ไม่...ไม่ใช่เช่นนั้นอย่างแน่นอน”
‘ทำไมถึงคิดอะไรในแง่ร้ายเช่นนั้นเนี่ย?’
คาร์ลค่อยๆทอดตัวนอนลงบนเตียงและโบกมือเป็นสัญญาณเพื่อให้เชวฮันออกไปจากห้อง
“อีกสักพักเจ้าค่อยกลับเข้ามาหาข้าใหม่ตอนนี้รีบออกไปได้แล้ว..อ้อ!.....อย่าลืมใส่หมวกด้วยล่ะ”
เชวฮันดับไฟในตะเกียงให้มอดลงทำให้ภายให้ห้องเหลือเพียงแค่แสงจากท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ลอดผ่านเข้ามาก่อนที่จะก้าวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขาก็ออกไปพูดอะไรบางอย่างกับฮันส์ คาร์ลปิดเปลือกตาของตนลงและแกล้งทำเป็นหลับในทันที
ประตูห้องถูกปิดลงในเวลาต่อมาโดยที่ฮันส์ไม่ได้เข้ามาภายในห้องแต่อย่างใด มังกรดำที่กลับมาใช้เวทย์ล่องหนในตอนที่ประตูเปิดออกเมื่อครู่เมื่อเห็นว่าประตูถูกปิดสนิทอีกครั้งมันจึงคลายเวทย์ล่องหนออกทันทีก่อนจะทิ้งตัวของมันลงบนเตียงนอนของคาร์ล ฝั่งหนึ่งของเตียงนอนเริ่มยุบตัวลงในขณะที่มังกรเริ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงรู้ทัน
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้หลับจริงๆหรอก”
คาร์ลเริ่มบ่นในใจเมื่อได้ยินคำพูดของมัน
‘ในสายตาของมังกรตัวนี้ฉันดูเหมือนเด็กอายุสี่ขวบรึไงกันนะ?’
คาร์ลถอนหายใจยาวก่อนจะลุกออกจากเตียง
หลังจากนั้นไม่นานเชวฮันที่สวมใส่เสื้อคลุมยาวก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งจากทางระเบียงห้องของคาร์ล
“เจ้าอยู่ที่นี่ด้วย...ข้าคิดว่าเสื้อคลุมตัวนี้ย่อมดีกว่าหมวกใบนั้นมากแน่ๆ”
เชวฮันพยักหน้ารับและเริ่มพูดกับมังกรเมื่อเห็นว่าคาร์ลกำลังสวมหมวกใบนั้นอยู่
“เจ้าจะตามเราไปด้วยงั้นหรือ?”
“ข้าจะใช้เวทย์ล่องหน”
“.....ข้าได้ยินมาว่ามังกรสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้หลายรูปแบบ..ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้หรือไม่? ข้าคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายนะ”
พลังเวทย์ของมังกรเป็นพลังที่สามารถแสดงออกมาได้ตามที่พวกมันต้องการ นั่นเป็นเหตุผลที่เชวฮันคิดว่ามังกรสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างง่ายดายหากต้องการทำเช่นนั้นจริงๆ มังกรพ่นลมออกจากจมูกของมันเมื่อได้ยินคำนั้นของเชวฮัน
“ข้าเกลียดมนุษย์...ข้าไม่ต้องการที่จะเหมือนมนุษย์.....เขาบอกว่ามังกรเย็นชาและน่ากลัว”
“ใครพูดเช่นนั้น?”
มังกรดำเหลือบมองไปที่คาร์ลเพื่อตอบคำถามของเชวฮันและหันหน้าไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว จากนั้นมันก็ใช้เวทย์ล่องหนและบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยทันที ส่วนที่ยุบลงของเตียงนอนกลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม
คาร์ลไม่รู้ว่ามังกรพูดกระทบตนจึงมีท่าทางสบายๆเมื่อเอ่ยกับเชวฮันที่จ้องมายังเขาด้วยสายตาแปลกๆ
“มังกรช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
“พวกมันเป็นเช่นนั้นจริงๆขอรับ”
เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำกล่าวของคาร์ลที่ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังระเบียงก่อนที่จะมองออกไปนอกระเบียงห้องชั้นสามและหยุดชะงักกะทันหันเมื่อได้ยินเสียงของเชวฮันเอ่ยเรียกขึ้นมา
“เอ่อ.....ท่านคาร์ล!”
“มีอะไรรึ?”
“......กระผมต้องแบกท่านลงไปอีกครั้งหรือขอรับ?”
คาร์ลส่งเสียงในลำคอเบาๆเมื่อได้ยินคำถามที่ลังเลใจของเชวฮันพลางยกนิ้วชี้ของตนขึ้นชี้ไปยังเพดานก่อนที่ร่างกายของเขาจะถูกยกขึ้นจากพื้นและเริ่มจางหายไปช้าๆ
คาร์ลก้มมองร่างกายของตนค่อยๆเลือนหายไปก่อนจะมองขึ้นไปบนเพดานและเริ่มพูด
“มังกรเจ้ายอดเยี่ยมและทรงพลังเป็นยิ่งนัก”
“เจ้าพูดถูก...ข้ายอดเยี่ยมและทรงพลังที่สุด”
มังกรดำที่ยังคงใช้เวทย์ล่องหนเอ่ยตอบคาร์ลทันที เชวฮันสามารถมองเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏบนใบหน้าของคาร์ลได้ทันก่อนที่ร่างของคาร์ลจะหายไปอย่างรวดเร็ว เชวฮันตระหนักได้ว่าคาร์ลกล่าวยกยอเพื่อใช้งานมังกรอยู่และทำให้เขาเริ่มพูดแบบเดียวกันออกมา
“ว้าว!....เจ้ามังกร..เจ้าช่างยอดเยี่ยมและทรงพลังเป็นยิ่งนัก”
เมื่อเชวฮันกล่าวจบร่างกายของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไปเช่นเดียวกันและพวกเขาก็สามารถออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ แน่นอนว่ามีเครื่องมือตรวจจับพลังเวทย์ติดตั้งอยู่รอบรั้วบ้านแต่มันมีไว้สำหรับป้องกันผู้บุกรุกทำให้พวกมันไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับคนที่ก้าวออกไปจากบ้าน
เชวฮันยืนอยู่ในซอยเล็กๆที่ห่างจากที่บ้านพักของพวกเขาไม่ไกลนักและเอ่ยขึ้น
“น่าจะเริ่มจากตรงนี้ล่ะขอรับ”
ทันทีที่เขากล่าวจบเวทย์ล่องหนบนตัวคาร์ลและเชวฮันก็ถูกคลายออกอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับเวทย์ลอยตัวที่ถูกคลายออกจากตัวคาร์ลส่งผลให้ตัวเขาอยู่ห่างจากพื้นดินเพียง 10 ซม.และสามารถแตะลงพื้นดินได้อย่างนุ่มนวล คาร์ลรู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
‘ทักษะการใช้พลังเวทย์ของมังกรดำมีมากกว่าที่ฉันคิดอีกหรือนี่?มันคงจะเป็นความสามารถพิเศษของมันสินะ’
พลังเวทย์นี้มีระดับที่สูงกว่าพลังเวทย์ของเหล่านักเวทย์ขั้นสูงเสียอีก จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่พวกเขากล่าวว่ามังกรที่โตเต็มวัยสามารถทำลายทั้งอาณาจักรได้อย่างง่ายงานหากพวกมันต้องการทำเช่นนั้น
‘แต่ฉันจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมันอีกต่อไปหากฉันได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘เสียงเรียกของวายุ’มันจะทำให้ฉันสามารถเดินทางไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องมีมังกรดำหรือเชวฮัน’
‘เสียงเรียกของวายุ’ เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณลำดับที่ 3 ที่คาร์ลวางแผนที่จะครอบครองมันและเขาจำเป็นที่จะต้องมุ่งหน้าไปยังชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรโรมันเพื่อหาพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้
‘ฉันจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปยังดินแดนของอามูร์ อัลบา’
คาร์ลกำลังวางแผนที่จะมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อครอบครองพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘เสียงเรียกของวายุ’ ระหว่างที่เดินทางกลับจากเมืองหลวง ข้ออ้างของเขาต่อคนอื่นๆก็คือเขาแค่อยากแวะไปเที่ยวชมเมืองนั่นเมื่อเริ่มเดินทางออกจากเมืองหลวงไปแล้ว ความจริงที่ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนั่นเป็นพลังที่มาจากทะเลทำให้เขากังวลเล็กน้อยแต่คาร์ลก็ตัดสินใจที่จะไม่คิดมากกับมันเพราะมันคือพลังที่ทำให้เขาสามารถสงบลงได้
‘ในเวลานั้นพรรคพวกของเชวฮันจะไม่ปรากฏตัวอยู่ใกล้ๆฉันอย่างแน่นอน’
คาร์ลมั่นใจว่าเผ่าวาฬและเหล่านางเงือกจะปรากฏตัวขึ้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือในตอนท้ายของนิยายเล่มที่ 4 สงครามกลางมหาสมุทรระหว่างทวีปตะวันตกและทวีปตะวันออก ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังชายฝั่งในเวลานั้น เขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยงจากเหล่านางเงือกที่บ้าคลั่งมากกว่าเผ่าวาฬเสียอีก
คาร์ลกระชับหมวกเพื่อปิดบังเส้นผมสีแดงสวยของตนก่อนจะหยิบแผนที่ออกจากระเป๋าจากนั้นเขาก็เริ่มออกนำ
“ตามข้ามา”
มังกรดำที่ยังคงใช้เวทย์ล่องหนกับเชวฮันได้เดินขนาบข้างซ้ายและขวาของคาร์ลเพื่อติดตามเขาออกจากย่านที่พักของขุนนางที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้เพื่อเข้าสู่ใจกลางเมืองฮูอิส
จากค่ำคืนที่มืดมิดก็พลันสว่างไสวขึ้นเหมือนกับช่วงเวลากลางวันเมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ใจกลางเมืองฮูอิสแล้ว มีแสงจากคบเพลิงส่องสว่างไปทั่วท้องถนนที่มีร้านขายสินค้าต่างๆและร้านเหล้าเป็นจำนวนมากเรียกได้ว่าร้านเหล้าเป็นร้านที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในเวลานี้แล้ว
“ย่านบันเทิงยามค่ำคืนในเมืองหลวงช่างแตกต่างจากเมืองอื่นจริงๆนะขอรับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของเชวฮันก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลอรี่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮูอิส จัตุรัสกลางเมืองที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาในขณะนี้สามารถมองเห็นน้ำพุที่ถูกสร้างไว้ทั้งสี่ทิศรอบๆจัตุรัสกลางเมืองและน้ำพุแต่ละแห่งต่างมีชาวเมืองจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่รอบๆบริเวณนั้น
สองคนกับหนึ่งมังกรต่างเห็นชาวเมืองที่กำลังผ่อนคลายกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงหลังจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้วพวกเขายังสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศในจัตุรัสกลางเมืองแห่งนี้จนกว่าจะมีทหารยามเข้ามาลาดตระเวนในเวลาห้าทุ่ม
คาร์ลเหลือบไปมองทางด้านซ้ายของตนเองจึงได้เห็นว่าเชวฮันกำลังลอบมองไปยังครอบครัวของชาวเมืองที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานตรงบริเวณน้ำพุทางด้านทิศตะวันออกด้วยสีหน้าว่างเปล่า
คาร์ลมองไปยังเชวฮันและภาพที่ปรากฏตรงหน้าของพวกเขาอย่างไม่รีบร้อนก่อนที่จะเอ่ยปากพูดในเวลาต่อมา
“....ทำให้ทุกคนไม่สามารถได้ยินเราได้”
เมื่อคาร์ลพูดจบก็ปรากฏโดมที่ไม่สามารถมองเห็นได้เข้าล้อมรอบพวกเขาในทันที มันเป็นสิ่งที่มีเพียงคาร์ล เชวฮันและมังกรดำที่อยู่ภายในโดมที่สามารถมองเห็นมันได้เท่านั้น
ในที่สุดเชวฮันก็หันมามองคาร์ลอีกครั้ง
“ที่แห่งนี้...มีบางสิ่งที่เรียกว่าระเบิดพลังเวทย์”
“ระเบิด?”
“ใช่มันคือระเบิด....ระเบิดพลังเวทย์สามารถพบได้ในลักษณะต่างๆไม่ว่าจะเป็นรูปร่างและขนาดที่แตกต่างกันออกไป..สำหรับทวีปตะวันตกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับการทำสงครามด้วยพลังเวทย์มันจึงถูกพัฒนาขึ้นมาไม่น้อย”
เชวฮันตั้งใจฟังเรื่องที่คาร์ลเล่าอย่างเงียบๆ
“ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังมีข้อจำกัดเป็นจำนวนมาก...ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ติดตั้งระเบิดพลังเวทย์,การควบคุมพลังเวทย์ที่ไหลผ่านไปยังระเบิดและปัจจัยอื่นๆอีกมากมายทำให้ระเบิดนี้มีความยุ่งยากเกินไปที่จะใช้มัน”
นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาชอบที่จะใช้พลังเวทย์ในช่วงสงครามแทนที่จะใช้ระเบิดพลังเวทย์เหล่านี้แต่ระเบิดพลังเวทย์ในครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากที่เคยใช้มาก่อน
“ระเบิดเหล่านี้...เป็นระเบิดพลังเวทย์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่และมันกำลังจะถูกนำเข้ามาติดตั้งในที่แห่งนี้รวมถึงสถานที่ต่างๆรอบๆบริเวณนี้....ภายในหกวัน”
คาร์ลไม่คิดว่าระเบิดพลังเวทย์ห้าจุดที่เชวฮันและโรสรินหาพบในนิยายจะยังอยู่ในจุดเดิมเพราะเรื่องราวได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร นั่นหมายความว่าสถานการณ์เช่นนี้ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่คาร์ลได้วางแผนใหม่ไว้เพราะถึงอย่างไรเขายังคงมั่นใจว่าเหตุการณ์น่ากลัวจากระเบิดพลังเวทย์จะยังคงเกิดขึ้นตามที่นิยายได้กล่าวไว้
‘ก็ตั้งแต่ที่ฉันแน่ใจว่าเจ้านักเวทย์บ้านั่นอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้’
นักเวทย์เล่นเลือดหรือเจ้านักเวทย์บ้าคนนี้คือคนที่สร้างระเบิดพลังเวทย์แบบใหม่นี้ขึ้นมา ก่อนที่จะแจกจ่ายให้แก่องค์กรลับเพื่อนำระเบิดพลังเวทย์ไปติดตั้งตามสถานที่ต่างๆในอาณาจักรโรมัน และแน่นอนว่าหลังจากเสร็จสิ้นเหตุการณ์ก่อการร้ายในครั้งนี้พวกมันจะยังคงซ่อนตัวตนที่แท้จริงของพวกมันในฐานะองค์กรลับได้ต่อไป
“ท่านกำลังบอกว่า...จะมีระเบิดพลังเวทย์ถูกนำเข้ามาติดตั้งที่นี่หรือขอรับ?”
“ใช่...”
เชวฮันมองไปรอบๆบริเวณน้ำพุและชาวเมืองที่อยู่ในจัตุรัสกลางเมืองก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียบเย็นที่เอ่ยขึ้นเต็มสองหูของเขา
“มันอาจจะถูกฝังอยู่ในที่ไหนสักแห่งหรือแม้แต่ถูกติดตั้งไว้กับตัวคน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่ามันคือระเบิดและคิดว่ามันเป็นเพียงสิ่งของธรรมดาๆทั่วไปเพราะมันอาจจะเป็นเพียงแค่สร้อยข้อมือหรือกระเป๋าเงินและนั่นจะทำให้พวกเขาพกติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาได้”
‘ติดตั้งไว้กับตัวคน’ คือประโยคที่ทำให้เชวฮันหันหน้าไปมองคาร์ลในขณะที่คาร์ลยังคงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เรียบเย็นต่อไป
“นั่นคือเหตุผลที่เราต้องป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น”
และแน่นอนว่าคาร์ลจะไม่เป็นคนลงมือทำมันจะมีเพียงเชวฮัน โรสลินและมังกรดำที่จะเป็นคนดำเนินการจัดการเรื่องพวกนี้ คาร์ลต้องการเพียงแค่จะอยู่นิ่งๆและต้องนิ่งให้ได้มากที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้
“เราจะป้องกันมันได้อย่างไร?”
“ง่ายมาก...”