ตอนที่ 8 : สารจากตระกูลเฟิง
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เหยาซื่อยืนตัวสั่นและจับมือของเฟิงหยูเฮงไว้แน่น
"ท่านแม่" นางมองเหยาซื่อซึ่งดูเหมือนว่านางจำอะไรได้และมองไปที่รถม้า ผ้าม่านถูกแหวกออกโดยหญิงชรา
หญิงชราใส่ชุดเหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่เนื้อผ้านั้นไม่ธรรมดา ชาวบ้านทั่วไปไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อใส่ได้
เฟิงหยูเฮงทบทวนความทรงจำของนางอีกครั้ง มารดาของนางแต่งงาน มีหญิงชราผู้นี้เป็นบ่าวรับใช้ติดตามมา แต่เมื่อพวกนางถูกเนรเทศออกมา หญิงชราผู้นี้ยังอยู่ที่บ้านของตระกูลเฟิง
นางคุกเข่าลง "นายหญิง ที่ผ่านมาท่านคงได้รับความลำบากไม่น้อย !"
เหยาซื่อรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นภาพลวงตา เมื่อ 3 ปีที่แล้วไม่มีบ่าวคนไหนมาคุกเข่าตรงหน้านางเลย นางไม่ได้ติดต่อกับใครที่ตระกูลเฟิงเลย ในความคิดของนาง ตระกูลเฟิงต้องการให้นางและลูก ๆ ของนางตาย เหมือนกับว่าพวกนางได้ตายไปจากตระกูลเฟิงแล้ว
"แม่นมซันเกินอะไรขึ้น ท่านถูกขับไล่ออกจากตระกูลเฟิงหรือ?"
แม่นมซันยืนน้ำตาไหล "ไม่ ข้าไม่ได้ถูกขับไล่ แต่ข้าได้รับคำสั่งให้มารับนายหญิงกับคุณหนูและคุณชายทั้งสองคนเพื่อกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงเจ้าค่ะ! "
"กลับไปที่ตระกูล?" เหยาซื่อไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ เฟิงหยูเฮงและเฟิงจื่อหรูเองก็ตกใจด้วยเช่นกัน เฟิงจื่อหรูเป็นคนแรกที่ถาม
"กลับไปที่ตระกูลเช่นนั้นหรือท่านแม่?"
เหยาซื่อรีบถามคำถามของนาง "แม่นมซัน เกิดอะไรขึ้น? ทำไมท่านจึงมาหาข้าที่หมู่บ้านซีปิงแห่งนี้?"
แม่นมซันจับมือของเหยาซื่อและพูดด้วยร่างกายที่สั่นเทา "นายหญิง องค์ชายเก้าได้รับชัยชนะจากการรบที่ชายแดน นายท่านและฮูหยินผู้เฒ่าได้เรียกให้ท่านกลับไปเตรียมงานแต่งงานของคุณหนูกับองค์ชายตามที่เคยหมั้นหมายเอาไว้ ! ด้วยเหตุนี้ ได้โปรดกลับคฤหาสน์ไปกับบ่าวด้วยเจ้าค่ะ!"
ข่าวที่ได้ยินสร้างความตกใจต่อสามแม่ลูก จนถึงจุดที่พูดไม่ออก
"ท่านแม่ระวัง!" เฟิงหยูเฮงรีบเดินไปพยุงมารดาที่กำลังจะล้ม ต่อสู้กับความรู้สึกจากความทรงจำในอดีตของนาง นางพยายามรักษาความสงบไว้
"นี่เป็นเรื่องกะทันหัน เราทั้งสามคนยังไม่ได้เตรียมตัว แม่นมซันโปรดรอสักครู่ เราขอเก็บข้าวของของเราก่อน" เฟิงหยูเฮงกล่าว
แม่นมซันซับน้ำตาและคำนับเฟิงหยูเฮง "องค์ชายเก้าจะกลับเมืองหลวงในอีกสองสามวัน นายหญิงและคุณหนูได้โปรดเร่งมือด้วยเจ้าค่ะ"
ภายในรถม้าที่สั่นสะเทือน เฟิงหยูเฮงเหนื่อยมาก ขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนที่ตลอดทั้งคืน นางหลับตาลงและพิงกับผนังรถเพื่อพักผ่อน ตลอดทางนางได้ยินมารดาและแม่นมซันคุยกัน
แม่นมซันกล่าว "หญิงชราคนนี้รับผิดชอบในการพานายหญิงและคุณหนูกลับมา ส่วนเหตุผลนั้นบ่าวคิดว่า เป็นเพราะความต้องการขององค์ชายเก้า"
"แต่... " เหยาซื่อลังเล "พวกข้าถูกขับออกจากตระกูลมาหลายปีแล้ว ข้าเกรงว่าการจัดงานแต่งงานจะไม่เกิดขึ้น ? "
"มันจะเกิดขึ้นเจ้าค่ะ! มันจะเกิดขึ้น !" แม่นมซันดูมีความสุขเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ "ท่านไม่รู้หรอกว่าบ่าวแก่ ๆ คนนี้รอการกลับมาของท่านทั้งสามคนมาตลอด" แม่นมซันกล่าวพร้อมกับซับน้ำตา
เฟิงหยูเฮงลืมตาและถามแม่นมซันว่า "หากการหมั้นหมายยังคงมีอยู่ ทำไมตระกูลเฟิงยังกล้าที่จะขับไล่พวกเราสามคนเช่นนี้ ?"
แม่นมซันจ้องมองที่เฟิงหยูเฮง เหยาซื่อจับมือนางอย่างรวดเร็วและอธิบายว่า "แม่นมซัน พวกเราสามคนผ่านอะไรมามากจากหมู่บ้านแห่งนี้ โชคดีที่อาเฮงอ่านตำราแพทย์ของท่านตามาก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะนาง พวกเราสามคนคงจะไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ถึงตอนนี้เด็กทั้งสองคนเป็นโรคที่ยากจะรักษา"
แม่นมซันพยักหน้า มองไปที่เฟิงหยูเฮงอีกครั้ง? ทำไมนางรู้สึกว่ามีสายตาที่แหลมคมทิ่มแทงนาง?
ถ้าหากเป็นเช่นที่เหยาซื่อกล่าว ตอนนี้ทำไมนางถึงรู้สึกว่าคุณหนูและคุณชายน้อยทั้งสองมีสุขภาพดีกว่าเมื่อก่อน ตระกูลเฟิงเป็นสถานที่ที่ไร้ความปรานี ถ้านางยังเป็นเหมือนเมื่อก่อน นางจะอยู่ไม่รอดถึงงานแต่งงาน
"บ่าวชราคนนี้ไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน" เมื่อระลึกถึงคำถามก่อนหน้านี้ของเฟิงหยูเฮง แม่นมซันได้กล่าวว่า "ในเวลานั้นบ่าวรู้สึกว่ามันแปลก ๆ เมื่อคุณหนูมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายเก้าตั้งแต่ยังเล็ก แล้วเหตุใดตระกูลเฟิงจึงกล้าขับไล่พวกท่าน ตอนนี้บ่าวคิดว่าเรื่องนี้ บางทีตระกูลเฟิงอาจไม่คิดว่าองค์ชายเก้าจะมีอิทธิพลมากขึ้นในตอนนี้"
"องค์ชายเก้ามีอิทธิพลอะไร?" เฟิงหยูเฮงสนใจในตัวคู่หมั้นของนางมากขึ้น
"คุณหนูอาจไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เมื่อสองปีก่อนองค์ชายเก้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ของฮ่องเต้ และได้ไปรักษาการณ์อยู่ที่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อเร็ว ๆ นี้องค์ชายได้รับชัยชนะอันใหญ่หลวงทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนนี้องค์ชายเก้าจะกลับมาอยู่ในเมืองหลวงอีกครั้งในอีกไม่กี่วันนี้"
มันเป็นเช่นนั้น!
เฟิงหยูเฮงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติมอีก นางหลับตาลงอีกครั้ง จากการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างผิวเผิน ปรากฏว่าตระกูลเฟิงกลัวว่าองค์ชายเก้าจะมาทวงสัญญาหมั้นหมาย เพียงแค่นี้ก็ทำให้ตระกูลเฟิงต้องรีบพาพวกเขากลับไป
แต่เมื่อครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง ...นางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเรื่องมันไม่น่าจะง่ายดายเช่นนี้
ระยะทางจากชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือไปยังเมืองหลวงนั้นไกลมาก แม้ว่าจะขี่ม้าทั้งวันทั้งคืนก็ใช้เวลาประมาณ 20 วัน เฟิงหยูเฮงไม่คุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์ของราชวงศ์ต้าชุน แต่นางก็ยังสามารถเข้าใจทิศทางพื้นฐานได้ รถม้าเดินทางมาเกือบห้าวันแล้วหรือมากกว่านั้น เมื่อนางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เส้นทางไปยังเมืองหลวงตรงไปทางเหนือ แต่ทำไมพวกเขาถึงลงไปทางใต้?